Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
15 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
ผ่านไป 4 เดือน และเหลืออีก 3 เดือน (เฮ้อ....สู้สู้)

หลังจากได้มีการเปลี่ยนกฎกติกา ในกระทรวงศึกษาธิการเดนมาร์ก ว่าด้วยเวลาในการทำวิทยานิพนธ์ ว่า นศ จะต้องมีการลงชื่อในสัญญาการทำวิทยานิพนธ์ และให้อาจารย์ที่ตกลงว่าจะเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาการทำวิทยานิพนธ์ให้เราเซ็นชื่อด้วยเช่นกัน และนับจากวันที่่ทั้ง นศ และอาจารย์ลงชื่อไป และนับไปอีก 7 เดือน ก็ต้องส่งวิทยานิพนธ์ มิฉะนั้นถ้าพ้นกำหนด ก็ต้องเริ่มต้นทำใหม่อีกรอบ ต้องหาหัวข้อใหม่ อาจารย์ที่ปรึกษาใหม่อีก ไม่เหมือนสมัยก่อน จะทำนานเท่าไหร่ก็ได้ (แต่ยิ่งทำนานก็มีข้อเสียคือ ตัว นศ เองที่จะเสียเวลา แทนที่จะได้จบออกไปทำงาน)

และแล้ว ก็ผ่านช่วงเวลาแห่งการทำวิทยานิพนธ์ไปได้ 4 เดือนแล้ว เหลือเวลาอีก 3 เดือน ก็จะต้องส่งแล้ว หุหุ สรุปว่าเวลาที่ผ่านมา 4 เดือนแรกนี่ ล้มลุกคลุกคลาน เขียน problem statement / hypothesis ก็เขียนแล้วเขียนอีก พอเขียนได้ถูกใจอาจารย์ แต่ปรากฎว่าพอไปคุยกับบริษัทเคส เค้ากลับคิดว่าอีกหัวข้อนึงน่าสนใจกว่า ก็เลยต้องเปลี่ยนหัวข้ออีกรอบ เขียน problem statement อีกรอบ ปรากฎว่าต้องแก้อีก แก้จนถูกใจอาจารย์ ถึงจะส่งไปให้บริษัทดูอีกรอบ กว่าจะได้หัวข้อที่ลงตัว พอได้ contact person ในบริษัท กว่าจะได้ไปเจอกัน กว่าจะได้ไปคุย ระหว่างนั้นก็ทำ theory analysis ไปด้วย พอ contact person นัด GM ของบริษัทในจีน ก็ดันมีเหตุไม่ให้ได้เจอ จนกระทั่งผ่านไปครบ 4 เดือน ผลสรุปว่า

อาทิตย์ที่แล้วนัดเจออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อให้แกดู theory analysis ที่ทำไป ว่ามีข้อบกพร่องอะไรบ้าง กลัวเหลือเกินว่าอาจารย์จะให้ไปทำใหม่ แต่ก็ผิดคาด ไม่ต้องทำใหม่ (เย๊ๆ) แต่ก็ต้องมีแก้ไขในบางส่วน และอธิบายเพิ่มเติมในบางส่วน อาจารย์ยังบอกอีกว่า You've come quite far :) เย๊ๆ ถ้าทำส่วนนี้เสร็จเรียบร้อย ที่เหลือก็จะง่ายขึ้นแล้ว เพราะจะได้ส่วนนี้มาเป็นฐานในการต่อยอดสำหรับทำ comparative analysis ต่อไป ซึ่งต้องอาศัยการเก็บข้อมูลจริงจากบริษัทแล้ว ว่าไอ้ hypothesis ซึ่งเป็นผลการห้ำหั่นกันของ theories ที่ทำมาในส่วนแรก มันได้ผลตามการวิเคราะห์ทฤษฏีสองตัวที่ทำมาจริงหรือไม่ และถ้าจริง หรือ ไม่จริง มีองค์ประกอบอื่นๆ มาเกี่ยวข้องอะไรที่ทำให้ผลในเชิงปฏิบัติออกมาอย่างที่เป็น <<< เขียนเอง งงเองอีกแล้ว

วันนี้ได้ไปคุยกับลีน่า และโจนัสซึ่งเป็น จีเอ็ม ที่จีน ผ่านทาง video conference เพราะโจนัสกลับไปจีน ได้ข้อมูลที่แบบว่า ฟังแล้วก็ aha หลายรอบ แต่ว่าระบบที่เราต้องการจะเก็บข้อมูลนี่ ยังไม่ได้ fully implemented ที่ออฟฟิศที่จีน แต่ก็ยังมีประเด็นที่น่าสนใจอยู่ เท่าๆ ที่ฟังดูแล้ว อาจจะได้ทำเคส ที่เป็นเคสที่ประสบความสำเร็จในการ implement ระบบตัวนี้

ก็เลยถามความเห็นโจนัสเรื่องที่จะไปจีน (ถามลีน่าด้วยอีกรอบ) สรุปว่าทั้งสองเห็นพ้องต้องกันว่า ไม่คุ้มค่าที่จะไป ซึ่งพอมาจุดนี้ (หลังจากได้รับรู้ข้อมูลที่โจนัสให้มาก่อนหน้านี้) ก็เห็นด้วย เพราะปกติ ระบบนี้ (เราทำเรื่อง balanced scorecards) จะต้องเป็น top-down implementation ต้อง implement จนไปถึงระดับพนักงานแต่ละบุคคล (จริงๆ มีตั้งแต่ corporate scorecards, business unit scorecards, divisional scorecards, team scorecards ไปจนถึง individual scorecards) แต่ตอนนี้บริษัทที่จีนยังทำอยู่แค่ business unit scorecards อีกอย่างโจนัสก็อธิบายว่า ถึงเราไป เราก็เหมือนเป็นคนแปลกหน้า พนักงานคนจีนที่ไปสัมภาษณ์เค้าจะให้ข้อมูลตรงกับความรู้สึกที่แท้จริงรึเปล่า เพราะขนาดโจนัสไปอยู่เป็นปีๆ ถึงจะได้ความคิดเห็นจากความรู้สึกของพนักงานชาวจีน และแนะนำให้เราทำเป็นแบบสอบถามดีกว่า หรือไม่ก็ให้เชิญมานั่งให้สัมภาษณ์ผ่านทาง video conference กันเหมือนวันนี้อีกรอบ เอาละ ไหนๆ จีเอ็มแสดงความเห็นขนาดนี้แล้ว จะตื้อที่จะไปต่อไปก็เท่านั้น ตั้งใจทำวิทยานิพนธ์ให้เสร็จก็แล้วกัน

สู้สู้ต่อไปโว้ย อีกสามเดือนเท่านั้น

---------------------------------------------------------------------------

เมื่อวานตัดสินใจสั่งซื้อกล้องดิจิตอลใหม่ หลังจากที่ใช้น้อง Sony DSC-P120 มา 4 ปีเต็มๆ จนหลังๆ ถ่ายรูปมักจะมีจุดดำๆ ติดอยู่เสมอ แล้วที่เป็นปมหลังฝังใจคือ ตอนที่ไปดูคอนเสิร์ตพี่บองโจวี่ ซูมไม่ได้สะใจเลย เห็นพี่จอนตัวเท่ามด

ดังนั้น ก็เลยตัดใจสั่งซื้อกล้องตระกูล Sony เหมือนเดิม เป็น Sony DSC H50 ทางอินเตอร์เน็ต แบบว่าเน้นซูมเต็มๆ ให้สะใจไปเลย เอาของ Sony อีกเพราะไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ (ตอนแรกเล็งๆ Powershot S 5 IS ไว้) หรือ SD cards เพราะมี memory sticks อยู่แล้ว

หลังจากสั่งซื้อเมื่อวานแล้วก็ไปรับที่ร้านได้ ก็เลยให้พี่เย็นซ์ไปรับวันนี้ เราสั่งซื้อสีดำไป แต่ว่าตอนพี่เย็นซ์ไปรับ เค้าบอกว่าถ้าจะเอาสีดำต้องรอ 10 วัน ถ้าเป็นสีเงิน อลูมิเนียม ก็รับไปได้เลย

พี่เย็นซ์โทรมาถามเราว่าจะเอายังไง ด้วยความใจร้อนก็เลยบอกพี่เย็นซ์ว่า ถ้าเค้าไม่คิดเงินเพิ่มก็เอาสีเงินมาเลย (สีเงินแพงกว่าสีดำหน่อยนึง) สรุปว่าเค้าก็ไม่คิดเงินเพิ่ม ก็เลยถอยมาเสร็จสรรพ

อุปกรณ์มาตรฐานที่มีมาด้วยก็ดีเลย ทั้งแท่นชาร์ต สายคล้องไหล่ รีโมทควบคุม วงแหวนปรับขนาด สายไฟ สาย USB, AV จอแสดงผลก็ 3 นิ้ว ใหญ่สะใจดีด้วย

ลองทดลองถ่ายก็มีลูกเล่นเยอะดีอ่ะ ที่ฮาสุดนี่คงจะเป็นโหมดค้นหารอยยิ้ม ถึงกดชัตเตอร์ไปแล้ว แต่มันก็จะไม่ถ่ายจนกว่าคนในรูปจะยิ้ม ทดลองแล้ว แบบว่าต้องแหกยิ้มจริงๆ หุหุ









หน้าตาอุปกรณ์มาตรฐานที่มากับกล้องด้วย



ตอนนี้ก็เร่งทำวิทยานิพนธ์ ส่งและสอบ defense ให้เสร็จ จากนั้นก็จะได้ไปเที่ยวโลด และทดสอบกล้องใหม่อยากเป็นจริงเป็นจังซักที เย๊ๆๆ


Create Date : 15 กรกฎาคม 2551
Last Update : 15 กรกฎาคม 2551 1:14:03 น. 3 comments
Counter : 456 Pageviews.

 
มิ้งสู้ๆ จ้า คนเก่ง

อย่าลืมแวะไปอวยพรวันเกิดให้หลานด้วยนะ ครบขวบแล้วจ๊ะ


โดย: grippini วันที่: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา:2:45:47 น.  

 


โดย: The Zephyr วันที่: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา:7:03:07 น.  

 
3 เดือน อีกไม่นาน ขอใหทุกอย่างผ่านไปด้วยดีผลเป็นที่พอใจนะคะ

เห็นกล้องใหม่แล้วก็เพิ่มความอยากให้ตัวเอง ที่อยากได้มีตั้งหลายรุ่นแต่ก็ได้แต่ดูละคะ ต้องรอเจ้าตัวเก่าถึงข้ันใช้งานได้ไม่เป็นที่พอใจก่อนแล้วถึงจะเปลี่ยน


โดย: marinesnow วันที่: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:11:31 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

MingDK
Location :
Copenhagen Denmark

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ยังเขียนเล่าประสบการณ์ต่อไปหลังจากมาใช้ชีวิตในฐานะแม่บ้าน นักศึกษา และรับงานฟรีแลนซ์ หลังจากมาใช้ชีวิตในต่างแดนได้หกปีกว่า จนบรรลุเป้าหมายได้งานประจำสมใจอยาก :)
Friends' blogs
[Add MingDK's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.