ในที่สุด สองเดือนกับความพยายาม และสามปีที่ผ่านมา
วันนี้ไป defense thesis (bachelor thesis) ที่อุตส่าห์ตั้งใจทำมาสองเดือนเต็มๆ ในที่สุดก็สำเร็จซักที อาจารย์ที่ปรึกษา thesis เป็น examinator ส่วน censor เป็น ผอ. จากสวนสัตว์โคเปนเฮเก้น ตอนแรกๆ ก็ประหม่ามากๆ เพราะจะต้องเป็นภาษาอังกฤษ (ซึ่งการพูดภาษาอังกฤษเราอ่อนแอมาก เนื่องจากภาษาทีใช้ในชีวิตประจำวันคือภาษาเดนิช จนเวลาพูดภาษาอังกฤษทีก็ต้องนั่งนึกคำศัพท์ แต่วันนี้รู้สึกว่าลื่นไหลดีทีเดียว (ทั้งภาษา และขั้นตอนการนำเสนอ) พูดๆ ไป อธิบายไป คุยๆ กันไปสามคน ไม่นานอาจารย์และ censor ก็บอกว่า เสร็จแล้ว ให้เราไปรอข้างนอกแป๊ปนึง เค้าจะได้คุยกัน(ว่าจะให้เกรดอะไรกับเรา) เราก็ว่า เฮ้ย ทำไม 20 นาที ถึงผ่านไปเร็วจังวะ แต่ก็ออกไปรอ ผ่านไปสองนาที อาจารย์เราก็ออกมาตามเราให้เข้าไปฟังผล และก็บอกว่าเราได้ 9 (ระบบเกรดแบบเดนมาร์ก) ถ้าแปลงเป็นระบบอเมริกันก็ประมาณ B พอได้ฟังแค่นี้ก็ดีใจแล้ว กรี๊ดๆๆๆ ผ่านซักที ที่สุดของที่สุด สามปีที่ฝ่าฝันกัดฟันเรียนมา เสียดายเราตกวิชาเลือกไปวิชานึง ไม่งั้นก็จบแล้ว ก็เลยต้องรอลงใหม่เทอมที่จะถึงนี้ แต่ที่หินที่สุดได้ผ่านไปแล้ว เราก็ไม่กลัวแล้วล่ะ แถมสมัครเรียน ป. โท ไปด้วย ก็หวังว่า graduate school จะมี despensation ให้นะ (เพราะเราขาดแค่วิชาเลือกตัวเดียวเอง แล้วก็สมัครเรียนต่อโทที่มหาลัยเดิมด้วย)
จำได้ตอนสมัครเข้าเรียน ป ตรี ที่นี่ เราสนใจอยากเรียนมาก อุตส่าห์ไปเข้าร่วม information meeting ของสาขาวิชานี้ รู้สึกว่าอยากเรียนมาก แต่พอแค่ส่งใบสมัครไป ผ่านไปสองวันทาง admission office ส่งใบสมัครและหลักฐานต่างๆ ของเรากลับมา พร้อมกับตอบปฏิเสธ เพราะเหตุว่าเราไม่ได้จบมัธยมจากเดนมาร์ก หรือกลุ่มประเทศนอร์ดิค เราเศร้ามากๆ เพราะไม่ได้จบมัธยมจากเดนมาร์ก แต่ชั้นจบปริญญาตรีจากไทยนะยะ แถมมีประสบการณ์การทำงานในสาขาที่สมัครเข้าเรียนด้วย ไม่มีความหมายเลยรึไง รู้สึกแย่แบบสุดๆ แต่ก็ดิ้นรนต่อไป โดยอีเมลล์ไปหาหัวหน้าภาควิชา (คนที่จัดตั้งสาขาวิชานี้ และเราสมัครเป็น นศ รุ่นแรกของภาควิชานี้) ที่เราได้เจอและคุยด้วยตอนไปเข้าร่วม information meeting แกก็บอกว่าให้เราส่ง ใบสมัครและ CV ไปให้แก แล้วก็ตอบกลับมาว่า everything will be alright จากนั้นเราก็ไปเมืองไทยสามอาทิตย์ และพอกลับมาบ้านก็เห็นจดหมายจากมหาลัยวางอยู่ เป็นจดหมายตอบรับล่ะ กรี๊ดๆๆๆๆ ดีใจมากๆ
และจะบอกว่าหัวหน้าภาควิชาที่ทำให้เราได้เข้าเรียน กับ อาจารย์ที่ปรึกษา thesis คืออาจารย์คนเดียวกัน เราละซึ้งจริงๆ ถ้าไม่มีอาจารย์คนนี้ป่านนี้เราก็คงไม่ได้เรียนในสาขาที่อยากจะเรียนแน่ๆ ต้องขอขอบคุณอาจารย์ลิซ่า ลุคค์ (Lise Lyck) เป็นอย่างสูง
วันนี้เสียดายก็แต่ว่าต้องฉลองคนเดียว เปล่าเปลี่ยวเพราะพี่เย็นซ์ยังอยู่ที่บอสตัน แถมเพื่อนสนิทก็ดันไม่อยู่ซะอีก เฮ้อ ทั้งเศร้าและดีใจผสมปนเปกันไป บอกไม่ถูก
Create Date : 15 มิถุนายน 2549 |
|
14 comments |
Last Update : 15 มิถุนายน 2549 1:26:04 น. |
Counter : 513 Pageviews. |
|
|
|