เมื่อพี่เย็นซ์สตรอเบอรี่ - หลอกกันได้นะคนเรา
เมื่อต้นอาทิตย์ที่แล้ว พี่เย็นซ์กลับบ้านมาพร้อมกับกล่องโทรศัพท์มือถือใหม่ Nokia N95 8GB (ในใจแอบอิจฉาเล็กๆ ว่าที่ทำงานเปลี่ยนใหม่ให้แน่ๆ) ก็เลยถามพี่เย็นซ์ว่า ได้มาจากไหน พี่เย็นซ์ก็บอก เออเนี่ยเดินผ่านแผนกไอทีที่ทำงาน เค้าขอให้เข้าไปช่วยอะไรหน่อย ก็เลยไปช่วย จากนั้นเค้าก็ให้กล่องนี้มา ทั้งๆ ที่ทางแผนกนั้นไม่ได้ขอโทรศัพท์เครื่องเก่าคืน
เราก็ถามพี่เย็นซ์ว่าแล้วเธอจะใช้เครื่องไหนล่ะ ขอยืม N95 ใช้หน่อยดิ (มีอ้อนเล็กน้อย) พี่เย็นซ์ก็ตอบแบบเชิดหยิ่งว่า เดี๋ยวต้องลองใช้ดูก่อน แล้วเทียบกับเครื่องที่ใช้อยู่ถึงจะตัดสินใจได้ อย่างน้อยต้องรอดูหลัง weekend ที่จะถึงนี้แหล่ะ เซ็งเล็กน้อย แต่ว่าเออ มันเป็นสิ่งที่เค้าได้มาโดยความสามารถและการทำงานหนักของเค้า อย่าไปอะไรเลย ที่มีอยู่ Sony Ericsson K750i ก็ยังใช้ได้อยู่ดี ไม่มีปัญหาอะไร จากนั้นเราก็เลิกสนใจ N95 เนื่องจากถ้ายิ่งคิดก็ยิ่งสนใจ ระดับกิเลสก็จะสูงขึ้นตาม
จนกระทั่งเมื่อวานและวันนี้ตอนเช้ามืด หลังตื่นนอน จะไปอาบน้ำ ได้ยินเสียงอะไรตุ๊ดๆ จากกระเป๋าทำงานพี่เย็นซ์ฟะ เมื่อวานรื้อๆ ดูไม่เจอ ซักพักเสียงก็เงียบไป วันนี้ได้ยินอีก เลยค้นดูอีก ในใจก็คิดว่ามีใครคิดจะแอบวางระเบิดพี่เย็นซ์รึเปล่าวะ เลยคุ้ยกระเป๋าทำงานพี่เย็นซ์อีกรอบ สรุปว่าเป็นเจ้า N95 นี่เองที่อีพี่เย็นซ์ตั้งปลุกไว้
พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จกันทั้งคู่ เราก็บอกพี่เย็นซ์ว่า นี่ๆ วันนี้โทรศัพท์ใหม่เธอมันร้องปลุกแน่ะ พี่เย็นซ์ก็บอกเหรอ เราก็ถามต่อว่า อ้าวแล้วไม่ได้ใช้แล้วเหรอ เค้าก็บอกว่าไม่อ่ะ เธออยากจะขอยืมไม่ใช่เหรอ เอาไปสิ
ว่าแล้วพี่เย็นซ์ก็จัดการช่วยเปลี่ยนซิมการ์ด ใส่ซิมการ์ดเราเข้าไปใน N95 เสร็จเและช่วยเปิดเครื่องให้เรียบร้อย เราก็แอบดีใจเล็กๆ แต่ก็คิดว่า เออแต่มันเป็นโทรศัพท์ของที่ทำงาน เดี๋ยวถ้าพี่เย็นซ์จะเปลี่ยนที่ทำงานก็ต้องคืนอีก ก็เลยไม่ดีใจออกนอกหน้า
สรุปว่าก็เอาไปใช้ได้หนึ่งวันเต็มวันนี้ ดีที่วันนี้ลางานไปจัดการธุระ ต่ออายุพาสปอร์ต หลังจากนั้นก็ไปโรงเรียนสอนขับรถเพราะอาจารย์สอนขับรถนัดไปขับลงสนามครั้งแรกด้วย ระหว่างนั่งรถไฟ รถเมล์ไปจัดการธุระก็นั่งดูหนัง Spiderman 3 ที่มีอยู่ในเครื่องไปด้วยเลย ใช้ได้เลยนะเนี่ย N95
กลับมาบ้านกินข้าวเสร็จพี่เย็นซ์ก็มายุ่งกับโทรศัพท์ต่ออีก แหมจะมาช่วย syncronize กับอีเมลล์ของเราและ ปฏิทิน outlook ด้วย (จะมา syncronize อะไรฟะ ของทีทำงานแท้ๆ) แถมมาต่อสัญญาณ bluetooth กับ bluetooth headset ของ Sony Ericsson อีก ชวนเล่นอะไรกันก็ไม่รู้ งง (ยิ่งงงจากที่เรียนขับรถมาอยู่แล้วด้วย) เราก็ถามพี่เย็นซ์ว่า ตกลงชอบโทรศัพท์เครื่องเดิมที่ใช้อยู่เหรอ (เป็น smartphone ของ HTC) พี่เย็นซ์ก็ตอบแบบไม่เต็มคำ แต่ว่าทำเป็นถามเราว่าไม่ดีใจเหรอ เรานึกยังไงก็ไม่รู้ (หรือมี sense อะไรบางอย่าง เพราะพี่เย็นซ์เคยแบบนี้ทีนึงแล้ว กลับมาบ้านพร้อมกล่อง PDA ใหม่เอี่ยมตอนที่ได้ขึ้นเงินเดือนปีที่แล้ว โดยไม่ปรึกษาเลย) เลยถามพี่เย็นซ์ว่า หรือว่า เธอแอบซื้อมาเอง แล้วหลอกว่าที่ทำงานให้มาใช้ พี่เย็นซ์ก็เงียบๆ ไป แล้วบอกว่า ที่ทำงานซื้อให้จริง แต่เป็น 2nd Opinion (ที่พี่เย็นซ์ทำฟรีแลนซ์) ไงที่ซื้อให้ เราเลยถามต่อว่า แล้วซื้อให้ หรือว่าหักจากเงินที่เธอทำงานได้ล่ะยะ พี่เย็นซ์ก็ตอบแบบจ๋อยๆ อีกว่า ก็แค่ชั่วโมงทำงาน 3 ชั่วโมงเองนะเธอ (มันก็เหมือนกับซื้อเองแหล่ะนังอ้วนพี่เย็นซ์) ในที่สุดพี่เย็นซ์ก็ยอมรับว่าซื้อมาเอง เราก็บ่นๆๆ ว่าซื้อมาทำไมยะ อย่างอื่นที่จำเป็นก็มี พี่เย็นซ์ก็ตอบกลับว่า ก็หลายอาทิตย์ก่อนที่เราไปเดิน El Giganten (ร้านขายอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์) กัน เธอก็ไปดูๆ แถวโทรศัพท์มือถือ แต่ว่าก็ไม่คิดอยากจะได้ใหม่ซักที ชั้นก็เลยจัดการให้ซะเลยไง
พี่เย็นซ์นะพี่เย็นซ์จะซื้อให้ก็บอกตรงๆ ก็ได้ ซื้อมาแล้วมาให้ตรงๆ ก็ได้ นี่มาเมคเรื่อง ต้องมาเลี่ยงไปเลี่ยงมาให้เสียเวลา (เปล่าหรอก เราจะได้เลือกได้ เผื่ออยากจะได้ iPhone หรือเป็น Prada แทน ) พูดเล่นนะ แต่คอมเม้นท์แบบนี้ไปกับพี่เย็นซ์จริงๆ พี่เย็นซ์ก็มีทำหน้ากึ่งงอนกึ่งแอ๊บแบ๊วว่า nu må du holde op skat... (darling, please stop saying that..)
ยังไงก็ขอบคุณมากๆ นะคะพี่เย็นซ์ ที่อุตส่าห์คิดถึง
Create Date : 17 เมษายน 2551 |
|
10 comments |
Last Update : 17 เมษายน 2551 2:53:25 น. |
Counter : 598 Pageviews. |
|
|
|