เลียบค่าย แนะนำ ค่ายมวยภูธร โดย ศักดิ์ ศรีไทย

ไกรสุวิทย์ ศูนย์กีฬาหนองกี่

แชมป์มวยไทย 3 เส้น รุ่นแบนตั้มเวท

ต่อจากฉบับที่แล้ว

หลังจากที่ ไกรสุวิทย์ ศิษย์ช่างเรือง ชกแค่ 3 ปีกว้า ๆ ชื่อเสียของ เจ้าป่อง หรือ สุวิทย์ บำรุงไร่ ก็กระฉ่อนไปเกือบทั่วภาคอีสาน เพราะทำท่าจะหาคู่ชกลำบาก น้าเรืองก็กำลังจะหาวิธีส่งเจ้าป่อง เข้าไปหาชื่อเสียงในเมืองกรุงต่อไปและเป็นที่รู้ ๆ กันว่า ตระกูลมวยของเจ้าป่องนั้น ต้องเปป็นการสนับสนุนและส่งเสริมจาก อ.ปราโมทย์ หอยมุก คนดังของจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ชาวมวยทั่วประเทศยอมรับกันมาเป็นเวลาช้านาน และก็บังเอิญปี พ.ศ.2527 อ.ปราโมทย์ มีนบายจะจัดมวยรายการกุศล เพื่อหาเงินช่วยชาวอำเภอหนองกี่ที่ถูกไฟไหม้ ก็เริ่มงานจัดมวยขึ้นดังกล่าว ก็พอดีที่เจ้าป่องถือโอกาสมาเยี่ยมบ้านเกิดที่บ้านศรีสมบูรณ์ อ.หนองหงส์ ก็อยู่ไม่ไกลกับหนองกี่ ก็ได้มาเยวงานนี้ด้วย และก็บังเอิญอีกนั่นแลหะที่คืนนั้นมีมวยขาดพอดี อ.ปราโมทย์ ก็จัดการจับเจ้าป่องเข้าเสียบชกกับเขาด้วยโดยได้คู่กับเริงศักดิ์ ไทยรุ่งเรือ เจ้าป่องได้มีโอกาสโชว์ฝีมือได้เยี่ยมมากโดยเขาเป็นฝ่ายชนะคะแนน อ.ปราโมทย์ก็เห็นว่า เจ้าป่องนี้น่าจะมีอนาคตด้านมวยไทยนี้ได้ไกล เพราะระดับ อ.ปราโมทย์ มองแล้วผิดนั้นยากมาก ก็เลยบอกกับเจ้าป่องว่าอย่ากจะเข้าไปชกกรุงเทพฯมั้ง มีหรือเจ้าป่องจะปฏิเสธรีบรับใกทันทีแต่มีข้อแม้ว่า ต้องย้ายจากบ้านน้าเรืองที่จังหวัดเลย และเก็บเสื้อผ้ามาอยู่ที่ค่ายของ อ.ปราโมทย์สักระยะหนึ่งก่อน เจ้าป่องก็โอเค

หลังจากนั้นเจ้าป่องก็มาอยู่ค่ายหนองกี่พาหุยุทธ ของ อ.ปราโมทย์ ประมณปีเศษ และได้ชกอีกประมาณ 10 กว่าครั้ง หลังจากนั้นประมาณปี พ.ศ.2528 อ.ปราโมทย์ก็ส่งเจ้าป่องไปอยู่กับ เสี่ยดำ หรือ เติมศักดิ์ ปิติธนสารสมบัติ เสี่ยดำก็มอบหมายให้เจ้าป่องอยู่ในความดูแลของ ยอดเทรนเนอร์ ว่างไว อมรฤทิ์ กับเหิร ศิลาทอง และ นนท์ จากนั้น เจ้าป่องเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า มาอยู่กับ เสียดำแทบไม่มีเวลาพักผ่อน เพราะมีรายการชกตลอด เพราะเป็นที่รู้ ๆ กันอยู่ว่า ศึก.ส.ม.ด ของ 3 โปรโมเตอร์ คือ เส่ย แม๊ ดำ มีรายการมากว่า ทุก ๆ โปรโมเตอร์ ของเวลทีมวยราชดำเนิน เรียกว่า ชกจนเบื่อในระยะ 10 ปี ไม่มีว่า เดือนไหน เจ้าป่องจะเว้นว่างรายการ เอาล่ะ มาถึงช่วงนี้ เนื้อที่จะใกล้หมด ก็จะหยุดเอาไว้ก่อนคราวหน้าจะมีอะไรมาคุยเรื่องราวของเจ้าป่องให้ทราบกัน ก็ขอให้แฟน ๆ ของผมและของเจ้าป่อง หรือไกรสุวิทย์ ศูนย์กีฬาหนองกี่ ก็ต้องค่อยคุยกันใหม่ ในฉบับหน้า สำหรับฉบับนี้จากกันก่อน สวัสดีครับ

ศักดิ์ ศรีไทย