คั่นเวลา Reading 2

มาต่อกันค่ะ คือเราจะลองมาสอนแบบให้อ่านบทความจากนิยาย จากเรื่องสั้น จากหนังสือจริง ๆ กันเลยค่ะ ลองกันดูสักตั้งค่ะ สักเล่มหนึ่ง ดูว่ารอดไหม ในเมื่ออยากอ่านเป็น อยากเข้าใจภาษาอังกฤษ ก็เรียนรู้จากของจริงไปเลย เพราะความจริงเราก็เริ่มจากพวกหนังสือง่าย ๆน่ะค่ะ ไม่ได้เริ่มจากการอ่านบทความสั้น ๆ สะเปะสะปะตามเว็บน่ะค่ะ แต่การอ่านสะเปะสะปะ หลากหลาย มันทำให้เราได้ศัพท์และสไตล์ประโยคหลายรูปแบบนั่นคือข้อดี

อยากบอกว่าเราอ่านบทความภาษาอังกฤษประเภทเดิม ๆ มาเป็นเวลาหกปี อ่านแบบคนขี้เกียจ ไม่ได้ทวน แต่เพราะหกปีที่ทำอะไรซ้ำ ๆ แบบนั้น เราเลยได้ศัพท์ ได้แกรมม่าแบบไม่ต้องท่อง แปลออก แต่ไม่เก่งหรอก เพราะว่าขี้เกียจนั่นเอง แต่อย่างน้อยก็เอาตัวรอดได้ ถ้าไม่อยากเสียเวลาแบบเรา คิดว่าก็คงรู้ว่าต้องทำยังไง

เอาเป็นว่าไม่เป็นไร อย่าเพิ่งท้อนะ มาเรียนรู้รูปแบบซ้ำ ๆ จากนิยายนี่แหละ ให้มันเข้าหัวก่อนละกัน แล้วค่อยไปอ่านให้หลากหลายขึ้น คือหนังสือแต่ละเล่มที่เอามาให้อ่านมันก็เริ่มจากง่าย ๆ ค่ะ ไปยาก อ่านวันละสี่ห้าหน้า ดีไหม อันนี้ไม่ทราบเหมือนกัน แต่อยากให้เป็นแบบนั้น สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านเลย ขอบอกว่ามันทรมานค่ะ มันจะท้อ มันจะเหนื่อย อยากให้อดทนจริง ๆ แล้วเดี๋ยวเห็นผลน่า เพราะก็จะเจออะไรเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา จำไม่ได้ให้มันรู้ไปค่ะ อ่านกันให้ตายไปข้างนึงแล้วยังแปลไม่ออก ก็ตัวใครตัวมันล่ะค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอาศัยความพยายามของตัวคุณด้วยนะ ทั้งสองฝ่ายต้องร่วมมือกันไม่งั้นไม่เกิดผล

สาเหตุที่เราเลือกนิยายมาให้อ่านกันเป็นเล่มเพราะเราคิดว่า การอ่านเป็นเรื่อง ๆ มันจะน่าสนุกกว่า เพราะมีอะไรให้ติดตามค่ะ มีอะไรให้ลุ้น เราคิดว่า มันอาจจะไม่น่าเบื่อกับผู้อ่าน และผู้อ่านอาจมีกำลังใจเรียน แต่ก็ไม่รู้จะจริงไหม ฮ่าๆๆๆ ต้องลอง

ส่วนเทคนิคในการเลือกนิยายของเราก็คือ นิยายสำหรับเด็กประถมค่ะ นั่นแหละเพอร์เฟ็คแล้ว หรือมัธยมต้น เหมาะสำหรับเอามาสอนเริ่มอ่าน จะเอาแบบอนุบาลมามันก็ติ๊งต๊องเกิน และสั้นมาก ๆ ค่ะ เหอ ๆ พอคิดได้ดังนี้เราก็เลยแวะเข้าร้าน Barnes & Noble Booksellers



หน้าตาร้านเป็นแบบนั้นแหละค่ะ เป็นเจ้าจำหน่ายหนังสือชื่อดังของอเมริกา ร้านท่านมักจะใหญ่โตมโหฬาร มีหนังสือเกือบทุกแบบให้เลือก และอุปกรณ์เกี่ยวกับหนังสือทั้งหลายแหล่

สรุปวันนั้นก็เดินเข้าไปในร้านค่ะ ก็แวะไปที่มุมหนังสือเด็กก่อนเลย ขอบอกว่าเป็นหนังสือมือสองด้วย ดีใจมากค่ะ เหอ ๆ ประหยัดกระเป๋าเรา แต่ที่ดีใจกว่านั้นคือเล่มละ $1 เท่านั้นค่ะ!!!!! ก็เลยกวาดมันมายกแผง เอ๊ย ไม่ใช่ละ แค่เลือกมาแค่ไม่กี่เล่มหรอกค่ะ มาดูกันว่าเราหยิบอะไรมาฝากท่านผู้อ่าานบ้าง

1. Catch That Kid [by Suzanne Weyn] อันนี้เอามาจากหนังค่ะ แล้วมาแปลงอีกทีให้เป็นหนังสือ (เขาใช้คำว่า novelization แปลว่าการเอาเรื่องจากหนังหรือทีวีมาทำให้เป็นหนังสือ เพราะ novel แปลว่านิยาย) เป็นเรื่องราวของเด็กอายุสิบสองขวบที่ต้องการหาเงินมารักษาพ่อตัวเองที่ป่วยหนัก โดยการไปปล้นธนาคาร ไม่ใช่ธนาคารที่ไหน แต่กลับเป็นธนาคารที่แม่ของเธอเป็นคนสร้างระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสุดยอดขึ้นมา (เอากันเข้าไป) โดยเธอตั้งใจจะขโมยซัก $250,000 และที่สำคัญทารกน้อยน้องชายของเธอต้องร่วมผจญภัยการปล้นครั้งนี้ด้วย เพราะแม่เธอฝากไว้ให้เลี้ยง ฮ่าๆ ไม่รู้จะรอดไหมนะคะ ต้องติดตาม



2. The YG Book of Short Stories (3) [Collected by EPB] เล่มนี้เป็นหนังสือที่รวบรวมเรื่องสั้นเอาไว้ทั้งหมดสิบเรื่องด้วยกันค่ะ ต่างนักเขียนกันไป เล่มนี้หนาแค่ร้อยหน้าเอง เรือ่งประมาณสิบหน้า คิดว่านะคะ



3. Homeless [by Laurie Halse Anderson] อันนี้จะเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับเจ้าแมวน้อยค่ะ เล่าผ่าน Sunita ที่ทำงานอาสาสมัครที่คลินิกสัตวแพทย์ค่ะ คือเจ้าแมวตัวหนึ่งหายไป เธอเลยพยายามตามหา แต่ตามไปตามมากลับพบว่ามีแมวตัวอื่นมากมายที่หิวโหยอดอยาก ไร้ที่อยู่ เธอจึงตัดสินใจว่ายังไงก็ต้องหาบ้านให้เจ้าพวกนี้ให้ได้



4. Who Stole the Wizard of Oz [by Avi] เป็นเรื่องราวของหนังสือที่หายไปจากห้องสมุด พี่น้องฝาแฝดเลยโดนกล่าวหาว่าเป็นคนขโมยหนังสือไป พวกเขาจึงพยายามหาวิถีทางเพื่อที่จะพิสูจน์ให้ได้ว่าพวกเขาบริสุทธิ์ แต่ระหว่างทำการสืบสวนเรื่องราวแปลก ๆ ต่าง ๆ พวกเขากลับพบว่าหลักฐานทั้งหมดมันนำไปสู่แผนที่สมบัติ มาติดตามกันว่าพวกเขาจะตามเจอสมบัติก่อนที่เจ้าหัวขโมยตัวจริงจะค้นพบหรือไม่



5. The Crazy Christmas Angel Mystery [by Beverly Lewis] เป็นเรื่องที่เกิดในช่วงเทศกาลคริสมาสต์ แต่มันกลับมีอะไรแปลก ๆ น่ะสิ เนื่องจากมีเพื่อนบ้านยายมาใหม่ แล้วบ้านหลังนั้นมักจะมีแสงเทียนวูบวาบตลอดเวลา แล้วมักจะได้ยินเสียงขลุ่ยถูกเป่าทุกหกโมงเช้า มันอะไรกันนี่ นายEric เลยทำการจับตามองบ้านหลังนี้มาตลอดจนถึงวันที่เขาเอาต้นคริสมาสต์มาลงในบ้าน Eric พบว่านางฟ้าตัวน้อย ๆ ที่ใช้ประดับเทศกาลกลับมีชีวิตขึ้นมาจริง ๆ บินวนเวียนอยู่ในบ้านนั้น อีริคกับเพื่อน ๆ จะแก้ไขปริศนานี้ได้หรือไม่ ต้องติดตามค่ะ



6. Black Beauty [by Lisa Church] เล่มนี้เป็นฉบับเล่าใหม่โดยย่อเรื่องให้สั้นกว่าเดิมแต่ยังคงใจความจากต้นฉบับของ Anna Sewell ค่ะ มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ชาวสวนที่ชื่อ แบล็ค บิวตี้ ทำงานอยู่ในฟาร์มดี ๆ ภรรยาเจ้าของฟาร์มเกิดป่วยขึ้นมา ทำให้ชีวิตของชาวสวนคนนี้พลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ ต้องไปเจอโลกที่โหดร้าย แต่อย่างไรก็ตามบิวตี้ต้องพยายามให้ถึงที่สุดเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอดหลุดพ้นจากเรื่องราวเลวร้ายเหล่านั้นที่เขาเจอ เรื่องนี้เป็นนิยายคลาสิคนะคะ คิดว่าน่าอ่านตรงที่เล่าเรื่องราวในสมัยก่อน ชีวิตความเป็นอยู่สมัยก่อนนะค่ะ เลยหยิบมาซะเลย



7. Heart to Heart [by Sandra Byrd] เล่มออกแนวมิตรภาพระหว่างเพื่อนค่ะ เป็นเรื่องราวของเด็กป.หกสองคนที่ต้องมาอยู่ห้องแยกกันหลังเลื่อนชั้น ทั้งที่เป็นเพื่อนสนิทกันมา โดยอีกคนหนึ่งก็กลัวต่อไปนี้จะทำยังถ้าต้องใช้ชีวิตคนเดียว แต่เพื่อนอีกคนได้แยกไปตั้งคลับส่วนตัวขึ้นมาแล้วโดยที่ไม่ชวนอีกคน และบอกอีกคนว่าถ้าอยากเข้าชมรมก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าซื่อสัตย์ต่อกัน เพื่อนอีกคนจึงคิดว่าจะยอมทำทุกอย่างเลย ขอแค่ให้ได้เข้ากลุ่ม จนกระทั่งมาตระหนักได้ว่าสิ่งที่ทำอยู่เหมือนจะมากเกินขอบเขต และต้องทำขนาดไหนถึงจะได้กลับมาเป็นเพื่อนกัน



8. New Kid in School [by Jasmine Jones] เรื่องเป็นทีวีซีรี่ย์จากช่องดิสนีย์ ไม่รู้ว่ามีใครเคยดูหรือเปล่า แต่เราไม่เคยดูค่ะ เหอๆ มันเป็นเรื่องราวของลิซซี่ที่หลงรักอีธาน วันหนึ่งอีธานชวนเธอไปกินมื้อเที่ยงด้วยกัน เป็นจังหวะให้ลิซซี่ได้พบกับเพื่อนอีธานคนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาจากฟิจิ แต่ดูลึกลับยังไงก็ไม่รู้ เจ้าเพือนใหม่คนนี้บอกว่าได้เคยถ่ายทำหนังกับสตีเว่น สปีลเบอร์กมาแล้ว แถมยังสอนบริทนีย์ สเปียร์เต้นอีกต่างหาก และอีกสารพัดมากมาย แต่เอ๊ะ ลิซซี่เพิ่งมารู้สึกได้ว่าทำไมหมอนี่หน้าคุ้น ๆ แบบนี้นะ หรือว่า..หรือว่า..โอ้ไม่มมม... จะเป็นอะไรนั้นต้องมาติดตามกันค่ะ อิอิอิ ทิ้งแบบค้างคา



9. Nothing's Fair in Fifth Grade [by Barthe DeClements] เอลซี่นักเรียนเจ้าเนื้อชั้นป.ห้าได้เข้ามาอยู่ร่วมชั้นกับเจนนี่ แต่เจนนี่กลับไม่ค่อยชอบหน้าเธอเท่าไหร่ เอลซี่ไม่ได้แค่มีรูปร่างใหญ่เท่านั้น แต่ยังขโมยเงินค่าอาหารกลางวันของเพื่อน ๆ ไปซื้อลูกอมอีกด้วย และเมื่อเงินของชมรมหนังสือหายไป ทั้งชั้นเรียนกลับโดนทำโทษ มันไม่แฟร์! แต่เจนนี่กลับพบว่าเอลซี่เก่งเลข เพราะเธอถูกสั่งให้ไปสอนเลขเอลซี่ เอลซี่เริ่มหันมาลดน้ำหนักและพบว่าไปได้ดี ส่วนเจนนี่กับเพื่อน ๆ ของหล่อน ได้ค้นพบอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเอลซี่อีกด้วย ว่าแท้จริงแล้วความเจ้าเนื้อของเธอได้ปกปิดลักษณะดี ๆ บางอย่างของเธอเอาไว้ มันไม่ยุติธรรม! แต่บางครั้งมันอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เห็นก็เป็นได้



10. Christy Miller's Diary, From the Secret Place in My Heart [Robin Jones Gunn] อันนี้เป็นไดอารี่ของคริสตี้ ก็ตามชื่อเรื่องเหอ ๆ เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับตัวเธอและเพื่อน ๆ ของเธอ เป็นแบบไหนอันนี้ยังไม่รู้นะคะ เพราะยังมิได้อ่าน แต่ที่เลือกมาเพราะเป็นไดอารี่น่ะค่ะ อยากให้เห็นลักษณะการเขียนไดอารี่เฉย ๆ อิอิ



11. Zlata's Diary: A Child's Life in Sarajevo เป็นไดอารี่ของเด็กวัยน้อยค่ะ ดูจากรูปหน้ายังอ่อนอยู่ คงเขียนตอนเด็ก อ๊ะ ไดอารี่อีกเล่มละ เพราะว่าเล่มนี้เด็กเขียนน่ะค่ะ เลยอยากให้ลองดูภาษาว่าจะแตกต่างกับอีกเล่มยังไง



12. Great American Short Stories [edited with an introduction by Corinne Demas] อันเป็นรวมเรื่องสั้นจากนักเขียนฝรั่งเก่ง ๆ ค่ะ มีหลายเรื่องมากมายอยากให้ลองอ่านกันหลังจากเริ่มอ่านเก่งแล้ว เพราะภาษาจะเป็นแบบผู้ใหญ่ละ



สรุปทั้งสิบสองเล่มบวกภาษีก็หมดไปประมาณ ยี่สิบเหรียญเองค่ะ ถือว่าคุ้มมาก อิอิ นาน ๆ ทีจะได้อะไรคุ้ม ๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้เอามาให้อ่านกันหมดทุกเล่มไหม แต่อยากให้อ่านให้หมดจริง ๆ เพราะถ้าให้ไปอ่านเองก็อาจจะไม่อ่านกัน แหะ ๆๆ แล้วแต่ละเล่มมันก็ง่าย ๆ นะส่วนใหญ่ที่เลือกมา แต่ก็ระดับไม่เหมือนกันซะทีเดียวคิดว่านะคะ

แล้วก็เพิ่งซื้อมาสด ๆ เมื่อวานยังไม่ได้อ่านสักเล่มจะมาอ่านพร้อมกับคุณนี่แหละค่ะ แต่ละเรื่องที่เขียนแนะนำเรื่องนั้นเอามาจากปกหลังค่ะ อ่านไปแล้วไม่ใช่ก็อย่าว่าเค้านะ เหอๆ ยังไม่ทราบเหมือนกันว่าจะให้อ่านอะไรก่อน แต่ต้องเริ่มจากง่ายสุด มาอัพไว้แค่นี้ก่อนละกันค่ะ ขอไปคิดต่อว่าจะให้อ่านกันแบบไหนดี เหอๆ แล้วเจอกันบทเรียนหน้าค่ะ

***สำหรับคุณที่ต้องการติดตามบล็อกนี้ขอแนะนำว่าไม่ต้องเปิดทุกวันก็ได้ค่ะ แหะ ๆ เกรงใจคุณเวลาเปิดมาแล้วไม่เจอ เปิดดูทุกอาทิตย์ดีกว่าเนอะ เพราะว่าบทเรียนแบบนี้เราอัพทุกวันไม่ได้อะค่ะ มันต้องใช้เวลาเตรียม ขอบคุณค่ะ

Create Date : 20 มิถุนายน 2554 Last Update : 23 มิถุนายน 2554 1:06:48 น. Counter : 2103 Pageviews.		3 comments
Share Tweet