BlogGang.com : : moonfleet : 014. ท่องเที่ยว กรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร 3 : ป้อมมหากาฬ

014. ท่องเที่ยว กรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร 3 : ป้อมมหากาฬ

ป้อมมหากาฬ

5770. ป้อมมหากาฬ

ป้อมมหากาฬ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ป้อมมหากาฬ อยู่บริเวณเชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถนนมหาไชย เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ทางด้านหลังมีกำแพงเมืองพระนครหลงเหลืออยู่

ป้อมมหากาฬสร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ใน พ.ศ. 2326 เป็นป้อม 1 ใน 14 ป้อมที่โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อป้องกันรักษาพระนคร มีลักษณะรูปแปดเหลี่ยม มีกำแพงล้อมรอบ 2 ชั้น เป็นป้อมประจำพระนครด้านตะวันออก ปัจจุบันป้อมมหากาฬเป็น 1 ใน 2 ป้อมที่ยังคงเหลืออยู่ในกรุงเทพมหานคร อีกป้อมหนึ่งคือป้อมพระสุเมรุ กรุงเทพมหานครและกรมศิลปากรได้บูรณะซ่อมแซมป้อมมหากาฬเมื่อคราวสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ใน พ.ศ. 2525 และได้มีการบูรณะเรื่อยมาจนมีสภาพที่เห็นในปัจจุบัน

ที่ตั้งด้านหนึ่งของป้อมเป็นที่อยู่ของชุมชน ที่มีชื่อเสียงด้านลิเกโบราณ ผู้ที่ศึกษาด้านการมีส่วนร่วมของชุมชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ มักจะมาสำรวจและทำวิจัยเรื่องการมีส่วนร่วมฯ ณ ชุมชนแห่งนี้ โดยมีประวัติการชุมนุมและต่อสู้มันยาวนานกว่าสองทศวรรษ

5771. ป้อมมหากาฬ

5772. คลอง (Moonfleet)..... ไม่ทราบชื่อ

5773. ป้อมมหากาฬ

5774. สะพานผ่านฟ้าลีลาศ

ป้อมมหากาฬ อยู่บริเวณเชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถนนมหาไชย เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

5777. เรือรบโบราณ : ศิลปกรรม ประดับเสาแห่งสะพานผ่านฟ้าลีลาศ

5775. ป้อมมหากาฬ

5781. สะพานผ่านฟ้าลีลาศ

5782. สะพาน ผ่านฟ้าลีลาศ

5783. พิพิธภัณฑ์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

5786. ป้อมมหากาฬ

5787.ป้อมมหากาฬ

5788. ป้อมมหากาฬ

ป้อมมหากาฬ
MAHAKAN FORT

คำจารึกจากป้ายอ่านได้ความว่า

เป็นป้อมขนาดใหญ่ทรงแปดเหลี่ยม วัดจากฐานชั้นนอกด้านทิศเหนือจรดฐานด้านทิศใต้กว้าง 38 เมตร ความสูงจากพื้นดินถึงปลายใบเสมา 4.9 เมตร และ จากพื้นดินถึงหลังคาป้อม 15 เมตร โครงสร้างก่ออิฐฉาบปูน ฐานรากอยู่ใต้ระดับผิวดิน ป้อมมี 3 ชั้น มีบันไดทางขึ้นสู่ชั้นที่1 และ ชั้นที่ 2

กำแพงป้อมเป็นแบบใบเสมาเหลี่ยมขนาดใหญ่ทั้งหมด ตัวป้อมชั้นบนสุดเป็นหอรูปแปดเหลี่ยม มีประตูทางเข้า 1 ประตู หลังคาโครงไม้มุงกระเบื้อง 2 ชั้น ทรงคล้ายผาชี หรือ ใบบัว ที่ป้อมชั้นล่างมีปืนใหญ่ตั้งประจำช่องเสมารวมทั้งสิ้น 6 กระบอก

กรมศิลปกรได้ขึ้นทะเบียน ป้อมมหากาฬ เป็นโบราณสถานสำคัญของชาติเมื่อปี พ.ศ.2492 ในสมัยรัฐบาล จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีการติดไฟสำหรับส่องป้อมให้เกิดความงดงามในเวลากลางคืนด้วยด้วย

ภาพของ ป้อมมหากาฬ ได้รับการนำลงพิมพ์บนธนบัตรใบละ 10 บาท ในสมัยรัชกาลที่ 9 อยู่ระยะหนึ่ง ในปี พ.ศ.2524

กรมศิลปากรได้บูรณะ ป้อมมหากาฬ และ กำแพงเมือง ต่อมามีการบูรณะส่วนที่ชำรุดและทาสีใหม่อีกหลายครั้ง เนื่องจากตั้งอยู่ในที่ชุมนุมชน มีประมุขและผู้นำของต่างประเทศ รวมทั้งนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก มาเที่ยวชมอยู่เสมอ

5757. ป้อมมหากาฬ และ กำแพงพระนคร

อ่านได้ความว่า

ป้อมมหากาฬ และ กำแพงพระนคร

สร้างเมื่อ พ.ศ.2325 แล้วเสร็จในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว บูรณปฏิสังขรณ์โดยกรมศิลปากร ด้วยความร่วมมือจากกรุงเทพมหานคร
เนื่องใจงานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พุทธศักราช 2525

5758. ป้อมมหากาฬ

5759. อาคาร ภายใน ป้อมมหากาฬ

5760. อาคารชั้นเดียว (เก่าแก่) ภายในบริเวณ ป้อมมหากาฬ

5761. สะพาน.....(อ่านไม่ออก)

Copy ข้อมูลมาจาก //travel.sanook.com/bangkok/bangkok_06575.php

ป้อมมหากาฬ

สร้างเมื่อ : พ.ศ.2326 สมัยรัชกาลที่ 1

สยามประเทศนั้นมิได้มีการก่อตั้งประเทศขึ้นมาอย่างง่ายดาย หากแต่ประเทศของเรานั้นก่อกำเนิดขึ้นในขณะที่ยังมีการต่อสู้กับประเทศเพื่อนบ้าน หรือแม้แต่คนในชนเผ่าเดียวกัน ดังนั้นผู้ปกครองทั้งหลายจึงจำเป็นที่จะต้องคิดหาวิธีการปกป้องทั้งตนเองและถิ่นฐานที่ตนปกครองอยู่

มาในสมัยราชวงศ์ปัจจุบันของไทยก็เช่นกัน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกเมื่อครั้งที่ย้ายราชธานีจากธนบุรีมายังบางกอกนั้น พระองค์เองก็ทรงต้องสร้างทั้งชาติและสู้รบกับข้าศึกที่มักจะคอยมารบกวนอยู่เนืองๆ นั้น พระองค์จึงทรงดำริที่จะใช้ทั้งวิธีทางกลศาสตร์และไสยศาสตร์ไปในคราวเดียวกัน วิธีทางไสยศาสตร์นั้น เราเห็นได้จากพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา และในส่วนของกลศาสตร์นั้นเห็นได้จากการเลือกทำเลที่ตั้งฐานทัพหรือแม้แต่การขุดคูเมืองไปจนถึงการสร้างป้อมปราการป้องกันข้าศึกในขั้นสุดท้าย

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกนั้น ก็ทรงตระหนักถึงปราการที่จะป้องกันพระนคร พระองค์จึงทรงรับสั่งให้ขุดคลองพระนครจากทางทิศตะวันออกของบางลำพูไปออกแม่น้ำเจ้าพระยาทางตอนเหนือของวัดสามปลื้ม คูเมืองที่ทรงรับสั่งให้ขุดนั้นเรียกว่าคลองคูรอบกรุง จากนั้นพระองค์ก็โปรดให้สร้างป้อมปราการขึ้นทีเดียว 14 ป้อม เพื่อที่จะใช้เป็นป้อมกันข้าศึกตลอดคูคลองรอบกรุง

ป้อมปราการทั้ง 14 นี้อยู่มาจนถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์ทรงมีพระราชดำริที่จะขยายพระนครออกไป ดังนั้นป้อมปราการบางป้อมที่ทรุดโทรมมากแล้วจึงถูกทุบทิ้ง คงเหลือแต่ป้อมพระสุเมรุที่ถนนพระอาทิตย์และป้อมมหากาฬที่ริมคลองแสนแสบเท่านั้น

ป้อมมหากาฬในปัจจุบัน ยังคงตั้งตระหง่านอยู่เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ต้นคลองแสนแสบข้างลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ บนป้อมปราการนั้นยังเหลือปืนใหญ่โบราณให้เราเห็นเป็นอนุสรณ์อยู่ 12 กระบอก

สิริลักษณ์ จินตนะดิลกกุล

Moonfleet ขอขอบคุณ คุณ สิริลักษณ์ จินตนะดิลกกุล อีกครั้งมา ณ ที่นี้

5762. เรือ...

เรือสำหรับขนส่งผู้โดยสาร บริเวณ "ต้นคลองแสนแสบ" ข้างลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์

5763. ไม่ทราบว่าจะควรภูมิใจ หรือ ไม่ควรภูมิใจดี

ที่เรายังมีการขนส่งโดยสารแบบนี้ในเมืองหลวง ถ้าเป็นการขนส่งเพื่อบริการนักท่องเที่ยวก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า การขนส่งด้วยระบบรางของประเทศไทยเรายังคง....ล้าหลัง หรือ ล้าสมัย มากๆ

5764. ท่าเรือ หรือ บันไดทางขึ้นทางลงท่าเรือ แห่ง ป้อมมหากาฬ ณ.บริเวณ "ต้นคลองแสนแสบ" ข้างลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์

5765. ตึก หรือ อาคารพาณิชย์ อยู่ฝั่งตรงข้าม "คลองแสนแสบ" หรือ ทางทิศตะวันตก ของ ป้อมมหากาฬ

5766. บันไดท่าน้ำ คลองแสนแสบ

5767. อาคารชั้นเดียว (เก่าแก่) ภายในบริเวณ ป้อมมหากาฬ

5768. อาคารชั้นเดียว (เก่าแก่) ภายในบริเวณ ป้อมมหากาฬ

5769. อาคารชั้นเดียว (เก่าแก่) ภายในบริเวณ ป้อมมหากาฬ

5776. ถนน ราชดำเนิน

5790. ถนน ราชดำเนิน

5791. ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์

5792. ป้ายบอกทาง : หน้า ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์

เลี้ยวซ้าย ไป ป้อมมหากาฬ , ภูเขาทอง
เลี้ยวขวา ไป อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

5793. ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์

5794. ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์

5795. ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์

Moonfleet ได้มาเยือน ป้อมมหากาฬ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านขวามือ หรือ ทิศตะวันออกจาก ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ เป็นระยะทางประมาณ....เดิน 1 นาที

วัน พระพฤหัสดบดี ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2552

Create Date : 07 ธันวาคม 2552

Last Update : 7 ธันวาคม 2552 21:26:28 น.

0 comments

Counter : 3973 Pageviews.