Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
5 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 

Exchange Student at Bruno University, Chezh Republish




เรียนป.โท ได้ประมาณ 1 ปี ก็โอนหน่วยกิจ 2 ตัว ไปเรียนที่ประเทศสาธาณรัฐเช็ค พอดีที่เรียนเป็นภาคอินเตอร์ก็เลยมีการแลกเปลี่ยนเด็กนักเรียนกับทางประเทศแถบยุโรป ประเทศเช็ค ก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ เราก็เลยสมัคร ดูคุณสมบัติอื่นๆ (เรื่องเกรด) แล้วเราผ่าน ก็เลยโอนวิชา International Business กับ Small Business ที่ Mendel University เมือง Bruno ช่วงนั้นวิชาเรียนที่นี่กับที่นั่นตรงกัน ก็เลยได้ไป เพื่อนๆคนอื่นๆก็มีไปหลายๆประเทศ เราเกรดไม่ได้เลิศมาก ก็เลยได้ไปที่นี่แทน (แต่ก็ยังดีที่เกิน 3.3) ตอนแรกไม่เห็นด้วยเลยกับเรื่องการเอาเกรดมาวัดความสามารถของนักเรียนว่าจะได้ไปที่ไหน แต่หลังจากที่ได้เจอกับตัวเอง กับประสบการณ์เพื่อนๆ เราก็เห็นด้วยค่ะ ถ้าเด็กที่เรียนไม่ค่อยเก่ง ไปเรียนแล้วก็อาจสู้เพื่อนประเทศอื่นไม่ได้ กดดันกันเปล่าๆ แถมยังเสียชื่อสถาบันที่ส่งไปอีก เค้าก็จะคิดว่ามาตราฐาน เด็กที่คัดมาได้แค่นี้ แต่บางคนก็เป็นคนเก่ง แต่ว่าผลสอบออกมาไม่ดี บางคนต้องทำงานไปด้วยเรียนด้วย หรืออาจจะมีปัญหาชีวิตอยู่ตอนนั้น ก็น่าเห็นใจอยู่ ทำให้มันมีผลกระทบกับเกรดของเค้า แต่พวกที่ทำงานเค้าก็ไม่เลือกโปรแกรมนักเรียนแลกเปลี่ยนหรอก ส่วนใหญ่เลือกไปดูงานต่างประเทศกันมากกว่า

อย่างน้อยเกรดก็เป็นด่านแรกในการวัดแบบง่ายๆ แบบไม่ต้องคิด แต่คนจะดีหรือไม่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับเกรดแน่นอนค่ะ

มาเรียนที่นี่ แค่ 2 วิชา ในระยะเวลาเกือบ 3 เดือน เราคิดว่าคงได้เที่ยวกระหน่ำแน่ แต่เราก็คิดผิดไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนเลย ช่วงเสาร์ อาทิตย์ วันหยุด ก็ต้องมานั่งรวมกลุ่มทำ assignment ส่งอาจารย์ แล้วก็ยังต้อง present งานอีกด้วย ทำเอาเราและเพื่อนๆที่ไปต้องบ่นเซ็งเป็นแถวๆ ก็จุดประสงค์จริงๆที่มา ก็กะมา เที่ยวนี่แหละ อิอิ ประเทศนี้ได้ชื่อว่าเป็น Paradise of Europe เลย แถมไปเที่ยวประเทศข้างๆก็ง่าย เลยจอง Euro Rail ล่วงหน้าไว้เลย ในประเทศยุโรป ทางรถไฟเค้าจะเชื่อมกันหมด ไปเที่ยวไหนก็ง่าย แถมวิวข้างทางก็สวยมาก เราเลยเลือกเดินทางด้วยรถไฟ จองตั๋วแพ็คเก็ตที่เมืองไทย วางแผนไว้เลยว่าจะเที่ยวกี่ประเทศ นั่งรถไฟกี่วัน เพราะตั๋วนี่คิดเป็นวันเดินทางค่ะ ซื้อตั๋วเมืองไทยถูกว่านะคะ เมืองนอกซื้อไม่ได้เลย แพงมากกก

เราเดินทางด้วยสายการบิน ออสเตรีย แอร์ไลน์ค่ มาลงที่ออสเตรียแล้วก็ transit ต่อไป Prague(ปราก) เมืองหลวงของเช็ค แล้วก็นั่งรถบัส หรือจะรถไฟก็ได้ ต่อไปที่ Bruno (บรูโน่) อีกที ไอ้เราก็แบกกระเป๋าไปซะใบใหญ่ใบเดียว เบ้อเริ่มเทิ่ม ตัวก็กะเปี๊ยก ไม่มีปัญญากระเตงไปถือหอพักได้ ได้เพื่อนๆกันนี่แหละช่วยกันลากถูกันไป ขอแนะนำว่าถ้าของเยอะ แบ่งเป็นสองใบจะง่ายกว่า ยกลงทีละใบ ดีกว่าใบเดียวก็ยกไม่ลง

หอพักก็น่าอยู่ดีค่ะ มีหลายตึก เราอยู่ตึกสีเขียว ส่วนใหญ่เป็นพวกเรียนเกี่ยวกับต้นไม้ ถ้าบ้านเราก็เรียกว่า วนศาสตร์ แถมข้างล่างข้างๆห้องเรามีผับอีกต่างหาก หุหุ
หอพักที่อยู่ไม่มีแบบห้องเตียงเดียว มีแต่เป็นแบบสองเตียง หรือไม่ก็สองห้องนอนแล้วมีครัวตรงกลาง เราอยู่กับเพื่อนสาวที่ไปด้วยกัน ห้องน้ำรวม ในห้องนอนมีฮีทเตอร์โบราณ ยังเป็นรุ่นท่อขดๆอยู่เลย แต่ว่าระว่างทางเดินไปห้องน้ำ อ่ะจิ ไม่มีฮีทเตอร์ครับท่าน! เราจะหนาวตายมะเนี่ย ยิ่งขี้หนาวอยู่ด้วย

Mendel University คุ้นๆไม๊คะ กับชื่อเมนเดล ใช่แล้วค่ะ ท่านคือ บิดาแห่งพันธุกรรมนั่นเอง ที่นี่จะเน้นเรื่องเกี่ยวกับป่าไม้ ต้นไม้ พืชพันธุ์ต่างๆ แต่ว่าเราไปเรียนด้าน Business เนี่ยสิ เข้ากั๊นเข้ากัน ก็แอบหวั่นใจเหมือนกันว่า ความรู้ที่ได้จะแน่นหรือเปล่า แต่ไปแล้วก็ใช้ได้ค่ะ อาจารย์ที่นี่ก็โอเค สอนดี เพื่อนนักเรียนก็ชอบแชร์ความคิดเห็นกันดี อาจารย์พูดอะไรเค้าก็จะเสนอความคิดเห็น ถกกันตลอดเลย เด็กไทยอย่างเรา ก็มีแสดงบ้าง (ส่วนน้อยย) เดียวจะเสียชื่อ (สงสัยจะเสียไปแระ อิอิ)
บรูโน่เป็นเมืองค่อนข้างใหญ่ ติดกับปราก เลย นั่งรถโค๊ดมาก็แค่ 2 ชั่วโมงได้ สถานที่เที่ยวก็มีที่น่าสนใจหลายแห่ง ส่วนใหญ่ก็เป็นโบสถ์ โบสถ์ที่จะพาไปวันนี้คือสปิลเบิร์ค เป็นสถาปัตยกรรมโกธิคค่ะ ดูขลังอลังการดี
มีอนุเสาวรีย์ ชื่ออะไรก็ไม่รู้ เราก็พยายามถามเพื่อนเช็ค เค้าก็ไม่รู้จัก รู้แต่ว่าเป็นอนุเสาวรีย์ที่ระลึกถึงกาฬโรคที่มาระบาดในเช็ค เมื่อนานมาแล้ว ตอนนี้กลายเป็นตลาดนัด ขายของของคนในเมื้องไปซะแระ ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนก็จะมีชายหญิงมายืนจูกะจุ๊บอยู่แถวนี้ โรแมนติกมากกก

มีร้านรองเท้า Bata ที่นี่ด้วยค่ะ!
ตอนแรกเข้าใจว่า แบรนด์เราอินเตอร์จริงๆ แต่ว่ารู้ทีหลังค่ะว่า คนที่ให้กำเนิดแบรนด์นี้ เป็น ชาวเช็ค ไม่งั้นเราก็เข้าใจว่าเป็นเเบรนด์บ้านเราอยู่นั่นเอง เห็นว่าเป็นบาจา เราก็นึกว่าถูก ก็เลยกะจะไปซื้อรองเท้าหนังสักคู่ แต่ว่าบาจาที่นี่ไม่ใช่โปรดักเค้าไม่เหมือนบ้างเราค่ะ ระดับจะสูงกว่า ราคาจะแพงกว่ารองเท้าทั่วๆไปอีก แต่บ้านเราทำให้แบรนด์มันต่ำลงมา
ใครที่ได้มายุโรป ขอแนะนำให้ไปดูพวกดนตรีคลาสิก พวกบัลเลย์ ออเคสต้า ด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่างทำให้ฟังเพราะ และก็อินได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นคนแสดงที่เป็นฝรั่งผมทอง สถานที่แสดงก็เป็น Orchestra hose ตกแต่งหรูหรา ผู้เข้าชมก็ต้องแต่งกายสุภาพ เกือบทั้งร้อยใส่สูทมาดู เราไม่ได้เอามาซักกะอย่าง จะซื้อใหม่ก็เสียดายเงิน ที่นี่ไม่มีไซส์เด็กจิ๋วอย่างเราหรอก แพงด้วย เราเลยซื้อบ้างใช้ของเดิมมามิกซ์ๆกันไป
ที่นี่คนเวียดนามเยอะ เพราะสมัยก่อนเช็คก็เป็นคอมมิวนิสต์ พวกเวียดนามเลยได้สิทธิในการอพยพมาตั้งถิ่นฐานระหว่างประเทศระบอบเดียวกัน มาร่ำมารวยแซงหน้าคนท้องถิ่นจนกลายเป็นปัญหาของที่นี่ อาจจะเรียกว่าอิจฉากันก็ได้ คนเวียดนามขยันมาก เลยสามารถตั้งตัวได้ เป็นเจ้าของกิจการกันก็เยอะ คนเช็คเลยต้องมาเป็นลูกจ้าง เค้าก็เลยไม่ค่อยชอบคนเวียดนามเท่าไหร่นะ เท่าที่เรารู้สึก

อ้อ มาที่นี่ ก็ต้องระวังเรื่องของพวก ยิปซีด้วย ในปรากเราไม่ค่อยเห็น แต่ตามต่างจังหวัดนี่จะเยอะมาก วิธีสังเกตง่ายๆว่าใครเป็นยิปซี ก็ง่ายมาก เค้าจะเเต่งตัวออกโทนดำๆ หน้าตาออกแขกๆ แล้วก็ชอบยืนจับกลุ่มกัน เพื่อนๆเตื่อนมาว่าพยายามอย่าไปอยู่ตรงที่มีพวกนี้อยู่มากกว่า หนึ่งคน เพราะว่าจะถูกจี้ ชิงทรัพย์ได้

ก็เห็นถ้าจะจริง คนพวกนี้ส่วนใหญ่จะไม่ทำงาน เงินที่ได้มาก็ได้มาจากรัฐช่วยดูแล เค้าก็เลยช่วยกันมีลูกเยอะๆ รัฐจะได้ให้เงินมากๆ ส่วนพวกเด็กๆพ่อแม่ก็ไม่ค่อยดูแลนัก มีลูกเพื่อนจะเอาเงิน ว่างั้นเถอะ โอ.. เริ่มเครียดแล้วเปลี่ยนเรื่องดีกว่าคะ

ในปรากแทบทุกคนจะพูดภาษาอังกฤษได้ เราเลยไม่มีปัญหา แต่ว่าในต่างจังหวัดอย่างบรูโน่ นี่สิคะ ปัญหาใหญ่ ตามมหาลัยก็ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ แต่ว่าออกข้างนอก ตอนไปตลาด ซื้อของนี่สิ ใช้แต่ภาษามือ เพราะว่าคนที่นี่พูดได้แต่เช็ค และเยอรมันเท่านั้น
แต่ก็ท้าทายดีนะคะ ต้องหัดจำศัพท์เอาไว้พูดกับคนขาย จะได้ซื้อได้ถูกๆ ไม่ใช่สั่งหมู แล้วได้ไก่






วันนั้นอากาศดีมาก เป็นวันแรกที่เราได้โชว์ขาอ่อนที่นี่ อิอิ ภาพนี้ถ่ายในมหาวิทยาลัย ข้างหลังคือห้องสมุด




เพื่อนที่เรียนโทด้วยกัน เป็นคนไทยแค่ 4 คนที่อยู่ที่บรูโน่




ตึกแดงเป็นโรงละครออกแนวโมเดิร์นๆ เราว่าจะมาดู แต่ไม่มีโอกาสได้มา ต้องกลับก่อน เสียดายที่สุดเลย




ตอนที่เราไป ที่เมืองมีเทศกาลรำลึกถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย คุณลุงเป็นชาวเยอรมันเลยแต่งเป็นทหารเยอรมันสมัยสงคราวโลกครั้งที่สองมาร่วมงานด้วย




เหนื่อยแล้ว ขอพักหน่อยน๊า




รถรางในเมืองค่ะ เรียกว่า แทรม มีทั้งแบบใหม่และเก่า เราเลือกถ่ายแบบเก่ามาให้ดู ดูแล้วขลังไม๊คะ




สปิลเบิร์ค โบสถ์เก่าแก่ของที่นี่ ดูแล้วขลังดีเน๊อะ มาตอนกลางคืนนี่ อาจมีอะไรโผล่มาที่หน้าต่างก็ได้




ภาพวิวจากหอระฆังของโบสถ์




?!?!?




พักถ่ายรูประหว่างทำการบ้านส่ง นั่นแน่ เอ็มกินขนมแก้มตุ่ยเชียวว




ถ่ายกับกองทัพทหาร อิอิ




ย่านตลาด ใครใส่ส้นสูงมาเดินนี่ลำบากหน่อยนะ ส้นคงดึงไม่ออกแน่ อิอิ




ร้านดอกไม้ในตลาดนัด




คณะวนศาสตร์




ตึกหอพัก ที่เราใช้เป็นที่ซุกหัวนอนตลอด 3 เดือน



อนุเสาวรีย์ที่รำลึกถึงกาฬโรคระบาด ชอบมีคู่สวีท มายืนจู๋จี๋ตรงนี้ น่าอิจฉาสุดๆๆ




เกรเกอร์ เมนเดล บิดาแห่งพันธุศาสตร์






ก่อนไป ทางอาจารย์แจ้งว่าพวกนักเรียนไทย ต้องเตรียมอาหารเพื่อไปแสดงในงาน International Cuisine ที่นั่นด้วย ก็คิดกันอยู่นานว่าจะทำอะไรให้ฝรั่งกินดีหว่า จะทำผัดไทยก็เตรียมยาก เครื่องปรุงเยอะด้วย แล้วส่วนใหญ่ก็เป็นของสด ไม่ได้ไปถึงปุ๊บแล้วทำปั๊บ ต้องรออีกหลายอาทิตย์กว่าจะได้ทำ ผัก จะเหี่ยว ของจะเสียก่อน ก็เลยต้องทำการบ้านกันค่อนข้างหนัก เพราะแต่ละคนก็ทำอาหารกันเก่งซะเหลือเกินนน แล้วงานนี้ถือเป็นหน้าเป็นตาให้กับอาหารไทยด้วยค่ะ ทำไม่ดี ไม่อร่อยเดี๋ยวจะเสียชื่ออาหารไทยที่อุตส่าห์สั่งสมมานาน จะมาอันตธานเพราะน้ำมือของพวกเราซะหมด ฮึๆๆ แล้วในบรูโน่ ก็ยังไม่มีร้านอาหารไทยเลยค่ะ มีที่ปรากแค่ร้านเดียว เพื่อนเช็คส่วนใหญ่เลยสนอกสนใจมาร่วมงานกันอย่างล้นหลามม เพราะหวังจะมาชิมอาหารไทย จากฝีมือคนไทยแต้ๆ ในที่สุดก็ตกลงกันที่ หมูสะเต๊ะ อันนี้ง่ายหน่อย เตรียมแค่ผงไปก็พอ หมูไปหาซื้อเอาข้างหน้า อยากให้ฝรั่งได้กินข้าวหอมมะลิ ข้าวขึ้นชื่อของเรา ก็อุตส่าห์แบกข้าวสาร จากเมืองไทย ไปที่นู่นด้วย หนักไม่ใช่เล่น ข้าวเฉยๆดูไม่น่าสนใจ เราเลยกะทำเป็นข้าวกระเทียมผักค่ะ แค่เตรียมคะนอร์รสกระเทียมไปแล้วก็ไปซื้อผักที่นู่น ที่เหลือก็มีพวกข้าวเกรียบรสต่างๆ ที่มันดูรสแบบไทยๆหน่อยไปให้เค้าลองชิม เตรียมง่ายดีค่ะ แล้วก็เอาน้ำปลาไปด้วย เผื่อเค้าอยากลองของแปลก อิอิ แต่ไม่มีใครกล้าลองซักคนเดียว สงสัยได้ยินชื่อเสียง เรื่องกลิ่น ก้อเลยไม่กล้า หน้าตาอาหารก็ออกมาอย่างในภาพอ่ะ ดูแล้วไม่ค่อยเป็นอาหารไทยเท่าไหร่ แม่ครัวพ่อครัวแต่ละคนทำอาหารเป็นกันซะทีไหน ทำเป็นก็มาอยู่ที่นี่แหละ เห็นแบบนี้รสชาติ ดี อร่อย ใช้ได้เลยนะ ขอบอก อิอิ








อันนี้เป็นขนมดั้งเดิมของเค้า ดูแล้วหน้าตาเหมือนขนมที่มีขายในบ้างเรา แต่...พอกันปุ๊บ แทบอยากคาย เพราะรสประหลาดมาก เป็นขนมปังรสออกขิงๆ ซ่าๆ บอกไม่ถูก ถือว่าสวยแต่รูป แต่ม่ายอาหร่อยเลย หรืออาจจะอร่อยของเค้าก็ไม่รู้

















 

Create Date : 05 กรกฎาคม 2550
1 comments
Last Update : 28 กันยายน 2550 23:13:48 น.
Counter : 927 Pageviews.

 

คนที่โน่นเขาอาจจะชอบรสชาติแบบนั่นก็ได้นะ

 

โดย: นางฟ้าเที่ยงคืน IP: 117.47.208.135 27 กันยายน 2552 15:57:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Monaiz
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Welcome to visit my world
Friends' blogs
[Add Monaiz's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.