มิ้งกิทัวร์ ตอนไปพม่า (2) หนึ่ง l l สาม ก่อนลงเรื่อง: โอ้ เริ่มเป็นทัวร์วัฒนธรรมแล้วค่ะ ทุกท่าน มิ้งกิทัวร์พ้นคำครหาว่าเล่าแต่เรื่องของกินได้แล้วววว โฮโฮ ดีใจจัง :D :D :D และเนื่องจากเล่าเรื่องพระเรื่องเจ้าเยอะ อิฉันจะทำตัวเป็นเด็กเรียบร้อยน่ารักด้วยการใช้ภาษาธรรมดาสามัญ ไม่สวิงสวายไม่กระเทยนะเจ้าคะ :D :D เอาล่ะ จุดหมายมั่นปั้นมือแรกของเรา คือเจดีย์โบตะทาวน์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ริมทางเดินในเจดีย์ทรงหกเหลี่ยมเต็มไปด้วยพระพุทธรูปที่ชาวบ้านนำมาถวาย และบางจุดก็จะมีการเปิดแอร์เพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่ศรัทธาได้นั่งบำเพ็ญเพียรภาวนากันเป็นระยะ ๆ และคำว่าโบตะทาวน์นี้ก็แปลว่าทหารพันนาย เพราะมีเรื่องเล่าว่า เมื่อครั้งสองพี่น้องวาณิชได้อัญเชิญพระเกศาธาตุมาจากอินเดียนั้น ได้มาขึ้นฝั่งที่ริมเมืองตะเกิง (ย่างกุ้งในปัจจุบัน) โดยมีทหารทั้งพันนายมารอรับตามคำบัญชาของพระเจ้าโอกะลาปะ กษัตริย์มอญในสมัยนั้น และเราก็ไปไหว้นัตโบโบยีซึ่งอยู่ที่ศาลาริมน้ำในบริเวณเดียวกัน ถ้าจะอธิบายกันให้ง่ายเข้าก็คงจะต้องบอกว่านัตโบโบยีก็เหมือนพระทันใจในคติความเชื่อของชาวเหนือมังคะ คือ อธิษฐานอยากได้อะไรแล้วก็เกิดจริงเร็วไวเร็ววันทันใดไดนาโม แต่ถ้าถามความพม่า นัตโบโบยีก็คือผีนัต ซึ่งเป็นผีบรรพบุรุษที่มีอิทธิฤทธิ์และมีอำนาจยิ่งกว่าผีธรรมดา หากก็ยังไม่ถึงขั้นเทวดา พวกเราไหว้นัตโบโบยีด้วยกล้วยและมะพร้าวตามความเชื่อ โดยมีคุณลุงพม่าผู้เป็นมัคทายกมาดำเนินการสวดมนต์ให้ แล้วเพื่อการอธิษฐานสมบูรณ์แบบ ก็จะต้องเอาหน้าผากของเราไปจรดกับนิ้วชี้ของโบนัต และมิ้งก็ไม่อยากจะบอกเลยว่าหนูกะจังหวะไม่ถูกสักที เข้าไปก็ใกล้ไม่พอ แล้วพอยื่นหน้าเข้าไปต่อระยะ ก็เอาหน้าผากไปกระแทกนิ้วท่านอีก ซึ่งจะบอกว่าเจ็บมาก และพอรอบสองที่เข้าไปขอพรก่อนกลับ เนื่องจากกลัวจะเจ็บก็เลยยิ่งกะจังหวะผิดกระแทกแรงเข้าไปใหญ่ เพราะทุกคนทำแบบเดียวกันมาตลอด สักพักก็มิต้องสงสัยเลยว่านิ้วชี้ท่านจะสึกก็เพราะเหตุนี้นี่เอง หลังจากนั้น เราก็ไปไหว้พระแม่ลักษมี และพระแม่กวนอิมซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน ก่อนจะออกมาไว้พระอุปคุตต่อ และถ้าดูตามรูปข้างล่างก็จะเห็นว่าพระอุปคุตตามคติทางพม่าจะแหงนหน้าขึ้น เห็นไหมคะ? เห็นไหมคะ? นั่นก็เพราะมีเรื่องเล่ากันมาว่า ท่านแหงนหน้าดูท้องฟ้า และสวดภาวนาให้ฝนไม่ตกนั่นไงล่ะคะ ส่วนเหตุที่มีการอัญเชิญพระอุปคุตมาก็คือ วันขึ้นสิบห้าค่ำเดือนสิบสองนี้เป็นเวลาทำบุญใหญ่ (โดยพม่านับวันเร็วกว่าไทยไปหนึ่งวัน ถึงแม้จะไม่มีวันลอยกระทงในพม่า แต่ก็จะมีการทำบุญ และที่สำคัญก็คือ การแข่งขันทอผ้ากันตามเจดีย์สำคัญ ๆ ต่าง ๆ รวมไปถึงการลอยโคมทางแถบรัฐฉานด้วย) และเพื่อให้วันงานใหญ่นี้ผ่านพ้นไปด้วยดีปราศจากลม ฝน พายุที่จะมากล้ำกรายรบกวน ก็เลยอัญเชิญคุณพระอุปคุตมาช่วย ต่อมาที่พระปางทรงเครื่องงามง๊ามงามที่ประทับอยู่บนบัลลังค์ เดิมทีพระพุทธรูปองค์นี้ประดิษฐานอยู่ที่พระราชวังในเมืองมัณฑะเลย์นะคะ แต่ในปีที่พม่าเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ ก็ได้ถูกอัญเชิญไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์วิคตอเรียแอนด์อัลเบิร์ท จนกระทั่งได้คืนกลับมาหลังจากได้เอกราชแล้วนั่นแหละ อย่างไรก็ตาม ในคราวเคราะห์ก็มีเรื่องดีอยู่บ้าง เพราะการที่ถูกอัญเชิญไปอยู่ที่ลอนดอนก็เลยทำให้รอดพ้นจากการถูกทิ้งระเบิดใส่ไปพร้อมกับพระราชวังได้ และเนื่องจากทัวร์นี้เป็นทัวร์ผู้เฒ่าผู้แก่ไหว้พระกัน และมีรูปแบบการทัวร์อย่างเรื่อยเปื่อยสบายใจ จึงมิต้องสงสัยเลยว่า กว่าเราจะออกมาจากวัดก็ได้เวลาอาหารพอดี ดังนั้น เราจะพุ่งตัวไปหาอาหารกลางวันกันล่ะค่ะ ทุกท่าน! ร้านอาหารเที่ยงของเราพูดถึงตัวเองไว้ในนามบัตรว่า Fine Myanmar and Thai Cuisine แต่เนื่องจากเราทานอาหารพม่ากัน ก็เลยไม่แน่ใจว่าอาหารไทยจะอร่อยหน้าตารสชาติเป็นไทยขนาดไหนนะคะ นั่นแหละ นั่นแหละ อาหารพม่ามื้อนี้ เราเริ่มที่ข้าวเกรียบกรุบกรอบอร่อย ๆ แล้วก็มีซุปถั่ว ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นถั่วอะไร เพราะไกด์บอกว่า ถั่วเขียว แต่คุณป๋ายืนกรานว่าเป็นถั่วทอง แต่นั่นแหละอร่อยซะอย่างเนอะ ... แล้วก็มียำถั่วพลู แกงไก่ แกงหมู และผัดผักใส่เห็ด และที่น่ารักก็คือ โต๊ะบราซิลเลี่ยนข้าง ๆ กำลังจุดเทียนร้องเพลง happy birthday กันไปอย่างมีความสุขและเมามัน น่ารักจริง ๆ birthday in Yangon .... ซึ่งกลายเป็นว่า คุณน้า คุณป้าในโต๊ะก็เลยอาศัยร้องให้มิ้งไปด้วย โดยมีแต่เพลงไม่มีเค้ก (อาศัยเค้าอยู่มาก ๆ เลยเชียวเรา! และคุณ ๆ บราซิลเลี่ยนก็คิดว่ามีอารมณ์ร่วมไปมากกว่าจะคิดไปถึงว่าเรามีจุดประสงค์ใด ๆ แฝงไปด้วยเสียด้วย!) แต่พอขนมโต๊ะเราเริ่มมา นอกจากจะได้กล้วยหอมทอดราดน้ำผึ้งแสนอร่อยคนละชิ้นโตอย่างเดียวแล้ว ยังจะได้เค้กมาคนละชิ้นอีก เป็นอภินันทนาจากชาวคณะบราซิลเลี่ยนให้คนทั้งร้าน แล้วก็ต้องบอกว่าอร่อยเชียวล่ะ :D (มีต่ออีกมาก) ทางเข้าเจดีย์โบตะทาวน์ พระเกศาธาตุ เนื่องจากอยู่ไกลมาก ซูมไม่รอดเห็น ๆ พระพุทธรูปภายในเจดีย์ งามถูกใจจับใจคุณป๋ายิ่งนัก เจดีย์จากด้านนอก ภาพเจดีย์สีทองและฉากหลังที่เป็นท้องฟ้าแบบนี้ เป็นเอกลักษณ์พุทธสถานของทั้งพม่าและภาคเหนือบ้านเราจริงจริ๊ง โบโบนัตยี พระทันใจเร็วไว - โปรดสังเกตว่านิ้วชี้สึกไปแล้ว พระอุปคุตแหงนหน้าขึ้นเพื่อดูแลงานบุญใหญ่ไม่มีอุปสรรคจากดินฟ้าอากาศใด ๆ พระปางทรงเครื่องงามง๊ามงาม ของถวายประกอบไปด้วยกล้วยห้าหวีและมะพร้าวหนึ่งผล และจะลากลับไปทั้งหมด ลาไปบางส่วน หรือจะถวายทิ้งไว้เลยก็ได้ หน้าตาร้านอาหารมื้อเที่ยง แต่เอาเข้าจริงก็มิได้นั่งโอเพ่นแอร์แต่อย่างใด แค่มาถ่ายรูปเอาเก๋เฉย ๆ รูปสุดท้าย แกงไก่เครื่องเทศเข้มข้น ที่อยู่บน ๆ คือข้าวเกรียบอร่อยเด็ดเกินห้ามใจของหนู หนึ่ง l l สาม   Create Date : 03 ธันวาคม 2549 30 comments Last Update : 8 ธันวาคม 2549 1:29:35 น. Counter : 1484 Pageviews. Share Tweet

ทองเรืองรองจังค่ะ   โดย: rebel 3 ธันวาคม 2549 19:39:58 น.

จองก่อน เดี๋ยวคืนนี้กลับมาอ่าน กลางวันเนตที่ทำงานที่โน่นใช้ไม่ได้ ใจจะขาดมากๆ   โดย: jengly 3 ธันวาคม 2549 22:28:25 น.

สวัสดีค่ะ เจี๊ยบแวะมาทักทายค่ะ วันนี้อย่านอนดึกน่ะคะพรุ่งนี้ไป ทำงานเดี๋ยวไม่สวยค่ะ เอิ๊ก ๆ Goodnight ค่ะ หลับฝันดีน๊า 3/12/2006   โดย: rayasuree (Jeab) (rayasuree ) 3 ธันวาคม 2549 23:56:02 น.

เห็นแล้วอยากไปมั่งจังเลยค่ะ   โดย: Sweety-around-the-world 4 ธันวาคม 2549 0:17:34 น.

สุขสันต์วันจันทร์ค่ะ ขอให้มีความสุขกับการเรียนและการทำงานค่ะ   โดย: BeNuTe23 4 ธันวาคม 2549 0:59:07 น.

วู้ว ทัวร์วัฒนธรรมยังไงก็ขาดเรื่องของกินไม่ได้ครับ เรื่องกินเรื่องใหญ่ แกงไก่เครื่องเทศดูน่ากินจริงๆครับ   โดย: sTRAWBERRY sOMEDAY 4 ธันวาคม 2549 1:33:59 น.

ขอตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ   โดย: zMee 4 ธันวาคม 2549 1:59:32 น.

ขออนุญาตเสริมเรื่อง "ธง" นิดครับ ในรูป "โบโบนัตยี" จะมีธงเล็ก ๆ อยู่ทางขวา และในรูปพระอุปคุตแหงนหน้า ก็จะมีธงอยู่เช่นกัน ธงนี้คือ "ธงฉัพพัณรังสี" หรือ The Buddhist Flag ครับ ธงนี้เริ่มใช้เป็นครั้งแรกเมื่อวันวิสาขบูชา ประจำปี ค.ศ. 1885 ที่ วัดทีปดุดด้ารามายา เขต โกต้าเชน่า เมืองโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา ธงนี้มี 6 สีโดยนำเอาสีที่รัศมีที่ซ่านออกพระวรกายของพระพุทธเจ้าเมื่อตอนที่ตรัสรู้ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่พุทธคยา รัฐพิหาร อินเดีย บ้างก็ว่า สีต่าง ๆ มีที่มาและความหมายดังนี้ ฟ้าน้ำเงิน เชื่อว่าเป็นสีเส้นพระเกศาของพระพุทธเจ้า แทน ความรักความเมตตา และสันติภาพ เหลืองทอง เชื่อว่าเป็นสีพระวรกายของพระพุทธเจ้า แทน การดำเนินตามทางสายกลาง แดง เชื่อว่ามาจากสีเลือดและเนื้อของพระองค์ แทนความสำเร็จ ความมีโชค ความดี ขาว มาจากสีของพระทนต์และอฎฐิ แทนความบริสุทธิ์ของธรรม ความมีเสรีภาพ ความเป็นอกาลิโก ส้ม บางที่เช่นพม่าจะใช้สีชมพู เชื่อว่าแทน สีของพระบาท พระหัตถ์ และพระโอษฐ์ แทน ปัญญาญาณ ความแข็งแกร่ง และเอาทั้ง 5 สีมารวมกันกลายเป็นสีแก้วผลึก ดังนั้น จึงกลายเป็น 6 สี แทนถึง สัจธรรม ต่อมาธงนี้ได้รับการยอมรับว่า เป็นธงของพระพุทธศาสนา ในคราวประชุมขององค์การพุทธสัมพันธ์แห่งโลก ที่จัดขึ้นที่ประเทศศรีลังกา โดยการนำของท่านศาสตราจารย์ พระคุณาปาละ มาลาลาเสเขร่า ครับ (จะได้เข้า concept เรื่องทัวร์วัฒนธรรม)   โดย: Plin, :-p 4 ธันวาคม 2549 9:00:45 น.

ตามมาชมทัวร์พร้อมอาหาร ได้อรรถรสเชียวค่ะ ว่าแต่เมืองเขายังไม่เคยไป เห็นแล้ว น่าไปชมเหมือนกัน.. ขอบคุณคำอวยพรวันเกิดพี่สาวนะคะ แล้วก็สุขสันต์วันเกิดคุณมิ้งด้วยนะคะ ปีนี้กินเค้กก้อนเล็กๆของเจ้าติโตกะคนใกล้ตัว รวมกันก้อนเล็กนิดเดียว ประมาณว่า เจ้าติโตบ่นๆว่า ทำไมยิ่งโต เค้กยิ่งก้อนเล็ก แฮ่..   โดย: prncess 4 ธันวาคม 2549 9:10:21 น.

โหยแย่เลยอ่ะ เข้าบล็อกนี้แล้วรู้สึกร้อนๆไงก็ไม่รู้ รอชมตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ อิ อิ   โดย: ST.Exsodus 4 ธันวาคม 2549 11:04:43 น.

พระพุทธรูปสวยๆทั้งนั้นเลยนะครับ พระบ้านเขามีปางต่างๆที่หาดูในบ้านเราไม่มีนะ สวยและแปลกดี วัดเขาก็อลังการงานสร้างมากเลย ทองทั้งนั้น เห็นคุณ Plin เขาพูดถึงธงสี ได้ความรู้ใหม่น่าสนใจดีนะ ทำไมในบ้านเราไม่เคยเห็นธงนี้เลยล่ะ เอ้..หรือว่าเราห่างวัดมากไปก็ไม่รู้ สิ่งสุดท้ายที่อยากรู้ก็คือ ที่พม่าเขาจะเหมือนบ้านเราไหมครับ ที่บางวัดใหญ่ๆจะวนของสักการะ โดยของที่ถวายไปแล้วก็เอามาวนขายอีก มีเหมือนบ้านเราไหมครับ   โดย: ป้อจาย 4 ธันวาคม 2549 11:51:09 น.

ชอบครับ ชอบ.... ชอบเรื่องท่องเที่ยวแบบเนี้ย... วันหน้า เผื่อจาได้ไปกะเขาบ้าง.. ขอบคุณมากนะที่เอาเรื่องมาฝากกัน   โดย: kengCAD 4 ธันวาคม 2549 21:23:44 น.

^ ^ คุณ rebel นั่นสิคะ เห็นแล้วอลังการสุดใจจริง ๆ พจ มายังคะ จะได้รู้ว่า หนูก็อคาเดมิคได้นะ :D :D :D คุณ Sweety-around-the-world นั่นสิคะ มาดูรูปแล้วอยากไปอีกรอบเหมือนกัน :D :D :D คุณสตอร์บางวัน “..วู้ว ทัวร์วัฒนธรรมยังไงก็ขาดเรื่องของกินไม่ได้ครับ...” อ๊ะ แปลว่าเล่าเรื่องอาหารได้ใช่ไหมคะ ตอนนี้ชักจะเริ่มสงสัยแล้วว่ามิ้งกิ มาจากมิ้งกินหรือเปล่า :D :D :D คุณ zMee ด้วยความยินดีค่ะ :D :D :D คุณ Plin, :-p ขอบคุณค่ะ จริง ๆ ก็กะจะเล่าเหมือนกัน แต่เพราะว่าตอนนี้รายละเอียดสาระเยอะผิดจากตอนอื่น ๆ ก็เลยตัดออกไป ขอบคุณนะคะ คุณ prncess ขอบคุณค่ะ :D :D :D ฝากบอกเจ้าติโตด้วยนะคะ ว่าตอนนี้ในอเมริกาเขาไม่ให้เด็ก ๆ ทานขนมเค้กวันเกิดในโรงเรียนแล้วน้า เพราะว่าน้ำตาลมากไป ติโตได้ทานเค้กแล้วดีออก ก้อนเล็ก ๆ ก็ดีนะจ๊ะ :D :D :D อืม งวดหน้าจะพยายามเน้นวัฒนธรรมนะคะ ไม่แน่ใจว่าสำเร็จไหม :D :D :D คุณ ST.Exsodus โอ้ ทริปพม่ามีแต่วัด แล้วจะไหวเหรอคะ :D :D :D เพื่อนช้าง อืม ไม่ค่อยแน่ใจนักว่าบ้านเรามีแต่เราห่างไกลศาสนากันหรือเปล่า TT อย่างไรก็ตาม เห็นพี่ห่านคุณไกด์ประจำคณะเล่าว่าจะมี 6 ประเทศที่ใช้ธงนี้นะคะ มี ศรีลังกา พม่า ไทย ลาว เวียดนาม .... งั้นก็น่าจะมีนะ :D :D :D อื่น ๆ เรื่องของเวียนนี้ไม่ได้ยินนะคะ อย่างที่ชเวดากอง ดอกไม้ที่ถวาย เค้าก็ไม่ทิ้งนะ แต่จะเอามารวมกันตากแห้งแล้วทำเป็นพระพิมพ์ผงจากดอกไม้ล่ะค่ะ คุณ kengCAD ขอบคุณมากค่า :D :D :D งั้นต้องตามมาอ่านทุกตอนนะคะ มีไม่มากหรอก ตอนนี้กะไว้แค่ 10 (สิบ) ตอนเอ๊งงงง :D :D :D   โดย: หมาเลี้ยงแกะ 4 ธันวาคม 2549 23:55:07 น.

หลงดีใจว่า จะออกพ้นจากเรื่องกิน ที่ไหนได้...... ตอนนี้ เจ๊เป็นโรค แพ้อาหาร อย่างรุนแรง กินไม่ได้เลยค่ะ ว่าแต่ เจ๊สงสาร นัต ท่านจัง เจอหน้าผาก หนูเข้าไป ท่านคงเจ็บแย่ ที่พิพิธภัณฑ์ วิคตอเรีย กับ อัลเบิร์ตน่ะ ยังมี พระพุทธรูปทรงเครื่อง หินอ่อน ศิลปะ ตระกูล มัณฑเลย์ ที่เค้าว่า เป็น พระพุทธรูป ฉลองพระองค์ ของ พระมเหสี พระเจ้ามินดง อีกองค์ ที่เจ๊เห็นว่า งามมาก งามจับใจจริงๆ อยากให้พม่าได้กลับคืนมาจัง (พระมเหสี พระองค์ เห็นว่า มีเชื้อ สายเจ้านาย ราชวงศ์บ้านพลูหลวงค่ะ ) ดังนั้น พระพักตร์ พระพุทธรูปองค์นี้ เลยกึ่ง พม่า ไทย ที่เรียกว่า ศิลปะ โยเดีย น่ะค่ะ ตายเจ๊พล่ามยาว คลอดตอนสาม โดยฉับไวค่ะ หนูขา แล้วส่งเลี่ยง คัด ทาส หน้าตาดี หุ่นกำบำ สามสิบนายไปรับเจ๊ด้วยนะคะ   โดย: นางกอแบกเป้ 5 ธันวาคม 2549 6:29:16 น.

ตามมาจากบล็อกเจ๊กอ ... ไม่เคยไปเที่ยวพม่าเลยค่ะ สวยอลังการจังเลยนะคะ เรื่องเที่ยวและเรื่องกินเป็นของคู่กันค่ะ   โดย: คุณย่า 5 ธันวาคม 2549 7:00:32 น.

ที่คุณมิ้งไปเยี่ยมชมแต่ละที่ งามจริงๆค่ะ ไม่ได้ไปไหนเลยชีวิต อิจฉาเฟร่ย   โดย: Brownie point IP: 203.113.34.61 5 ธันวาคม 2549 9:46:25 น.

อ่านจบแล้วพบว่า...ผมก็อยากไปพม่าเหมือนกัน   โดย: 9A 5 ธันวาคม 2549 12:30:45 น.

ต่อกันด้วยเรื่องของธง ธงฉัพพัณรังสี มาตรฐานจะเป็น 6 สีดังรูปที่ post ไว้ คือ 5 สี บวกกับสีรวมเป็นสีที่ 6 ตามประวัติที่เก่าที่สุดเท่าที่ทราบคือ เริ่มใช้ในปี ค.ศ. 1885 ที่ประเทศศรีลังกา ที่ว่าไว้ข้างต้น แต่เกร็ดเล็กน้อยคือ มีการออกแบบตั้งแต่ปี ค.ศ. 1880 ที่สำคัญคนออกแบบเป็นฝรั่งชาวอเมริกัน เนื่องจากเคยไปแต่ที่ศรีลังกา เห็นธงนี้ประดับไปทั่วเมือง ไม่เคยไปพม่าที่ลึกกว่าตะเข็บชายแดน เรื่องธงฉัพพัณรังสีของพม่านี่ นอกจากที่บอกไว้ข้างต้นว่า สีส้มอาจจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูแล้ว บาง version บอกว่าเป็นสีเขียว บาง version บอกว่าเป็น 7 สีด้วยซ้ำ ก็อยากจะไปพิสูจน์เหมือนกัน แต่ยังไม่มีโอกาสไปเอง พอดีเห็นสองธงที่คุณ "หมาเลียงแกะ" ถ่ายมาให้ดูเป็นสีแสดเหมือนกันกับที่ศรีลังกา ก็ชักสงสัยเหมือนกันว่าคุณ "หมาเลียงแกะ" เห็นแบบสีชมพู กับ สึเขียวบ้างหรือไม่ ซึ่งบันทึกที่ว่าพม่าเปลี่ยนไปใช้ธงสีชมพูแทนสีแสด (ในสีที่ 5) นั้น บอกว่าเริ่มใช้ในปี ค.ศ 1956 ที่น่าตกใจคือ ทาง "ญี่ปุ่น" ก็มีการกล่าวอ้างว่าเป็นชาติแรกที่ใช้ธงฉัพพัณรังสี โดยใช้ตั้งแต่การประชุม World's Second Buddhists' Fellowship Conference ในปี ค.ศ. 1952 พุทธศาสนาในญี่ปุ่นก็มีการแนะนำธงฉัพพัณรังสีใน website เช่นกัน โดยบอกว่าสีที 5 เป็นสี แดงอ่อน บางที่บอกว่าเป็นสีชมพู //www.nishihongwanji-la.org/church/buddhism/jodo_shinshu.html ส่วนในประเทศไทยนั้น ที่จริงแล้วมีคนที่รู้จักคนหนึ่งบอกว่า เคยเป็นกรรมการในการใช้ธงฉัพพัณรังสีในไทยด้วยเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่ไม่ได้ถามต่อว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมในหลักสูตรการเรียนถึงไม่ได้พูดถึง มีบางท่านกล่าวว่า ธงฉัพพัณรังสีนั้น แม้ว่าจะเริ่มที่ศรีลังกา แต่ตอนที่ตกลงว่าจะใช้เป็น international Buddhist flag นั้น ตกลงกันที่ประเทศพม่า ส่วนไทยปฎิเสธที่จะใช้ แล้วหันไปใช้ธงธรรมจักรแทน (ข้อความในส่วนประเทศไทยนี้ ยังหาหลักฐานอ้างอิงไม่ได้ โปรดอย่าเพิ่งได้อ้างอิงต่อ แต่เราคงเห็นต้องกันว่า ไม่เคยเห็นธงนี้ในไท่ย)   โดย: Plin, :-p 5 ธันวาคม 2549 17:16:43 น.

ขำเรื่องนิ้วชี้ของโบโบนัตยีที่สึก น่าสงสารท่านจัง ร้านอาหารน่านั่งนะคะ บรรยากาศดี ส่วนรูปสุดท้ายนั่น โอวว หิว!   โดย: DropAtearInMyWineGlass 6 ธันวาคม 2549 2:52:22 น.

แกะหนีเที่ยว   โดย: แม่มดพันปี 6 ธันวาคม 2549 5:01:43 น.

ตามมาเที่ยวต่อค่ะ แกงไก่น่ากินจัง พ่อเราเคยทำแกงไก่สูตรพม่าให้กิน (ไม่รู้พ่อเรียกมั่ว ๆ หรือเปล่า หรือว่ามันเป็นสูตรพม่าจริง ๆ ) คล้าย ๆ กันแต่ดูไม่เข้มข้นแบบนี้อะ อยากกินๆๆ   โดย: unwell 6 ธันวาคม 2549 16:21:57 น.

ขอบใจที่เอารูปเล็บเก๋ๆไปแจมจ้า เดี๋ยววันคริสต์มาสอีฟจะทำมั่ง   โดย: DropAtearInMyWineGlass 7 ธันวาคม 2549 1:21:15 น.

เจ๊กอสุดสวยย แหม นั่นสิคะ หนูเองยังนึกว่าจะพ้นวงจรอาหารนี่ไปได้เลย เศร้าใจสจริง ๆต้องมาดูตอนนหน้านะคะ จะไม่มีเรื่องอาหารบ้างกับเขาแล้ว ว่าแต่ว่า ตอนนี้หนูอุตส่าห์ทำเป็นทัวร์วัฒนธรรมเล่าเรื่องเที่ยวนะคะ ยังไม่รุ่งอีกเหรอคะ :D เจ๊ดีขึ้นหรือยังคะ มาเที่ยวเล่นตามบล็อกอย่างนี้ได้หรือไร? พักผ่อนเยอะ ๆ นะคะ จะได้กลับมางามงดสดสวยเป็นเจ๊กอของหนูเร็วไวเร็ววัน หนูนรู้สึกว่าที่พิพิธภัณฑ์บริติชทั้งหลาย อย่าว่าแต่พระพุทธรูป ตระกูล มัณฑเลย์เลยค่ะ เจ๊ขา มีหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างเลย ค่าที่ไปฉกมาจากประเทศอื่นเค้ามาก ทั้งจากบ้านเรา จากอียิปต์ จากโน่น นี่ นั่น แต่ก็แอบ Bitterly, Ironically speaking ว่า ถ้าไม่ให้ฝรั่งเก็บ ของหลายอย่างอาจจะไม่ได้อยู่หลงเหลือมาก็ได้ (แค้นใจแต่จริง ว่าฝรั่งเก็บของได้ดีกว่า มีทั้งเงินและความรู้ความเข้าใจที่เท่าได้) หรือถ้าไม่อีกที ก็อาจจะไม่ได้อยู่ในพิพิธภัณฑ์สำหรับปวงชน/ สาธารณะ แต่จะกลายเป็นของในมือนักสะสมไป แสด บัท ทรู TT โฮโฮ ฮือฮือ ปล. อย่างไรก็ตาม แล้วหนูจะส่งทหารม้าไปรับนะคะ ไม่เอาทาส ไม่มี dignity ค่า ทหารม้าเร็วของหนู หล่อแบบดูดีมีสง่าราศีนะค้า สนใจไหมคะ :D :D :D คุณย่า อ๊ะ ขอบคุณค่ะที่มาเยี่ยมกัน :D : D:D แล้วมาเกาะขบวนต่อไปนะคะ ยังอีกยาววววววค่ะ :D คุณบีพี อะไรคะ แล้วที่หล่อนหลบไปเลียแผลชีวิต urban Life crisis ที่ ww มาล่ะยะ? ไม่ได้ไปอะไรกันคะ? ตอนนี้อิฉันกำลังวอนน่าโกทูเปรู ไปด้วยกันไหม จะได้เริ่มเก็บเงินเก็บทอง :D :D :D คุณ 9A อิอิ ได้เหยื่ออยากไปพม่าเพิ่มอีกหนึ่ง :D :D :D คุณ Plin, :-p โอ้ ขอบคุณสำหรับความรู้เรื่อง ธง อย่างต่อเนื่องนะคะ เนื่องจากไม่มีความรู้ ขออนุญาตฟังเฉย ๆ เก็บข้อมูลไปก่อน โดยไม่ตามต่อก็แล้วกันนะคะ :D :D :D คุณ DropAtearInMyWineGlass เอ้อ ต้องออกตัวก่อนเล็กน้อยว่าที่นิ้วท่านสึกเกิดจากทุกคนร่วมกันนะคะ มิได้เกิดจากมิ้งคนเดียวแต่อย่างไร :D :D :D ไปพม่าหลัง ๆ ร้านหน้าตาหน้ารักเต็มไปหมดเลยค่ะ แต่ทำไมก็ไม่ทราบ ร้านที่หน้าตาไม่ดีมักจะอร่อยกว่า TT ตอนนี้กำลังคิดสีเล็บเก๋ ๆ สำหรับการไปวินเทอร์อยู่เลย เอาโทน/ เทรนอะไรดีคะ :D :D :D ป้าแม่มด แล้วแกะก็จะหนีเที่ยวอีก ล้าลา ปล่อยให้ป้าใจร้ายคิดถึงแกะ คุณ unwell อิอิ มายั่วโดยการเล่าต่อว่าเนื้อไก่นุ่มน่าทานมากเลยค่ะ :D :D จริง ๆ ที่ทานมันเป็นแกงไก่แบบเครื่องเท๊ศเครื่องเทศนะคะ แต่ไม่ทราบจะเรียกไรก็เลย บอกเป็นแกงไก่แบบพม่าไว้ก่อน .. แต่ถ้ามองว่าแกงไก่เครื่องเทศจัด ๆ เป็นแกงไก่แบบพม่าได้ แกงไก่ของคุณพ่อก็ใช่นะคะ :D :D :D   โดย: หมาเลี้ยงแกะ 7 ธันวาคม 2549 11:13:22 น.

โอ๊ะๆ คุณหมาเลี้ยงแกะ ลืมตอบคำถามไปหรือเปล่าครับ ว่าเห็นแบบสีชมพู กับ สีเขียว แทนสีแสดบ้างหรือเปล่า   โดย: Plin, :-p 7 ธันวาคม 2549 20:01:35 น.

นั่งแมงกะไซค์ เกาะเอวผู้พันมารอชม ตอนสาม (ไร้อาหาร) ค่ะ พูดถึงเรือ่งพิพิธภัณฑ์เมืองฝรั่ง เจ๊ เคยต้องไปดูงาน บวกเรียน ที่ Musee Giumet นังภัณฑารักษ์ ที่นำชม เอาพระพุทธรูป วางจัดนิทรรศการแบบไม่เหมาะสม แล้วยังมีหน้ามาถามว่า เค้าเก็บรักษาดีไหม เจีตอบว่าดีค่ะ ดีมาก แต่ดูไม่สวยสง่า ถ้ายังอยู่ตามวัด เหมือนเดิม พระจะดูมีพลังมากกว่านี้ ทำไมหนอ เราถึงรักษาของของเราเองไม่ได้ เจ๊เศร้าใจจัง แต่...ถึงจะเศร้า ก็ไม่ลืมตอนสาม นะคะ อิอิอิ ลป.ตอนนี้ หนูกลายเป็นคนดีแล้วเหรอ ถึงไม่ค่อยอัพศัพท์ ใจร้ายเลยอ้ะ   โดย: นางกอแบกเป้ 7 ธันวาคม 2549 21:31:26 น.

น้องชายคุณหมาเลี้ยงแกะกำลังดีดกีต้าร์เพลง victor อยู่เหรอครับ 55 งั้นหลังเที่ยงคืน ขอเชิญแวะไปที่บล็อกนะครับ ผมจะอัพเพลงน่ารักของสนามบินเล็กเพิ่มอีกเพลงครับ แต่.. แต่ยังไง ต้องไปดูครับ   โดย: sTRAWBERRY sOMEDAY 7 ธันวาคม 2549 22:54:06 น.

หงะ เกิดอะไรขึ้น พี่ว่าพี่มาอ่านแล้วก็ตอบไปแล้วนี่นา - -" ปกติ หนูก็ อค อยู่แล้วนี่คะ ^^ อยากไปไหว้พระที่นั่นบ้างจัง   โดย: jengly 7 ธันวาคม 2549 23:19:01 น.

เอ่อ...ทัวร์วัดจนมึนเลยอ่ะคุณหมาเลี้ยงแกะ แต่ก็ได้ความรู้เกี่ยวกับวัดที่พม่าไปเยอะ แต่พอเห็นอาหารเท่านั้นล่ะ เกินห้ามใจจริงๆเลยค่ะคุณหมาเลี้ยงแกะ เห็นแล้วหิวววววง่า   โดย: i_am_redangel 8 ธันวาคม 2549 0:01:37 น.

จะไปเที่ยวอีกแล้วหรือครับ เที่ยวให้สนุกและเที่ยวเผื่อทุกคนที่นี่ด้วยครับ ไว้กลับมาค่อยไปเยี่ยมบล็อกผี เอ๊ย บล็อกชาวไร่อีกนะครับ จะแยกเพลงของสนามบินเล็กๆ ให้อีกหนึ่งบล็อกเลยเอ้า ฟังให้จุใจ   โดย: sTRAWBERRY sOMEDAY 8 ธันวาคม 2549 1:00:38 น.

^ ^ คุณ Plin, :-p อืม ที่เห็นก็มีใช้สีชมพูนะคะ เป็นน้ำเงิน-ส้ม-แดง-ขาว-ชมพู อันนี้สังเกตุจากธงตรงพระอุปคุตนะคะ :D :D เจ๊กอ แหมนั่งมอไซด์มาเลยเหรอคะ ยังไม่ทันส่งทหารม้าไปรับเลย แถมยังมีผู้พันมาคุมด้วยเสียอีก :D :D เฮ้อออ อันนี้หลาย ๆ ที่ก็ไม่เหมาะสมจริง ๆ นะคะ เจอที่ตั้งพระพุทธรูปไว้หน้าประตูบ่อย ๆ ไม่ก็เป็นทางขึ้นบันได เศร้าใจ เศร้าใจ ... เปลี่ยนเรื่องดีกว่า ที่นึงที่ไปแล้วมีความสุขบ้านเรา กลายเป็นพิพิธภัณฑ์อุบลค่ะ เจ๊ขา สวยตั้งแต่ตัวตึกไปถึงข้างใน รู้สึกว่าเก็บดี ไม่ได้ดูเป็น พพธ เก่า ๆ ทึม ๆ แต่ดูมีชีวิตชีวา และแสงแดดส่องถึงพระก็งามง๊ามงาม แถมภัณฑารักษ์ยีงน่ารักบวกความรู้ทะลักอีกต่างหาก ชอบค่ะ ปล. เจ๊ขา หนูเป็นคนดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนะคะ มาถามได้อย่างไรว่ากลายเป็นคนดีแล้วเหรอ ถ้าเรตติ้งหนูตก หนุ่ม ๆ หนีหายกระเจิง หนูจะทำอย่างไรล่ะคะ เจ๊ขา ซ่อนหางเก็บหูมาขนาดนี้เชียวนะคะ ว่าแต่นั่นสิคะ มิได้อัพศัพท์เลย มีคนทักมาด้วยแล้ว ช่วงนี้เขี้ยวไม่ค่อยคมเลยค่ะ เจ๊ เขียนแล้วไม่จิก รอสักครู่นะคะ หนูเอาที่ลับเขี้ยวลับอยู่ :D :D :D ชาวไร่ใจร้ายยย “แต่.. แต่ยังไง ต้องไปดูครับ” โฮโฮ ฮือฮือ หลอกกันให้ดีใจนี่นา น่ากลัวมาก ๆ ดีนะไม่มีปอบผีฟ้ามาอีกเพลง ให้โอกาสแก้ตัวด้วยสนามบินเล็กน่ารักค่ะ :D :D ตอนนี้กำลังพยายามหว่านล้อนชักแม่น้ำทั้งยี่สิบสายให้เพื่อนไปฮ่องกงแล้วกวาดซีดีมาให้อยู่ ... เพื่อสนามบินเล็ก ๆ ทำได้ทุกอย่าง (เลียนแบบใครบางคนกับน้องแคนดี้ :D ) ปล. แล้วจะเอารูปเที่ยวมาฝากนะคะ แต่คงต้องรอพม่าอีกสักเกือบสิบตอน เหอเหอ ปล. อีกที ชอบ 20 เพลงโปรดชาวไร่ใจร้ายยยมาก ชอบเพลงที่มีสาวเสียงใส ๆ ถูกใจมาก ๆ เลยค่ะ อยากจะเอามารวมกันแล้วตั้งชื่อว่าอัลบั้มว่า Little Voices จริง ๆ นะเนี่ย หลายเพลงไม่ได้ฟังนนแล้วด้วย โดยเฉพาะ frante คิดถึงมาก ๆ พจ หนูก็ตอบที่พี่ตอบไปแล้วนี่คะ :D :D :D อยากไปไหว้ชเวดากองอีกรอบเหมือนกัน แล้วก็อยากไปเจอ พก หนึ่งด้วย กิ๊บ กิ๊บ ได้ข่าวว่าเพิ่งไปบวชมา :D :D :D สาธุ! นางฟ้าแดง อ้าว ไม่ดีเหรอคะ เป็นทัวร์วัฒนธรรมทั้งที นาน ๆ ทีจะเป็นได้แบบนี้นะ :D :D :D หลัง ๆ จะพยายามนอกเรื่องกลับไปหาของกินนะคะ ดีไหม   โดย: หมาเลี้ยงแกะ 8 ธันวาคม 2549 1:53:59 น.