[Anime Review] 5 Centimeters per Second ... ยามซากุระร่วงโรย 5 Centimeters per Second ... ยามซากุระร่วงโรย งานของมาโกโตะ ชินไค ที่ทำให้เราเขียนรีวิวทั้งน้ำตา เราร้องไห้ตั้งแต่ต้นตอนที่สอง แล้วก็ร้องมาเรื่อยๆจนจบ ร้องไห้แบบที่ไม่ได้ร้องไห้แบบนี้มานานแล้ว ร้องจนต้องหยิบกล่องทิชชู่มาวางข้างๆ ขนาดเครดิตขึ้นจนจบน้ำตาเราก็ยังไม่หยุดไหลเลย จริงๆให้หนังแบบนี้ เป็นหนังประเภทที่เพื่อนเราให้คำจักัดความไว้ว่า หนังพร่ำเพ้อ แต่หนังพร่ำเพ้ออันนี้ก็ทำให้ ทั้งเหงาทั้งเศร้าทั้งเจ็บ แต่มีความสุข ทำให้ได้ย้อนกลับไปถึงความรักครั้งแรกๆ การได้มีความรัก การได้รู้จักความรัก หัวใจเต้นตึกตัก อยากเห็นหน้า อยากพูดคุย คุยโทรศัพท์จนหลับไป มาถึงโรงเรียนก็พูดด้วยเป็นคนแรก ...แต่ทุกอย่างนี้มันก็หายไปตามกาลเวลา เหลือเพียงความทรงจำที่ชัดเจนแต่กลับไปเป็นอย่างเดิมไม่ได้แล้ว แต่เป็นความรักที่ตกค้างอยู่ในใจ ไม่ได้พูดออกไป เราไม่ได้คบกัน แต่คุยกันทุกวัน ที่โรงเรียนก็นั่งคุยกัน กลับบ้านมาก็โทรหากัน แต่เราไม่เคยพูดกันเลยว่าเราเป็นอะไรกัน รู้สึกยังไง จนเรียนจบแยกย้ายกันไปคนละทาง ...อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ความรักคร้งนั้นยังคงโหยหา ยังคิดถึง ยังอยากกลับไปอยู่ที่เดิม แต่ถ้ากลับมาเจอกันอีกครั้ง ก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอยู่ดี ...พูดถึงตัวเองไปเยอะแล้ว พูดถึงหนังบ้างดีกว่า บอกเลยว่าถ้าใครเคยมีประสบการณ์ตรงล่ะก็ อาจจะน้ำตาแตกแบบเราได้นะคะ เราเสียใจที่ตอนนั้นไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่ย้อนเวลากลับไป อาจจะทำแบบเดิม ... บทที่ 1 Cherry Blossom ฉากทากากิทั้งรถไฟไปหาอาคาริ ที่เริ่มต้นด้วยฉากซากุระและจดหมาย โรแมนติกสุดๆ โรแมนติกชนิดที่ว่า ชีวิตเราไม่เคยโรแมนติกขนาดนี้ และคิดว่าคงไม่มีโมเม้นอย่างนี้ด้วย 555 จดหมายรักที่ไม่ได้ส่ง ... รถไฟที่เนิ่นช้า คนที่รอคอย มันทั้งโรแมนติกทั้งบาดใจ งานภาพสวยสมคำร่ำลือมากๆ งานฉากหรูหราจนทำให้เราคิดว่า มันแอบทำให้คนดูโดดๆขึ้นมาเลย เพราะฉากหลังละเอียดมากกกก ชอบทุกฉากเลยมั้ง โดยเฉพาะฉากในรถไฟ ฉากหิมะเกาะตามหน้าต่าง หิมะตกจากท้องฟ้า บทที่ 2 Cosmonaut รักข้างเดียวที่ไม่กล้าบอก ซูมิดะกับทากากิ ...เรามาบ่อน้ำตาแตกเอาตอนนี้แหละ รู้สึกถึงความรักทางไกลของทากากิที่มันแบบ คิดถึงทุกวัน แต่ไม่ได้ติดต่อไป เขียนเมลที่ไม่มีผู้รับ ซูมิดะ ที่มารอคอยทุกวัน ได้อยู่กับเค้าสักแปปก็ยังดี เค้าไม่ได้มองเราแต่ก็ขออยู่ข้างๆอีกสักนิดได้มั้ย บทที่ 3 5 Centimeters Per Second บทจบที่รักครั้งแรกยังคงฝังลึกฝังแน่น ...ตามด้วยเพลงที่บอกตามตรงว่าโหดมากนะ เพลงขึ้นปุ้บ เราร้องไห้แบบ...ไม่ไหวแล้ว 555 ฉากตัดไปตัดมาระหว่างอาการิ ทากากิ ซูมิดะ ชีวิตที่ดำเนินต่อไปแม้ว่าส่วนนึงในความทรงจำยังคงวนเวียนอยู่กับเรื่องเดิมๆ คือบางคนอาจจะไม่ชอบเพราะมันเหมือนเอมวี ซึ่งมันก็เหมือนอ่ะ แต่เราชอบค่ะ เราว่ามันทำให้อารมณ์หนังที่ปูมาทั้งหมดทะลักทลายออกมา เนื้อเพลงก็แบบ...สุดๆๆ คือเนื้อเพลงมันตรงจริงๆอ่ะ ทุกอย่างเลยมันใช่มันตรง จริงๆเป็นเพลงเก่าแล้วสมัยปี 1997 แน่ะ หลายๆคนชอบเทียบกันระหว่างมิยาซากิกับมาโกโตะ ชินไค บอกได้เลยว่าเราชอบทั้งคู่ แต่คนละแบบ งานของมิยาซากิอบอุ่นเหมือนพระอาทิตย์ตอนเช้า (ส่วนมาก ปักธงไว้ก่อนว่าเราไม่ชอบหิ่งห้อยค่ะ) งานของชินไค สวยงามมาก แต่เศร้าศร้อยและเหงามาก (อนึ่ง เพิ่งดูไปเรื่องเดียว 555) หนังเรื่องนี้ทำให้เราคิดถึงเทงโกะ กับ อาโอมาเมะ จาก 1Q84 ของ มุราคามิ เทงโกะกับอาโอมาเมะ ก็รักกันในความทรงจำแต่ไม่ได้บอกเช่นกัน ตอนที่จะมาเจอกัน ยังมีคิดเลยว่า ระหว่างเจอกันไปเลยกับปล่อยให้เป็นความทรงจำที่สวยงาม อะไรจะดีกว่ากัน สำหรับเรา...ความรักนะ ไม่ว่ามันจะจบยังไง มันต้องมีส่วนที่สวยงาม มีส่วนที่มีความสุขเสมอ เราก็เก็บส่วนนั้นไว้ ที่เหลือทิ้งไปก็แล้วกัน dd - เช่นกันค่ะ ขนาดผ่านไปหลายปีแล้ว เวลาเราแนะนำให้เพื่อนดู เราก็ยังรู้สึกชอบมากๆอยู่
โดย: marina_rain วันที่: 2 กรกฎาคม 2559 เวลา:17:29:08 น.
|
marina_rain
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?] ติดต่อทางอีเมลได้ที่ wasineechann@gmail.com All Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
ชอบเรื่องนี้มาก