BlogGang.com : : คนดีผีคุ้ม : Day 5 : The Down Under Trip – 15 วันรอบเกาะใต้ New Zealand

Day 5 : The Down Under Trip – 15 วันรอบเกาะใต้ New Zealand

วันที่ 5 (Southern Scenic Route)
Dunedin-Balclutha-Kaka Point-Invercargill-Riverton-Tuatapere-
Manapouri-Te Anua

วันนี้จะเป็นวันที่เดินทางไกลที่สุดวันหนึ่ง ตามที่ Print แผนที่มาจาก
newzealand.com คนวาง itinerary เค้าให้เราเดินทาง 291 กิโลจาก Dunedin
ไป Te Anua โดยจะใช้เวลาขับทั้งสิ้นประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง แต่พอดูไปดูมา เอ๊..
มันเล่นเดินทางตัดประเทศไปสั้น ๆ ยังไงชอบกล ตรูจะไป Southern Scenic
Route มันต้องอ้อมกว่านั้นนี่หว่า เค้าว่ากันว่า (เค้านี่ คือหลาย ๆ เสียงที่เคยไป
เกาะใต้มาแล้ว) ถ้ามาทางใต้ขนาดนี้ แล้วไม่ได้ไปทาง Southern Scenic Route
แล้ว ถือว่าเสียของเป็นอันมาก เพราะเส้นทางการเดินทางนั้นสวยสุดใจ ทำให้เรา
เปลี่ยนแผนเล็กน้อย โดยไม่ Copy จาก itinerary ของ newzealand.com ทั้ง
หมด และตกลงว่าจะอ้อมกันไป ทำให้เวลาขับรถเพิ่มจากเดิม 2 ชั่วโมงครึ่ง เป็น 5
ชั่วโมง ซึ่งพอเราเดินทางแวะโน่นแวะนี่แล้ว มันกลายเป็นเวลาเดินทางทั้งสิ้น 9
ชั่วโมงทีเดียวเชียวอ่ะค่ะ

เราเริ่มออกเดินทางกันตั้งแต่ 7.30 โมง บ๊าย บาย Dunedin เมืองใหญ่ชวนหลง
ทาง เราแวะ Isite กันที่ Balclutha แวะเก็บรายละเอียดว่าเราควรจะต้องแวะกันที่
ไหนบ้าง แวะซื้อนมสตรอเบอรี่และพายแฮมไข่ชีสกินเป็นอาหารเช้า พอให้อุ่น
ท้องขึ้นมาหน่อยนึง (วันนี้อากาศดีมาก แดดออก ฟ้าใส อากาศอุ่นสบาย)

การเดินทางไปทาง Southern Scenic Route นั้นทางค่อนข้างจะเป็นถนนที่ลัด
เลาะออกมาจากถนนใหญ่ คือเหมือนกับไม่ใช่ทางหลัก ทำให้มีรถวิ่งน้อย
วิวระหว่างทางสวยยังกะวิ่งอยู่บนสวรรค์ ง่า...อิฉันก็เว่อร์นิดนึงนะคะ แต่ตอนที่ขับ
อยู่นี่มีความรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ โดยจะมีจุดให้แวะตลอดทาง ซึ่งต้องขับรถแยก
เข้าซอยเล็ก ๆ ขึ้นเขา ลงเขาไปแล้วแต่ที่ แต่เค้าก็จะบอกไว้ที่ป้ายนะคะ ว่า อ่าว
นั่น น้ำตกนี่ระยะทางกี่กิโล

ตามที่เจ้าหน้าที่ Isite บอกว่า ยูห้ามพลาด Nugget Point เชียวนะ วิวสวยมาก มี
ประภาคารด้วย ทำให้เรามุ่งหน้าหาป้าย Nugget Point กันใหญ่ ซึ่งระหว่างทางไป
ก็จะเป็นถนนเล็ก ๆ วน ๆ ขึ้นเขาลงเขาประมาณ 5 ลูก ถนนเล็ก ๆ เหมือนทางเข้า
ฟาร์มเข้าบ้านชาวบ้านเค้า บางช่วงขับสวนกันแทบจะไม่ได้ (จริง ๆ น่าจะสวนได้
แหล่ะ แต่เสียวหว่ะค่ะ มันสุดแสนจะชิดขอบเหวซะเหลือเกิน) ถนนงี้ลูกรังมาเลย
ถ้าใครคิดจะมาทางนี้ ทำประกันรถไว้เถอะค่ะ เพราะหินเล็ก ๆ เต็มไปหมด

จุดแรกเราแวะกันที่ Kaka Point สวยงามน่าประทับใจ

จากป้ายตรงไปอีกนิดก็จะเจอ Nugget Point แต่อิฉันเลี้ยวผิดทางค่ะมันดันมีทาง
แยกซึ่งตรงทางแยกดันไม่ได้บอกว่าทางไหนที่เป็นทางไป Nugget Point เลย
ตัดสินใจเลือกไปทางนึง ซึ่งมันผิด... T_T เลยอดอ่ะค่ะท่านผู้ชม คุณสามีอิฉัน
เคืองการทางนิวซีแลนด์มาก บอกว่ามันจะมีป้ายเพิ่มขึ้นมาซักอันจะเป็นไรไป เรา
ไม่ได้เลี้ยวกลับมาเนื่องจาก อย่างที่ว่า ถนนหนทางค่อนข้างเล็ก และเป็นลูกรัง ลัด
เลาะเฉี่ยวเหวอยู่หลายครั้ง พอเลยไปไกลแล้วทำให้ไม่อยากวกกลับไป เพราะ
วันนี้เรายังต้องเดินทางกันอีกไกล ฝากไว้ก่อนเถอะ Nugget Point คราวหน้าจะมา
ซ่อม...

เราแวะกันตลอดทาง อันนี้อ่าวอะไรก็ไม่ทราบค่ะ ขับรถจากถนนใหญ่ เข้าซอย
เล็ก ๆ ประมาณ 3 กิโล ระยะทางสั้นดี แต่ขอบอกค่ะ เป็น 3 กิโลที่ขับเลียบเหว ทั้ง
หวาดเสียวและสวยงามมาก ส่วนอ่าวที่ไป อ่าวเค้าคลื่นลูกใหญ่ประมาณน้อง ๆ
ซึนามิ มันมาทีทำเอาอิฉันใจหายอยู่ แต่สวยขาดใจ

ระหว่างทางเข้า ภูเขาขี้น ๆ ลง ๆ กันหลายรอบ วิวสวยงามเยี่ยงนี้

แวะน้ำตกอะไรซักอย่าง ง่า..ขอประทานโทษค่ะ ที่แวะมันเยอะไปหมด จำชื่อจุดที่
แวะไม่ค่อยได้เลย อันนี้เข้าซอยไปประมาณ 4 กิโล จอดรถและเดินเข้าป่าไป
เป็น track สั้น ๆ เดินประมาณ 10 นาที ผ่านป่าเฟิร์นเขียวสด เข้าไปเจอน้ำตก
เล็ก ๆ

ที่นี่ อิฉันดั๊นอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมา ตรงลานจอดรถ มีห้องน้ำ สร้างเป็นห้อง ดู
สะอาดเอี่ยมดี แต่พอเดินเข้าไปใกล้ ๆ เอ๊..ทำไมกลิ่นแรงจัง ห้องน้ำฝรั่งปกติไม่น่า
สกปรกนะ ยังนึกขำ ๆ ว่า ในป่านี่นา สงสัยจะเป็นส้วมหลุม เปิดประตู อ้าว..เป็นโถ
เหมือนชักโครกแฮะ ดูดีทีเดียว แต่กลิ่นแรงโค่ด ๆ มองดู ฮึ่ย..ไม่มีที่กดอ้ะ
ปรากฎว่าของเค้าเป้นส้วมหลุมแบบไฮเทคค่ะ เหมือนเอาถังสเตนเลสมาตั้งไว้แล้ว
เอาถุงดำสวม เอาที่นั่งชักโครกมาวางข้างบน และมิมีน้ำราดค่ะ สามารถจัดการ
ปฎิบัติการลงถุงดำเค้าได้เรยยย...แหวะ....... หลังจากนั้นเวลาอิฉันเห็นห้องน้ำที่
อยู่ตามป่าเขานี่ ขอบายค่ะ เข้าป่าไปเองซะยังดีกว่า....

จุดต่อมา เราแวะกันที่ Florence Hill LookOut สวยจนแทบลืมหายใจ.... ทั้งสีน้ำ
ทะเล ทั้งคลื่น....

แวะเรื่อย ๆ ระหว่างทาง จำไม่ได้ว่ามันคือที่ไหน...เป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ
ทางเป็นโค้งหักศอกแบบชัน ๆ

ที่นี่ อิฉันเหลือบไปเห็นล้อรถด้านหลังมันแบนนี่หว่า ฟีบไปเยอะเลยค่ะ แต่ยังพอมี
ลมเหลืออยู่ คุณสามีบอกไม่เป็นไรหรอกน่า...เอาวะ ไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไร ขับต่อ
มา...

ต้นไม้แถวนี้ค่ะ ตลกดี เห็นได้เลยว่าลมแรงอยู่ชั่วนาตาปี Bad hair Day

แวะ Te Waewae Bay เค้าว่ามีโลมา มีนกเคียอยู่แถวนี้เยอะนะ แต่ไม่เห็นเลยซัก
กะตัว

ระหว่างทางเราขับผ่าน (และหลง) ที่ Invercargill ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ ไม่น่าอยู่ มา
แวะพักรถที่ Riverton (ซึ่งเป็นจุดพักครึ่งทางของการเดินทางวันนี้) Riverton
เป็นเมืองเล็กน่ารัก มีอ่าวเล็ก ๆ เมืองดูชนบทดี

อันนี้ Riverton

ผ่าน Tuatapere เป็นเมืองเล็กจิ๋วที่กะพริบตา 2 ที ก็ขับผ่านเมืองไปซะแร้ว..
ขับรถไปเรื่อย ๆ ตามทางเริ่ม เห็นวิวภูเขาหิมะ ถนนเค้าไม่มีรถวิ่งเลย แอบเหงานิด
นึง ตามถนนมีสัตว์ โดนรถทับเป็นระยะ มีทั้ง นก พอสซั่ม เม่น ลูกแกะก็ยังมี แต่
ก็จะมีเหยี่ยวมาคอยจัดการไม่ให้เสียของ ซึ่งเหยี่ยวพวกนี้ ไม่กลัวรถเลย เราต้อง
คอยขับรถหลบมัน พวกพอสซั่มที่โดนรถทับนี้ มีเยอะมาก จนร้านขายของที่ระลึก
ถึงกับทำแม่เหล็กติดตู้เย็นเป็นตัวการ์ตูน “พอสซั่มแบนติดถนนที่เกาะใต้” ด้วย น่า
สงสารจัง

ผ่านเมือง Manapouri เป็นเมืองเล็ก ๆ ใกล้ทะเลสาบ น่ารักอย่างที่อิฉันชอบ แต่
เราใกล้ Te Anau เข้ามาทุกที และอิฉันซึ่งเป็นคนขับก็เริ่มเหนื่อยแล้ว เราจึงเร่งเพื่อให้ถึง Te Anau โดยไม่ได้แวะ Manapouri

ถึง Te Anau แล้ว เรารีบหาที่พัก โดยที่นี่ เราอยากได้ห้องที่อยู่สบายหน่อย เพราะ
เราจะอยู่กันถึง 2 คืน เราขับรถเลียบทะเลสาบ Te Anau เมืองนี้สวยจนบรรยาย
ไม่ถูก ทะเลสาบสะท้อนวิวภูเขาหิมะ รอบ ๆ ทะเลสาบเป็นที่พักที่ปลูกดอกไม้สีสัน
สดใสอยู่รอบ ๆ เราได้ที่พักที่ Lake Side Motel ได้ราคา 110 NZD เป็น
วิวทะเลสาบเลย ด้านหน้าห้องพักเป็นสนามหญ้า มีที่นั่งให้หน้าห้อง มีดอกทิวลิป
เดฟโฟดิลอยู่เป็นแปลงหน้าที่พัก

อันนี้ เป็นทางเดินระหว่างทางที่จะไปหาอะไรกินกันค่ะ เดินเลียบเลาะทะเลสาบไป
นิดเดียว ที่ Te Anau นี่ ให้บรรยายกาศว่าเป็นเมือง Tourist เลยมีร้านขายของที่
ระลึกอยู่หลายร้าน นักท่องเที่ยวมาพักที่นี่กันมาก เนื่องจากค่อนข้างใกล้ Milford
Sounds ถนนกลางเมืองเค้าคึกคักกว่าหลาย ๆ เมืองที่ผ่านมา และอิฉันได้ครีมทา
ผิวน้องแกะ ที่เค้าฮิต ๆ ซื้อเป็นของฝากจากร้านของที่ระลึกที่นี่ในราคาถูกกว่าที่
อื่น ๆ

มื้อเย็น อิฉันสั่งหอยแมงภู่อบกับ ginger และ chili ฟังดูดี๊ดี แต่จริง ๆ แล้ว มันคือ
หอยนึ่งราดน้ำจิ้มไก่แม่ประนอม แต่ก็อร่อยดีอ้ะค่ะ หอยตัวโต หวานสด กัดทีชุ่ม
ฉ่ำเต็มปาก มันมาทีเป็นกะลามังเลย ส่วนคุณสามีสั่งขาแกะ ก็คุยกันว่าร้านนี้มันดู
เหมือนอาหารฟิวชั่นนะ ดูร้านทันสมัย อาหารน่าจะมาแบบจานเล็ก ๆ ตกแต่งสวย
ๆ แต่พอขาแกะนี่มา ตกใจหว่ะค่ะ เหมือนมันมาทั้งตัว สั่งแค่ 2 ขา แต่พี่เล่นลืม
ตัดส่วนอื่นมันออกจากขาด้วย

เราเดินกลับที่พัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลเลย ประมาณ 10 นาทีก็ถึง แต่คืนนี้ ไฉนเลยมันถึง
หนาวได้ขนาดนี้ หนาวสุด ๆ เท่าที่จะเคยหนาวได้แล้วค่ะ ที่ Te Anau ต้นฤดูใบไม้
ผลินี่

Create Date : 10 ธันวาคม 2550

Last Update : 12 มิถุนายน 2554 17:31:00 น.

4 comments

Counter : 1524 Pageviews.