มาต่อกันอีกพิพิธภัณฑ์ที่ Ghost museum
อิฉันเป็นคนกลัวผีและเกลียดหนังพวกผีกระโดด ๆ เข้าหามากมาย ซึ่งที่นี่ดี๊ดีตรงที่ไม่มีไอ้ที่กระโดดแฮ่ๆ ใส่
Ghost museum เป็นตึกแถวแคบๆ 2- 3 ห้อง มี 3 ชั้น ตกแต่งหลอนดี มีผีทุกชาติทุกภาษา ผีไทยผีญี่ปุ่นผีอิยิปต์ผีฝรั่ง มีกระทั่งนางตานี ที่เค้าเพิ่งทำเสร็จไม่นานนี้คือโซนซอมบี้ ทุกห้องจะมีเสื้อผ้าวิกและพร็อพต่างๆ ให้ถ่ายเป็นผีไปด้วย แม้กระทั่งส้วมยังทำซะหลอน สนุกสนานดีฮ่ะ
สามารถเลือกได้ว่าอยากให้เจ้าหน้าที่เค้าเดินไปเป็นเพื่อนด้วยมั้ย เราก็เอาเล้ยย มาด้วยกัน จะได้เป็นตากล้องให้เราด้วย และถ้าผีหลอกจะได้ผลักเจ้าหน้าที่ให้ไปหาผีก่อน
เข้าไปก็มีมุมมืด ผีโผล่มาเป็นระยะๆ
ดูไม่ออกว่าตัวไหนเป็นผีเหรอ - " - คนคิดงี้อยากตายใช่ไหม
ผีฟารังคี
ชีวิตลั้ลลา ยิ้มร่ากับเพื่อนสาววว
ผีชุดแดง เค้าบอกว่าเป็นผีจีนที่มีความแค้นอยู่
เรื่องผีชุดแดงเนี่ย อิฉันมีความหลังสมัยยังเด็ก อิฉันอยู่บ้านพักข้าราชการตั้งแต่เกิดจนอายุ 11 ขวบ ก่อนที่จะย้ายมาอยู่บ้านที่สร้างขึ้นใหม่ บ้านพักข้าราชการหลังนั้นเป็นบ้านไม้เก่า ๆ หลังใหญ่เบ้อเร่อ มีห้องหับเยอะแยะมากมายแต่มีห้องนึงเป็นเป็นห้องนอนใหญ่ที่ตอนเด็ก ๆ อิฉันก็นอนกะคุณพ่อคุณแม่ล่ะ
อิฉันมักจะฝันถึงผู้หญิงในชุดแดงอย่างในรูปนี้เป๊ะเลย ผมดำยาวชุดแดงยาวยืนอยู่ตรงมุมห้อง ยืนเฉย ๆ ไม่ทำอะไร ไม่พูดไม่จา อิฉันไม่ได้รู้สึกกลัว ฝันอยู่อย่างงี้อยู่บ่อย ๆ แต่ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง
พอย้ายมาอยู่บ้านใหม่ จนโตพรวดพราด ผ่านวัยรุ่นมาจนเฒ่าชะแรปูนนี้ ก็มานั่งคุยทบทวนความหลังกันตามประสาป้า ๆ กับพี่สาว ปรากฎว่านางก็ฝันถึงผู้หญิงชุดแดงบ่อย ๆ เช่นกัน ยืนอยู่มุมเดียวกันเลย ทั้งที่คุณพี่สาวไม่ได้นอนห้องนั้นด้วยนะคะ
สงสัยว่าทำไมถึงมาให้เด็ก ๆ เห็น และต้องการอะไรน้อ
สมัยนั้น ไม่ได้คิดว่าจะมีผีชุดแดงอยู่ด้วยซ้ำ รุ่นอิฉันเด็ก ๆ ผียอดฮิตจะมีอะไรนอกจากกระสือ ผีปอบ ผีเปรต
ต่อมาผีจีน แบบกระโดดโปเย
เรื่องผีจีนแบบกระโดด ๆ เนี่ย อิฉันเคยสงสัยอยู่ ว่าทำไมต้องกระโดดวะ แล้วจะไปไล่ใครเค้าทัน ก็เคยได้อ่านบทความมาบ้าง เค้าว่าสมัยก่อนพอคนตายเค้าจำเป็นต้องขนคนตายกลับบ้านเกิดเพื่อทำพิธี ซึ่งบางทีก็อยู่ในเมืองอันห่างไกล ต้องเดินทางข้ามเมืองข้ามภูเขาไปหลายวัน โลงศพก็ไม่มี อาจจะแพงหรือขนยากหรืออะไรก็ไม่ทราบได้ วิธีการขนศพของสัปเหร่อก็คือเอาไม้ไผ่ 2 อันผูกกับแขนศพให้ยื่นไปด้านหน้าทั้งสองแขน ตัวคนตายก็จะห้อยและโดนขนไปในท่ายืนแต่แขนชูไปด้านหน้านี่แหละ แล้วสัปเหร่อซึ่งมีสองคนก็จะถือหัวท้ายปลายไม่ไผ่ เดินกันไปเป็นจังหวะ ซึ่งบางทีตายหลายศพ ก็จะผูกมัดกันเป็นแถวเรียงตามลำดับไหล่เลยทีเดียว ซึ่งการเดินทางในสมัยนั้น เค้าก็จะเดินทางกันตอนกลางคืน เพราะจะได้ไม่อุจาดสายตา และอากาศเย็นหน่อย คนสมัยนั้นเมื่อเห็นคนตายโดนหามแนวตั้งเดินเป็นจังหวะ ๆ คงคิดว่าเป็นผีกระโดด ๆ กันละมัง
โซนผีอิยิปต์ก็มี
ผีเรือโจรสลัด
เดินขึ้นบันไดไปเรื่อย ๆ ก็มีมุมเล็กมุมน้อยที่ผีโผล่ออกมา
โซนซอมบี้ เป็นโซนใหม่ ทำซะน่ากลัวเชียว
แต่อาเฮียดูน่ากลัวกว่าแฮะ
ฮีอินกับซอมบี้มาก ๆ ยืนถ่ายรูปเล่นกันอยู่ มีคนเดินตามเข้ามาถึงกับผวา
แม้แต่ส้วมยังหลอน
ถัดไปเป็นผีฝรั่ง มีพวกแดรกคูล่า มนุษย์หมาป่า
หน้าบานพอดีจานเลยยย
รูปที่แขวนบนผนังเปลี่ยนร่างได้ด้วย
อีรูปสุดท้าย นางโผเข้าหา อิฉันมือไม้สั่นตกกะใจจนรูปเบลอ
ห้องถัดไป โซนผีญี่ปุ่น
ผีญี่ปุ่นนี่ก็ฮา อิฉันชอบ เค้าเข้าใจจินตนาการนะฮะ อิฉันว่าของไทยเนี่ยผีกระสือผีกระหังนี่ฮาแล้ว ทำไมถึงพกมาแต่ไส้ แถมลอยได้ตุปัดตุเป๋ไปหาอึ๊กิน ถอดห้วถอดคอออกไปลอยตอนกลางคืน แถมมีไฟวิบวับอีก อีกระหังนี่สภาพยิ่งไปกันใหญ่ พกกระด้งเอาไว้บิน แถมรู้สึกจะมีหางเสือเป็นสากกระเบือด้วยรึไงนี่แหละ ช๊อบชอบ คนโบราณช่างจินตนาการดีมั่ก ๆ
กลับมาผีญี่ปุ่น ผีคอยาวเป็นอันแรกที่เจอ อันนี้คงเป็นแม่นาคเวอร์ชั่นญี่ปุ่น แม่นาคเราทำแขนยาวลงไปเก็บมะนาว แต่ผียุ่นคอยาวไปทำไมไม่รู้ แต่ดูแล้วน่าจะมีประโยชน์กว่าแขนยาวนะ อันนี้มองเห็นด้วย
ผีร่มอิฉันก็ชอบ ดูน่ารักไปไหนมาไหนก็กระโดดขาเดียว มีตาเดียวด้วย ดูน่ารักน่าสงสาร
ซาดาโกะก็มา
อันนี้หลอนนนน โดนถีบตกกระไดคอหักแน่ๆ
มนุษย์ยักษ์
ออกมาจนถึงทางออก ก็มีหม้อต้มแม่มดด้วย
สนุกสุดแสนกับสองพิพิธภัณฑ์ในปีนัง ไม่น่าเบื่อเลย อยากให้ไทยมีพวกอย่างงี้มั่ง
หลังจากกลับบ้านไปอาบน้ำนอนเลื้อยเย็น ๆ กัน พอมืดเราก็ออกไปหามื้อเย็นวันนี้ เสริชหาได้ร้าน Mews Cafe เค้ามี Live music ด้วย เรียก Uber พาเราไปที่ร้าน
เอ้อ..เรื่องการเดินทางในปีนังนี้ เราใช้บริการ Uber ตลอดทริป ดีงามรวดเร็วราคาถูกสะดวกสบายมากเลยค่ะ บางครั้งราคามันถูกมากซะจนเราคิดว่า คนที่มาขับนี่เค้าคงชอบขับรถเล่นเฉย ๆ เนอะ เพราะไม่น่าจะได้อะไรเลย
กลับมาที่ Mews Cafe ไม่ได้จองไว้ เกือบไม่มีที่นั่งแน่ะ
สั่งอะไรมาก็ไม่รู้ ถามพนักงานว่าแนะนำอะไรดี อยากกินอาหารมาเล นางแนะนำอันนี้ให้ ก็โอเค (มั้ง)นะ
ขนม สาคูกะทิบ้านเราหร่อยกว่า
นั่งข้าง ๆ นักร้องเลย
จบวันที่ Georgetown ไปอย่างแช่มชื่นสนุกสนานและอิ่มหนำ
วันรุ่งขึ้น เรากลับบ้านฮ่ะ
แอ๊คท่าถ่ายกะห้องพักสุดเกร๋อีกหน่อยย รีบถ่ายก่อนที่เฮนน่าจะลบไป อิอิ
มาแวะหากาแฟกินร้านข้างล่างก่อนเช็คเอาท์ ร้านที่อยากกินแม่มยังไม่เปิดจนจะเที่ยงแล้ว หลังยาวที่สุด แวะร้านอื่นก็ได้ฟระ
ได้พายเล็ก ๆ มารองท้องคนละอัน
เช็คเอ้าท์ฺไปถึงสนามบินก็หาของกินต่อ
ไม่อยากจะเชื่อ มาถึง Georgetown ปีนัง แต่อิฉันหานาสิเลอมักอาหารมาเลกินไม่ได้เลย จนมาได้โอกาสที่สนามบินก่อนกลับนี่แหละ
ดูส่วนผสมแล้ว มันอาหารประจำชาติจริง ๆ หรือนี่ ข้าวมัน กะหรี่ไก่ ปลากรอบ ถั่วลิสง ไข่ต้ม แตงกวา และข้าวเกรียบ
แต่ก็สั่ง
ร้านในสนามบินตกแต่งสวยงามน่านั่ง
และแล้วอาหารก็มา พิซซ่าหน้าตาน่ากินของอาเฮีย
และนาสิเลอมัก ของอิฉัน
อืมมมมมม.. มันให้ความรู้สึกเหมือนตอนเด็ก ๆ ที่พ่อแม่ไม่อยู่แล้วเกิดหิวข้าวขึ้นมา ก็ไปเปิดตู้กับข้าว คดข้าวเย็นแข็ง ๆ ใส่จาน เจอถุงถั่วปลากรอบเหลือ ๆ ก็จับโรย อ๊ะ..มีกะหรี่ไก่เมื่อคืนเหลือติดก้นถ้วยชิ้นนึงนี่ เสร็จตู และแกะห่อข้าวเกรียบกุ้งกินคู่กะข้าว
อินนี่คืออาหารประจำชาติจริง ๆ อ้ะ
ก็ดีใจนะที่ได้กิน แต่อิฉันเชื่อว่ามาเลต้องมีอาหารพื้นเมืองอร่อย ๆ ที่อิฉันไม่ได้กินแน่ ๆ เลย ไว้คราวหน้าละกันเนอะ
ต่อมาเปิดถุงช็อปจากปีนังนะคะ สมัยนี้ไม่ค่อยมีใครเค้าพุ่งไปช็อปปิ้งที่ปีนังกันหรอกเนอะ อิฉันก็เช่นกัน แลกตังค์ไปน้อยนิด ยังอุตส่าห์เหลือกลับมา
มาดูดีกว่าว่าได้อะไรกลับมามั่ง
อาหารขนมโดยรวม
อันนี้เป็นพวกผลไม้อบแห้ง ขายที่สนามบิน อิฉันรีบมาใช้เหรียญให้หมด กล่องละไม่กี่ตังค์ มีทุเรียนแห้ง มะม่วงแห้ง กล้วยแห้ง
มะม่วงอร่อยสุดเลย
กัมมี่คานาเฮเหนียวหนับเหมือนเคี้ยวยางรถยนต์ ซองน่ารักเท่านั้น ส่วนไอ้โมจิกล้วยนั่น รสชาติพิลึกพิลั่นเป็นอันมาก เหมือนมันไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นโมจิดีรึเป็นขนมเปี๊ยะดี แข็ง ๆ นิ่ม ๆ เหมือนโมจิหมดอายุ ขวด ๆ กระปุก ๆ นั่นซื้อจากสนามบินเช่นกัน ปุกละไม่กี่สิบบาท อันนี้ recommend นะฮะ อิฉันถอยมาแค่ปุกเดียว แต่อร่อยดีแท้ ส่วนกิมจ๊อตกกล่องละ 10-15 บาท เหมาะจะเป็นของฝาก
กาแฟทุเรียน ทั้งรสทั้งกลิ่นทุเรียนจริง ๆ ส่วนอีกอัน IPOH 3 in 1 ซองใหญ่ยักษ์มาก หอมดีอยู่นะคะ แต่แค่ผงมันก็ครึ่งถ้วยละ ใส่น้ำอีกนิดเดียวก็เต็มถ้วยพอดี ให้กินแบบน้ำขลุกขลิกสินะ
อันนี้เป็นพวกสมุด Magnet ของฝากราคาถูกจาก Jetty
และแล้วเราก็จบทริปปีนังอย่างหนุกหนานและร้อนโฮก ปีนังเปลี่ยนไปเยอะจากที่เคยรู้จักเมื่อ 20-30 ปีก่อน ตอนนี้มันช่างฮิปเท่ห์สนุกอร่อยผู้คนน่ารักค่าใช้จ่ายถูกแสนถูกน่าเที่ยวมากมายค่ะ