2016 New year in Japan: เดินหาของกินที่อาซากุสะและโตเกียวสกายทรี
วันนี้เริ่มต้นวันแรกเต็มๆ วันที่โตเกียว เนื่องจากมาคราวนี้เป็นทริปแบบหลังยาวมาก เราไม่มี plan อะไรใด ๆ ทั้งสิ้น แล้วแต่ว่าตื่นมาวันนั้นอยากจะทำอะไรอยากจะไปไหน ดังนั้น ทริปนี้จึงออกแนวมั่วตามใจฉันมาก
คิดถึงโตเกียวมาหลายปีละ วันแรกเลยนึกอยากไปไหนที่มันโตเกี๊ยวโตเกียว เราจึงตกลงกันว่าไปเดินหาขนมญี่ปุ่นกินกันแถวอาซากุสะแล้วกัน แถมแถวนั้นยังมีของใหม่ที่เราไม่เคยไปกันด้วย นั่นคือโตเกียวสกายทรี มาเมื่อครั้งที่แล้ว มันยังสร้างไม่เสร็จเลย
เมื่อวานแวะหยิบแผนที่รถไฟใต้ดิน มีหลาย ๆ ภาษาให้เลือกหยิบ มีภาษาไทยด้วยยย
จากอุเอโนะ นั่งรถไฟมาแป๊บเดียวก็ถึงอาซากุสะ
ป๊ะเข้าอย่างแรกคือเมลอนปัง มันมีมานานแล้วล่ะฮ่ะ ได้ยินชื่อเสียงมาน๊านนาน แต่ไม่เคยกิน อิฉันก็นึกว่ามันจะมีรสชาติหรือกลิ่นเมลอนอยู่ด้วย
แต่เปล่าเล้ยยย ชื่อเมลอนปังเพราะลายมันเหมือนเมลอนเท่านั้นเอง
เป็นขนมปังกะโหลกก้อนเท่าหน้า ข้างนอกกรอบ ๆ เบา ๆ แต่ข้างในเบากว่า เคี้ยวหนึบ ๆ
อร่อยมั้ย?? ก็อร่อยมั้ง อิฉันเฉย ๆ แต่อาเฮียชอบมากกกก
แหลกคนเดียวเกือบทั้งก้อน
เดินต่อมา
อ้อ..ลืมไป เมื่อกี้เดินในซอยด้านหลัง เพราะไปกันเช้าเกิ๊น ร้านยังเปิดไม่หมด เดินไปกินไป แล้วอ้อมมาเข้าด้านหน้า เจอประตูทางเข้าวัดเซนโซจิละ
คนเริ่มเยอะละ นากามิเสะโดริ แทบจะไม่ต้องอธิบายอะไรเกี่ยวกับถนนเส้นเล็ก ๆ นี้ คนไทยไปเดินกันซะยังกะสยามสแควร์
ถ้าไปญี่ปุ่นแล้วต้องการความช่วยเหลืออะไรจากคนไทย อิฉันคงมาเดินหาเอาแถว ๆ ถนนนากามิเสะ รึไม่ก็อุเอโนะล่ะค่ะ เอาลูกอมเขวี้ยงหัวคนข้างหน้า 10 ครั้ง ก็จะเจอคนไทยซัก 3 ครั้ง (และอาจเจอติงกลับมา 1 ครั้ง)
ตลอดทางเดิน (น่าจะเป็นกิโลอยู่) จะมีร้านค้าเรียงรายขายของกินอร่อย ๆ แบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่น ของฝากของที่ระลึกน่ารัก ๆ แบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่นน่าสนใจเต็มไปหมด
เจอร้านซาลาเปาทอดในตำนานละ มาคราวที่แล้วก็กิน อากาศเย็น ๆ กินเปาทอดร้อนๆ อร่อยสุดๆ
คนละก้อน อาเฮียกินไรไม่รู้ ของอิฉันเป็นชาเขียว
ข้างนอกแข็ง ๆ หน่อย
กัดเข้าไปจะนุ่ม ๆ หนึบ ๆ ร้อนหอม
คนขายบอกไม่ให้เดินกิน เข้าไปกินข้าง ๆ ร้านซะดี ๆ มีจัดโต๊ะไว้ให้ยืนกินข้าง ๆ ร้าน
มีป้ายบอก
ระหว่างเคี้ยวหนุบหนับ ๆ ก็เดินไปสอดส่องตุ๊กตาร้านข้าง ๆ
แมวเหมียวหน้าโหดดีแท้
ร้านนี้มีขายขนมด้วย และขนมเค้าแพคเกจจิ้งชนะเลิศ
ดูท่าทางแล้วไม่น่าจะอร่อยหรอก คงเป็นแป้งยัดไส้ถั่วแดง เซมเบ้ ข้าวเกรียมแห้ง ๆ เค็ม ๆ ทั้งนั้น แต่หีบห่อนี่สุดยอดจริง ๆ ขนมไทยทั้งสวยทั้งอร่อย ถ้าพยายามพัฒนาเรื่องหีบห่อให้ได้อย่างงี้มั่ง คงทำเป็นสินค้าส่งออกกันได้มหาศาล
ขนมในร้านแถว ๆ นั้น ก็ขายขนมพวกนี้เกือบทั้งหมด
เดินต่อมา เจอร้านขายเซมเบ้ แต่ไม่ชอบกินเลยไม่ได้แวะ
อาเฮียเจอสาวแจกของฟรี ก็ไปเดินชิมทันที
ถั่วตัดสีพาสเทลแข็งปั้ก ฟันปลอมพังสะบั้นกันได้ทีเดียว
เดินต่อเพื่อหาอะไรที่พอเหมาะกับสภาพฟันของพวกเรา
เจอละ ไอติมในเวเฟอร์
เป็นเยี่ยงนี้
อันนี้อิฉันว่างั้น ๆ แต่อาเฮียชอบมากกก
เกือบสุดปลายทาง เกือบหมดย่านของกินละ จะเจอโคมอีกอันตรงประตูทางเข้าวัด
บริเวณในวัด จุดธูป กวักควันเข้าหาตัวแล้วจะโชคดี
ข้าง ๆ วัดมีถังสาเกเรียงรายอย่างสวย
มีบ่อปลาคราฟ ที่น้ำใสแจ๋ว จนมองเห็นเหรียญที่คนโยนลงไปเพียบ คงเป็นบ่อน้ำไว้อธิษฐานอะไรละมั้ง
เก่ากะใหม่อยู่ด้วยกัน ข้างหลังเป็นโตเกียวสกายทรี
เดินดูวัดกันแป๊บนึง เนื่องจาก จุดประสงค์ของการมาวันนี้มิใช่วัด แต่มารับประทานเป็นเรื่องหลัก เรื่องวัดเป็นเรื่องรองค่ะ
อ้อมไปด้านข้าง ๆ มีตรอกซอกซอย และมีร้านนึงขายขนมหวานแบบญี่ปุ่น ที่นั่งของร้านต้องขึ้นบันไดไปชั้นสอง
เมนู
ที่นั่งเป็นแบบเตี้ย ๆ เหมือนนั่งยอง ๆ กะเก้าอี้ซักผ้า
จัดเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่นทั้งร้าน
ที่เด็ดครือพนักงานเสริฟชายหน้าตาประมาณ J-pop แต่แต่งตัวด้วยชุดญี่ปุ่นแบบโบราณ มานั่งคุกเข่ารับ Order อยู่ข้าง ๆ ได้อารมณ์แบบเมดคาเฟ่มากมาย
ปล. //กระซิบ// มิได้ถ่ายรูปมาฮ่ะ เดี๋ยวสามีตบ
ขนมเป็นอย่างงี้ ข้าง ๆ มีชาเขียวแบบโครตญี่ปุ่นข้นคลั่กและขมปิ๊ดปี๋ มันคนละสปีชี่กับชาเขียวคุณตันแน่นอน
อาเฮียก็สั่งอะไรคล้าย ๆ ของอิฉันนี่แหละค่ะ
แต่เฮียไม่ชอบ เฮียไม่อิ่ม
จึงต้องสั่งเมลอนปังขึ้นมาให้เฮียอีกก้อนนึง
เดินออกมาจากร้านขนม ก็เป็นเวลาบ่ายกว่า ๆ ละ นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้กินทั้งข้าวเช้าและข้าวเที่ยงกันเลย กินแต่ขนมของกินเล่นเนอะ
ดังนั้น เราจึงแวะร้านข้าวร้านนึง เพราะเห็นรูปที่แปะด้านหน้า น่าจะเป็นข้าวหน้าเนื้อ ก็ชี้กะคนขายว่าจะเอาไอ้เนี่ยที่อยู่ในรูป
นั่งรอ.. ต้องอร่อยแน่ ๆ
มาละ
นั่งมองหน้ากะอาเฮีย เคี้ยวหงุบ ๆ กัน ไม่มีใครพูดอะไร
เคี้ยวไปได้สองชิ้น อิฉันก็สงสัยเป็นกำลัง ว่าไอ้ที่กำลังเคี้ยวกันหงุบ ๆ เนี่ย มันคือชิ้นส่วนไหนของวัววะคะ หน้าตาชิ้นส่วนมันก็ไม่คุ้น รสชาติยิ่งไม่คุ้นใหญ่ พยายามคุ้ยหาชิ้นส่วนที่หน้าตาคุ้นเคย แต่มันไม่มี
มองอาเฮีย ซึ่งเลิกเคี้ยวละ เฮียคุ้ยกินผักด้านบน ๆ กับข้าวอีก 2 คำ แล้วก็วางตะเกียบ
ดูแล้วมันคงเป็นข้าวหน้าเครื่องในวัว แบบไม่ระบุอวัยวะ เพราะมีหลากหลายมากมายในชาม ไอ้อร่อยมั้ยอ่ะ ถ้าเป็นคนกินเป็นคงอร่อยนะคะ เพราะเห็นลูกค้าเค้าก็เข้ามาเรื่อย ๆ แต่เรากินไม่เป็น และไม่อยากเหลือทิ้งไว้ในชามแบบเต็มชาม เพราะเจ้าของร้านเค้าคงรู้สึกไม่ดี ก็เลยได้แต่เขี่ย ๆ และคีบชิ้นส่วนบางอย่างแอบใส่มาในทิชชู่ เพื่อเอาไปทิ้งที่อื่น
รีบจ่ายตังค์ รีบออกมา ก็เจอป้ายหน้าร้านมีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษด้วย มันคือไรก็ไม่รู้ อาเฮียพยายามอธิบายว่ามันคืออวัยวะตรงส่วนไหน แต่อิฉันไม่อยากรู้วววว
ร้านถัดไป มีป้ายขายเกาลัด ไม่ได้อยากกินเท่าไหร่หรอก แต่อยากได้รสชาติอะไรซักอย่างมากลบรสชาติข้าวราดอวัยวะชามนั้น
เกาลัดญี่ปุ่นเม็ดใหญ่ เนื้อหยาบ ๆ
ของไทยอร่อยกว่าเยอะ
เดินต่อมาจากโซนวัด มุ่งหน้ามาทางโตเกียวสกายทรี จะต้องข้ามสะพาน เพื่อข้ามแม่น้ำสุมิดะ
มีตึกอึที่มีชื่อเสียง ตึกของเบียร์อาซาฮีค่ะ
เอาไว้บนหัวอาเฮียพอดี
มุ่งหน้าไปยังโตเกียวสกายทรีโลด มันเป็นหอคอยส่งสัญญาณโทรทัศน์อะไรประมาณนั้น ที่ตอนนี้สูงสุด ๆ และมาเบียดโตเกียวทาวเวอร์ตกกระป๋องไป ซึ่งตามสไตล์นิปปงอ่ะนะ พอสร้างทาวเวอร์ขนาดยักษ์อย่างนี้ขึ้นมา พี่ก็จะไม่ปล่อยให้เป็นแค่ทาวเวอร์แน่ ๆ พี่จะสร้างมาสคอตประจำทาวเวอร์ไว้เพื่อเปิดร้านขายทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นมาสคอตนี้ และมีร้านค้าขายของกันอีกเป็นอาคารอย่างแน่นอน
ใกล้เข้าไปทุกที
ระหว่างทางจะมีสวนสาธารณะเล็ก ๆ ที่มีไม้ลื่นหน้าตาน่าสนใจเป็นอันมาก
อันใหญ่สูงและยาววววววว น่าเล่นมาก แต่วันนั้นอิฉันไปเห็นมีแต่พวกเด็ก ๆ มาเล่นกัน จะเข้าไปร่วมเล่นด้วยก็เดี๋ยวจะถูกถีบออกมา
มีดอกไม้ปลูกไว้สวย ๆ
มีกระจกที่เอาไว้ถ่ายกะโตเกียวสกายทรีด้วย ดูท่าแล้วคนที่ไปเจอแต่ละคนดูไม่ค่อยออกว่าต้องทำท่ากันยังไงทั้งนั้น อิฉันว่ามันต้องเป็นท่ากำลังวิ่งขึ้นทาวเวอร์แน่ ๆ แต่แอ๊คกันไม่ทันละ คนมารอต่อคิวถ่ายรูปกันเพียบ
มาจนถึง
ด้านล่างตึกจะเป็นช่องขายตั๋ว ที่จะเจอคิวชาวประชาผู้ต้องการขึ้นทาวเวอร์ คิวยาวเฟื้อยยยยย และมีหลายคิว ซึ่งเค้ามีการแบ่งแยกเป็นโซนธรรมดาซึ่งต้องรอกัน 1-2 ชั่วโมงเลยเชียว กับโซน Express ที่ต้องเพิ่มตังค์ แต่ก็จะได้เข้าอีกคิวนึงตามประสาคนมีตังค์
อาเฮียปกติจะเกลียดสถานที่ท่องเที่ยวอย่างงี้ อย่างที่สร้างไว้ล่อ Tourist และพยายามฉกตังค์จากกระเป๋าในทุก ๆ โอกาส ยิ่งพอบอกมีช่องทางด่วนที่ต้องเพิ่มตังค์ อาเฮียจะรู้สึกเหมือนโดนหลอกลวง อาเฮียจึงไม่อยากขึ้นไปเลย
แต่อิฉันอยาก
เราจึงได้ขึ้นไป.... แบบ Express ด้วย..
แต่ขึ้นไปไม่ถึงจุดสูงสุด เราขึ้นไปแค่ Tembo deck ส่วน Birthday สติกเกอร์น้องโซระคาระจัง ไม่รู้อาเฮียไปทำอีท่าไหนถึงปะเหลาะขอมาได้จากแม่นางที่เคาน์เตอร์
ถึงเป็นแบบ Express แต่คิวก็ไม่น้อยเลย ต้องรอคิวประมาณ 15 นาทีถึงได้ขึ้นลิฟท์
ลิฟท์เร็วมากกกกกกก ถ้าเปิดใสแบบลิฟท์แก้วนี่คงมีคนกรี๊ดกันบ้างล่ะ
ขึ้นมาข้างบนละ เจอมาสคอตของโตเกียวสกายทรี โซระคาระจัง
อาเฮียบอกใครแปะสติกเกอร์ นางจะมาถ่ายรูปด้วย
เห็นมีแต่เด็กเบบี๋ เข้าไม่ถึงเลย
มาดูวิวมุมสูงของโตเกียวกันค่ะ
มีอยู่มุมนึงที่เป็นพื้นกระจก ใสแหนว น่าหวาดเสียวเป็นอันมาก
ถ่ายเองและกล้องกะหลั่ว ๆ จะมองไม่ค่อยเห็น
แต่เค้ามีบริการถ่ายภาพให้นะคะ ซึ่งก็ตามสไตล์ เพิ่มตังค์ แล้วท่านจะได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้
เดินวนลงมาเรื่อย ๆ มีช็อปปิ้งมอล ขายของที่ระลึกและขายของอื่น ๆ มากมาย
อิฉันกะลังเลือกอีไข่ขี้เกียจ กุเดะทามะอย่างเมามัน
ชอบจริงๆ คนที่โตเกียว แต่งตัวกันแบบใครใคร่ชอบอะไรก็แต่งตามนั้น
ลงมาข้างล่างละ ถ่ายรูปกะโตเกียวสกายทรีและบริเวณรอบ ๆ
เดินย้อนกลับมาทางวัดเซนโซจิ เพราะตอนขามาดันเดินเลย หาสวนสาธารณะไม่เจอ เลยย้อนกลับไปเดินเล่นในสวนซักหน่อย
อากาศเย็น แวะกดถั่วแดงร้อนกระป๋องมากิน
หวานเจี๊ยบบบบบ...
เดินผ่านร้านค้าเยอะแยะ เนื่องจากเริ่มหลงทาง
ผ่านศาลเจ้าเล็ก ๆ เงียบ ๆ
เดินวนเวียนผ่านบ้านชาวบ้าน และได้ถามทางนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ก็มาจนถึงสวนละ
ใหญ่ดีเหมือนกัน
เดินกลับมาจนถึงแถว ๆ วัด ก็จะมีกองทัพรถลาก หนุ่ม ๆ คนลากหน้าตาน่าเอ็นดูมากมาย
บ่ายแก่ ๆ ก็นั่งรถไฟกลับมาเดินช็อปของกินเล่นที่สถานีอุเอโนะ ก่อนจะกลับมาพักผ่อนที่ห้อง
ที่สถานีมีซุปเปอร์มาร์เก็ตของกินเยอะดี
ได้สตรอเบอรี่และดังโงะหวาน ๆ มากินเล่น
แป้งหนึบ ๆ หยุ่น ๆ ปิ้งแล้วเคลือบด้วยน้ำเชื่อมหนาๆ หวาน ๆ เค็ม ๆ
ต่อมา ไอติมโมจิของฮาเก้นดาส
อันนี้ recommend มากๆๆๆๆๆๆ เค้าว่ามันออกมาเฉพาะช่วงหน้าหนาวเท่านั้น
เปิดมาเจอโรยผง ๆ ถั่วเหลืองรึไงเนี่ยแหละฮ่ะ อะไรก็ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าอร่อย
ตักลึกลงไปอีก จะเจอแป้งโมจินุ่ม ๆ หยุ่น ๆ ไม่แข็งปั้กเหมือนโมจิแช่แข็งบ้านเรา
อร่อยโคตร อร่อยค่ะ อร่อยมากๆๆๆๆๆ เว็ปพี่ม้าพาเที่ยวญี่ปุ่นบอกว่าถ้าไม่อร่อย ไปสอยฟันหน้าพี่ม้าได้เลย ใครกินแล้วไม่อร่อย ไปสอยฟันพี่ม้านะคะ ไม่ใช่ของอิฉัน
เริ่มมืดละ ออกมาเดินหาของกินมื้อดึก แถว ๆ ตลาดอะเมะโยโกะ
ได้เกี๊ยวซ่ากะข้าวผัด และข้าวราดอะไรก็ไม่รู้ ทีแรกนึกว่าแกงกะหรี่ แต่พอชิมแล้วมันไม่ใช่แน่ ๆ
วันแรกนี้ เป็นการทัวร์ตระเวนแหลกทั่วอาซากุสะกับอุเอโนะ จบลงที่อาเฮียต้องลุกขึ้นมาอ้วกแตกตอนกลางคืน เนื่องจากกินมั่วซั่วเยอะแยะไปหมด ฮ่วยยยย
บล็อกหน้าจะพาไปกิน เอ๊ย พาไปเที่ยวโยโกฮามาค่ะ
Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2559 |
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2559 14:13:04 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1508 Pageviews. |
|
|