2016 New year in Japan: Yokohama
วันนี้มีแผนการไปโยโกฮาม่าแบบไปเช้าเย็นกลับ
โยโกฮาม่าเป็นที่ ๆ สามารถออกไปเที่ยวเป็นแบบ One day trip ได้สบาย ๆ เพราะอยู่ใกล๊ใกล้ ไปมาสะดวก และมีอะไรมากมายให้ทำ คุณเพื่อนอิฉันคนนึง rate โยโกฮาม่าให้เป็นที่แวะไปกินข้าวเย็นจากโตเกียวด้วยซ้ำ แสดงให้เห็นว่ามันไปกลับง่ายสุด ๆ ขนาดไหน
เราตื่นกันสาย ๆ ตามประสาคนหลังยาว ฟูกที่นอนที่ญี่ปุ่นนี่แบบดูดวิญญาณมาก หนานุ่มนอนสบ๊ายยยยย แทบไม่อยากลุกเลยทีเดียว
เดินออกมาจากที่พัก อากาศเย็นเชียว ต้องกดกาแฟกระป๋องมาอุ่นมือ วันนี้ลอง UCC
ซื้อตั๋ว จากอุเอโนะไปโยโกฮาม่า ราคา 550 เยน เป็นรถไฟแบบธรรมดา
บนรถไฟขึ้นมาแบบหลวม ๆ การนั่งรถไฟฟ้าที่ญี่ปุ่น รึทางยุโรปเป็นอะไรที่บันเทิงสายตามาก อย่างตรง 11 นาฬิกามีออร่าแว๊บมาอย่างเจิดจ้า
เสียดายที่ไม่ค่อยชัด ไม่สามารถเล็งได้นานขนาดนั้น อาเฮียมันนั่งอยู่ข้าง ๆ
หรือเป้าหมายที่แต่งตัวกันแปลก ๆ แบบที่บ้านเราไม่มีก็มีให้เห็น ก็มีบนรถเป็นระยะๆ
ลงมาจากรถไฟ ก็มุ่งไป Tourist Information เลย เค้าให้แผนที่โบรชัวร์มาแบบละเอียด ซึ่งถ้าไปตามนั้นทั้งหมดน่าจะใช้เวลาเป็นอาทิตย์
ภาษาไทยก็มี
และเนื่องจากได้แบบภาษาไทยมาด้วย อีอาเฮียเลยขี้โกง ให้อิฉันเป็นคนนำทางตลอดเลย
เดินค่ะ จากสถานีเราออกเดินไปเรื่อย ๆ ข้ามสะพานลอย
สะพานลอยที่นี่น่าสนใจ มีออกแบบตรงกลางเป็นทางลาดสำหรับจักรยานด้วย ดี๊ดี ถ้าเล่นสเก็ตบอร์ดลงมาคงจะเร้าใจไม่น้อย
เดินดุ่ย ๆ มาไม่ไกล แค่ข้ามแม่น้ำมา ก็เจอตึก Yokohama Mitsui ซึ่งจะมีพิพิธภัณฑ์รถไฟจำลอง Hara อยู่
"พิพิธภัณฑ์รถไฟจำลอง" ฟังดูน่าเบื่อชิมิคะ ชื่อเหมือนจะมีแต่ผู้เข้าชมเป็นเด็กเนิร์ด ๆ นั่งส่องแต่รางรถไฟ
แต่ขอบอก มันเริ่ดมากกกกก
ก่อนขึ้นตึก ที่ชั้น 1 จะมีรางรถไฟเล็ก ๆ ที่มีรถไฟขนาดจิ๋ววิ่งอยู่ มีลุง ๆ ชาวญี่ปุ่นนั่งปรับนั่งจูนรถไฟหน้าตามุ่งมั่นเหมือนกำลังประกอบยานอวกาศ ซักพักก็พาเด็ก ๆ นั่งบนรถไฟได้ด้วย
พวกเราเดินโต๋เต๋กันแถวนั้นอยู่นาน จะเข้าดีไม่เข้าดี ชื่อมันดูน่าเบื่อนี่เนอะ พิพิธภัณฑ์รถไฟจำลอง แต่สุดท้ายก็เอาวะ ลองแวะดูซักแป๊บ
ค่าตั๋วเข้า 1000 เยนค่ะ
ข้างในมีหลายห้อง ห้องแรก ๆ จะเป็นประวัติ มีโมเดลรถไฟจำลองแบบโคตรละเอียด สวยงามมาก ๆ
ซึ่งก็แน่นอน มีโบรชัวร์ภาษาไทยด้วย
ห้องถัด ๆ มาจะมีรางและโมเดลแบบวิ่งได้ด้วย
คุณลุงที่คุมการวิ่งอยู่พูดภาษาอังกฤษได้ดี และกระตือรือล้นมากมาย การพูดการแนะนำแสดงถึงความใส่ใจและหลงใหลในรถไฟจำลองมากๆ
แกบอกรถไฟที่วิ่งเนี่ย 50-60 ปีเลยนะ มันเก่ามาก แต่ยังวิ่งได้เป็นอย่างดี
อีกห้องนึง อันนี้สุดยอดมากกก
เป็นเมืองเลยฮ่ะ เค้าสร้างเป็นเมือง มีภูเขา มีบ้านเมือง มีรถไฟ ทั้งหมดเป็นโมเดลเล็ก ๆ สร้างอย่างละเอียด เห็นคนเห็นบ้าน เห็นเฟอร์นิเจอร์ขนาดจิ๋ว
มันเหมือนกับบางตอนของโดราเอมอนเลย ที่มีคนมานั่งสร้างเมืองเล็ก ๆ เพิ่งเคยเห็นของจริงก็คราวนี้
มุมนึงมีจอทีวีพูดถึง Mr. Hara เจ้าของโมเดลพวกนี้
จะมีทำเป็นช่วงเวลาด้วย กลางวันกลางคืนเมื่อเวลาผ่านไป
ทั้งอิฉันและอาเฮียประทับใจมากกกกกกก ทำได้สุดยอดจริงๆ ค่ะ
ออกมาจากพิพิธภัณฑ์แบบอิ่มเอม แต่หิวโหย เราจึงหยุดที่ร้านทีใต้ตึกนั่นแหละ
ชามใหญ่มากกก
เดินออกมาจากตึก เจอฝาท่อสวย ๆ
เดินต่อมา เป้าหมายต่อไปคืออันปังแมนมิวเซียม ถึงไอ้สะพานลอยงง ๆ นี่ก็ใกล้ถึงละ
ตึกแถวนั้นมีทางหนีไฟน่าสนใจ เป็นแบบนั่งลื่น ๆ ลงมา
เจอละอันปังแมนมิวเซียม
ท่านจะไม่หลง แค่เดินตามเด็ก ๆ แถวนั้นไป เด็กมุ่งหน้าไปทางไหน ก็เดินตามไปทางนั้นแหละ
มีร้านค้า มีอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะมากมาย และมีเด็กจำนวนมหาศาาลลลลลล พวกเราจึงรีบเผ่นออกมาอย่างไว
เดินต่อมาอีกหน่อย เราจะมุ่งหน้าไปหาชิงช้าสวรรค์
เจอตึกที่เป็น Landmark หนึ่งของที่นี่ ตึกนี้รู้สึกจะมีให้ขึ้นไปชมวิวได้ด้วย
ก่อนถึงชิงช้าสวรรค์จะมีเรือนิปปอนมารุ ลอยน้ำอยู่อย่างเด่นเป็นสง่า เรือนิปปอนมารุนี่เค้าเอาไว้ฝึกทหารช่วงสงครามโลก เป็นเรือขนาดใหญ่อย่างเท่ห์ของพี่ยุ่นเค้าล่ะ
เราจะมุ่งหน้าไปต่อตรงนู้นนนนน
ชิงช้าสวรรค์ใหญ่บ้ะเร่อออออ
รอบข้างมีผองเพื่อน รถไฟเหาะน่าหวาดเสียวอยู่หลายราง
ระหว่างทางที่เดินขึ้น ก็เสียตังค์ตามรายทางไปเรื่อย ตุ๊กตาของล่อใจเค้าน่ารักจริงๆ เลย
800 เยน ขึ้นชิงช้า
ก่อนขึ้นมาป้ายห้ามโน่นนี่นั่นเยอะอยู่ ห้ามแอ๊คท่าถ่ายรูป ห้ามกินยา ห้ามร้องคาราโอเกะ ห้ามหมายิ้ม และห้ามเอาน่องไก่ขึ้นไปกิน ใช่มั้ยน้ออ
กระเช้านึงน่าจะนั่งได้ 4-6 คน แต่เราไป 2 คน เค้าก็ไม่ได้ให้นั่งรวมกะใคร
ระหว่างทางลงก็จะเป็นอาคารดูดสตังค์ จะมีตู้หนีบตุ๊กตาน่ารัก ๆ เต็มไปหมด
แล้วก็เริ่มหิว แวะหาของกินก่อน ในศูนย์อาหารใน Cosmo world นั่นแหละ
ฟ้าเริ่มมืด เราเดินข้ามถนนไปเดินต่อมา พิพิธภัณฑ์ Cup noodle เนื่องจาก มันเริ่มเย็นแล้ว ในส่วนที่เค้าให้ทำคัพนู้ดเดิ้ลกระป๋องส่วนตัวก็ปิดไปแล้ว จึงเข้าไปดูได้อย่างเดียว ดังนั้น ถ้าใครมีแผนการอยากผลิตมาม่ากระป๋องรสชาติของตัวเองกรุณาไปแต่ไก่โห่นะก๊ะ
น่าสนใจพอควร
เดินออกมาตอนมืดแล้วว
ไปแวะแถวตึกแดงที่เป็นโกดังเก่าไว้ค้าขาย สมัยที่ญี่ปุ่นเริ่มเปิดประเทศ น่าจะสมัยไทโช ตอนนี้กลายมาเป็นร้านค้าซะแล้ว
เดินต่อไปอีกไกลทีเดียว เพื่อไป China town หลงแล้วหลงอีก
จนเจอจนได้
คริ คริ อีกซักรูป
China town Yokohama ออกจะต่างไปจาก China Town ในความคิดของอิฉันกะอาเฮียพอสมควรเลย เรามักจะคิดไปถึงอารมณ์แบบเยาวราช ร้านอาหารร้านขายของขายเต็มข้างทาง ของราคาถูก ๆ คนจีนบ๊งเบ๊งเสียงดัง ๆ
แต่ของที่นี่จะออกแนวจีนแพง ๆ จีนไฮโซยังไงชอบกล ซาลาเปาข้างทางลูกละ 100 บาท หมูสับน้อยกว่าซาลาเปาวราภรณ์อีก อาหารตามร้านก็แพงมากๆ แพงกว่าอาหารตามร้านญี่ปุ่นเยอะเลย ซึ่งแปลกว่าประเทศอื่น ๆ อย่างในยุโรป อังกฤษ หรือทางนิวซีแลนด์ ที่มองว่าอาหารจีนเป็นอาหารราคาถูก
แต่มาเดินมันก็ได้บรรยากาศจีน ๆ อ่ะนะ
ของที่ระลึกก็จะมีแต่รูปแพนด้า
มีวัดจีนสวย ๆ ด้วย
เดินผ่านน้องหมาเฝ้าร้าน
Create Date : 05 มีนาคม 2559 |
Last Update : 5 มีนาคม 2559 20:37:42 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1581 Pageviews. |
|
|