BlogGang.com : : คนดีผีคุ้ม : 2010 New year in Tokyo # Day 6 - Shibuya, Jiyugaoka, Tokyo tower, Asakusa on new year's eve

2010 New year in Tokyo # Day 6 - Shibuya, Jiyugaoka, Tokyo tower, Asakusa on new year's eve

วันนี้เป็นวันสิ้นปี 2009 ค่ะ

ก่อนมา เราพยามหาข้อมูลอยู่ว่าจะไป count down ที่ไหนกันดี
ได้ข้อมูลจาก google มาว่าสถานที่สุดฮิตคือที่ ใกล้ ๆ Tokyo Tower เค้าจะมีปล่อยลูกโป่งกันน่าตื่นตาตื่นใจ แต่ก็ยังลังเลอยู่ว่า บางคนก็บอกว่าที่ Odaiba ก็โรแมนติคดี เพราะอยู่ริมน้ำ ไม่เป็นไร เด๋วค่อยตัดสินใจละกัน

ช่วงเช้า เราตื่นกันสายมากกกก 10 โมงครึ่งแน่ะ อิฉันนอนพลิกไปพลิกมา ก็ว่าทำไมคืนนี้มันยาวจัง ไม่สว่างซะที ปรากฎว่าวันนี้ช่วงเช้าไม่ค่อยมีแสงอ้ะ

เมื่อรู้ตัวว่าสายโด่งซะแล้ว เราก็รีบอาบน้ำแต่งตัวออกลุยกันเลย ช่วงเช้า เราจะไปโซนฝั่งขะนู้น Shibuya ค่ะ

มาสถานี JR ที่ Ueno ลืมถ่ายรูปกะแพนด้ายักษ์ตรง Panda Bridge ทุกที วันนี้เอาซะหน่อย

วันสิ้นปี คนหายไปไหนหมด บนรถไฟโล่งไปเลย กองทัพ Salaryman ชุดดำที่มักจะเจอช่วงเช้า ๆ วันนี้หายหมดเลย

เราไปลงที่ Shibuya ออกไปหา hachiko กัน

Hachiko น้องหมายอดกตัญญู ถึงเจ้านายจะตายไปแล้ว แต่มันก็นั่งรอเจ้านายกลับจากทำงานมาตลอด 10 ปี ซึ่งมนุษย์ก็ช่างกระไร เห็นมันรอมานานขนาดนี้ยังไม่พอ สร้างรูปปั้นให้ hachiko รอคอยเจ้านายต่อไปอีกตลอดกาล

ไหน ๆ ก็มาถึงนี่ละ ไปรอเป็นเพื่อน Hachiko ซะหน่อยละกัน

5 แยกชิบุยะที่มีชื่อเสียง ว่าโคตรจะวุ่นวายยุ่งเหยิง ไปวันสิ้นปี คนน้อยกว่าที่คิดค่ะ ข้างหลังนั่นเป็น Starbucks ที่โด่งดัง เป็นฉากในหนังเรื่อง Lost in Translation ด้วย

เดินตามชาวบ้านเค้าไปเรื่อย ๆ เจอตึก 109 Shibuya ที่เป็นที่หมายปองของสาว ๆ ช่างแต่งตัว แต่เนื่องจากสินค้าในตึกนั้น Target customer เค้าคงอายุน้อยกว่าอิฉันประมาณ 20 ปี สินค้าในตึกจึงไม่ค่อยถูกรสนิยมอิฉันซักเท่าไหร่ สามารถออกมาโดยไม่เสียทรัพย์ซักแดงเดียวค่ะ

แต่เลยไปนิดมี H&M ร้านโปรด ข้าวของลดราคากระหน่ำมาก อิฉันได้กิ๊บติดผมมาหลายอัน ราคาถูกแสนถูก

หลุดจากร้านขายของ เราก็เริ่มหิว... เมื่อป๊ะเข้ากับ Krispy Kreme ก็เลยเข้าไปหาอะไรเล็กน้อยกระแทกปากกัน

วันที่ไป ถ้าซื้อเป็นชุด โดนัทกะกาแฟ จะได้รับโดนัท original ฟรี 1 อัน ซึ่งอิฉันว่าไอ้เจ้า Original เนี่ยแหล่ะ อร่อยที่สุด

ยังคงไม่สะใจ เราแวะกันที่ร้านอาหารอินเดียกันต่อ อาหารอินเดียนี่เป็นอาหารโปรดของอาเฮีย กินญี่ปุ่นมาหลายมื้อแล้ว มื้อนี้ตามใจอาเฮียเค้าหน่อยดีกว่า เค้าติดป้ายไว้หน้าร้านว่า ข้าวกับนาน (แผ่นโรตี)นี่เติมได้ค่ะ กินเท่าไหร่ก็ได้

นี่แกงกะหรี่กับข้าว 1 ทุ่งของอิฉัน จำไม่ได้ว่าสั่งอะไร น่าจะเป็น Chicken Masala อิฉันสั่งเป็นอยู่ไม่กี่อย่างหรอกค่ะ

แกงกะหรี่นั่นไม่ได้จานเล็กหรอกนะคะ แต่ข้าวมันจาน "โคตร" ใหญ่ เมื่อเปรียบเทียบกันเลยดู Scale แปลก ๆ ไปชอบกล ข้าวที่กินนี่เป็นข้าวญี่ปุ่นค่ะ เมื่อกินกับแกงกะหรี่แบบอินเดีย รู้สึกแปลก ๆ ข้าวญี่ปุ่นจะเม็ดเล็ก ๆป้อม ๆ เคี้ยวหนึบ ๆ แต่ถ้าข้าวแขกมันจะเม็ดย๊าว ยาว แห้ง ๆ ยาวกว่าข้าวหอมมะลิของไทยซะอีก แต่ไม่ว่าจะข้าวอะไรก็อร่อยทั้งน้านนน..

มาดู "นาน" ของอาเฮียดีกว่า ตอนเค้ามาเสริ์ฟ อาเฮียถึงกับตาเหลือกกับขนาดของมัน - Size does matter ค่ะ

แต่อย่าคิดว่าไม่หมดนะนั่น เกลี้ยงไม่เหลือหลอ...

วันนี้ ร้านค้าปิดกันซะเยอะ อิฉันโลภมาก อยากเห็นเยอะ ๆ (วิญญาณผีชะโงกทัวร์เข้าสิง) อิฉันจึงเสนอว่าเราไปเดิน Daikanyama กับ Jiyugaoka กันดีกว่า จากที่อิฉันได้ข้อมูลมาจากหนังสือนำเที่ยวเก๋ ๆ 2 เล่ม เค้าว่าสองที่นี้ช่างน่าไป มีแต่คนกิ๊บเก๋ไปเดินเล่น มีร้านค้าสวยเริ่ดให้ดูมากมาย

เราจึงขึ้นรถไฟนั่งต่อไปอีกไม่กี่สถานีก็ถึง Daikanyama ปรากฎว่า ร้านค้าปิดกันซะมาก เราเดินวนอยู่พักนึง หาร้านไม่ค่อยเจอเลย เดินไปก็เจอแต่บ้านพักอาศัย อาเฮียผิดหวังมาก จึงขึ้นรถไฟต่อไป Jiyugaoka กัน
(อิฉันว่าเราต้องเดินกันผิดทางแหง ๆ มันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่ ๆ แต่เราหาไม่เจอเอง

)

ได้รูปร้านตกแต่งน่ารักมา 1 รูป

ที่นี่ Jiyugaoka.. มีร้านค้าเยอะกว่า Daikanyama ที่เราไปเห็น..

ย่านนี้น่ารักดีค่ะ เดินสบายชิว ๆ ถนนสวยน่าเดิน ได้น้ำหอม Fran Fran มา 1 อัน อิฉันช๊อบ ชอบ ของยี่ห้อนี้ ราคาไม่แพงเท่าไหร่ แต่ของเค้าน่ารักจัง

เดินไป เดินไป อากาศช่างหนาวเย็น เรา (หลง) แวะกินขนมกันที่ร้าน ๆ หนึ่ง (อ่านชื่อไม่ออกค่ะ) ในร้านหน้าตาไฮโซ บนโต๊ะมีป้ายแนะนำเชฟของเค้า ประมาณว่าเชฟมีชื่อเสียง ขนมตกแต่งมาอย่างหรู ช็อคโกแลตเค้กของอิฉันช่างเหมือนดาวเสาร์ มีดาวบริวารซะด้วยแฮะ และมีไอติมบรรจงปั้นมาอย่างมีสกุลรุนชาติ

อันนี้ของอาเฮีย Scone หน้าตาธรรมด๊า ธรรมดา สวนทางกะราคา

เดินผ่านร้านขนม แต่งสวย ๆ รับปีเสือ

เมื่อเริ่มมืด แต่ยังห่างไกลช่วง count down เราจึงตัดสินใจไปแวะ Ropponggi ซึ่งไม่ได้มีอยู่ใน Itinerary เลย อิฉันไร้ความรู้เรื่อง Ropponggi แม้แต่นิด เพราะไม่ได้คาดคิดว่าจะมา จึงเดินหลงกันอยู่พักใหญ่ในคืนที่หนาวววววววววววขนาดนี้

แมงมุมยักษ์ที่ Ropponggi

ติดไฟสวยงาม

แวะกินข้าวเย็นกันในสถานีรถใต้ดิน ร้านนี้ขาย Bento แต่มีที่ให้นั่งและมี Microwave ให้อุ่นกินได้ ตอนที่ไปเค้าคงกำลังจะปิดร้าน (เกือบ 3 ทุ่ม) จึงลดราคาซะถูก เลือกได้ไอ้นี่ อร่อยและถูกมาก

นั่งรถไฟต่อมาที่ Tokyo Tower เพื่อมานั่งรอ Count Down กัน

แต่แปลกใจที่ไม่มีบรรยากาศการเตรียมตัว Countdown กันเลย คนมาเที่ยว Tokyo Tower กันตามปกติ ต่อคิวขึ้นไปดูวิวกันตามเรื่อง เราสองคนงุงงงสงกะสัยมาก แถมคืนนี้ อากาศหนาวมากกกก เราจึงนึกถึงคนที่ Hotel บอกเอาไว้ว่าคนญี่ปุ่นเค้าไปฉลองปีใหม่ที่วัดกันตะหาก คิดสะระตะแล้ว เราจึงเปลี่ยนแผน ไปวัด Asakusa กันดีกว่า

4 ทุ่มกว่า หน้าวัด คนเริ่มมา แต่ไม่เยอะเท่าที่คิด

โคมแดงตอนกลางคืน รู้สึกว่าโดนปรับให้สั้นลงนี่นะ

ข้างในมีงานวัด ของขายก็จะซ้ำ ๆ กันซะเยอะ แต่น่าเดินค่ะ เท่าที่เห็นมีร้านขายปลาย่าง ย่างเป็นตัว ๆ เลยนะ ร้านขายโอเด้ง ร้านขายมันนึ่ง โป๊ะเนยลงไปเยอะ ๆ ราดหน้าด้วยข้าวโพด อู้ยย..

ร้านทาโกะยากิ ร้านขนมหวานที่เป็นผลไม้ราดด้วยตังเมใส ๆ กินกะโคนไอติม (อันนี้อร่อยดี)

อันนี้ รูปสุดท้าย สภาพสุดแย่ อิฉันไอมาหลายวันแล้ว แต่คืนนี้อากาศหนาวเป็นพิเศษเลยไอไม่หยุด ทรมานชะมัด อาเฮียทนไม่ไหวเลยไล่กลับโรงแรม รอมาทั้งวัน อด countdown เลยค่ะปีนี้

Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2553

Last Update : 12 มิถุนายน 2554 17:19:16 น.

2 comments

Counter : 2304 Pageviews.

I Love Tokyo ^^

โดย: fahtsuki

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:44:51 น.

Asakusa ได้อีกบรรยากาศ

โดย: จือ IP: 111.84.177.69 วันที่: 19 มกราคม 2554 เวลา:22:07:42 น.