ที่ไหน ซักแห่ง ใน....
ที่ไหน ซักแห่ง ใน....
๏ ที่ไหน ซักแห่ง ก่อนอุษา ที่ซึ่ง เจ้าวิฬาร์ หยุดโหยหอน ที่ซึ่ง ดารา เริ่มง่วงนอน ค่อยจากจร จากฟากฟ้า คราละดวง
๏ ที่ซึ่ง ยอดหญ้า ประดับน้ำค้าง ที่พรำพร่าง ดั่งน้ำตา จากแดนสรวง นางฟ้าคง ร่ำไห้ สั่นไหวทรวง เพราะยังห่วง ไม่อยากพราก จากดวงเดือน
๏ ที่ซึ่ง เงียบเหงา แสนเปล่าเปลี่ยว แม้มิได้ อยู่เดียว ก็คงเหมือน มองเขาหลับ ตาพริ้ม ยิ่งทิ่มเตือน ที่บิดเบือน อันสัมพันธ์ นั่นคือเรา
๏ ครั้งหนึ่ง เคยคุยกัน เป็นมั่นเหมาะ ห่วงใยกัน ก็จำเพาะ เวลาเหงา ชีวิตของ แต่ละคน ต้องด้นเอา อย่าล่วงเข้า ก้าวก่าย ในส่วนตัว
๏ อันว่า ความสัมพันธ์ กับความรัก ต้องถูกพราก เหินห่าง ดั่งหางหัว สุดประกอบ ก่อร่าง สร้างเป็นตัว ไม่เอามา พันพัว ให้เปลืองความ
๏ ในความมืด ใจหมองหม่น ดั่งคนเศร้า นั่งเงียบเหงา ปลายเตียง แต่ตีสาม ยินเสียง ลมหายใจ แม้นในยาม ที่ทอดถอน อ่อนตาม น้ำอารมณ์
๏ ที่ซึ่ง ห้องหับ จับตาจ้อง เฝ้าคอยมอง กริยา หาเหมาะสม พิศใบหน้า อิ่มสุข ไร้ทุกข์ตรม ดึงผ้าห่ม คลุมร่างเจ้า อย่างเบามือ
๏ ลุกจากเตียง เพียงแผ่วช้า แก้วตาฉัน จะรู้เท่า เห็นทัน บ้างไหมหรือ จะเข้าใจ หัวอก ว่านี่คือ ความรักที่ ถือกำเนิด เกิดฝ่ายเดียว
๏ กระซิบสั่ง ลาเจ้า อย่างเบาถ้อย แล้วรีบคล้อย หันหลังมา ไม่อยากเหลียว ปิดประตู ยืนพิง อย่างดายเดียว ความเปล่าเปลี่ยว กลั่นน้ำตา มาทันที
๏ ที่ซึ่ง ถนน หนทางสลัว แสงมัวมัว จากโคมเหนือ บาทวิถี สีจางจาง ส่องลางเลือน เหมือนไม่มี ตาอาจเห็น ลำเค็ญที่ ใจมืดชา
๏ ลมเย็นพัด โชยมา ธันวาฯนี้ เย็นน้อยกว่า ทุกปี ที่คุ้นหนา แต่กลับหนาว เหน็บในใจ กว่าทุกครา ฤดูหา ได้กำหนด จะโทษใคร
๏ ป้ายรถเมล์ เกือบตีห้า เช้าวันอาทิตย์ หลายคนคง นอนสนิท และหลับใหล ข้างข้างคง อิงแอบ แนบคู่ใจ ทั้งสุขกาย สุขใจ สุขนิทรา
๏ นั่งอยู่เพียง ลำพัง หลั่งความคิด ท้องฟ้ายัง มืดสนิท อยู่หรอกหนา ชำเลืองมอง รถเมล์วิ่ง ผ่านไปมา ก็หาใช่ ที่จะพา กลับบ้านเรา
๏ นั่งอยู่ นานเท่าไร ไม่อาจรู้ ท้องฟ้าดู สว่างตา เวลาเช้า เห็นแม่บ้าน ถือถุงผ้า ดูบางเบา คงไว้เอา ใส่ผักปลา มาทำครัว
๏ อากาศอุ่น ผิวกาย เริ่มคลายหนาว แดดอ่อนอ่อน ตอนเช้าเช้า ดับสลัว คราบน้ำตา ที่แฝงไว้ ก็เผยตัว ปรากฏทั่ว ทั้งสองแก้ม แจ่มแจ้งตา
๏ รถเมล์มา จอดเทียบ เข้าที่ป้าย น่าละอาย รีบปาดแก้ม และเช็ดหน้า หึ....ถึงอย่างไร ใครเขา จะนำพา ก็เพียงคน แปลกหน้า ไม่หาความ
๏ ก้าวเท้า ขึ้นรถ หนึ่งสองหก นั่งคอตก มองออกไป ใจก็ถาม ที่พบกัน เพื่อคลายเหงา หรือลุกลาม ช่วยไขความ ตามตอบ จะขอบใจ
๏ จะหงอยเหงา เพราะเขาอีก กี่มากหนอ จะต้องรอ กี่น้ำตา ที่รินไหล กี่วันคืน ที่ขืนขัด รักข้างใน กี่หัวใจ ที่ต้องเหงา เศร้าเพราะคุณ
. . . .
๏ ที่ไหน ซักแห่ง ยังไม่รู้ ที่ซึ่ง รอคุณอยู่ ให้มาหมุน เข็มเวลา เดินย้อนกลับ ก่อนพบคุณ ให้ช่วยหมุน โชคชะตา อย่าพบกัน
พ่อดอกมะดัน 18 กันยายน 2549 เย็นวันฝนพรำ โคราช
๏ ๏ ๏ ๏
นึกถึงความหลัง เมื่อไรก็มิอาจบอกได้ คงประมาณ Somewhere in Time หรือเปล่านะ ไม่รู้ว่าจะกล่าวว่ากระไรดี คงเข้าทำนอง
ความรักเหมือนโรคา - บันดาลตาให้มืดมน ไม่ยินและไม่ยล - อุปะสัคคะใด ๆ ความรักเหมือนโคถึก - กำลังคึกผิขังไว้ ก็โลดจากคอกไป - บ่ยอมอยู่ ณ ที่ขัง ถึงหากจะผูกไว้ - ก็ดึงไปด้วยกำลัง ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง - บ่หวลคิดถึงเจ็บกาย
( พระราชนิพนธ์ : มัทธนะพาธา ใน ร. 6 )
Create Date : 18 กันยายน 2549 |
|
4 comments |
Last Update : 18 กันยายน 2549 23:26:35 น. |
Counter : 1806 Pageviews. |
|
|
|
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ คุณดอกดัน