บันทึกการพิชิต มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ของ นร ป โท อังกฤษ วัย 26 ปี (Hodgkin Lymphoma)

<<
มกราคม 2557
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
5 มกราคม 2557
 

ตอนที่ 15 - มะเร็งไม่จบ ?



วันพิพากษา  (16 ธค 2556)

วันที่ทุกคนในบ้านรอคอย เตรียมเฮฮา เตรียมฉลองใหญ่  รู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นของ ป๊า น้องสาว และครอบครัว ในวันก่อนหน้านั้น ก่อนที่เราจะทำ PET SCAN เราเองก็แอบตื่นเต้นไปด้วย  มันเป็นวันที่พวกเรารอคอย ฉลองชัยชนะ หลังจากผ่านศึกมาด้วยกัน 8 เดือนเต็ม ทุกคนเตรียมปิดจ็อบก่อนหมอ ป๊าจองตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวออสเตรียให้เรา  เราเริ่มแพลนทริป จองโน่นนี่นั่น น้องสาวเริ่มสมัครงานใหม่หลังจากออกจากงานมาดูแลเราเต็มเวลา  เราเองก็เริ่มสมัครงานด้วย โดยมีรุ่นพี่ message ชักชวนไปทำงาน 2-3 คน มันเป็นวันที่ทุกคนรอคอย เพราะเป็นวันที่ป๊าจะยิ้มได้ซักที  เราเองก็เตรียมตัวนัดเพือนอาทิตย์หน้า เพื่อถ่ายรูป ฉลอง สังสรร ให้เข้ากับบรรยากาศปลายปี และอากาศก็ดีมากสุดๆกำลังเย็นสบายด้วย เอาเป็นว่า  วาดฝันไว้สวยหรูมี Wish List ว่าจะไปดูหนังเรื่องอะไรบ้าง   กินอะไรบ้าง เจอใครบ้าง ทำอะไรบ้าง เป็นหางว่าวยาวเลยทีเดียว

วันรับผล “วันแห่งความเป็นจริง “ (18 ธค 2556)

ต้องรอถึง 2 วัน กว่าจะได้ผล เพราะว่า ต้องใช้หมอถึง 2 คน  ในการตรวจยันกันอีกที หมอบอกว่า ถ้ามีผลที่เคยทำ CT SCAN ทั้งก่อนและระหว่างการรักษา ให้เอามาให้หมอด้วย เพื่อใช้ในการประเมิน ก็เลยต้องกลับไปเอาผลให้หมออีกรอบ แต่ไม่ได้เสียเวลารอเพิ่ม ก็ต้องสองวันเหมือนเดิม การรอ ครั้งนี้ เป็นการรอแบบ DeathAir อยากให้เวลาผ่านไปเร็วๆ ไม่อยากคิดในสิ่งที่มันยังไม่เกิด เพราะมันยังไม่เกิด และก็ไม่อยากดีใจจนเกินไป เพราะกลัวเสียใจภายหลัง เอาเป็นว่า เป็นช่วงที่รู้สึก ก้ำกึ่ง บอกไม่ถูกกันเลยทีเดียว ใช้ชีวิต สองวันนี้แบบหายใจไปวันๆจริงๆ ไม่อยากคิดอะไรแต่ก็อดกังวลไม่ได้ เอาเป็นว่า พยายามดูซีรี่ส์ทำอย่างอื่นให้เราไม่คิดมากกับเรื่องนี้ และ วันรับผลก็มาถึง หมอให้ผลสรุปมาเป็น 2 หน้า กระดาษ กับ CD 1 แผ่น แล้วก็กระดาษ A4 สี่สี เป็นรูปร่างกายเรา สามมิติ อีก 4 แผ่น ใจความสำคัญ ก็อยู่ที่ กระดาษสรุป 2 แผ่นนั้น พอได้มา ก็เปิดอ่านบนรถ ทันที ขอบอกเลยว่า ยากมาก เพราะศัพท์เทคนิค ศัพท์แพทย์เยอะมาก แต่เท่าที่อ่านได้บนรถ  คือรู้สึกเลยว่า ผลมันไม่ค่อยดี ยังมีก้อน เหลืออยู่ และเป็นแบบ hyper   อ่านแค่ถึงตรงนี้ น้ำตาก็ซึมไปเลย ป๊าก็ถามว่าเค้าว่าไง จี้ถามตลอดว่า ผลเป็นไง   เราเองก็ไม่รู้จะตอบยังไง บอกปัดไปแค่ว่า ผลมันอ่านยาก เดี๋ยวให้หมอคอนเฟิมอีกทีนึง ว่าแล้วก็ถ่ายรูปส่งผลให้เพื่อนที่เป็นหมอ สามคน ซึ่งแต่ละคนก็บอกตรงกันว่า ก้อนมันยังไม่ตายนะยังเหลืออยู่อีก 6.5*4.5 CM และมันยังHyperactive มีชีวิตอยู่ มีค่า SUV=7 Standard uptake value อยู่สูง พอควร คือ ค่าที่เซลมะร็งมันมีชีวิต ได้คำตอบแบบนี้ ก็จึ๊ดกันไปหมด ช็อคกว่าตอนแรกที่รู้ว่าเป็นมะเร็งอีก เพราะนั่นคือ มันไม่หาย และมันไม่จบง่ายๆ      ที่ผ่านมา หมอทุกคน เพื่อนทุกคนที่อยู่ในวงการแพทย์บอกว่า HodgkinLymphoma เป็นอะไรที่ ง่ายที่สุด ตอบสนองยาดีมาก   โอกาสหายขาดสูงสุดแล้ว  แถมเป็นแบบไม่ดุ เป็นโรคน่ารัก เป็นความโชคดีที่สุดในบรรดาโรคมะเร็ง       แล้วไง !!  จุดนี้ ทำไมฉันยังไม่หาย ไม่เข้าใจทั้งๆที่คนอื่นเป็นระยะสาม ระยะสี่ ให้ยาครบ 12 ครั้ง   ก็จบ กันหมดแต่ทำไมเราไม่จบ แล้วอีกเมื่อไหร่จะจบ

มันเป็น "บททดสอบของชีวิต"  แบบไหนกัน   เราสอบผ่านบทนี้ แต่ไม่มีใครบอกว่านี่ไม่ใช่สอบไฟนอล ไม่รุ้ด้วยซ้ำว่าเป็นกลางภาคหรือเปล่า หรือ เป็นการเก็บคะแนนชีวิตแบบไหน   คืนนั้นเป็นคืนที่ร้องไห้หนักที่สุดในชีวิต   นี่ถือว่าเป็นครั้งที่สอง ที่ร้องไห้ให้กับมะเร็ง (ครั้งแรกตอนเข้าห้อง ICU ที่ใจเสีย ว่าตัวเองไม่สามารถยกช้อนกินโจ๊กได้ )   ครั้งนี้ไม่ไหวแล้ว โทรไปหาเพื่อนสนิท เพื่อนไม่พูดอะไร นั่งฟังเราร้องไห้ตลอด ครึ่ง ชม โดยที่เราก็ไม่พูดอะไรออกมาซักคำเหมือนกัน แล้วเพื่อนก็พูดแค่ว่า “กรูเข้าใจเมิงนะ แต่เมิงร้องไห้แค่วันนี้วันเดียวนะ พรุ่งนี้ต้องหยุดร้อง และสู้ใหม่ กรูเข้าใจเมิงนะ ร้องออกมาให้หมด แล้วสู้กันใหม่ ทุกคนอยู่ข้างเมิงนะ” คืนนั้นจำได้ว่าร้องไห้จนหลับและเหนื่อยมาก พอตื่นมาตอนเช้าสะดุ้งตื่น เพราะน้องชายมาปลุก บอกว่าให้รีบอาบน้ำแต่งตัว ตอนนี้น้องสาวไปดักรอหมอที่ศิริราช แต่เช้ามืดแล้ว ให้เราตามไปทีหลัง

ตั้งรับ ปรับกลยุทธ์ใหม่ (19 ธค 2556)

หมดเวลาดราม่า เพราะทุกอย่างต้องรีบ แข่งกับเวลารีบอาบน้ำกินข้าว เตรียมเอกสารทั้งหมด เพื่อพุ่งตัวไปห้อง 200 ที่ รพ ศิริราช น้องสาวเตี๊ยมกับป๊าตั้งแต่เมื่อคืนว่าจะไปดักหมอ ตั้งแต่วันนี้ จริงเรามีนัดกับหมออีกวัน แต่ป๊าร้อนใจทนไม่ไหวน้องสาวไปหาหมอแบบไม่มีนัดคิวล่วงหน้า เป็นคิวแทรก ซึ่งวันนั้นคนไข้ 200 กว่าคน น้องต้องเดินไปเอา แฟ้มประวัติจากชั้น 6 ลงมาเอง แถมน้องบอกว่า ถ้าไม่มีนัดล่วงหน้า ต้องเป็นคิวแทรก น้องสาวก็รอแฟ้มประวัติจากห้องทะเบียน ไม่มีใครมาส่งแฟ้มซักที ปกติ เจ้าหน้าที่จัดแฟ้มปะวัติล่วงหน้าเป็นวัน น้องสาวนั่งรอเป็น ชั่วโมงแล้ว แฟ้มก็ยังไม่มา ดูทีท่าว่าไม่มีใครรับเรื่อง เลยโทรหาหมอ และโผล่หน้าไปเลยตรงๆที่ห้องทำงานหมอ  คุณหมอก็อึ้งๆนิดนึง เพราะเห็นน้องสาวเราทำท่าขึงขังแบบนี้ แสดงว่าต้องมีเรื่องแน่ๆ  หมอก็เลยรับรู้ให้พยาบาลดึงแฟ้มประวัติให้  น้องสาวไปเดินเรื่องตั้งแต่ 8 โมงเช้า พอเราไปถึงห้อง 200 ตอน 11 โมงบอกเลยว่า วุ่นวาย และแน่นมาก แต่ละคนที่ไป ส่วนใหญ่มาจาก ต่างจังหวัด ดูป่วยและเพลียกันมาก บางคน เป็นคนแก่ ถือไม้เท้ามาคนเดียว ไม่มีที่จะนั่ง  บางคนต้องนั่งรอที่พื้น และล้นไปจนถึง นอกห้องโถง แน่นเหมือนตอนหมอชิต ตอนปีใหม่แต่แน่นแบบนี้ทุกวัน บอกเลย เราเองก็ปลงๆเห็นสภาพแต่ละคน ก็ทุกข์ไม่น้อยหน้ากันเลยทีเดียว พอไปถึงก็ได้ คิวสุดท้าย กว่าพยาบาลจะเรียก ต้องเดินแฟ้มเอง อะไรเอง พยาบาลก็ดูดุๆ เหวี่ยงๆ ว่าทำไมยัยนี่มาเวลานี้ ไม่นัด แล้วจะมาขอเจอหมอให้ได้อีก พอเข้าไปถึง หมอ ส่ายหน้าและยิ้ม บอกว่า หนูดื้อจริงๆ สรุปคือ หมอบอกว่ามันยังไม่จบนะ  คือที่มันไม่จบเพราะต้นทุนที่มา ก้อนเรามันใหญ่ สิบ ซม ได้ แต่อ่านผลแล้ว คือมันตอบสนองต่อยา ไม่ใช่เคสดื้อยา แต่ก้อนมันยุบแค่ 61 %  ซึ่งไม่เป็นที่น่าพอใจ  ที่น่าพอใจคือ 75% ขึ้นไป (หมอวัดจากปริมาตรของก้อนเนื้อ) หมอบอกว่า ถ้าเป็นแต่ก่อน แค่ระยะ 1-2  จะให้ฉายแสงอย่างเดียว แต่หมอกันไว้ก่อน ถึงให้ยา ครบ 12 คร้ัง เพราะอาจลามไปส่วนอื่น อาจมีก้อนที่ไม่ถึง 1 ซม  ซึ่งเราไม่สามารถจะดูได้จากผลแล็ป  หมอบอกว่า Step ต่อไปคือการฉายแสงต่อ แต่คิวศิริราช ฝั่งเก่า คิวยาวหลายเดือนมากและนี่เราหยุดยามาเกือบ 2 เดือนแล้วหมอเลยไม่อยากให้รอ อยากให้ทำทันที เราเองก็เข้าใจ หมอว่าอย่างไรถ้าบอกว่ามีทางรักษา ก็เอาตามนั้นเลย แค่บอกมาว่า มันต้องไปทางไหน เราก็วิ่งสู้ต่อไปทางนั้นตราบใดที่มันมีทางไป เราก็ไม่ย่อท้อที่จะวิ่งไป แถมเวลาหันหลังกลับมาก็มีป๊ากับน้อง และเพื่อนๆ คอยเป็น กำลังเสริมอีก ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว ทั้งนั้นคุณหมอเองก็น่ารัก รีบโทรหารุ่นพี รุ่นน้องที่รู้จัก และเล่าเรื่องเคสเราว่าจะฝากเราให้ พอดี คุณหมอที่เชี่ยวชาญด้านฉายแสง ออก OPD อยู่ที่ รพ. ศิริราชปิยะมหาการุณย์ ก็เลยนัดฝากตัว เขียนใบส่งตัวให้อย่างดิบดี คุณหมอบอกว่า ปกติส่งไปฉายแสงอยู่ สองที่ คือ ที่ รพกรุงเทพ (วัฒนโอสถ) กับที่ศิริราชฝั่งใหม่ ในกรณีที่คนไข้พอมีสตางค์ และ เป็นเคสเร่งด่วน เพราะที่ศิริราช คนไข้เยอะมากก คิวรอเป็นเดือน ต้องแข่งกับเวลาจริงๆ ไม่งั้นก้อนกลับมาโตเท่าเดิม เท่ากับว่า ที่ผ่านมาเสียเปล่า

Tips

1.การอ่านผล PET SCAN ถึงแม้ จะอ่านยากมากแค่ไหน แต่ถ้าคนปกติอย่างเราอยากรู้ผลก่อนที่จะให้หมออ่านให้ ให้หาคำว่า Complete……. ในผลใบนั้น ถ้ามีคำว่า Complete ก็คือมีข่าวดีนะคะเตรียมตัวเฮ แต่ถ้าไม่มี คำว่า Complete เลย ก็ให้เตรียมตัว เตรียมใจวางแผนพูดและปฎิบัติกับคนไข้ดีๆนะคะ

2. PETSCAN ที่ รพ.ศิริราช ราคา 42,000 บาท รพ.จุฬาราคา 48,000 บาท สิทธิบัตรทอง ประกันสังคมใช้ไม่ได้คะ รพ กรุงเทพ 5 หมื่นกว่า ต้องดูโปรโมชั่นคู่กับบัตรเครดิตด้วยค่ะ  บางทีมันมีโปร




ติดตามเรื่องราวและ Tips สุขภาพดีๆได้ที่  

FB Page : เรื่องจริงกะเบลล์ Jingabell


https://www.facebook.com/cancerfreeforever/






Create Date : 05 มกราคม 2557
Last Update : 11 เมษายน 2559 12:24:52 น. 5 comments
Counter : 3871 Pageviews.  
 
 
 
 
เข้ามาเป็นกำลังใจให้คนเก่งหัวใจสู้ สู้ต่อไปนะคะ คุณอายุยังน้อย แถมมีกำลังใจที่ดีเยี่ยมจากคนรอบข้าง เชื่อว่าคุณจะไม่แพ้แน่นอนค่ะ

พี่รอติดตามบล็อคของคุณอยู่นะคะ
 
 

โดย: บุษกร IP: 171.6.108.212 วันที่: 5 มกราคม 2557 เวลา:16:17:30 น.  

 
 
 
ขอบคุณ คุณบุษกร นะคะ พอได้อ่าน คอมเม้นแล้ว มีกำลังในการอัพบล็อก ต่อๆไปเลยค่ะ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องดี หรือไม่ดี ก็จะพยายามถ่ายทอด เป็นข้อมูลบรรทัดฐาน ต่อไปค่ะ :)
 
 

โดย: labellalala วันที่: 5 มกราคม 2557 เวลา:18:29:19 น.  

 
 
 
อ่านตลอด แค่ไม่ได้เขียนตอบ ถ้าทำให้ใจดีขึ้น ก็สู้ๆนะคะ มีคนอ่านคุณอีกเยอะอยู่และให้กำลังใจอยู่เช่นกันค่ะ ^^V
 
 

โดย: rapaan IP: 223.207.58.72 วันที่: 5 มกราคม 2557 เวลา:18:59:21 น.  

 
 
 
สู้ๆนะคะ
 
 

โดย: หนึ่ง IP: 58.8.252.201 วันที่: 6 มกราคม 2557 เวลา:10:24:34 น.  

 
 
 
พี่อ่าน bloแk ของน้องแบบเงียบๆ และเอาใจช่วยอยู่ห่างๆ ตลอดนะคะ คุณพ่อพี่ก็เป็น CA Colon ระยะ 3 ค่ะ แต่ท่านเสียไป 4-5 ปีแล้ว
พี่ชอบที่น้องลงรายละเอียดการรักษาทั้งแผนปัจจุบันและยาจีนเอาไว้อย่างละเอียด เพื่อที่คนอื่นจะได้นำไปปรับใช้ได้ค่ะ พี่ว่า ด้วยพลังใจจากตัวน้องและครอบครัวของน้องที่อบอุ่นและเข้มแข็ง จะทำให้น้องก้าวผ่านช่วงที่ยากลำบากนี้ได้แน่นอนค่ะ ทุกอย่างอยู่ที่ใจนะคะ ถ้าน้องเข้มแข็ง มองโลกในแง่บวกตลอด ระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหาร น้องจะต้องผ่านมันไปได้อย่างแน่นอนค่ะ พี่ขอเป็นกำลังใจให้น้องนะคะ
 
 

โดย: พี่พร IP: 61.91.73.21 วันที่: 6 มกราคม 2557 เวลา:16:26:40 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

labellalala
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 138 คน [?]




สาวตัวเล็ก วัย 26 ปี ผู้ไม่เคยยอมแพ้กับโชคชะตา - ขอบคุณที่ติดตามอ่านประสบการณ์ผู้ป่วยตัวเล็กๆที่แชร์ เรื่องจริง เจ็บจิง กับ การต่อสู้ มะเร็งต่อมน้ำเหลืองคะ :) สามารถร่วมคอมเม้น ใต้ บล็อก เพื่อให้กำลังใจได้นะคะ ^___^ ติดตามการต่อสู้ ทิปสุขภาพต่างๆได้ที่ FB Page : เรื่องจริงกะเบลล์ Jingabell ค่ะ www.facebook.com/cancerfreeforever หรือ อีเมล์ติดต่อมาที่ Lymphomafighter@hotmail.com
New Comments
[Add labellalala's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com