|
ยี่โถปรากฏในวรรณกรรมเรื่อง อิเหนา พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2
ลำดวนดอกดกเต็มต้น รสสุคนธ์ปนมะลิผลิดอกโต ยี่เข่งเข็มสารภี ยี่โถ ดอกส้มโอกลิ่นกล้าน่าดม
ชื่อวิทยาศาสตร์ Nerium Indicum
ชื่อวงศ์ APOCYNACEAE
ชื่อสามัญ Sweet Oleander
ชื่ออื่นๆ ยี่โถ
ถิ่นกำเนิด แถบเมดิเตอร์เรเนียน
การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด, ปักชำกิ่ง, ตอนกิ่ง
ยี่โถที่รู้จักกันในชื่อ Nerium Indicum ก็คือต้นเดียวกันกับ Nerium Odorum และ Nerium Oleander แต่ปัจจุบันใช้ชื่อพฤกษศาสร์ของยี่โถชนิดนี้เพียงชื่อเดียวว่า Nerium Indicum เหมาะที่จะปลูกตามริมถนน เกาะกลางถนนและตามสวนหย่อม
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ยี่โถเป็นไม้พุ่มขนาดกลางสูงได้ถึง 20 ฟุต ใบเล็กแคบเรียวยาว เนื้อใบหนาและแข็ง ขนาดใบยาวประมาณ 4-8 นิ้ว ดอกออกเป็นช่อแน่นตามยอดมีสีต่างๆ กัน เช่น สีชมพู แดง ขาว ดอกมี 5 กลีบขนาดดอกกว้างประมาณ 1.5 นิ้ว ในช่อหนึ่งๆ อาจมีดอกได้ตั้งแต่ 20-50 ดอก ออกดอกได้ตลอดปี แต่จะออกมากช่วงฤดูแล้ง
การปลูกและดูแลรักษา
ยี่โถเป็นไม้ดอกไม้ประดับที่เจริญเติบโตง่ายและทนทานมาก สามารถขึ้นได้แม้กระทั่งในเขตอบอุ่นและในเขตทะเลทราย
รสสุคนธ์
ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tetracera loureiri Pierre
ชื่อพื้นเมืองอื่นเช่น เถาะปดใบเลื่อม (ประจวบคีรีขันธ์) บอระคน อรคนธ์ (ตรัง) ปดคาย ปดเลื่อน (สุราษฎร์ธานี) ปดน้ำมัน (ปัตตานี) ปะละ สะปัลละ (มลายู-นราธิวาส) มะตาดเครือ รสสุคนธ์ขาว สุคนธรส เสาวรส (กรุงเทพฯ) ย่านปด (นครศรีธรรมราช)
ลักษณะ: รสสุคนธ์เป็นพันธุ์ไม้เลื้อย มีเถาใหญ่เหนียวแข็งแรง ไม้เลื้อยพันไม้ได้สูง 5-10 เมตร
ใบ: กิ่งและใบสากคาย ขอบใบจัก เล็กน้อย
ดอก: ดอกมีกลีบสีขาว ดอกขนาดเล็กทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.8 ซม., มีเกสรตัวผู้เป็นพู่ฝอย คล้ายเส้นด้ายสีขาวละเอียดรอบดอก. ดอกบานวันเดียวแล้วโรย ออกดอกเป็นระยะตลอดปี. มีกลิ่นหอมแรงมากในเวลากลางวัน และหอมอ่อนๆ ในเวลากลางคืน
การดูแล: รสสุคนธ์เป็นไม้ขึ้นได้ทั้งกลางแจ้งและที่ร่ม หากปลูกในกระถางควรใช้ไม้ปักให้รสสุคนธ์เลื้อยได้ หรือปล่อยให้เลื้อยไต่รั้วก็ได้ การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด, ตอน
ประโยชน์: ปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ, ดอกของรสสุคนธ์เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งใช้เป็นส่วนผสมในยาหอมแก้ลมและบำรุงหัวใจ
รสสุคนธ์ปรากฏในวรรณกรรมเรื่อง เงาะป่า พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 5 และ เพลงอุทยานดอกไม้
ข้อความจากเงาะป่า มะลิวันพันกอพฤกษาดาด เหมือนผ้าลาดขาวละออหนอน้องเอ๋ย รสสุคนธ์ขึ้นเป็นดงอย่าหลงเลย กำลังเผยกลีบเกสรสลอนชู
เล็บมือนางกางกลีบกะทัดรัด เหมือนมือเจ้าปรนนิบัติพัดวีผัว บานเย็นบานสะพรั่งฝั่งสระบัว เหมือนเย็นเช้าเย้ายั่วอยู่กับน้อง (ขุนช้างขุนแผน - สุนทรภู่)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Quisqualis indica Linn.
วงศ์ Combreta Ceae
ชื่อท้องถิ่น จะมัง จ๊ามั่ง มะจีมั่ง (ภาคเหนือ ไท้หม่อง (กระเหรี่ยง - แม่ฮ่องสอน)
ลักษณะของพืช
เล็บมือนางเป็นพืชไม้เลื้อย เถาแก่เป็นไม้เนื้อแข็ง ใบรูปวีหรือรูปไข่ ปลายแหลม โคนใบมน ดอกเป็นช่อสีขาว แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นสีขมพู มีกลิ่นหอม ผลสีน้ำตาลแดงเป็นมัน มี 5 พู การปลูก ใช้รากหรือเหง้า ที่ต้นอ่อนเกิดขึ้น แยกเอามาชำในที่ชุ่มชื้น เป็นพืชที่ชอบดินร่วนปนทรายและมีความอุดมสมบูรณ์พอควร แสงแดดปานกลาง ปลูกได้ทุกฤดูกาล
สายหยุดหยุดกลิ่นฟุ้ง ยามสาย สายบ่หยุดเสน่ห์หาย ห่างเศร้า (ลิลิตตะเลงพ่าย - กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส
ชื่อวิทยาศาสร์ Desmos chinensis Lour.
ตระกูล ANNONACEAE
ชื่อสามัญ Desmos
สายหยุดเป็นไม้เถาเลื้อยกึ่งไม้ยืนต้น มีเถาใหญ่แข็งแรงสามารถเกาะเลื้อยพันต้นไม้ หรือกิ่งอื่น ๆ ไปได้ไกล และมักจะแตกกิ่งก้านสาขามากในบริเวณยอด และจะแผ่กิ่งก้านสาขาออกไปเป็นบริเวณกว้าง กิ่งอ่อนจะมีสีน้ำตาลและมีขนอ่อน ๆ ขึ้นปกคลุมโดยทั่วไป ส่วนกิ่งแก่นั้นจะมีสีดำเป็นมัน ไม่มีขน
ใบจะออกสลับกันตามข้อต้น ใบจะเป็นใบเดี่ยว รูปขอบขนานแกมรูปหอก ปลายใบแหลมเป็ฯติ่งสั้น โคนใบมนหรือเว้าเล็กน้อย ใบด้านบนเรียบ ส่วนด้านล่างจะมีขน ขอบใบเรียบ ไม่มีจัก ใบสีเขียวเข้ม
สายหยุดจะออกดอกเป็นดอกเดี่ยว ออกแบบตามขอต้นโคนก้านใบ และที่ตาซึ่งติดกับลำต้นลักษณะของดอกเมื่อยังตูมอยู่จะเป็นสีเขียว และเมื่อบานจึงจะเป็นสีเหลือง ดอกจะห้อยลง ดอกมีขนาดเล็ก มีกลีบดอก 5-6 กลีบ แบ่งเป็ฯ 2 ชั้น ๆ ละ 3 กลีบ และมีกลีบเลี้ยง 3 กลีบ กลีบดอกจะบิดงอเช่นเดียวกันกับดอกกระดังงาไทย มีทั้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียจำนวนมากอยู่ภายในดอก ดอกจะมีกลิ่นหอมจัดในตอนเช้าตรู่ พอสายกลิ่นก็จะค่อย ๆ ลดความหอมลง และจะหมดกลิ่นหอมลงเมื่อใกล้เวลาเที่ยงวัน
ทั้งสายหยุดพุดแซมแกมยี่สุ่น พิกันพิกุลโรยร่วงพวงเกสร เสาวรสรสสุคนธ์ปนขจร ต้นรักซ้อนซ่อนกลิ่นระรินโรย (อิเหนา - พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 )
ชื่อวิทยาศาสร์ Passiflora Laurifolia Linn.
ตระกูล PASSIFLORACEAE
ชื่อสามัญ Passiflora, Water Lemon.
เสาวรสเป็นไม้เถาเลื้อยขนาดกลาง เถามีสีเขียวเข้มและเมื่อแก่เถาจะเป็นสีน้ำตาลมีมือเกาะออกตามซอกใบ เป็นไม้ใบเดี่ยว ใบออกสลับกัน ใบดก ใบสีเขียวเป็นมัน เป็นรูปขอบชนาด ปลายใบและโคนใบแหลม ก้านใบค่อนข้างยาก และตรงปลายก้านใบมีต่อมอยู่ 1 คู่
เป็นไม้ดอกที่มีขนาดใหญ่ เป็นดอกเดี่ยว ลักษณะดอกจะห้อยคว่ำลงคล้ายโคมไฟ ดอกมีสีม่วง หรือม่วงขาว มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ และกลีบดอกอีก 5 กลีบ กลีบดอกรูปขนาน และมีรยางค์เป็นเส้นฝอยสีม่วงจำนวนมาก มีก้านเกสรจะแยกออกเป็นเกสรตัวผู้ 5 อัน และเกสรตัวเมียอีก 3 อัน ดอกมี กลิ่นหอม
| |