เตรียมตัวไปเนปาล - Namaste Nepal day 0

21 May 09

ตื่นเต้นจังอีกไม่กี่สิบวันแล้วสินะ ที่เราจะได้ไปตะลุยดินแดนหิมาลัย วันนี้มีนัดประชุมกันสำหรับแก๊งเนปาลของเรา ประมาณว่าทริปนี้มี เกือบ 20 คน มาประชุม เจอหน้าเจอตากันก่อน เพราะส่วนมากยังไม่ค่อยมีใครรู้จักกันเลย แต่ก็มารวมตัวในทริปนี้กันได้เพราะชักชวนต่อๆ กันมา

มาดูแผนการณ์ของพวกเรากันดีกว่า

เริ่มจากเราวางแผนว่าจะไปเนปาลกันตั้งแต่ปีที่แล้ว ประมาณปลายๆ ปีเราก็เริ่มเสาะหาเอเยนต์ที่จะซื้อตั๋วเครื่องบินกันแล้ว สายการบินที่เล็งไว้มีอยู่ 2 choices คือ การบินไทยและรอยัลเนปาล ช่วงน้ำมันแพงๆ ปีที่แล้วกะว่าถ้าบินการบินไทยก็สองหมื่นกว่าแน่ มีบินทุกวัน ส่วนอีกสายก็น่าจะประมาณหมื่นห้า บิน จ พ ศ ได้ข่าวว่าดีเลย์บ่อยอีกต่างหาก
เนื่องจากเรากะจะไปเที่ยวกันช่วงสงกรานต์ ซึ่งคนไทยก็ไปเที่ยวกันช่วงนี้ไม่น้อย เลยต้องวางแผนจองตั๋วล่วงหน้ากันนานหน่อย กลุ่มเราหลายคนซะด้วย

แต่เพราะสวรรค์เป็นใจหรือเปล่าไม่รู้ เพราะเมื่อปลายปี 08 ราคาน้ำมันโลกก็เริ่มปรับตัวลดลง ทำให้เราฝันว่าเราจะได้ตั๋วการบินไทยถูกลง และแล้วก็เป็นจริง เราเริ่มจ่ายมัดจำกันเดือน มค 09 ครึ่งหนึ่ง และจ่ายอีกทีในเดือนมีนา สรุป ค่าตั๋วเครื่องบินการบินไทย all in ในราคา 15790 บาท เย้ ถูกจากราคาเดิมไปเยอะเลย เหอะๆ แต่ช่วงเมื่อต้นปี การบินไทยก็มีโปรโมชั่นหลายเส้นทาง สำหรับเดินทางภายในเดือน มีนา มีคนได้ตั๋วในราคา เก้าพันกว่าบาทเอง ถูกจริงๆๆ

ตั้งแต่หมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องไปเที่ยวเนปาลให้ได้ เราก็เริ่มซื้อหนังสือมาอ่าน อ่านกระทู้ บล๊อกเพื่อนๆ เว็บต่างๆ ต้องของคุณชาว BP มีข้อมูลดีๆ มาแบ่งปันเยอะมากๆ จะว่าไปอ่านมาครึ่งปีล่วงหน้าได้มั๊ง เหอะๆ ไม่ค่อยจะเห่อเล้ยย

จนเดือนนี้ แผนของพวกเราก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนขึ้น มีการเช็คราคา ค่ารถ ค่าโรงแรม และวางแผนสถานที่ที่จะไป หลักๆ เลยคือเราจะไปเทรคกิ้งที่พูนฮิวกันห้าวัน งานนี้ต้องขอบคุณทริปลีดเดอร์ คือพี่พร ที่ประสานงาน จัดการเกือบทุกอย่าง ตั้งแต่ตั๋วเครื่องบิน แล้วก็ราคาที่พัก ไปจนถึงโปรแกรมการเดินทาง

มาดูโปรแกรมคร่าวๆ กัน
10-20 Apr,09

Day 1 - Arrive KTM around 1 pm. / KTM durbar square

Day 2- Sightseeing Sawayambhunath /Bhaktapur Durbar Square/ go to Nagarkot to view point see sun set

Day 3- See sunrise at Nakargot/ depart to Pokhara /Phewa lake

Day 4- Devi's fall, Seti river, Cave Tibet camp, Tibet musuem, Bindyabasini temple/ Sarangkot

Day 5- see sunrise at Sarangkot view point/
1st day trekking - Pokhara - Nayapul - Birethanti - Maththanti - Sudame - Hile - Tirkhedhugga - Ulleri(1960 m.)

Day 6- 2nd day trekking - Ulleri - Banthanti - Nange Thanti - Ghorepani (2874 m.)

Day 7- 3rd day trekking -Ghorepani (2874 m.) - Poon Hill (3210 m.)
Ghorephani - Deurali - Banthanti - Tadapani

Day 8- 4th day trekking - Tadapani - Bhaisi Kharka - GhanDruk (1940 m.)

Day 9- 5th day trekking - Ghandruk - Kimche - Birethanti - Nayapul - Pokhara

Day 10- Back to KTM/ Sightseeing Changunarayan, Bouddhanath Stupa, Pashupatinath Temple

Day 11- Patan durbur square / back to BKK




Namaste Nepal
มารู้จักเนปาลกันก่อนดีกว่า

ถึงแม้ว่าเนปาลจะถูกนักเศรษฐศาสตร์จัดเป็นประเทศที่ยากจนติดอันดับโลก แต่เนปาลก็มีพื้นที่มรดกโลกกว้างขวางเป็นลำดับต้นๆ ของโลก เช่นเดียวกับการเป็นประเทศที่ตั้งของขุนเขาที่สูงที่สุดของโลก คือหิมาลัย อันนำมาซึ่งความศรัทราต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะเหล่าทวยเทพในศาสนาฮินดู และพระโพธิสัตว์ในศาสนาพุทธฝ่ายมหายาน จนกล่าวกันว่า เนปาลมีจำนวนเทพเจ้าและพระโพธิสัตว์ที่นับถือมากกว่าจำนวนประชากรในหุบเขาแห่งศรัทรานี้เสียอีก

และด้วยศรัทราอันยิ่งใหญ่ กษัตริย์ราชวงศ์มัลละจึงสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะสถาปัตยกรรมอันวิจิตรตาเป็นที่สุดในช่วง พุทธศตวรรษที่ 19-23 เมื่อพระเจ้าจัยสดิตี มัลละ ยึดครองหุบเขากาฐมาณฑุและรวบรวมเนปาลเป็นปึกแผ่นมั่นคงแล้ว ทรงแบ่งหุบเขาออกเป็น 4 นครรัฐ ให้พระราชโอรสและพระราชธิดาปกครองอย่างเป็นอิสระ ไม่ขึ้นต่อกัน ซึ่งแม้ว่าจะนำมาซึ่งความชิงดีชิงเด่น ทางการเมือง การทหาร การค้า ทว่า ในเวลาเดียวกันก็ก้อให้เกิดการประชันขันแข่งกันรังสรรค์งานศิลปะขนานใหญ่ เพื่อให้เมืองของตนสวยกว่างามสง่ากว่าเมืองอื่นๆ

"กานติปูร์” เมืองอันเป็นที่รัก ปัจจุบันคือนครหลวงกาฐมาณฑุ
“ภักตะปูร์” เมืองแห่งความจงรักภักดี
“ลลิตปูร์” เมืองที่น่ารัก ปัจจุบันนิยมเรียก “ปาตัน”
“กีรติปูร์” เมืองอันมีเกียรติ
คือ 4 นครรัฐที่แข่งกันอวดความงามของตนเอง กลายเป็น 4 อาณาจักรศิลป์ที่โดดเด่นทั้งงานไม้ หินและโลหะ ก่อกำเนิดเอกลักษณ์ทางศิลปะแห่งหุบเขากาฐมาณฑุ อวดโฉมให้เป็นที่ประจักษ์ผ่าน “โตรัน” ซุ้มประตูสู่พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ “เตียมปะนัม” หน้าบัน “ตุนาล” คันทวย “ณยาร” หน้าต่างไม้ที่แกะสลักหรือหล่อปั้นขึ้นอย่างอลังการ จนได้ชื่อว่าเป็นเพชรน้ำเอกเม็ดหนึ่งของชมพูทวีปและภาคพื้นบูรพา

เหนือสิ่งอื่นใดคือ แม้จะผ่านกาลเวลามาหลายร้อยปี แต่ผลงานศิลปะจากการแข่งขันประชันศิลป์กันยังดำรงอยู่เป็นประจักษ์พยานแห่งศรัทธาอันยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกับประเพณีการเซ่นสรวงบูชาเทพเจ้าที่พบเห็นได้ทุกวันและเวลา

จากหนังสือ Explore the word the 50 greatest trips โดย ธีรภาพ โลหิตกุล


อีกสิบกว่าวันจะได้ไปเจอของจริงแล้ววว ตื่นเต้นจังเลย ช่วงนี้ก็เตรียมตัวและจัดกระเป๋ารอ รายการของที่เราลิสต์ไว้ เยอะแยะมากมาย สำหรับคนอื่นบางอย่างอาจจะไม่จำเป็นก็ได้ มีดังนี้

1.เสื้อผ้า อากาศกลางวันร้อน กลางคืนหนาว ตอนเทรคกิ้งหนาวมาก ว่าจะใส่เสื้อ กางเกงซ้ำๆ กันบ้าง
เสื้อยืดแขนสั้น เสื้อแขนยาว เสื้อกันหนาว
กางเกงขายาว กางเกงนอน
ชุดชั้นใน
ผ้าพันคอ ถุงมือ หมวกกันแดด กันหนาว
ถุงเท้า
ผ้าเช็ดตัวผ้าปิดจมูก ได้ข่าวว่าฝุ่นเยอะ
ผ้าเช็ดหน้า
รองเท้าแตะ
กระเป๋าสำหรับแบ่งเสื้อผ้า
เสื้อยืด กะว่าจะเอาไปปัก

2. ยาต่างๆ ไปประเทศอื่น ไม่เคยคิดเตรียมเยอะขนาดนี้เล้ย
แก้ปวดหัว แก้หวัด แก้ไข้
แก้ปวดท้อง ยาโรคกระเพาะ แก้ท้องเสีย ผงเกลือแร่ คาร์บอน
แก้เจ็บคอ ลูกอม
ยาคลายกล้ามเนื้อ
ครีมทาแก้ปวดเมื่อย
ยาดม ยาหม่อง ยาหอม
attitude sickness pill เผื่อใครแพ้ที่สูง แต่แค่พูนฮิว อาจจะไม่เป็นไร
ยาแก้เมา
พลาสเตอร์
ยาประจำตัว
อ้อ มีคนไปฉีดวัคซีน ไทฟอยด์ กับเยื้อหุ้มสมองอักเสบ ก่อนด้วย รอบคอบมากๆ แต่ว่าเราคงไม่ฉีดอะ ดูซิว่าร่างกายเราจะแข็งแรงแค่ไหน

3.อุปกรณ์อื่น

อุปกรณ์อาบน้ำ แชมพู สบู่ แปรง ยาสีฟัน
โลชั่น ลิปมัน ครีมกันแดด
ไดร์เป่าผม เอาไปดีมั๊ยน้อ กลัวหัวเปียกตอนปีนเขา หนาวๆ แล้วจะไม่สบาย แต่ก็เอาไปไม่รู้จะมีไฟ มีปลั๊กให้เสียบหรือเปล่า

ไม้เท้าเทรคกิ้ง - เราซื้อตั้งแต่ตอนไปภูสอยดาว สองร้อยกว่าบาท ใครยังไม่มี ไปหาเอาข้างหน้าโลด
ไฟฉาย
ปากกา สมุดโน๊ต
ถุงนอน กะว่าจะไปซื้อเอาที่โพครา เอาแบบกันหนาวได้สุดๆ เลย
ปลั๊กต่อ universal adapter ที่เนปาลเป็นแบบรูกลม
แว่นกันแดด
ถุงพลาสติกใบใหญ่
คู่มือท่องเที่ยว
มีดพับสารพัดประโยชน์
ทิชชูแห้ง เปียก
เสื้อกันฝนบางๆ
ปากกา หรือลูกอมไปแจกเด็กๆ

4.ของกิน ปกติเป็นคนกินง่ายอยู่แล้ว แต่ก็เอาไปเผื่อๆ ก็ดี เกิดเบื่ออาหารแขกจะได้มีอะไรแซ่บๆ กิน

มาม่า น้ำพริกต่างๆ อาหารแห้ง
ขนม ลูกอม หมากฝรั่ง ช๊อคโกแลต เพิ่มพลังยามปีนเขา


5.ของสำคัญ

Passport
เงิน USD รอบแรก 1 usd =36 บาท แลกไปหมื่นห้า อีกรอบ เรทเหลือ 35.35 แลกอีก ร้อยเหรีญ เผื่อเป็นค่าเครื่องบินในประเทศ
กล้องถ่ายรูป แบต พร้อมเมมโมรี่
รองเท้าใส่สบาย มีดอก หุ้มข้อจะดีมาก
Visa ไปทำที่สถานฑูตเนปาล ซอย สุขุมวิท 71 จ่ายเป็นเงินบาท 950 หรือ USD 25 หรือใครจะไปทำ Visa on arrival ก็ได้ แต่เราเตรียมพร้อมไว้ก่อนดีกว่า
รูปถ่าย ไว้ทำ trekking permit, TIMS 3-4 รูป
ทำประกันการเดินทาง 11 วัน 336 บาท
จิตใจและร่างกายที่ฟิตพร้อมเต็มที่

กลับมาแล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อจ้า

Create Date : 21 มีนาคม 2552		2 comments
Last Update : 28 มีนาคม 2552 16:56:17 น.
Counter : 4448 Pageviews.
Share Tweet