The Journey of Dreams...
My trips...Explore the world
My beloved Thailand
"What a Wonderful World"
Home Sweet Home
Flower & Garden
Eating Time :)
Good Idea
Sweet Time
My Lover
Lovely
Korean songs
Life in Peace
Healthy Body & Soul
Luckyclover
L.O.V.E.
<<
มกราคม 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
14 มกราคม 2553
North Laos day 7 - Nongkhai- Udon-BKK
North Laos day 6 - Vangvieng- Vientian
North Laos day 5 - Luangprabang Vangvieng
North Laos day 4 - Luangprabang เที่ยวถ้ำ กับน้ำตก
Swiss Italy 2012
See AnkorWat and Die.... Nov 2010
แบคแพคตะลุยเมืองจีน 11 วัน ปักกิ่ง เจิ้งโจว ลั่วหยาง ซีอาน กวางเจา Apr 2011
Bukit Tinggi 2
Bukit Tinggi 1
Enjoy eating at Melaka
North Laos day 7 - Nongkhai- Udon-BKK
North Laos day 6 - Vangvieng- Vientian
North Laos day 5 - Luangprabang Vangvieng
North Laos day 4 - Luangprabang เที่ยวถ้ำ กับน้ำตก
North Laos day 3 - Vangvieng- Luangprabang มาถึงแล้วหลวงพระบาง
North Laos day 2- Vang Vieng ผจญภัยที่วังเวียง
North Laos day 1 Vientian-Vang Vieng มาเบิ่งเวียงจันทน์กันเด้อ
North Laos day 0 BKK-NK-VT กทม หนองคาย
Langkawi Day 3
Langkawi Day 2
Langkawi Day 1
Arrive at KL
Nepal trip เก็บตกของฝาก
Nepal Day 11 Changu Narayan- BKK
Nepal Day 10- Bhaktapur
Nepal Day 10- City tour temples
Nepal Day 9 - Patan
Nepal Day 9- Pokhara-Kathmandu
Nepal Day 8- 5th day trekking
Nepal Day 7 - 4th day trekking
Nepal Day6- 3rd day trekking Poonhill
Nepal Day 5- 2nd day Trekking
Nepal Day 4 - 1st day trekking
Nepay Day3- Sarangkot-Pokhara
Nepal Day2- A long way to go KTM-Pokhara
Nepal Day1- Thamel/ Kathmandu Durbur square
Nepal Day1- BKK airport to KTM airport
เตรียมตัวไปเนปาล - Namaste Nepal day 0
Macau- Day 4
Macau at night -3
Macau in cloudy day-3
HKG in cloudy day-2
Macau-HKG in cloudy day 1
Hong Kong preview
Cameron Highlands 2
Cameron Highlands 1
Bitter & Sweet in Singapore 5
Bitter & Sweet in Batam-Singapore 4
Bitter & Sweet in Batam 3
Bitter & Sweet in Singapore-Batam 2
Bitter & Sweet in Singapore 1
Malaysia day4- Bird, Orchid, Hibiscus, Butterfly Park
Malaysia day3- KL City
Malaysia day2 - Melaka town
Malaysia day1 - Putrajaya / Melaka
Hong Kong - Final day
Hong Kong Day 2 p.m. - Repluse Bay- Causeway Bay- The peak
Hong Kong Day 2 a.m. Chilin- Ferry- IFC mall
Hong Kong Day 1 -Wong Tai Sin temple-Ngong Ping- Shopping- SOL
Hong Kong Night 1
Hong Kong Trip - Intro
Japan trip Day 5 - Narita san - Aeon
Japan trip Day 4 - Asakusa - Disneyland
Japan trip Day 3- Fuji -Shinjuku
Japan Trip Day2- Temple
Japan trip Day 1 Osaka- US.J.
The beginning of Japan trip
First time in my blog
North Laos day 4 - Luangprabang เที่ยวถ้ำ กับน้ำตก
Dec 8, 09
เราตื่นกันตั้งแต่ตีห้า เพื่อมารอใส่บาตร อากาศตอนเช้า อากาศก็หนาวๆ ดี เราให้เอื้อยพิมพา จัดการเรื่องข้าวเหนียวใส่บาตรให้แล้ว กระติ๊บละ 40 บาท พอเดินออกมาเจอแม่ค้าบอกว่าของพาโชค เค้าก็บอกปูเสื่อ เตรียมของไว้ให้แล้ว นอกจากใส่บาตรข้าวเหนียว แถวๆ นั้นก็จะมีคนมาเสนอของใส่บาตรอย่างอื่นอีก พวกข้าวต้มมัด กล้วย ดอกไม้ เป็นต้น อันนี้ก็ตามจิตศรัทราของแต่ละท่าน มีแม่ค้ามาเดินขายดอกไม้คู่นึง 20 บาท เราก็เลยถวายดอกไม้พระไปด้วย
พอได้เวลาประมาณ 6 โมง ก็มีพระเดินเรียงแถวมากันแล้ว เรารีบจกข้าวเหนียวเป็นก้อนๆ แล้วก็ใส่อย่างว่องไว แรกๆ ก็ก้อนเล็กๆ หลังๆ เริ่มใส่ก้อนใหญ่ขึ้น 555 พอใส่ข้าวเหนียวหมด ฟ้าก็เริ่มสว่างพอดี เราไปเช่าจักรยานจากร้านใกล้ๆ ขี่ไปชมตลาดเช้ากันดีกว่า
ขี่จักรยานประทะลมหนาวเย็นๆ ตอนเช้าเนี่ยสดชื่นมากเลย ตามที่อ่านมา คนไทยมาเที่ยวลาว ใครๆ ก็ต้องไปกินร้านกาแฟประชานิยมกัน พวกเราก็ต้องไปให้เห็นบ้าง ขี่ตรงขึ้นไปผ่านบริเวณที่เป็นตลาดมืด แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอย จริงๆ เราก็ขี่วนๆ ไปมา ถามทางคนแถวนั้นเอา ร้านอยู่หัวมุม มีต้นมะม่วงใหญ่ อยู่ไม่ไกลจากซอยที่เป็นตลาดเช้า จัดการจอดจักรยาน ล็อคกุญแจให้เรียบร้อย
โหผู้คนมากมายมากินสมคำล่ำลือจริงๆ ร้านติดกันก็ขายพวกข้าวจี่ ก็ขนมปังอันยาวๆ ใส่ไส้แหล่ะ เราก็จัดการสั่งมากิน อันใหญ่มาก แบ่งกินได้ 2 คนเลย สั่งพวก ปลาทอด เนื้อทอด มากินด้วย แล้วก็สั่งกาแฟประชานิยมร้านข้างๆมากินเลย ใครอยากได้เร็ว ต้องเดินไปยกเองนะจ๊ะ
กินอิ่ม ก็ไปสำรวจแถวๆ นี้ก่อน มองไปด้านหน้าเป็นแม่น้ำคาน แถบริมแม่น้ำนี้ ก็จะมีที่พักเยอะเลย เราจูงจักรยานเดินชมตลาดเช้ากัน ชมภาพแล้วกัน เราไปเจอพวกสัตว์ป่ตัวอะไรซักอย่าง แต่พอเค้าเห็นเราจะถ่ายรูป รีบยกหนีไปแอบเลย สงสัยกลัวโดนนำไปเผยแพร่ แล้วจะโดนจับ
เราขี่จักรยานกันต่อชมบรรยากาศยามเช้า จนมาเจอวัดใหม่สุวรรณาราม ก็เลยเข้าไปถ่ายรูปนิดนึง โปรแกรมวันนี้เราจะไปเที่ยวถ้ำติ่ง แล้วก็น้ำตกกวางสี ถ้ามีเวลาเหลือ ก็จะกลับมาเที่ยววัดในเมืองต่อ
เรานั่งรถตู้ประมาณชั่วโมงนึง ไปยังจุดที่จะข้ามเรือปากอู เลยเป็นการย่นเวลา เหมาเรือหางยาวแถวๆ นั้นคนละ ... บาท ค่าเข้าถ้ำติ่งอีกคนละ 20000 กีบ ข้ามฝั่งไปถ้ำติ่ง ตอนเราไปถึงกันยังเช้าอยู่คนโล่งเลย แต่ซักพักมีเรือมาเทีบบอีก 2 ลำ คราวนี้คนขึ้นมาเพียบเลย
ภายในถ้ำติ่งก็จะมีพระเล็กๆ เยอะแยะเลย เราเดินขึ้นบันไดทางด้านซ้ายเดินต่อไปถ้ำด้านบน เหนื่อยอยู่เหมือนกัน ถ้ำด้านบน มีพระอยู่ในถ้ำ ด้านหน้าก็มีพระองค์ใหญ่คล้ายๆ พระสังกัจจายน์ แบบพุงโตๆ พอดีถามจากไกด์ลาวแถวนั้น เค้าเลยเล่าประวัติให้ฟังว่า จริงๆ แล้วท่านเป็นพระรูปงาม แต่พอมาปฏิบัติธรรมแล้ว ก็มีผู้หญิง มาวุ่นวายเยอะ เลยให้เทวดาเสกให้ท่านไม่หล่อ อ้วน มีพุงโตๆ จะได้ไม่มีใครสนใจ ท่านจะได้ปฏิบัติอย่างจิตใจสงบ
จริงๆ แล้วถ้ำนี้ ก็ไม่มีไรให้ดูมากเท่าไหร่ แต่ไหนๆ มาแล้ว ก็ต้องไปให้เห็นกับตา (ว่ามันไม่มีอะไร) 555
เรานั่งเรือข้ามฝากกลับไปขึ้นรถตู้ มุ่งหน้าต่อไปอีกประมาณ ชั่วโมงนึง เพื่อไปน้ำตก ตาดกวางสี
ประมาณบ่ายโมงเศษ เราก็มาถึงน้ำตก หิวกันแล้ว หาอะไรกินกันก่อนเลย เราก็สั่งกันเมนูเดิม ๆ ส้มตำลาว ไข่เจียว แกงจืดเต้าหู้ ส้มตำที่นี่มีปลาร้ามาเป็นตัวเลย เห็นแล้วไม่กล้ากิน เลยต้องเขี่ยๆ ออกก่อน
กินอิ่มเรียบร้อย ก็ไปซื้อบัตรเข้าน้ำตกกัน คนละ 20000 กีบ อีกเช่นเคย เราเดินตรงไปเรื่อยๆ ตามทางลาดยาง จริงๆ ถ้าใครเลือกเดินลงไปทางขวาก็จะไปตามทางสำรวจเส้นทางสำรวจธรรมชาติ เราเดินตามทางชันไปพักนึงก็แวะเลี้ยวขวาลงไปดูน้ำตก จุดแรก น้ำที่นี่เป็นสีฟ้าอมเขียว สวยจริงๆ น้ำตกช่วงนี้ แต่ละชั้นเป็นพื้นราบกว้างๆ เตี้ยๆ ลดหลั่นกันลงมา สวยมาก
พอเดินตามทางขึ้นไปอีกก็จะเจอน้ำตกใหญ่ แบบน้ำตกมาจากที่สูงแรงๆ ตอนนี้เราเริ่มถ่ายรูปไม่สนุกแล้ว เพราะแบตอันเดินกำลังจะหมด พอเอาแบตอีกก้อนนึงกะว่าชาร์จมาเต็มที่แล้ว มาใช้ กดไปได้ 2 รูป อ้าวทำไมมันขึ้นโชว์ใกล้หมดอีกแล้ว แงๆๆ มันเสื่อมแล้วจริงๆ เซ็งเลย ใครที่จะซื้อแบตกล้องนะจ๊ะ แนะนำได้เลย ให้ซื้อของแท้เท่านั้น ก้อนนี้เราซื้อมา 900 กว่าๆ ใช้ได้ไม่ถึงปีเลย แบตของจริงที่มากับกล้องยังไม่เสื่อมเลย กลับมาแค้นใจเลยซื้อใหม่อีกก้อน แคนอนของแท้ 2 พันบาท ฮือๆ
เล่าต่อ ในเมื่อแบตก็ใกล้จะหมดเต็มที่เราเลยไม่กล้าเอามาถ่ายเยอะ เลยถ่ายกล้องคนอื่นไปก่อน เราเดินลงมารวมตัวกันด้านล่าง รีบเดินทางต่อจุดหมายต่อไว้ เพราะวันนี้กะจะเก็บวัดเชียงทองเป็นที่สุดท้ายเลย เดี๋ยวแดดหมด
มาถึงวัดเชียงทองกันตอน สี่โมงครึ่ง จ่ายค่าบัตรก่อนนะจ๊ะ คนละ 20000 กีบ (สถานที่ไฮท์ไลท์ของที่นี่ ราคานี้ทั้งนั้น) หมายมั่นปั้นมือว่าต้องมาถ่ายกับโบสถ์สีชมพู มีกระเบี้ยงสีประดับน่ารักๆ ให้ได้ กดไปได้ไม่กี่แช๊ะ แบตที่อ่อนแรงของเราก็ หมดพลังไปแบบชนิดปลุกยังไงก็ไม่ตื่น เพื่อนมันเห็นใจ เลยเอากล้องตัวเองให้เราถือไปถ่ายตามใจชอบ ก็เลยได้เก็บรายละเอียดภาพน่ารักๆ ตามผนังมาให้ชมกันได้
เอาข้อมูลมีสาระมาฝากบ้าง จากเว็บไซด์นี้เลยจ้า //www.oceansmile.com/Lao/Chaingtong.htm
วัดเชียงทอง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมืองหลวงพระบาง ใกล้บริเวณที่แม่น้ำคานไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง มีถนนเล็กๆชื่อถนนโพธิสารราช ริมน้ำโขงคั่นอยู่ วัดเชียงทองสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2102 2103 สมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ในบรรดาวัดวาอารามทั้งหมดต้องยกให้วัดเชียงทองเป็นวัดที่สำคัญและสวยงามที่สุด และได้รับการมาเยี่ยมเยือนจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด "นักโบราณคดียกย่องว่าวัดเชียงทองเป็นดั่งอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว" วัดเชียงทองสร้างขึ้นก่อนหน้าที่พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชจะย้ายเมืองหลวงไปยังนครเวียงจันทน์ไม่นานนัก และยังได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชาติศรีสว่างวงศ์ และเจ้ามหาชาติศรีสว่างวัฒนา กษัตริย์สองพระองค์สุดท้ายของประเทศลาว
พระอุโบสถ ภาษาลาวเรียกว่า สิม เป็นพระอุโบสถหลังไม่ใหญ่โตมากนักหลังคาพระอุโบสถมีหลังคาแอ่นโค้ง ลาดต่ำลงมาซ้อนกันอยู่สามชั้น กล่าวกันว่านี่คือศิลปะแห่งหลวงพระบาง ส่วนกลางของหลังคามีเครื่องยอดสีทองชาวลาวเรียกว่าช่อฟ้า ประกอบด้วย 17 ช่อเป็นข้อสังเกตุว่าวัดที่พระมหากษัตริย์สร้าง จะมีช่อฟ้า 17 ช่อ ส่วนคนสามัญสร้างจะมีช่อฟ้า 1- 7 ช่อเท่านั้น เชื่อว่าบริเวณช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆตรงกลางช่อฟ้าจะมีของมีค่าบรรจุอยู่ ส่วนที่ประดับที่ยอดหน้าบันชาวลาวเรียกว่าโหง่ มีรูปร่างเป็นเศียรนาคและมีความสัมพันธ์เกี่ยวกับศาสนาพุทธ ประตูพระอุโบสถแกะสลักสวยงามเช่นเดียวกับหน้าต่างภายในพระอุโบสถมีภาพสวยงามที่ผนัง มีลักษณะลวดลายปิดทองฉลุบนพื้นรักสีดำ ส่วนใหญ่เป็นภาพพุทธประวัติเรื่องพระสุธน มโนราห์ และเรื่องพระเจ้าสิบชาติ
พระประธาน หรือชาวลาวเรียกว่าพระองค์หลวง ภายในพระอุโบสถเป็นสีทองงดงามอร่ามตาด้านข้างพระองค์หลวงมีพระบางจำลอง และผนังด้านหลังของพระอุโบสถเป็นภาพที่เกิดจากการใช้กระจกสีตัด ติดต่อกันเป็นรูปต้นทองขนาดใหญ่ ซึ่งเคยมีในเมืองหลวงพระบางลักษณะคล้ายต้นโพธิ์ ด้านข้างต้นทองเป็นรูปสัตว์ในวรรคดียามใดที่แสงแดดสดส่องสะท้อนดูงดงาม
วิหารน้อย ด้านข้างและด้านหลังของพระอุโบสถเป็นที่ตั้งของวิหารสองหลังนี้ จุดเด่นของวิหารนี้คือผนังด้านนอกมีการตกแต่งด้วยกระจกสี ตัดเป็นชิ้นเล็กๆและนำมาต่อเป็นรูปต่างๆเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนิทานพื้นบ้าน บนพื้นสีชมพู ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ พระพุทธรูปนี้เคยถูกนำไปจักแสดงที่กรุงปารีส ในปี พ.ศ. 2474 และนำไปประดิษฐานที่นครเวียงจันทน์หลายสิบปี ก่อนจะนำมายังหลวงพระบางในปี พ.ศ.2507
ส่วนวิหารอีกหลังที่อยู่ด้านหลังพระอุโบสถคือ วิหารพระม่าน ผนังวิหารด้านนอกมีลักษณะคล้ายกับวิหารองค์แรก ภายในวิหารนี้ประดิษฐาน พระม่าน ในช่วงวันขึ้นปีใหม่จะมีการอันเชิญมาให้ประชาชนสรงน้ำและกราบไหว้เป็นประจำทุกปี ผนังด้านหลังวิหารทาด้วยสีชมพูประดับด้วยกระจกสีแสดงถึงวิถีชีวิตของผู้คน สร้างขึ้นใน พ.ศ.2493 เพื่อเฉลิมฉลองที่โลกก้าวสู่ยุคกึ่งพระพุทธกาล
ด้านหลังของวิหารพระม่านจะเป็นพระธาตุศรีสว่างวงศ์ ซึ่งเป็นที่เก็บอัฐิของเจ้ามหาศรีสว่างวงศ์และด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นโขงเรือใกล้กับริมแม่น้ำโขง ส่วนด้านหน้าพระอุโบสถเป็นที่ตั้งหอกลองมีลวดลายลงรักปิดทองสวยงาม
โรงเมี้ยนโกศ หรือโรงเก็บราชรถพระโกศของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2505 ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของวัด ลักษณะเป็นโถงกว้าง ผนังด้านหน้าตั้งแต่หน้าบันลงมาจนถึงพื้นสามารถถอดออกได้เพื่อให้สามารถเคลื่อนราชรถออกมาได้
กลางโรงเมี้ยนโกศเป็นที่ตั้งราชรถไม้แกะสลักปิดทองคำเปลวรอบคัน มีพระโกศสามองค์ตรงกลางเป็นองค์ใหญ่ของเจ้าสว่างศรีวัฒนา ด้านหลังเป็นของพระราชมารดา ส่วนด้านหน้าเป็นของพระเจ้าอา โรงเก็บราชรถนี้ออกแบบโดยเจ้ามณีวงศ์ และใช้ช่างชาวหลวงพระบางชื่อ เพียตัน นับว่าเป็นช่างฝีมือดี
ประจำพระองค์ มีความชำนาญทั้งด้านงานเขียนและงานแกะสลัก
จุดเด่นของโรงเมี้ยนโกศยังอยู่ที่ประตูด้านนอกคือเป็นภาพแกะสลักวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ตอนสำคัญๆ เช่น ตอนพิเภกกำลังบอกความลับที่ซ่อนหัวใจของทศกัณฑ์ให้กับพระราม ถัดลงมาเป็นตอนที่ทศกัณฑ์ต้องศรของพระรามเสียบเข้าที่หัวใจ ถัดลงมาเป็นตอนที่พระรามพระลักษณ์ต่อสู้กับทศกัณฑ์ ด้านล่างสุดเป็นตอนที่นางสีดาลุยไฟเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์กับพระราม เดิมที่ภาพแกะสลักเหล่านี้เป็นการลงรักปิดทอง ต่อมาได้มีการบูรณะใหม่โดยทาสีทอง ภายในวัดยังมีเขตสังฆาวาสและยังมีพระจำพรรษาอยู่เช่นวัดทั่วไป
สถานที่ตั้ง อยู่ใจกลางเมืองหลวงพระบาง
ค่าเข้าชม คนละ 20000 กีบ (ประมาณ 80 บาท)
เปิดเวลาเข้าชม ตั้งแต่เวลา06.00 - 17.30 น.
เราเก็บภาพที่นี่กับจนแดดเกือบหมด ประกอบกับหมดเวลาเข้าชม ก็เลยต้องอำลาที่นี่กลับที่พัก
เรายังมีพลังเหลือ ประกอบกับจักรยานที่เช่าไว้เมื่อเช้า ยังไม่ได้คืน เราจอดเรียงกันไว้หน้าเกสเฮ้าท์ แบบล๊อคสายโซ่พ่วงต่อๆ กันไป พอดีมีคนแนะนำให้ล๊อคอย่างนี้ คือว่า ถ้าจะมีใครขโมย ก็ต้องถอดล็อคกันหลายอันล่ะ ไม่งั้นก็ต้องแบกไปทีละหลายๆ คันเลย
เมื่อเช้าขี่รถถีบชมเมืองยามเช้าไปนิดหน่อยแล้ว คราวนี้ ชมวิวเมืองหลวงพระบางยามค่ำคืนกันดีกว่า จัดการไปเอาเสื้อกันหนาวมาใส่ เรารีบเสียบแบตชาร์จได้ประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วก็ออกมาลุยเลย ขี่แรกๆ ก็ยังไม่ชินเพราะที่นี่ขับรถเลนชิดขวา เวลาเลี้ยวที ก็ต้องเหลียวมองแล้วมองอีก พอขี่ไปเรื่อยๆ ก็ชินเอง เราขี่จากแยกถนนเจ้าฟ้างุ้ม ที่ตรงไปเป็นตลาดมืด วนไปด้านขวา พอถึงแยกใหญ่ๆ ก็เลี้ยวซ้าย ขับวนเป็นวงกลม บ้านเรือน โรงแรม ที่พักยามค่ำคืนเปิดไฟสวยงาม ให้อารมณ์ชิวๆ มาก ประกอบกับอากาศเย็นๆ รู้สึกดีมากๆ เลย
เราขี่กับมาจนถึงถนนเส้นเลียบน้ำคาน แถบนี้มีที่พักเยอะเลย พวกโรงแรมหรู เช่น The Chang ก็อยู่ตรงเส้นนี้ เราขี่ไป หยุดถ่ายรูปไปเป็นพักๆ ขี่กันไปเรื่อยๆ จนไปเจอร้านนวด เห็นป้ายราคาแล้ว ก็เมื่อยขึ้นมาทันทีเลย 555 เลยเข้าไปสอบถาม เห็นว่าปิดดึกอยู่ ก็เลย เด๋วจัดการกินข้าวอาบน้ำกันก่อน จะกลับมาใหม่
เราแยกย้ายกับเพื่อนที่ไปแวะกินข้าวร้านริมน้ำ เนื่องจากยังไม่หิวเท่าไหร่ ก็เลยกลับที่พัก อาบน้ำ
พอได้เวลานัดกันตอน สามทุ่ม เพื่อนก็ยังไม่กลับมา เราเลยเขียนโน๊ตฝากไว้ แล้วไปเดินตลาดมืดอีกรอบ ได้กระเป๋ามาอีกจนได้ อิอิ กระเป๋าปักๆ ใบละ 150 ต่อแล้วนะ (พอเพื่อนเห็นไปซื้อตามบ้าง แต่จากร้านอื่น เหลือ 100 เดียวเอง แป่วว)
เราขี่จักรยานไปร้านนวดกันตอนเกือบสี่ทุ่ม ไหนๆ มา ลาว แล้ว ก็ขอลอง Laos massage แล้วกัน 40000 กีบ หรือประมาณ 160 บาท ต่อชั่วโมง น้องที่นวดให้ก็นวดดีนะ คล้ายๆ นวดไทยแหล่ะ แต่บางท่าจะแตกต่างกันไปบ้าง เกือบหลับเลย
ขากลับหญิงสาวสองคน รีบบึ่งจักรยานฝ่าลมหนาว กลับมากันสองคน เลี้ยวเข้าซอยขี่ขึ้นทางชันเลยต้องออกแรงมากเป็นพิเศษ ขี่มาถึงที่พัก ก็เมื่อยขาอีกพอดี ฮ่าๆ
Create Date : 14 มกราคม 2553
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2553 22:39:07 น.
0 comments
Counter : 1505 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
luckyclover
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [
?
]
Life is Journey
SexyMe
รำเพย
ป้ามด
nature-delight
Lucky in Life
Beauty
thai-secret
Dr.Manta
Webmaster - BlogGang
[Add luckyclover's blog to your web]
Color Codes ป้ามด
target=_blank>Color
Bloggang.com