วันนี้ก็เหมือนทุก ๆ วัน ทุก ๆ วันก็เป็นแบบนี้ แต่วันนี้หัวใจเต้นผิดจังหวะเสียแล้ว
เขียนหัวข้อแบบนี้ เป็นเรื่องเศร้าแน่ ๆ ค่ะ แม่กลับไปแล้วล่ะ เศร้ามากเลย ก่อนวันกลับน้ำตาก็ท่วมห้อง ไม่รู้สิรู้สึกผิดยังไงก็ไม่รู้ พอเห็นเค้าทำน้ำตาคลอ ๆ เราก็ร้องไห้ตามแม่ไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้อยู่ห่างกันมากมาย แค่สองชั่วโมงเอง เราเองก็ยี่สิบเจ็ดแล้ว ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว แต่กลับ Sensitive ขนาดนี้ พอวันกลับฟ้าฝนก็ไม่เป็นใจ ฝนตกหนักมาก เราก็พยายาม ๆ ที่จะไม่คิดถึง ไม่มองหน้าแม่เค้า แต่แล้วพอตอนไปถึงที่ Budget Terminal ตอนรอเวลา เราแค่มองหน้าแม่แค่นั้นเอง แกก็ตาแดงก่ำ แกเลยทำเป็นไล่เราให้กลับไปได้แล้ว ส่งแค่นี้พอ เราก็บอกแกว่า ไม่เอาจะรอ แกเลยบอกว่างั้นไม่ต้องมามองหน้าแก ไม่ต้องมากอดแก เราก็เลยไม่กอดแก ไม่จ้องตาแก ทำเป็นคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้จนถึงเวลาแกก็เข้าไป พอแกเข้าประตูไปเท่านั้นแหล่ะ เราเดินร้องไห้ป้อย ๆ ไปขึ้นรสบัสไป Terminal 2 รู้สึกผิดอย่างรุนแรงว่า เออ...ทำไมเราไม่อยู่กับแกวะ ทำไมเราต้องมาทำงานต่างบ้านต่างเมืองแบบนี้ จริงอยู่ว่าบ้านเรามีลูกสี่คน แล้วเราเป็นคนที่สาม แต่เราเป็นคนเดียวที่พาแกไปตะลอน ๆ หลงบ้างไม่หลงบ้างตั้งแต่ไหนแต่ไร เหมือนเราจะสนิทกับแกที่สุด แต่เราก็ทิ้งแกมาได้ลงคอ... เฮ้อ ! คิดแบบนี้เราก็ยิ่งร้องไห้ใหญ่เลย รู้สึกว่า ถ้าอย่างนั้นต้องหาเงินให้ได้เยอะ ๆ แต่ว่าเรามานั่งคิด ๆ แล้ว ถ้าเราอยู่กรุงเทพฯ แล้วประหยัด ๆ ไม่ได้ใช้เงินฟุ่มเฟือยเหมือนตอนเราอยู่นี่เราก็เหลือเงินพอ ๆ กัน สรุปแล้วจริง ๆ แล้วเป็นที่ตัวเราเองน่ะแหล่ะ ยิ่งคิดได้แบบนี้ก็ยิ่งร้องไห้ใหญ่เลย ทนไม่ไหวเลยโทรศัพท์กลับไปหาดาร์ลิ้งก์ ดาร์ลิ้งก์ตกใจมาก พยายามบอกว่า อย่าคิดแบบนี้สิ เดินออกมาแล้ว ก็ต้องพยายามต่อไป อย่างน้อยก็ดีกว่าอยู่ที่เดิมน่ะ ปลอบเราต่าง ๆ นานา ตอนนี้เราถึงได้รู้ว่าการที่มีใครสักคนที่เข้าใจเรา อยู่ข้างเรา ถือว่าเป็นโชคอย่างหนึ่งจริงๆ พอกลับมาถึงบ้าน เดินไปเปิดตู้เย็น พอเห็นของในตู้เย็นเท่านั้นแหล่ะ น้ำตาร่วงเผาะ ๆๆๆ อีกรอบ แม่เตรียมของไว้ในตู้เย็นเยอะแยะเลย ประมาณว่ากินได้อีกอาทิตย์กว่า ๆ มีน่องไก่เล็ก กุ้งแยกเป็นถุง ๆ อีกสามสี่ถุง แอ๊ปเปิ้ลเกือบสิบลูก ผักที่เราชอบกิน มะเขือเทศ Baby คะน้า ผักอะไรอีกก็ไม่รู้ ไม้กวาดอันเก่าแกก็ซื้ออันใหม่มาเปลี่ยนให้ ทั้ง ๆ ที่เราบอกแล้วว่าอันเดิมเราก็ใช้ได้นะ พอเห็นแบบนี้เรายิ่งรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้น เดินเข้าไปในห้องเสื้อผ้าที่เราวาง ๆ ไว้ แกก็รีดให้หมดเลย เท่านั้นแหล่ะ น้ำตาท่วมบ้าน ตอนแรกที่มาที่นี่เราไม่ร้องไห้เลยนะ อาจเป็นเพราะว่าเหมือนเปลี่ยนที่เปลี่ยนทาง แล้วไม่รู้สึกว่ามีอะไรเปลี่ยนไปมากมาย เพียงแต่ต้องทำงานบ้านมากขึ้นเท่านั้นเอง แต่พอแม่มาคราวนี้ ถึงตอนนี้ พูดได้เลยว่า เราคิดไม่เหมือนก่อนอีกแล้ว รู้สึกได้เลยว่าแม่รักเรามาก ๆ แต่เราทำไมไม่อยู่กับแกให้มีความสุข ตอนนี้ที่เคยคิดว่านาน ๆ ทีกลับบ้านนะ แทบจะวางแผนกลับบ้านทุกเดือนแล้วล่ะเนี่ย ไปอยู่เป็นเพื่อนแก พาแกไปเที่ยว ขับรถไปโน่นไปนี่ วันนี้กลับบ้านมา เดินเข้ามาในห้อง พอเข้ามาแล้วไม่เห็นใคร รู้สึกใจหายเหมือนกัน นั่งพิมพ์ Blog นี่อยู่ก็นั่งร้องไห้ไปด้วย... ไม่รู้ว่าอีกกี่วันเราถึงจะหาย... Home sick เป็นแบบนี้นี่เอง เศร้าจัง ... ไม่เคยคิดเลยว่าอย่างเราจะ Home sick ได้ขนาดนี้นะเนี่ย... เศร้าจังเลย.....
Create Date : 19 เมษายน 2549 |
|
6 comments |
Last Update : 19 เมษายน 2549 19:13:11 น. |
Counter : 441 Pageviews. |
|
|
|
ความผูกพัน มันทำให้คนเรา ต้องหลั่งน้ำตาออกมา เมื่อคนที่เรารัก ต้องจากไป.... ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม
ผมคิดว่าโรคคิดถึงเนี่ยเป็นกันทุกคนแหละครับ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++