เรื่องกิน เรื่องเที่ยว คือเรื่องเดียวกัน และเป็นเรื่องราวของเราสองคน :)

ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [?]




ปลาหมึกน้อย กับ นายโอเลี้ยง รายงานตัวครับ
เนื่องด้วยเราสองคนเป็นคนชอบเที่ยว ชอบกิน ดังนั้นก็เลยจัดการหาที่เก็บสถานที่หรือร้านอาหารที่เคยแวะเยี่ยมมาแล้ว

และเสมือนเป็น ไดอารี่ส่วนตัว ที่ทุกคนเข้าดูได้ อาจจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่ผ่านเข้ามาแล้วต้องการหาข้อมูลสำหรับสถานที่นั้นๆ

ขอให้สนุกกับ Blog นี้นะ

ตอนนี้ Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง มี fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^

Click ข้างล่างได้เลยจ้า

click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary
New Comments
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
12 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง's blog to your web]
Links
 

 
The Authors' Lounge @ Mandarin Oriental

ชื่อร้าน : The Authors' Lounge
รายการอาหาร : Afternoon Tea
เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน 12.00 – 18.00 น.
ที่ตั้งร้าน : Mandarin Oriental Hotel, กรุงเทพมหานคร บางรัก Thailand
พิกัด GPS : 13° 43' 27.03" N 100° 30' 51.31" E






The Authors' Lounge




วันอาทิตย์ตอนบ่ายๆ หากใครไม่ได้วางแผนที่จะทำอะไร แต่อยากจะหาที่สวยๆ เพื่อไปพักผ่อนและซึมซับบรรยากาศดี ขอแนะนำให้ไปจิบชายามบ่ายที่ "The Authors' Lounge" ที่โรงแรม Mandarin Oriental ตรงซอยเจริญกรุง 38 เขตบางรัก

ที่นี่ไม่ได้แค่ต้องการขายชาหรือของว่างเพียงเท่านั้น แต่ต้องการขายบรรยากาศ ซึ่งไม่แปลกใจเลยที่เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือ คนไทยหลายคน ยอมลงทุนกับชามื้อบ่ายในราคาที่สูง

ซึ่งคนเหล่านี้ต้องการซื้อบรรยากาศดีๆ ที่เหมาะสำหรับใช้เวลายามบ่ายแบบนี้ ซึ่งหาได้ยากในร้านชาทั่วๆ ไป

ที่สำคัญห้องนี้ยังเป็นที่ไฝ่ฝันของสาวๆ หลายๆ คนที่อยากจะเห็นภาพตนเองยืนอยู่บนบันไดอันทรงเกียรติ มองดูแขกคนสำคัญที่เข้ามาร่วมแสดงความยินดีในงานของตนเอง ^^

วันนี้จะพาไปชมบรรยากาศด้านในกันครับ เริ่มที่ Lobby ของโรงแรม ซึ่งภายนอกอาคารดูธรรมดา แต่ภายในหรูหรามาก





หลังจากนั้นก็ตรงดิ่งไปยังห้องจิบชาอันเป็นที่ขึ้นชื่อว่าหรูหราสุดๆ









ภายในห้องตกแต่งด้วยโทนสีขาว แทรกด้วยสีเขียวของลายฉลุไม้ รวมทั้งต้นไม้ที่ประดับประดาภายใน ตามแบบฉบับทางสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล





บันไดของที่นี่เป็นที่ไฝ่ฝันของบรรดาสาวๆ หลายๆ คน ที่ต้องการจะจัดงานสละโสดที่นี่

ซึ่งยังมีการตกแต่งด้วยภาพถ่ายของราชวงศ์จักรีไทยในอดีตซึ่งหาดูได้ยากไว้ให้เห็นรอบๆ ห้อง





โต๊ะที่นั่งของที่นี่ตกแต่งแนวย้อนยุคแต่ยังคงความคลาสสิกอย่างลงตัว

และสามารถเลือกที่นั่งได้โดยพนักงานให้บริการอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นการจัดสรรที่นั่งรวมทั้งการบริการด้านอื่นๆ ถือว่าทำได้เยี่ยมเลยครับ







บรรยากาศภายในทำได้ดี ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดขายที่ทำให้ลูกค้าแวะมาใช้บริการที่นี่





และเป้าหมายหลักของการมาที่นี่คือการใช้เวลายามบ่ายนั่งจิบชาร้อนๆ พร้อมกับขนมที่แสนอร่อย





ซึ่งหลังจากสั่งรายการอาหารไปแล้ว ที่นี่เค้ามีของหวานไอศครีมทับทิมกรอบ (Refreshing green lime and gin sorbet)

เป็นออร์เดิฟ ไว้ทานเล่นก่อน









หลังจากนั้นไม่นาน Afternoon Tea ที่สั่งไว้ก็พร้อมเสิร์ฟ





รวมทั้งชาร้อน ก็มาพร้อมกันด้วย วันนั้นไปกัน 6 คน สั่ง Afternoon Tea ไป 3 เซ็ต โดยแต่ละเซ็ต จะสั่งชาร้อนได้ 1 กา เราจึงสั่งเพิ่มอีก 3 กา จะได้ครบคนพอดี





เริ่มที่ "Traditional Afternoon Tea Set" (1,050 .-)

เซ็ต Afternoon tea แบบดั้งเดิม ซึ่งมาพร้อมกับ ของว่างที่หลากหลาย จากภาพสั่งมา 2 เซ็ต ซึ่งทางพนักงานรวมอยู่ใน 1 ชั้น เพราะว่าโต๊ะที่นั่งเล็กไปหน่อย แต่ก็ถือว่าทำได้ดีครับ





ซึ่งในเซ็ตประกอบไปด้วย "Traditional plain and raisin scones" และแยมส้ม แยมสตอร์เบอรี่ รวมทั้งเนย สำหรับทานคู่กับสโคนอุ่นๆ ที่แสนอร่อย







มาไล่ดูตั้งแต่ชั้นล่างสุดก็จะมี "Flaky warm savoury chicken mince turnovers" "Smoked salmon finger sandwiches on caraway whole wheat" "Egg and chive mayonnaise salad tea sandwiches on four-grain rye" "Cucumber, cream cheese and micro cress on wheat bread" "Cooked ham and cheddar cheese remoulade tea sandwiches"

ซึ่งเป็นแซนด์วิชแบบต่างๆ มีขนาดไม่เล็ก แต่ก็ไม่ใหญ่จนเกินไป









ชั้นที่ 2 ก็จะมี "Ope'ra" "Seasonal berry tartlets" "Berry panna cotta shot" "Soft brownie" ซึ่งเป็นของหวานแบบต่างๆ













ส่วนชั้นบนสุด ประกอบไปด้วย "English fruit cake and orange butter cake" "Macadamia and chocolate cookies, cinnamon short bread"

ซึ่งผมชอบ Butter cake ของที่นี่มาก ซึ่งทั้งหอม และเนื้อเค้กนุ่มลิ้นมากๆ











และ Aftertoon tea set อีกแบบที่นี่มีก็คือ "Mandarin Oriental Thai Tea Set" (1,050 .-)

เซ็ตขนมไทยๆ และที่สำคัญที่ทางร้านนำเสนอ คือ Pandanus leaf and sun-dried banana scones

สโคนกล้วยแบบไทยที่รสชาติไม่แพ้สูตร original เมื่อทานคู่กับชาดีๆ ทำให้เวลาในช่วงบ่ายๆ แบบนี้เป็นเวลาที่มีความสุขที่สุด





ซึ่งประกอบไปด้วย "Pandanus leaf and sun-dried banana scones" เป็นสโคนกล้วยหอมซึ่งเป็นพระเอกของเซ็ตนี้





นอกจากนี้ยังมี "Vegetable caponata sandwiches" "Turmeric chicken salad and roasted chilli jam sandwiches" "Honeyed crisp vermicelli in rice flour shells" "Fluffy rice crispies with bean curd and sweet corn topping" "Egg, ham and wild flower honey mayonnaise tea sandwiches" "Golden flaky Thai chicken and lotus seed curry puffs" "Lemongrass tuna salad tea sandwiches" "Banana pound cake" "Pandanus leaf chiffon" "Coconut mararoons" "Punnet of yellow bean marzipans and sweet egg yolk treats" "Lemongrass burnt custard cream"

ซึ่งเป็นของหวานที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยแฝงอยู่อย่างมาก













ซึ่งของหวานต่างๆ เมื่อทานคู่กับ ชาร้อนแบบต่างที่มาแบบเติมได้ไม่อั้น จะช่วยเพิ่มรสชาติของ Afternoon tea ให้เพิ่มยิ่งขึ้นไปอีก

ชามีให้เลือกมากมาย โดยวันที่สั่งจะมี earl grey french blue, metis, sakura 2000, jasmin mandarin และ Marco polo (2 กา) ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คน นอกจากนี้ยังมีให้เลือกอีกหลายชนิด (กาละ 290.-)











ระหว่างที่นั่งจิบชาไปเรื่อย ก็มีเสียงดนตรีเพราะๆ จากเปียโนหลังสีขาวที่ตั้งอยู่ในห้อง ที่ถูกบรรเลงไว้อย่างไพเราะอย่างยิ่ง





หลังจากนั้นก็ใช้เวลายามบ่ายไปกับของว่างรวมทั้งชาร้อนหอมๆ ที่อยู่ตรงหน้าพร้อมกับซึมซับบรรยากาศดีๆ ที่อยู่รอบๆ โต๊ะ









เมื่ออิ่มกับของว่าง และบรรยากาศภายในห้อง Authors' Lounge แล้ว ก็เดินเล่นรอบๆ ห้อง ซึ่งจะมีห้องสำหรับรองรับแขกที่มาใช้บริการอยู่ใกล้ๆ กันอีกซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้กันเลย



















ชมความสวยงามภายในกันแล้ว พาไปเดินเล่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งทางออกอยู่ติดกับห้อง Authors' Lounge แห่ง

ภายนอกมีการจัดโต๊ะสำหรับแขกที่ชื่นชอบบรรยากาศริมน้ำไว้ให้บริการด้วย ซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้ด้านในเลย







แล้วบ่ายวันอาทิตย์นั้นก็เป็นช่วงบ่ายที่มีความสุขมากๆ เพราะได้มานั่งทาน Afternoon tea ท่ามกลางบรรยากาศดีๆ ที่หลายคนไฝ่ฝัน ร่วมกับคนรู้ใจและเพื่อนๆ ที่ชวนกันไปใช้เวลายามบ่ายที่แสนคุ้มค่า

ถ้ามีโอกาสอีกครั้ง ผมก็อยากที่จะใช้เวลายามบ่ายของวันที่แสนสบายๆ นั่งจิบชาร้อน ทานขนม ของว่างที่แสนอร่อย ไปกับคนรู้ใจ อีกครั้ง




Click ย้อนกลับไปหน้าสารบัญครับ


Create Date : 12 มีนาคม 2554
Last Update : 23 มีนาคม 2554 21:59:53 น. 16 comments
Counter : 15740 Pageviews.

 
ภาพสวย ชวนน้ำลายหกมากๆๆๆๆๆๆ ว่าแต่มาชวนทานอะไรกันตอนนี้เนี้ยะ ฮือๆๆๆๆ


โดย: Paksabuy วันที่: 13 มีนาคม 2554 เวลา:0:15:38 น.  

 
ภาพสวย บรรยากาศดี บรรยายเลิศ

ทำให้อยากไปบ้างเลยล่ะค่ะ


โดย: Sai Eeuu วันที่: 13 มีนาคม 2554 เวลา:9:47:18 น.  

 
ภาพสวย ขนมน่าทานมากๆเลยค่ะ


โดย: Hamilton วันที่: 13 มีนาคม 2554 เวลา:12:25:14 น.  

 
บรรยากาศดี....ภาพสวย


โดย: bee_koki วันที่: 13 มีนาคม 2554 เวลา:16:08:30 น.  

 
น่าทานมากๆค่ะ


โดย: CrackyDong วันที่: 13 มีนาคม 2554 เวลา:16:08:31 น.  

 
น่าทานมากๆเลยค่ะ
สถาปัตยกรรมภายในโรงแรมก็สวย
สมเป็นโรงแรมชั้นนำของเมืองไทยค่ะ
ถ้ามีโอกาสและทรัพย์อำนวยจะไปแน่นอนค่ะ


โดย: RAINISM (mainera ) วันที่: 13 มีนาคม 2554 เวลา:19:40:22 น.  

 
คุณโอ...

ภาพสวยมาก ๆเลยค่ะ

น่าหม่ำมาก ๆ ด้วยอะคะ

เพิ่งไปหม่ำที่เชียงใหม่มาด้วย

แต่แอบชอบบรรยากาศในกรุงเทพมากกว่าอะคะ

คุณโอ ไม่รีวิวในก้นครัวแล้วหรือคะ


โดย: นู๋ยู้ฮู้ วันที่: 13 มีนาคม 2554 เวลา:21:27:27 น.  

 
@ คุณ Paksabuy - ชวนตอนดึกๆ นี่แหละครับคุณเอ็ม จะได้อ้วนด้วยกัน

@ คุณ Sui Eeuu - บรรยากาศดีสุดๆ ครับ ไปทีนี่คิดว่าไปกินบรรยากาศก็คุ้มแล้วครับ

@ คุณ Hamilton - ขนมอร่อยทุกอย่างเลยครับ แค่เห็นภาพยังอยากกลับไปหม่ำอีกรอบเลย

@ คุณ bee_koki - บรรยากาศเลิศครับ ชอบห้องที่มีสีขาวๆ แบบนี้ที่สุด

@ คุณ CrakyDong - อร่อยด้วยครับ โดยเฉพาะสโคน กับ บัตเตอร์เค้ก

@ คุณ RAINISM (mainera) - ต้องรอให้ทรัพย์อำนวยจริงๆ ครับ ถือว่าเป็นการจิบชาที่แพงที่สุดในชีวิตผมเลย แต่ว่าก็คุ้มค่านะครับ นั่งไป 3 ชั่วโมงกว่าน่าจะได้นะ



โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง วันที่: 14 มีนาคม 2554 เวลา:10:04:44 น.  

 
คุณ นู๋ยู้ฮู้ - ขอบคุณครับ คุณยู้ ที่เชียงใหม่ผมก็ไปหม่ำที่เวียงจุมออน มา สโคนอร่อยมาก ชาก็หอม เดี๋ยวคงรีวิวที่นี่ด้วย

ตอนนี้ยังยุ่งๆ เลยยังไม่ได้ไปรีวิวที่ก้นครัวเลยครับ แต่รีวิวแน่นอน น่าจะวันนี้แหละครับ


โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง วันที่: 14 มีนาคม 2554 เวลา:10:08:22 น.  

 
เป็นที่หนึ่งที่เราอยากไปสักครั้งเลยหละค่ะ

แต่ยังไม่มีโอกาสสักที แหะๆ

เห็นรีวิวนี้แล้วยิ่งอยากไป

เดี๋ยวมีโควต้าโหวตได้แล้วจะมาโหวตให้นะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 14 มีนาคม 2554 เวลา:15:47:11 น.  

 
คุณ สาวไกด์ใจซื่อ - ลองหาเวลาไปซักครั้งนะครับ แล้วจะรู้สึกว่าคุ้มค่าที่ได้มาจิบชาที่นี่ บรรยากาศดีสุดๆ ชอบมากๆ อยากกลับไปอีกรอบเหมือนกัน


โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง วันที่: 14 มีนาคม 2554 เวลา:17:55:49 น.  

 
มาโหวตหมวดอาหารให้ตามสัญญานะคะ

มีโอกาสจะลองไปหม่ำที่นี่ให้ได้ค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 22 มีนาคม 2554 เวลา:8:18:03 น.  

 
ขอบคุณมากๆ ครับ คุณสาวไกด์ฯ จริงๆ แค่มาทักทายก็ดีใจแล้วครับ


โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง วันที่: 22 มีนาคม 2554 เวลา:15:28:33 น.  

 
ไม่ทราบว่าเค้าให้ถ่าย pre wedding หรือไม่คะ และค่าสถานที่เป็นอย่างไรบ้าง..ขอบคุณค่ะ


โดย: ว่าที่เจ้าสาว IP: 203.113.118.74 วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:1:14:56 น.  

 
คุณว่าที่เจ้าสาว

ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่เห็นว่าถ้าจองห้องจัดเลี้ยงที่นี่ เค้ายอมให้ถ่ายนะครับ แต่ถ้าจะไปถ่ายอย่างเดียวน่าจะคิดเงินนะครับ และท่าทางจะแพงอยู่

ถ้าให้ชัวร์ต้องโทรไปถามที่โรงแรมครับ


โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:8:50:59 น.  

 
Just desire to say your article is as surprising. The clarity in your post is simply great and i can assume you are an expert on this subject. Fine with your permission let me to grab your feed to keep updated with forthcoming post. Thanks a million and please carry on the rewarding work.
cheap ugg boots from china //www.eddiemotorsports.com/wp-content/cache/tmp/475414-there-anywhere-buy-cheaper-genuine-ugg-boots.html


โดย: cheap ugg boots from china IP: 192.99.14.34 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2557 เวลา:4:43:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.