จันทน์กะพ้อ บทที่ ๕
เขตชลเหลือบมองเสี้ยวหน้าของคนที่ยืนนิ่งอยู่ในอ้อมแขนของเขาเธอรู้ว่าเป็นเขาจึงนิ่งไป เพราะปฏิกิริยาแรกนั้นเธอขยับตัวเหมือนจะเล่นงานเขาความรู้สึกตอนนี้แทบบรรยายไม่ได้ เหมือนหัวใจจะเต้นทะลุออกมาข้างนอก เป็นเธอจริงๆ ที่อยู่ในอ้อมแขนเขา เฮ้ย...มึงมายุ่งอะไรด้วย นั่นเด็กกู เขตชลต้องละสายตาจากหญิงสาวไปยังขี้เมาสองคนเขาพอจะคุ้นหน้าอยู่บ้าง แต่ไม่ได้อยู่ในจำพวกที่เขาต้องการเกี่ยวข้องด้วยนัก "เมาแล้วก็กลับบ้านไป" เขาพยายามกดเสียงให้เรียบ แต่มองอีกฝ่ายจนแทบทะลุ มึงคิดว่ามึงเป็นใครมาไล่กูเด็กนี่มาอ่อยกูก่อน เขตชลรีบรัดเอวบางแน่นขึ้นรั้งไม่ให้เจ้าตัวขยับเข้าไปเล่นงานอีกฝ่ายไม่ใช่เขาไม่โมโห แต่มีเรื่องกับคนพวกนี้ไปก็เท่านั้น "หน้าตาแบบนี้...ใครจะโง่อ่อย กลับไปส่องกระจกดูหนังหน้าตัวเองบ้าง" เขตชลเกือบหัวเราะออกมาถึงจะรั้งมือรั้งเท้าไว้ได้ แต่ก็ใช่จะรั้งปากเจ้าตัวได้ไม่ต้องมองหน้าก็รู้ว่าคุณนายของเขากำลังเดือด "ใจเย็นๆครับคุณนาย" เขากระซิบข้างหูคนที่ยอมให้เขาล็อกตัวไว้แต่ก็ใช่ว่าตัวเขาเองจะไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดนั่น หรือบางทีต้องออกกำลังกายกลางดึกบ้างเขามองขี้เมาทั้งสองคน พยายามสะกดใจ "ต่างคนต่างไปอย่ามามีเรื่องตรงนี้จะดีกว่า" "มึงไป...นี่เด็กกู" เขตชลเหยียดยิ้ม ดวงตาเป็นประกายกล้า "มึงไม่รู้หรือว่ากูเป็นใคร" คนเมาปากกล้าชี้หน้าไอ้หน้าหล่อ "ไม่มีความจำเป็นต้องรู้เมาแล้วก็กลับบ้านไปซะ จะได้ไม่เป็นภาระของคนอื่น" เขตชลสะกดทั้งใจและเสียงเขาบอกกับคนในอ้อมแขน "เราไปกันเถอะ" "กูไม่ไปไม่ให้มึงไปด้วย" "ไอ้เอก...ไปเหอะมึง"เพื่อนที่เมาน้อยกว่ารั้งร่างเพื่อนที่เริ่มเอะอะเสียงดังบริเวณหน้าร้านมีคนอยู่บ้างและเขาก็เริ่มจำได้แล้ว่าไอ้หน้าหล่อที่เข้ามาสอดนั้นเป็นใคร การมีเรื่องกับ เขตชล อังสนาก็ไม่ใช่เรื่องดีนัก "อะไรของมึง"คนเมาสลัดเพื่อนออก กำลังจะโผเข้าไปหาไอ้หน้าหล่อที่มาแย่งผู้หญิงที่เขาถูกตา "มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับคุณเอกคุณแมนเสียงเข้มๆดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงหนาของเจ้าของร้านและบริกรชายอีกสองคนทำให้ทั้งหมดชะงัก "มีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อยครับไม่มีอะไรๆ"คนที่เมาน้อยกว่ารีบรั้งเพื่อนไว้ โบกมือปฏิเสธ เพราะรู้จักชื่อเสียงของเจ้าของร้านดีว่าเป็นคนจริงไม่ควรมีเรื่องด้วยเป็นอันขาด "เอกมันเมา...เดี๋ยวผมกำลังจะพากลับแล้วครับพี่" "งั้นพี่ให้เด็กไปส่งที่รถนะครับ"เจ้าของร้านเอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะพยักหน้าให้กับลูกน้องพาลูกค้าตัวปัญหาไปส่งที่รถ แล้วจึงหันมาทางเขตชล "เป็นอะไรหรือเปล่าโทษทีนะหลุดสายตาพวกเด็กๆ ไปหน่อย" ปกติเขากำชับพนักงานเรื่องพวกนี้ไว้แต่วันนี้หละหลวมไปหน่อย คงต้องย้ำกันให้หนัก "ไม่เป็นไรครับพี่ทีมขอบคุณที่ช่วยจัดการ" เขตชลเอ่ยยิ้มๆเขาก็รู้จักกับเจ้าของร้านเพราะตอนที่กลับจากต่างประเทศมาเขาท่องราตรีบ่อยเจอทีมตามสถานที่ต่างๆ ผ่านการรู้จักจากคนอื่นบ้างนอกจากร้านนี้แล้วทีมยังเป็นเจ้าของร้านอาหารและผับอีกหลายที่ คุยกันแล้วถูกคอจึงกลายเป็นเพื่อนต่างวัย "ขอโทษอีกทีนะครับคุณผู้หญิง"ทีมเอ่ยกับหญิงสาวที่อยู่อ้อมแขนของเขตชล เขาแทบไม่เคยเห็นเขตชลควงสาวมาเที่ยวก่อนแต่เรื่องสาวๆ ที่เข้ามาสนใจอีกฝ่ายนั้นนับไม่ถ้วนแต่รู้สึกว่าเขาจะเห็นผู้หญิงคนนี้อยู่ในกลุ่มลูกค้าสาวล้วนกลุ่มใหญ่ที่มาตั้งแต่หัวค่ำ "เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะ" "อ้าย...นี่พี่ทีมเป็นเจ้าของร้านนี้ อ้ายเป็นแฟนผมครับ...โอ๊ย" เขตชลร้องเพราะศอกที่ถองเข้าท้องเขาอย่างแรง เจ็บจริงแบบไม่ต้องแกล้งสงสัยที่โมโหเมื่อกี้เอามาลงกับเขาด้วยแน่นอน ทีมหัวเราะเสียงดังไม่ได้เป็นห่วงเพื่อนรุ่นน้องที่ถึงกับตัวงอ แต่สนใจหญิงสาวที่กล้าทำร้ายเขตชลมากกว่าแล้วก็เลยระดับหยอกเย้าไปมากเสียด้วย เขารับไหว้หญิงสาว ถือโอกาสพิจารณาอีกครั้งก็ไม่ได้เป็นผู้หญิงที่สวยจัดจนสะดุดตา แต่แววตาคมเจือหวานที่มองตอบเขานั้นไม่ได้เต็มไปด้วยจริตอย่างสาวๆที่เขาคุ้นเคย แต่ก็ไม่ได้ใสซื่ออ่อนต่อโลกแบบเด็กสาวไร้เดียงสา เพื่อนค่ะ จันทน์กะพ้อแก้เบาๆ ก็ถ้ายังเป็นเพื่อนกันอยู่ละนะ ทีมสบตากับเขตชลตั้งแต่รู้จักกันก็เห็นเขตชลมีสาวๆมาให้เลือกไม่ขาดแต่เจ้าตัวก็ไม่เคยมีทีท่าสนใจใครเป็นพิเศษพอได้เห็นยิ้มกว้างตอบมาแบบนี้ก็พอจะเข้าใจได้ "ตามสบายนะ...มีอะไรก็บอกเด็กๆ ได้เลย" ทีมพยักหน้าก่อนจะขอตัวเข้าไปในร้าน เขตชลหยุดยิ้มเมื่อร่างโปร่งก้าวออกห่างจากตัวเขานัยน์ตาคมที่เขาไม่ได้เห็นมานาน เงยขึ้นสบตาเขาเป็นครั้งแรก ต่อไปนี้ไม่หายไปไหนแล้ว...คุณนายอย่าโกรธเขตนานนะ จันทน์กะพ้อกอดอก...มองคนที่หายหน้าไปเป็นปีแล้วจู่ๆก็โผล่มา แล้วยังมาทำเป็นยิ้มแป้นแล้นประจบเหมือนโกลเด้นรีทีฟเวอร์ตัวใหญ่...ไม่ต่างจากเมื่อก่อนเลยเวลาทำให้เธอโกรธ เขาก็ชอบมายิ้มประจบแบบนี้ เหอะ...ทำมาเป็นพูดดี จะเชื่อได้... อ้าย...คุณกลาง เป็นอะไรหรือเปล่าเสียงหวานๆ ดังแทรกขึ้นมา ทำให้สองหนุ่มสาวหันไปยังต้นเสียง พะนอขวัญก้าวเข้ามาพร้อมกับยิ้มบางๆสีหน้าแววตาไม่ได้บอกว่าเป็นกังวลอะไร คุณแพงเขตชลมองรอยยิ้มของคนรักพี่ชายที่ไม่รู้ว่ามาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไรพอมาถึงหน้าร้านที่พะนอขวัญมาสังสรรค์กับเพื่อน เขาก็เห็นว่ามีคนเมากำลังหาเรื่องผู้หญิงอยู่จึงรีบเข้ามาดูเหตุการณ์โดยไม่นึกว่าจะเป็นคุณนายแต่ใบหน้าที่แม้จะถูกเติมแต่งด้วยเครื่องสำอางอย่างที่แทบไม่ค่อยได้เห็นเขายังจำได้ไม่ลืมแล้วเขาก็แถบถลาเข้าไปเพราะรู้ว่าคุณนายเล่นงานพวกมันแน่ เขามองพะนอขวัญและเหลือบกลับมายังคนข้างกาย เมื่อกี้พะนอขวัญเรียกชื่อเล่นของคุณนาย โลกกลมจริงๆ เลย พะนอขวัญหัวเราะเบาๆมองเขตชลและเพื่อนสาว เธอออกมาหน้าร้านเมื่อเขตชลส่งข้อความมาว่าเขามาถึงร้านแล้วแต่ก็มาเห็นจันทน์กะพ้อกำลังถูกคนเมาหาเรื่องพอดียังไม่ทันเข้าไปช่วยก็เห็นเขตชลก้าวเข้าไปหาเพื่อนสาวเสียก่อน เธอก็เลยยืนดูอยู่ไม่ห่างแต่ทั้งคู่คงไม่ทันสังเกตเห็นเธอ ภาพที่เห็นก็คือ...ไม่ใช่แค่เขตชลเข้าไปช่วยพะนอขวัญเพราะความเป็นสุภาพบุรุษเท่านั้นแต่ท่าทางทั้งคู่ดูเหมือนว่าจะรู้จักกันมาก่อนและท่าทางจะรู้จักกันดีมากเสียด้วย เพราะถ้าไม่รู้จักกันดี มีหวังจันทน์กะพ้อต้องหันมาเล่นงานคนที่เข้ามากอดล็อกตัวเธอจากด้านหลังก่อนไอ้คนเมานั้นแน่ เธอก็ลืมคิดไปเลยว่าทั้งสองเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันคณะเดียวกัน และยังสาขาเดียวกันด้วย...ใช่ไหมนะ นั่นสิครับ...โลกกลมจริงๆคุณแพงเป็นเพื่อนกับอ้าย เขตชลเอ่ยเป็นกึ่งถามกึ่งเปรยตอนแรกที่รู้จักพะนอขวัญได้รู้ว่าเธอเป็นคนจังหวัดเดียวกันกับคุณนาย แต่ไม่นึกว่าจะเป็นเพื่อนกันด้วย เพื่อนของพะนอขวัญที่แดนดินเจอเมื่อวานคือจันทน์กะพ้อจริงๆ เขานึกถึงท่าทางเต็มไปด้วยเลศนัยของน้องชาย แดนดินรู้...อะไร คุณกลางก็เป็นเพื่อน...กับอ้าย พะนอขวัญยิ้มบางทีอาจจะเป็น เพื่อนสนิท ที่เพื่อนๆ ชอบแซวกัน เธอแน่ใจว่าต่อจากนี้จะต้องมีเรื่องสนุกๆให้ติดตามแน่นอน นี่...รู้จักกันงั้นเหรอจันทน์กะพ้อมองทั้งสองสลับกันอย่างแปลกใจ คุณแพงเป็นแฟนของพี่ใหญ่...พี่ของเขตเขตชลหันมาสบตาคมหวาน ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าเรื่องจะบังเอิญกลายมาเป็นคนใกล้ตัวแบบนี้ แต่ก็ยังยินดีได้ไม่เต็มที่นักแววตาของคุณนายบอกว่ามีเรื่องต้องสะสางกันอีกมาก จันทน์กะพ้อพยักหน้าความรู้สึกคุ้นตาที่ได้เจอกับคุณพระเอกของเพื่อนสาวในตอนแรกนั้นไม่ผิด เขาทำให้เธอนึกถึงเพื่อนสนิทตลอดสี่ปี...ไม่รู้ว่าจะยังเรียกเขตชลว่าเพื่อนได้หรือเปล่า แวบแรกที่ได้ยินเสียงคุ้นเคยเธอก็รู้สึกดีใจ...หากเพียงเสี้ยววินาทีต่อมาก็มันก็ช่วยไม่ได้ที่มีอารมณ์โมโหตามขึ้นมา เอาเหอะ... โลกเรานี่มันมีเรื่องบังเอิญเยอะจริงๆนะเนี่ย พะนอขวัญยิ้มกริ่ม เมื่อกี้นี้เขตชลแทนตัวเองว่า เขต กับเพื่อนสาวสินะ น่าสนุกจริงๆ นั่นแหละ
จันทน์กะพ้อเดินเคียงเพื่อนสาวเข้ามาในร้านโดยมีร่างสูงเดินตามมาตอนนี้ดนตรีร้านเปลี่ยนจากวงดนตรีมาเป็นการเปิดแผ่นเพลงจากดีเจ คงเป็นช่วงพักเปลี่ยนวงแต่ที่ทำให้สายตาหลายๆคู่พุ่งมาที่เธอกับพะนอขวัญน่าจะเป็นร่างสูงที่เดินตามพวกเธอมา ไม่ต่างจากเมื่อก่อนเลย... ด้วยรูปร่างหน้าตาเขตชลได้รับความสนใจอยู่เสมอ เธอก็ได้รับผลกระทบจากความโดดเด่นของเขตชลอยู่บ่อยๆ ว้าย...นี่พวกแกพาแฟนในอนาคตของฉันมาด้วยเหรอเนี่ยเสียงของเพื่อนในกลุ่มร้องขึ้นมาเมื่อพวกเธอมาถึงโต๊ะโดยมีเพื่อนๆทั้งโห่ทั้งกรีดร้อง แต่แน่นอนว่าความสนใจพุ่งไปยังชายหนุ่มรูปหล่อ คุณเขตชล...วิจิตราอุทาน แทบลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มที่เดินตามเพื่อนสาวเป็นใครเมื่อครู่พะนอขวัญบอกว่าจะออกไปหาใครสักคน แต่กลับมาพร้อมกับหนุ่มหล่อคนดัง เขตชลเองก็ฮ็อตฮิตไม่น้อยกว่าพี่ชายของเขาหรอก อ้าว...แกรู้จักด้วยเหรอไอ้วี่ จันทน์กะพ้อปล่อยให้เสียงเพื่อนๆเซ็งแซ่เรื่องหนุ่มสุดหล่อผ่านหูไป เธอทรุดนั่งลงที่เก้าอี้เงียบๆ มองเพื่อนๆรุมเขตชล ใบหน้าคมที่เคยคุ้นตาตลอดสี่ปีนั้นยิ้มแย้ม โต้ตอบการแซวและตีเนียนจีบหนุ่มของพวกเพื่อนๆอย่างไม่ขัดเขิน พร้อมโปรยเสน่ห์อย่างเป็นธรรมชาติจันทน์กะพ้อหยิบแก้วเครื่องดื่มขึ้นมาจิบและเกือบสำลักเมื่อพะนอขวัญเอ่ยตบท้าย จริงๆพวกแกจะนับญาติทางอ้ายมันก็ได้นะ...คุณกลางน่ะเขาเป็นเพื่อนสนิทของอ้าย
เขตชลยิ้มแล้วโบกมือตอบสาวๆที่ตกลงแยกย้ายกันก่อนเวลาผับปิดหลังจากสนุกกันสุดเหวี่ยง ก่อนจะหันกลับมาทางยังพะนอขวัญและจันทน์กะพ้อที่ทั้งคู่เท้าเอวมองเพื่อนสาวอีกสองคนที่เมาจนแทบประครองตัวไม่อยู่แต่เขาเห็นแล้วว่าพวกสาวๆ จับคู่ดูแลกันดี คนไหนเมาก็จะมีเพื่อนอีกคนตามประกบ ผมว่าไปที่คอนโดดีกว่าไหมคุณแพงท่าทางเนตรกับโมจะไม่ไหว เขาออกความเห็นพอจะรู้ว่าพะนอขวัญอยู่อพาร์ตเมนต์ห้องก็คงไม่ได้ใหญ่โต ถ้าสองคนก็พอไหวแต่สี่คนคงจะลำบาก พะนอขวัญถอนหายใจมองเพื่อนสองคนที่เข้าไปอยู่เบาะหลังรถของเขตชลแล้วเนตรากับสิริลักษณ์มาด้วยกัน เนตรามาค้างที่ห้องของสิริลักษณ์ไม่ได้ไปพักกับเพื่อนๆ ที่หอพักของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเหมือนเคยเพราะคราวนี้มาเพื่อสังสรรค์กับพวกเธอแต่อย่างที่เขตชลพูด ทั้งคู่ดูจะไม่ไหวแล้ว แม้จะไปส่งที่หอพักของสิริลักษณ์แต่ก็ไม่น่าจะประครองตัวเองไหว ไม่เป็นไรหรอกที่ห้องแพงก็น่าจะนอนกันได้ ห้องเธอไม่ได้กว้างนักแต่นอนเบียดกันบนพื้นสักคืนก็คงไม่เป็นไรหรอก คอนโดดีกว่า...จะได้พักกันสบายๆผมมีออฟชั่นเสริมเป็นอาหารเช้ากับกาแฟร้อนๆ ให้ด้วย ก็ต้องยื้อกันสักหน่อยเพราะเขายังไม่อยากปล่อยคุณนายไปตอนนี้ พะนอขวัญสบตาคมก่อนจะเหลือบไปยังเพื่อนสาว เขตชลอาจจะไม่ใช่แค่หวังดีกับพวกเธอเท่านั้นหรอกน่าจะมีจุดประสงค์แอบแฝงอยู่ล่ะ หึๆเอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ
เขตชลเงยหน้าขึ้นจากเปียโนที่เขานั่งจ้องมาสักพักแต่ไม่ได้แตะต้องเบนสายตาไปยังร่างโปร่งที่เดินออกมาจากห้องของแดนดินที่ตอนนี้เจ้าตัวไปค้างห้องรุ่นน้องเพื่อทำโปรเจ็กต์อะไรสักอย่างเขาส่งข่าวบอกน่านฟ้าแล้วว่าพะนอขวัญนั้นมาพักที่ห้องชุดพร้อมเพื่อนๆและปลอดภัยดีล้านเปอร์เซ็นต์ แทบไม่เมาเลย ป่านนี้คงคุยกันอยู่ แม้จะหมั่นไส้พี่ชายบ้างแต่เขาก็ชอบการแสดงออกของพี่ชาย ปกติแล้วน่านฟ้าจะทำชอบทำตัวนิ่งๆบางครั้งก็คลุมเครือให้เดากันไปเอง หากเรื่องของพะนอขวัญนั้นพี่ใหญ่ชัดเจนมาก เขาเอง...ถ้าทำได้สักครึ่งของพี่ใหญ่คงไม่ทำให้เรื่องมันคาราคาซังมาจนถึงป่านนี้ ร่างโปร่งก้าวเข้ามาหาเขาที่หน้าเปียโนเขตชลไม่แน่ใจว่าภายในนัยน์ตาสีเข้มนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ แม้ตลอดเวลาที่อยู่ในร้านจันทน์กะพ้อจะพูดคุยกับเพื่อนๆ เป็นปกติ แต่ก็แทบไม่ได้พูดกับเขาเลยแม้จะปรายตามายังเขาหลายครั้ง หากที่ทำให้เขาใจชื้นอยู่มากก็เห็นจะเป็นเส้นหนังถักที่อยู่บนข้อมือเธอรวมกับพวกกำไลและสร้อยข้อมือหลายเส้น เล่นได้จริงหรือเปล่าน่ะ เขตชลกะพริบตากับคำถามที่เอ่ยขึ้นเมื่อเธอมาหยุดอยู่ข้างกายเขาพรมนิ้วลงบนคีย์เปียโนเป็นท่อนเพลงสั้นๆ แทนคำตอบ เก่งซะด้วย...ไม่เคยรู้เลยนะนี่ อือ...ก็...ไม่ได้คิดปิดบังหรอกเขาเงยหน้าขึ้น ตอนที่ไปเรียนเขาไม่ได้เอาเปียโนไปด้วยแล้วก็ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องเก่าๆหากเพลินไปกับชีวิตใหม่และเพื่อนใหม่ที่น่าตื่นเต้นมากกว่าและยังรู้สึกอยากห่างจากเปียโนไปสักพัก ก็ไม่ได้ว่าอะไร...คนเราก็ต้องมีความลับกันบ้างจันทน์กะพ้อยักไหล่ ความลับอะไรกัน...ตอนโน้นเบื่อเปียโนน่ะก็เลยไม่ได้พูดถึงเขตชลลากเสียงอ้อนๆ ปกติจันทน์กะพ้อไม่ได้เป็นคนช่างประชดประชันแบบนี้หรอกจะต้องทำยังไงให้อ้ายหายโกรธเขตเร็วๆ น้า จันทน์กะพ้อกอดอกจริงๆ ก็ไม่อยากสบตาคมที่ฉายแววอ้อนๆ เหมือนโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวใหญ่ทั้งๆ ที่เจ้าตัวเป็นหมาป่ามากกว่า มองนานเดี๋ยวใจอ่อน...เขตชลก็รู้จุดอ่อนเธอดี ไม่เห็นต้องทำพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องเจอกันอีกแล้ว...วันนี้ก็แค่บังเอิญ จริงๆไม่ต้องรู้จักกันก็ได้ โอ๊ย...ไม่เอาเขตขอโทษ ต่อไปนี้ถึงอ้ายไล่ก็ไม่ไป จะอยู่กับอ้ายตลอดชีวิตเลย เขตชลรีบแย้ง เรื่องโกรธนั่นดูเล็กน้อยไปเลยถ้าเทียบกับการตัดเขาออกไปจากชีวิตนั่นเป็นสิ่งที่เขากลัวที่สุด เพ้อเจ้อ... ไม่เพ้อ...นี่ถ้าไม่เจออ้ายก่อนวันนี้พรุ่งนี้เขตจะไปที่ขอนแก่นแล้วนะ แต่ขันบอกว่าอ้ายมากรุงเทพฯ เขตยังแปลกใจอยู่เลยแล้วก็เจออ้ายจริงๆ ด้วย ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหรอกแต่มันก็ทำให้เรื่องมันง่ายขึ้นเยอะที่จันทน์กะพ้อจะมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯไม่อย่างนั้นเขาอาจจะต้องย้ายสำมะโนครัวแบบที่พี่ใหญ่คิดจะทำ จันทน์กะพ้อรู้ว่าเขตชลติดต่อกับเพื่อนคนอื่นโดยเฉพาะขันติเพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกัน แต่เพื่อนๆ ทุกคนหุบปากสนิทเมื่อเกี่ยวกับเธอและเขาส่วนหนึ่งก็เพราะเธอเองด้วย...ก็ตอนนั้นใครอย่าพูดชื่อเขตชลให้เข้าหูเชียว ตกลงว่าจะเป็นเพื่อนกันต่อไป เขตชลยิ้ม ฮื่อ...เป็นเพื่อนด้วยเป็นแฟนด้วยนะ จันทน์กะพ้อแยกเขี้ยว เมาแล้วก็ไปนอนเหอะ เขตชลกลั้นหัวเราะมองตามร่างโปร่งที่เดินกลับไปยังห้องของน้องชาย ก็ไม่แน่ใจว่าจันทน์กะพ้อไม่เข้าใจจริงหรือแกล้งไม่เข้าใจว่าเขาเอาจริงกับคำพูดนั้นไม่ได้พูดเล่นแบบเมื่อก่อน คุณแพง...เขตชลหันมาทางหญิงสาวอีกคนที่ออกมาจากห้องนอนพี่ชายตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้หากรอยยิ้มของอีกฝ่ายบอกให้รู้ว่าต้องได้ยินอะไรไม่มากก็น้อยนั่นแหละ แพงแค่ออกมาหาน้ำดื่มน่ะค่ะพะนอขวัญเอ่ยกลั้วหัวเราะ ก็ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังหรอกแต่พอเปิดประตูมาก็ได้ยินเสียงของ เพื่อนสนิท คุยกันอยู่ ก็เลยไม่ได้ออกมารบกวน เขตชลยักไหล่ ตกลงเมาหรือเปล่าคะ แล้วคุณแพงเห็นผมดื่มหรือเปล่าล่ะครับเขตชลสบตาคมวาว ครั้งแรกที่เขาเจอพะนอขวัญ แวบแรกก็ทำให้เขานึกถึงจันทน์กะพ้อทันทีทั้งคู่มีบรรยากาศบางอย่างคล้ายกัน พะนอขวัญยิ้ม...แววตาที่เคยขี้เล่นอารมณ์ดีมองเธอมาบอกความมุ่งมั่นบางอย่างหญิงสาวหัวเราะ ก่อนจะเดินต่อไปยังครัว ยังไงล่ะไอ้อ้าย... ====================================================
Create Date : 06 เมษายน 2558 |
|
9 comments |
Last Update : 6 เมษายน 2558 21:34:41 น. |
Counter : 3250 Pageviews. |
|
|
|
แต่ที่แน่ๆ เขตชลจะรุกยังไงให้อ้ายยอมรับหนอ