ปลูกดอกไม้ในฮาเร็ม...เติมเต็มหัวใจให้ชื่นบาน
Group Blog
 
<<
เมษายน 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
27 เมษายน 2558
 
All Blogs
 
จันทน์กะพ้อ บทที่ ๘


เขตชลทิ้งตัวลงนอนแผ่บนเตียงกว้างวางโทรศัพท์ลงข้างๆ ไม่ได้โกรธหรือโมโหอะไรที่จันทน์กะพ้อไม่คุยต่อแค่เธอรับโทรศัพท์ก็โล่งใจไปได้บ้าง ได้ยินเสียงเพลงแว่วๆ มาเจ้าตัวคงอยู่ในร้านอาหารกับใครสักคนถึงวางสายไป

เขาไม่คิดว่าจันทน์กะพ้อจะยอมดีด้วยง่ายๆ หรอก

วันนี้เขากลับมาค้างที่บ้านทันได้เจอพ่อกับแม่ก่อนที่ท่านจะออกไปงานเลี้ยงอะไรสักอย่าง พี่ใหญ่ก็ยังไม่กลับส่วนแดนดินก็ยังอยู่ที่คอนโดมิเนียม ยุ่งกับโปรเจกต์ล้านแปดของตัวเองกับพวกรุ่นน้อง

เสียงดนตรีที่ดังขึ้น เขารีบหยิบโทรศัพท์มาดู

“เออ...ว่าไงวะ”

“อะไร...เสียงซังกะตายนะมึง”ขันติเอ่ยกลั้วหัวเราะ “โดนคุณนายใหญ่แบนเหรอวะ”เขารู้แล้วว่าเขตชลเจอกับจันทน์กะพ้อแล้ว แต่ยังไม่ได้รายละเอียดอะไร ฝ่ายจันทน์กะพ้อก็ปิดปากเงียบเชียวต้องมาง้างทางไอ้คุณชายนี่แหละ

“ไม่โว้ย...กูกะคุณนายดีกันแล้ว” เขตชลรีบบอก

ถึงจะไม่ดีมากก็เถอะ แต่ยังไงก็ถือว่าดีล่ะ

“คิดไปเองหรือเปล่าวะ”

“มึงนี่...เพื่อนกูเปล่าวะ”

ขันติหัวเราะ

“เออ...เพื่อนมึงด้วยเพื่อนคุณนายใหญ่ด้วยคุณนายใหญ่เขาไม่น่าดีกับมึงง่ายๆ” ก็พอจะเดาได้อยู่หรอกว่ายังไงๆสองคนนี้ก็ต้องกลับมาอยู่ด้วยกันสักวัน...หนีใจตัวเองไม่พ้นหรอก

หากก็...บ้าบอพอกันทั้งคู่นั่นแหละ

เขตชลถอนหายใจ

“ก็ไม่รู้ล่ะวะ ยอมคุยกับกู กูก็ว่าดีแล้ว”ถ้าจันทน์กะพ้อโกรธจริงจังละก็ อย่าว่าแต่พูดด้วยเลย หน้าก็จะไม่ยอมมองเรียกว่าตัดออกไปจากความสนใจเลย

“โถ...ไอ้คุณชาย” ขันติกลั้นขำ ทำเป็นปากดีว่าจันทน์กะพ้อยอมดีด้วยแล้ว“แล้วนี่จะเอาไงต่อ...มึงจะย้ายสำมะโนครัวไปอยู่กับคุณนายใหญ่เลยไหม”

“คุณนายจะมาเรียนต่อโทที่กรุงเทพฯ ว่ะ”

“เฮ้ย...จริงเรอะ ข่าวใหญ่นะนี่” ขันติตื่นเต้นเขารู้แค่ว่าจันทน์กะพ้อมาทำธุระที่กรุงเทพฯแต่ไม่นึกว่าจะมีแผนย้ายมาเรียนต่อแบบนี้ อย่างนี้ก็เข้าทางไอ้คุณชายน่ะสิ

“อือ...ข่าวดีสุดๆ นั่นแหละ”แต่ก็ยังมีเรื่องที่เป็นปริศนาอยู่

เรื่องทายาทเจ้าคุณปู่...อะไรนั่น

เขาเดาว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องที่จู่ๆ จันทน์กะพ้อก็เปลี่ยนใจมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ

แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไร...นี่ก็เป็นโอกาสที่เขาจะต้องคว้าไว้ไม่ว่าภายหน้าจะเป็นอย่างไร แต่เขาจะไม่เดินออกไปจากจันทน์กะพ้ออีกแล้วและจะไม่ยอมให้จันทน์กะพ้อก้าวออกไปเองด้วยเช่นกัน

“แล้วพ่อเป็นไงบ้างหมอให้ออกจากโรงพยาบาลหรือยัง”

“หมอบอกดูอาการอีกสองสามวันถ้าไม่มีอะไรก็ออกได้แล้ว แต่พ่อกูสิ บ่นอยากกลับบ้านอยู่นั่นแหละ”ขันติตอบพร้อมกับหัวเราะ โล่งใจที่พ่อไม่ได้เป็นอะไรมาก

เขตชลพลอยหัวเราะไปด้วย

“แล้วมึงจะกลับมาเมื่อไหร่”

“พรุ่งนี้ก็กลับ วันจันทร์มีประชุมกับลูกค้า” ที่บ้านมีทั้งมารดาและพี่ชายกับพี่สะใภ้คอยดูแลทำให้เขาไม่ต้องเป็นห่วงมากนักที่จะต้องกลับมาก่อน

“เออๆ แล้วมาเจอกัน”

เมื่อเพื่อนสนิทวางสายไปแล้วเขตชลจึงวางโทรศัพท์ลงข้างๆ นอนมองเพดานนิ่งอดนึกย้อนไปถึงช่วงแรกที่ได้เจอกับเพื่อนๆ อย่างขันติรวมทั้งจันทน์กะพ้อ ช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดอีกช่วงหนึ่งของเขา

แรกเป็นเฟรชชี่เขายังไม่เพื่อนใหม่ไม่มีเพื่อนที่รู้จักมาเรียนที่นี่เพื่อนห้องเดียวกันเลือกเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ หรือไม่ก็ไปเรียนต่อต่างประเทศแต่เมื่อเปิดเทอมเริ่มทำกิจกรรมและรับน้องก็เริ่มรู้จักเพื่อนใหม่ๆ มากมายหากตอนแรกนั้นยังไม่รู้จักจันทน์กะพ้อ ส่วนขันตินั้นดูอีกฝ่ายจะทำท่าไม่ค่อยชอบหน้าเขาเท่าไร

เมื่อรุ่นพี่ประกาศหาตัวแทนคณะเพื่อไปประชุมกับคณะอื่น...ทุกคนก็ยังสงวนท่าทีและรุ่นพี่ก็รู้ว่าในครั้งแรกอาจจะต้องใช้วิธีบังคับกันหน่อย

“ใครรู้ตัวว่าเกิดวันวาเลนไทน์ให้ออกมา”คำพูดของรุ่นพี่เรียกเสียงฮือฮา

ไม่น่าเชื่อว่าในบรรดานักศึกษานับร้อยคนในรุ่นเขาจะมีแค่สองคนที่เกิดวันที่๑๔ กุมภาพันธ์

เขาก็เลยได้รู้จักกับจันทน์กะพ้อเป็นครั้งแรก



เขตชลเหลือบมองเพื่อนนักศึกษาหญิงที่มายืนคู่กับเขาอยู่ตรงหน้ากลุ่มนักศึกษาปีหนึ่งทั้งหมดแวบแรกที่เห็นก็ไม่ได้สะดุดตาอะไรมากมาย แต่ลักษณะการเดินคล่องแคล่วทะมัดทะแมงไม่ได้นุ่มนิ่มบอบบาง

“แนะนำตัวต่อเพื่อนๆ ด้วยครับเริ่มด้วยฝ่ายชายก่อนเลย” เสียงรุ่นพี่ดังมา

“เขตชล อังสนาครับ” เขาแนะนำตัวเองตามคำสั่งได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากกลุ่มรุ่นพี่สาวๆ เขารู้อยู่แล้วว่าหน้าตาเขาเป็นที่จับตามองแต่ก็พยายามไม่ใส่ใจ

“ขอชื่อเล่นด้วย...” เสียงรุ่นพี่ดังมาอีก

“เขต...ครับ” ปกติเขามักจะให้เพื่อนๆเรียกคำแรกของชื่อเป็นชื่อเล่นแทน

“ฝ่ายชายคือเขตนะครับเอาล่ะมาทางฝ่ายหญิงกันบ้าง”

เขาเหลือบไปทางหญิงสาว...เขาเรียนโรงเรียนชายล้วนมาตลอดผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกันที่พอรู้จักก็มักเป็นลูกหลานของเพื่อนพ่อแม่ เพื่อนร่วมแข่งขันเปียโนที่เจอะเจอกันบ่อยหรือไม่ก็เพื่อนในโรงเรียนกวดวิชา แต่เขาไม่เคยมีเพื่อนสนิทผู้หญิงมาก่อน

โดยเฉพาะเมื่อเรียนมัธยมแล้ว...ผู้หญิงมักไม่ค่อยมองเขาเป็นเพื่อน

บางครั้งเขาก็อยากได้เพื่อนธรรมดาๆ บ้าง

“จันทน์กะพ้อ นาหมื่น ชื่อเล่นอ้ายค่ะ”

ไม่ใช่เพียงแค่เขาเท่านั้นแต่ทุกคนต่างก็พากันชะงักไปอึดใจ เพราะชื่อแปลกสะดุดหูก่อนจะมีเสียงรุ่นพี่คนเดิมประกาศ

“เขตกับอ้ายนะครับ...ปรบมือให้คู่รักวาเลนไทน์เอ๊ย...คู่ตัวแทนนักศึกษาคณะเราด้วยครับ”



จันทน์กะพ้อยืนอยู่กับหัวหน้าคนงานอาวุโสมองคนงานที่ทยอยขึ้นรถบิ๊กอัพกลับที่พักหลังจากทำงานมาทั้งวันตลอดสามวันเธออยู่ที่ไซต์งานซึ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรรขนาดใหญ่ซึ่งเน้นกลุ่มลูกค้าฐานะปานกลางค่อนไปทางดีซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่เติบโตอย่างมากในตลาดต่างจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ๆ

นารีเป็นหญิงแกร่ง ทำงานเก่ง เข้มงวดแต่ก็ใจกว้างทำให้คนทำงานด้วยทั้งรักและนับถือ สามีของเธอเสียไปหลายปี จึงทำธุรกิจของสามีต่อขยายงานจนใหญ่โต เธอรู้จักกับนารีเพราะเธอเป็นครูสอนพิเศษให้กับลูกชายของนารีตอนนี้เจ้าตัวไปเรียนอยู่ในกรุงเทพฯ แล้ว

“ได้ข่าวว่าช่างอ้ายสิไปอยู่กรุงเทพฯ แม่นบ่”

“จ้า...ลุงแก่น” จันทน์กะพ้อตอบ เธอสนิทกับลุงแก่นดีโครงการแรกที่เธอทำลุงแก่นก็เป็นหัวหน้าคนงานเพราะเป็นผู้หญิงทำให้เธอถูกลองของจากพวกคนงานผู้ชายบ่อยๆ ก็ได้รับคำแนะนำจากลุงแก่นเรื่องการรับมือกับคนงานอยู่เสมอ

“โอ๊ย...เสียดาย บ่ได้ตั้งวงกันอีกโดนล่ะทีนี้”ลุงแก่นหัวเราะหึๆ ถึงจะเป็นผู้หญิงแต่จันทน์กะพ้อก็ทำงานได้ดีไม่ต่างจากผู้ชายหรอกแถมดื่มเก่งไม่แพ้พวกคนงานหนุ่มๆ หรอกเมื่อก่อนเขานั่งดื่มกับหญิงสาวรุ่นลูกคนนี้บ่อยๆ ก็นึกเอ็นดูเหมือนลูกสาวอีกคนนั่นแหละ

“อีกปีสองปีก็กลับมาอยู่ทางบ้านเฮาคือเก่าล่ะลุงแก่น...เดี๋ยวมื่อใด๋ว่างๆอ้ายซิมาหา” จันทน์กะพ้อเอ่ยยิ้มๆ เธอไม่คิดว่าตัวเองจะอยู่กรุงเทพฯนานเกินความจำเป็น และเธอก็ตั้งใจจะกลับบ้านบ่อยๆ ด้วยบางทีก็คงมาเยี่ยมลุงแก่นที่นี่ เพราะคงใช้เวลานานทีเดียวกว่าโครงการนี้จะเสร็จ

“ดีๆมามื่อใด๋ก็บอก...หรือสิให้ลุงไปกินดองก็บอกเด้อ อยากกินลาบคัก” ลุงแก่นเย้า เขารู้ว่าจันทน์กะพ้อยังโสดแล้วก็ดูจะไม่สนใจมองผู้ชายคนไหน เนื่องจากเห็นเป็นลูกเป็นหลานด้วยเขาก็อดเย้าเรื่องแต่งงานบ่อยๆไม่ได้

จันทน์กะพ้อหัวเราะ...เสียงดนตรีดังขึ้นติดกันสองสามครั้งจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู มีข้อความส่งมา... เธอยกมุมปากขึ้นก่อนจะเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์เช่นเดิมโดยยังไม่ตอบกลับ

คร้านจะห้ามเรื่องโทรศัพท์แล้ว...อยากทำอะไรก็ทำไป

“บ่ได้กินดองง่ายดอกลุงแก่น”

เธอไม่คิดจะแต่งงานเร็วๆ นี้หรอก

“แต่ถ้าลุงอยากกินลาบ...ไปกินกับอ้ายแลงนี้ก่อนเลยก็ได้ร้านใด๋แซบบอกมาเลย อ้ายเลี้ยงเอง ได้กินไวกว่าลาบกินดองแท้”

ลุงแก่นหัวเราะชอบใจ อยากรู้จริงๆ ว่าผู้ชายจะสามารถพิชิตใจจันทน์กะพ้อได้

สาวๆ สมัยนี้ก็ชอบอยู่เป็นโสดกันเยอะเสียด้วย



คุณวรัญญาโคลงศีรษะเมื่อเห็นว่าลูกชายแวบหายไปแล้ววันนี้เธอลากลูกชายคนกลางที่นานๆ จะอยู่ติดบ้านสักทีมางานแสดงนาฬิกานานาชาติซึ่งบริษัทของเพื่อนเธอเป็นตัวแทนจำหน่ายที่ห้างลักษณาก็นึกว่านาฬิกาจะช่วยดึงเขตชลไว้แต่เธอหันไปทักทายเพื่อนไม่ถึงสองนาทีเจ้าตัวแวบหายไปเสียแล้ว

“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณหยา...” คุณสิรินทราเจ้าของร้านเพชรชื่อดังเอ่ยถาม

“ก็ตากลางน่ะสิคะ หายไปแล้ว...จริงๆ เลยลูกคนนี้”คุณวรัญญาส่ายหน้าเบาๆ อย่างอ่อนใจ หากริมฝีปากยังคงยิ้มทำให้คนมองรู้ว่าเจ้าตัวไม่ได้โกรธลูกชายเลยสักนิด

“โอ๊ย...เหมือนกันกับตาวิชของฉันเลยค่ะยังไม่ทันได้เจอเจ้าภาพก็หายไปแล้ว” คุณสิรินทราเอ่ยถึงลูกชายตัวเองบ้าง “รู้สึกว่าตาวิชจะเป็นเพื่อนกับลูกชายของคุณหยาสินะคะ”ถ้าจำไม่ผิด ลูกชายของเธอน่าจะเรียนห้องเดียวกับลูกชายคนกลางของบ้านอังสนาแต่ไม่ได้ถึงกับสนิทสนมอยู่กลุ่มเดียวกัน

“น่าจะใช่นะคะ เรียนอยู่ห้องเดียวกัน”คุณวรัญญาพยักหน้าเธอจำได้ว่าตอนมัธยมเขตชลก็มีเพื่อนเป็นกลุ่มเฮฮาในห้องเรียนเป็นปกติแต่ก็ไม่มีใครสนิทสนมด้วยเป็นพิเศษ ไม่เหมือนตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยเพราะเป็นห่วงที่เขาไปเรียนต่างจังหวัดเธอจึงไปเยี่ยมเขาบ่อยๆเขตชลมีเพื่อนสนิทมากอยู่สองคนและเพื่อนเป็นกลุ่มอีกกลุ่มใหญ่ต่างจากตอนมัธยม ตั้งแต่เรียนจบก็แยกย้ายกันไปทำงานรู้สึกจะไม่มีใครเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ กันสักคน

คุณวรัญญายิ้มให้กับคุณสิรินทราอย่างมีไมตรีเธอเองก็รู้จักกับครอบครัวของคุณสิรินทรามานานเพราะอยู่ในแวดวงธุรกิจและวงสังคมด้วยกันโดยเฉพาะคุณหญิงเกศแก้วผู้เป็นแม่สามีของคุณสิรินทราก็เป็นผู้ใหญ่ที่เธอและครอบครัวเคารพนับถือ

ทั้งสองแยกกันไปทักทายผู้ร่วมงานคนอื่นๆ ซึ่งล้วนเป็นคนในแวดวงธุรกิจและวงสังคมที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีรอการเริ่มงานอย่างเป็นทางการ

“พี่หยา...สวัสดีค่ะ” เสียงหวานๆ ทำให้คุณวรัญญาหันไปก็พบกับร่างโปร่งบางของเพื่อนรุ่นน้องที่ไม่ได้เจอกันนานเพราะเจ้าตัวอยู่ต่างประเทศเสียเป็นส่วนใหญ่

“ภา...กลับมาตั้งแต่เมื่อไร” คุณวรัญญารับไหว้ก่อนจะดึงร่างบางมากอดศศิภาเป็นเพื่อนรุ่นน้อง รู้จักกันตอนที่อยู่โรงเรียนประจำที่สวิสเซอร์แลนด์แล้วยังตามไปเรียนวิทยาลัยเดียวกันที่อังกฤษ จนกระทั่งแยกกันไปมีครอบครัวโดยศศิภาแต่งงานกับนักการทูตหนุ่มจึงได้ติดตามสามีไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่

“กลับมาสัปดาห์ที่แล้วค่ะ ขอโทษนะคะ...มัวแต่ยุ่งเรื่องนั้นเรื่องนี้เลยยังไม่ได้ไปหาพี่หยาเลย วันนี้ภาก็มาแทนคุณพ่อท่าน” คุณศศิภากอดตอบทุกครั้งที่กลับเมืองไทยเธอก็จะไปหาคุณวรัญญา เพราะใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เด็กจนกระทั่งแต่งงานก็ยังไม่ค่อยได้อยู่เมืองไทยทำให้เธอมีเพื่อนคนไทยไม่เยอะนัก และคุณวรัญญาจึงเป็นเหมือนทั้งเพื่อนทั้งพี่สาว

“โอ๊ย...ไม่ต้องขอโทษหรอกจ้ะ ไม่เป็นไรๆวันนี้ได้เจอกันก็ดีใจแล้ว” คุณวรัญญายิ้มและถามถึงสามีของศศิภาซึ่งตอนนี้เป็นเอกอัคราชทูต“แล้วนี่ท่านทูตกลับมาด้วยหรือเปล่าจ๊ะ”

“คุณเกริกจะมาสัปดาห์หน้าค่ะ ภากลับมาก่อน”

“คราวนี้จะอยู่นานหรือเปล่า”

“คงนานค่ะ คราวนี้คุณเกริกมาประจำกระทรวง”

“ดีจริง...คราวนี้จะได้เจอกันยาวๆ หน่อย”คุณวรัญญายิ้มอย่างยินดี

“แล้วนี้พี่หยามาคนเดียวเหรอคะคุณพี่ผู้ชายไม่มาด้วย”

“คุณเวศม์ก็ไปงานอะไรกับเพื่อนเขาจ้ะความจริงพี่มากับตากลาง แต่แวบหายไปแล้ว”

“ตากลาง...คงโตเป็นหนุ่มแล้วนะคะ ไม่ได้เจอกันเลยทั้งสามหนุ่ม”เธอเคยเจอลูกชายทั้งสามของคุณวรัญญาตั้งแต่ยังเป็นเด็กอยู่เลย

“ใช่แล้วจ้ะ เรียนจบแล้วตอนนี้ก็มาทำงานที่บริษัทเหมือนตาใหญ่ เหลือตาเล็กคนเดียวที่ยังเรียนแต่อีกปีเดียวก็จบแล้วจ้ะ”

“ว้าว...เป็นหนุ่มกันหมดแล้วแต่คุณแม่ยังสาวยังสวยอยู่เลยนะคะ” คุณศศิภาเย้า แต่เธอไม่ได้ยอเกินจริงเพราะรุ่นพี่สาวก็ยังดูสาวสวยอยู่เสมอ

“แหม...ขอบใจจ้ะ” คุณวรัญญาหัวเราะ

“เสียดายที่ภากับคุณเกริกไม่มีลูกสักคน” แม้น้ำเสียงจะยังปกติหากแววตาของศศิภาหม่นลงเล็กน้อย ถึงจะทำใจได้แล้วที่ไม่มีโอกาสมีลูกของตัวเองแต่บางทีก็อดเศร้าไม่ได้

คุณวรัญญาแตะมือรุ่นน้องสาวแม้จะเป็นครอบครัวที่ดีพร้อมทุกด้าน แต่ศศิภากับสามีก็ไม่มีทายาทเป็นที่น่าเสียดาย ไม่เพียงแต่เจ้าตัวเท่านั้น คนรอบข้างเองก็เสียดายแทนด้วยเช่นกันเพราะเกริกเกียรติเป็นทายาทคนเดียวของไกรฤกษ์ อักขรลักษณา เจ้าของห้างลักษณาแห่งนี้

อักขรลักษณาเป็นตระกูลเก่าแก่รับราชการมาหลายชั่วคน มีคุณไกรฤกษ์ที่ผันตัวเองมาทำธุรกิจเต็มตัวนอกจากห้างลักษณาแล้วคุณไกรฤกษ์ยังเป็นหุ้นส่วนในธุรกิจใหญ่อีกมากนับเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีของเมืองไทยตอนนี้จึงกลายเป็นว่าอักขรลักษณาอาจจะไม่มีทายาทรุ่นต่อไป จะมีก็แต่ธรรม...ซึ่งเป็นหลานทางฝ่ายภรรยาที่เสียไปแล้วของคุณไกรฤกษ์ตอนนี้เป็นผู้จัดการห้างลักษณา

“ขอบคุณค่ะ...” คุณศศิภายิ้มบางๆ แล้วเอ่ยต่อด้วยแววตาสดใสขึ้น“เดี๋ยวหลานสาวจะมาอยู่ด้วยแล้วค่ะ คราวนี้คงจะหายเหงาแล้ว”

“หลานสาว...” เป็นคุณวรัญญาที่ต้องประหลาดใจ

“ค่ะ...ลูกสาวของคุณก้อง” คุณศศิภาลดเสียงลง

คุณวรัญญาเกือบอุทานออกมา คุณก้องที่ศศิภาหมายถึงคือน้องชายของเกริกเกียรติซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่ยังหนุ่มเรื่องราวที่ผ่านมานานจนหลายคนแทบลืมไปแล้ว แต่พอย้อนนึกถึงเธอก็จดจำชายหนุ่มรุ่นน้องคนนั้นได้

ก้องเกียรติ อักขรลักษณา...ทายาทอีกคนของคุณไกรฤกษ์



                             ======================================






Create Date : 27 เมษายน 2558
Last Update : 27 เมษายน 2558 16:24:12 น. 9 comments
Counter : 2975 Pageviews.

 
พี่ฬีคร๊าาาาาา ตัวเล่มเร็วนะคะ...ใกล้ขาดใจแล้ว


โดย: ของขวัญ (^=A=^) IP: 119.63.88.194 วันที่: 27 เมษายน 2558 เวลา:17:42:23 น.  

 
โอ้ยยยยย.......คนใกล้ตัวสิเนี่ยำลานเจ้าคุณปู่เนี่ยยยยยย


โดย: sugar IP: 1.4.228.1 วันที่: 27 เมษายน 2558 เวลา:20:08:35 น.  

 
อ้าว วงเดียวกันซะแล้ว ยิ่งสานสัมพันธ์กันง่ายแน่ อ้ายกลายเป็นทายาทสายตรงเพียงคนเดียวสินี่


โดย: goldensun IP: 61.91.4.2 วันที่: 27 เมษายน 2558 เวลา:21:18:28 น.  

 
ทายาทเจ้าคุณปู่จริงๆ ด้วย


โดย: nasa IP: 110.78.149.68 วันที่: 27 เมษายน 2558 เวลา:21:44:17 น.  

 
ชอบมากๆๆๆๆเปิดเข้ามาดูทุกวันเลยค่ะคุณฬี


โดย: pinnnn IP: 180.183.226.134 วันที่: 27 เมษายน 2558 เวลา:22:21:41 น.  

 
ใกล้เข้าอีกนิดแล้วซิเนี่ยะ ....อ้ายน่าจะใช้นามสกุลของแม่หรือปล่าว ....


โดย: ต่างแดน IP: 94.23.252.21 วันที่: 28 เมษายน 2558 เวลา:1:20:01 น.  

 
อยากได้เป็นเล่มเร็วๆ จ๊ากกกกกกกกกกก


โดย: WOW IP: 110.77.218.47 วันที่: 28 เมษายน 2558 เวลา:9:58:39 น.  

 
สนุกมากค่ะ รอเล่มอย่างใจจดใจจ่อ


โดย: kaewzay IP: 58.137.99.203 วันที่: 30 เมษายน 2558 เวลา:17:16:44 น.  

 
มาส่องบทที่ ๙ ทุกวัน เมื่อไรจะมานะ กระซิกกระซิก


โดย: wow IP: 110.77.154.23 วันที่: 6 พฤษภาคม 2558 เวลา:8:21:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอกไม้ของฬีฬา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 84 คน [?]




จิบกาแฟ...อ่านนิยาย...ชมดอกไม้...ในสวนสวย
Friends' blogs
[Add ดอกไม้ของฬีฬา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.