ปลูกดอกไม้ในฮาเร็ม...เติมเต็มหัวใจให้ชื่นบาน
Group Blog
 
 
มีนาคม 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
30 มีนาคม 2558
 
All Blogs
 

จันทน์กะพ้อ บทที่ ๒

จันทน์กะพ้อบทที่ ๒

จันทน์กะพ้อก้าวตามเพื่อนสาวเข้าไปในร้านอาหารซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเจ้าของร้านเป็นรุ่นพี่ของตัวเองพะนอขวัญบอกว่าจะเลี้ยงรับที่เธอมากรุงเทพฯ เป็นครั้งแรกเสียหน่อยเป็นร้านที่มาสังสรรค์กับเพื่อนเป็นประจำ บรรยากาศอาร์ตๆของร้านนี้ทำให้เธอมองอย่างชื่นชม

“สวัสดีค่ะเฮียแป้ง” พะนอขวัญร้องทักชายร่างใหญ่ในร้าน ตอนนี้มีลูกค้าเพียงแค่สองสามโต๊ะเพราะเพิ่งเปิดร้านได้ไม่นาน ถ้าค่ำอีกสักนิดคนคงเต็มร้าน

“ไอ้แพง...หวัดดีๆแล้วนั่น...พาแฟนใหม่ของเฮียมาเรอะ”เฮียแป้งทักรุ่นน้องสาวอย่างอารมณ์ดี แล้วเลยไปยังหญิงสาวรุ่นเดียวกันที่ตามมาด้วยรูปร่างและความสูงใกล้เคียงกับพะนอขวัญ หากที่ต่างกันชัดก็คงเป็นทรงผมยาวปะบ่าผิดจากผมยาวถึงเอวของพะนอขวัญซึ่งตอนนี้เกล้าขึ้นหลวมๆ อย่างที่เจ้าตัวทำเป็นประจำ

อีกสิ่งที่คล้ายกันก็คงจะเป็นใบหน้าที่อาจจะไม่ได้สวยสะดุดตาแต่ดวงตาคมนั้นก็ดึงดูดความสนใจได้ไม่น้อย และรอยยิ้มจางๆบนริมฝีปากนั้นก็ทำให้ดวงหน้าละมุนที่ไม่ได้แต่งแต้มเครื่องสำอางสักนิดนั้นน่ามองดีทีเดียว

“เดี๋ยวก็ฟ้องซ้อหรอก” พะนอขวัญหัวเราะ เฮียแป้งก็เป็นคนอารมณ์ดีชอบยั่วแหย่ให้หัวเราะเสมอๆแต่เวลาโหดก็น่ากลัวอยู่ไม่น้อย

“ซ้อ...เซ้อที่ไหน ไม่มี” เฮียแป้งเสียงสูงอย่างที่รู้ว่าแกล้ง

พะนอขวัญโคลงศีรษะทั้งขำทั้งหมั่นไส้รุ่นพี่ก่อนจะแนะนำเพื่อนสาว

“นี่อ้าย...เพื่อนแพงค่ะอ้ายนี่เฮียแป้งนะ”

จันทน์กะพ้อไหว้รุ่นพี่ซึ่งน่าจะอายุห่างจากพวกเธอพอสมควรแต่ท่าทางสนิทสนมกับเพื่อนสาวไม่น้อย

“เห็นแพงบอกว่าเฮียทำอาหารอร่อยแถมหล่อและใจดีด้วย”

เฮียแป้งหัวเราะเสียงดังรับไหว้หญิงสาว

“ไอ้แพงมันตาถึง...แต่เฮียก็ยอมรับล่ะนะว่าหล่อน้อยกว่าแฟนแพงมันนิดนึง”

สองสาวหัวเราะเบาๆ ไม่ค้านว่า ‘นิดนึง’ของเฮียแป้งนั้นขนาดไหน

“แล้วจะนั่งไหนในร้านหรือในสวนล่ะ” เฮียแป้งถาม เพราะนอกจากในร้านแล้วยังมีสวนเล็กๆด้านในซึ่งพวกรุ่นน้องเขามักจะไปนั่งกันในสวนเสียมากเพราะเหมาะกับนั่งยาวๆสังสรรค์เฮฮากันได้

“ในร้านดีกว่าค่ะมากันสองคนแค่นี้” พะนอขวัญตอบ

“โอเค เลือกโต๊ะเอาเลยเดี๋ยวเฮียเอาเมนูมาให้ว่าที่แฟนเฮียดู” เฮียแป้งขยิบตาให้ก่อนจะเดินไปที่เคาน์เตอร์สองสาวหัวเราะกัน ก่อนจะเลือกโต๊ะนั่งชิดผนัง

“เออ...แล้วนี่แพงมาอยู่กับฉันทั้งวันคุณพระเอกของแพงจะเขม่นหน้าฉันไหมนี่” จันทน์กะพ้อเอ่ยเมื่อนั่งลงแล้วตั้งแต่ไปรับเธอที่หมอชิต พะนอขวัญก็อยู่กับเธอตลอด แล้วก็แทบไม่เห็นเพื่อนใช้โทรศัพท์เลยต่างจากพฤติกรรมเพื่อนๆ ที่เคยมีแฟนแล้วอยู่ในช่วงโปรโมชั่นแบบนี้แทบจะห่างโทรศัพท์ไม่ได้เลยทีเดียว

พะนอขวัญค้อนให้เพื่อนสาวรู้สึกว่าแก้มร้อนขึ้น

“บ้า...เขาไม่เวอร์อย่างนั้นหรอก”

“จริงๆ พามาด้วยก็ได้นะฉันไม่สำลักน้ำตาลหรอก” จันทน์กะพ้อหัวเราะคิกคักเพราะท่าทางเขินของเพื่อนสาวไม่บ่อยหรอกที่จะทำให้พะนอขวัญเขินได้

“แซวเพื่อนนี่สนุกมากใช่ไหม”

“ใช่สิ...”

“ระวังเหอะ...อย่าให้ถึงคราวฉันเอาคืนบ้าง”พะนอขวัญพูดอย่างหมายมั่นปั้นมือ อย่าให้เธอได้มีโอกาสบ้างก็แล้วกัน

“ยากล่ะ...เนื้อคู่ฉันอาจจะยังไม่เกิด”จันทน์กะพ้อยักคิ้ว คงยากที่จะถูกพะนอขวัญแซวในเวลาใกล้ๆ นี้ “แต่พูดจริงๆ นะชวนคุณพระเอกมาด้วยก็ได้ ฉันไม่ได้อยากแยกคู่รักหวานแหวว”

“ไอ้อ้ายนี่...”พะนอขวัญโคลงศีรษะอย่างอ่อนใจ ล้อมากๆ เธอก็ชักไม่อยากจะเขินแล้ว “จริงๆก็อยากมาอยู่หรอกนะ แต่ตัวไม่อยู่” ไม่อย่างนั้นก็คงไม่พลาดที่จะมาหรอก

“อ้าว...ซะงั้น แต่ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวคงได้เจอกันบ่อยๆ มั้ง” จันทน์กะพ้อเสียดายเล็กน้อยแต่ก็อย่างที่พูดเพื่อนสาวกับคนรักนั้นน่าจะคบหากันยาวเพราะถึงขนาดแนะนำพาไปแนะนำให้พ่อกับแม่รู้จักแล้ว

ไม่แน่...พะนอขวัญอาจจะต้องออกแบบการ์ดแต่งงานตัวเองเร็วๆนี้ก็ได้

“ก็อ้ายมาอยู่กรุงเทพฯแล้วคงได้เจอกัน” พะนอขวัญพยักหน้านิดๆก่อนจะหยุดเมื่อเฮียแป้งมาพร้อมกับรายการอาหาร และยังบอกว่าจะทำอะไรเด็ดๆ มาให้ชิม

“วันนี้กินกันสองคนไปก่อนเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยจัดเต็ม พวกเพื่อนๆ น่าจะมากันได้หลายคน” พะนอขวัญเอ่ยกับเพื่อนสาวหลังจากสั่งอาหารไปแล้วพอรู้ว่าจันทน์กะพ้อจะมากรุงเทพฯบรรดาเพื่อนสมัยมัธยมที่มาเรียนและยังทำงานกันอยู่ที่กรุงเทพฯ ก็รีบนัดเจอกันแต่เพราะพรุ่งนี้ยังเป็นวันทำงานจึงนัดกันเย็นพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันศุกร์แทนเพื่อที่จะได้เฮฮากันได้เต็มที่ไม่กังวลเรื่องต้องไปทำงาน

จันทน์กะพ้อพยักหน้าเธอเองก็ดีใจที่จะได้เจอเพื่อนๆ กันเพราะตั้งแต่แยกย้ายกันไปเรียนก็ได้เจอกันประเดี๋ยวประด๋าวบางคนแทบไม่ได้เจอกันตั้งแต่เรียนจบมัธยมปลาย

“ไม่น่าเชื่อว่าเพื่อนเราก็อยู่กรุงเทพฯกันเยอะ”

“อือ...นั่นสิ” พะนอขวัญพยักหน้าเห็นด้วยพอลองนับดูแล้วเพื่อนๆ ที่เข้ามาเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯ และรอบๆนั้นกว่าสิบคนทีเดียว “แต่ก็ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไรมีไอ้เนตรนั่นแหละที่เจอบ่อยที่สุด”เธอเอ่ยถึงเนตราซึ่งเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันแต่คนละคณะ

“เออ...แล้วพรุ่งนี้เนตรมาหรือเปล่าน่ะ”

“มันบอกว่าน่าจะมาได้ ไม่มีเวร”

“ไอ้นี่ก็ใจเอา...อยู่ตั้งชลบุรี”

“ไอ้เนตรมันก็งี้...เรื่องเมา เอ๊ยเรื่องเม้าท์ ถึงไหนถึงกัน” พะนอขวัญหัวเราะ นึกถึงว่าที่คุณหมอเนตราตอนนี้เรียนปีสุดท้าย แต่ไปเรียนชั้นคลีนิคอยู่ที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด “เห็นบอกว่าเดี๋ยวจะกลับเข้ามากรุงเทพแล้วล่ะใกล้จะจบแล้วต้องกลับมาที่คณะ”

“ดีๆ จะได้มาเม้าท์มอยกัน”จันทน์กะพ้อยิ้มกว้าง มีเพื่อนเยอะๆ ก็ดี โดยเฉพาะเนตราถ้าขาดไปก็ขาดสีสันไปเลยทีเดียว

“ดีนะที่อ้ายจะมาเรียนต่อที่นี่จะได้เจอกันบ่อย”แม้จะยังแปลกใจที่เพื่อนสาวตัดสินใจมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ก็ตาม

“อือ...ดีใจเหมือนกันที่แพงจะเรียนด้วยนะ”เธอดีใจมากที่พะนอขวัญบอกว่าจะสมัครเรียนต่อด้วย แถมยังจะเรียนสาขาเดียวกัน

“อืม...ก็ไหนๆ ก็ต้องเรียนแล้วมีเพื่อนเรียนน่าจะดีกว่า แต่ว่า...ต้องสอบได้ก่อนนะ” พะนอขวัญหัวเราะแต่ก็หวั่นใจอยู่ไม่น้อยเรื่องการสอบเธอวางแผนไว้นานแล้วว่าเมื่อทำงานไปได้สักพักก็จะเรียนต่อปริญญาโทความตั้งใจของเธอก็คือการกลับไปทำงานที่บ้านเกิด สามารถที่จะสร้างธุรกิจเล็กๆของตัวเองได้ การมีเพื่อนเรียนด้วยก็น่าจะดีกว่า

“นั่นสิ...ประเด็นสำคัญล่ะจะสอบได้ไหมนี่” จันทน์กะพ้อหัวเราะ เธอเองก็ตั้งใจเรื่องเรียนต่อเช่นกันหากความตั้งใจแรกก็คือเรียนที่มหาวิทยาลัยเดิม เพราะเธอทำงานอยู่แถวนั้นหากก็จำเป็นต้องเปลี่ยนความตั้งใจจนได้

“เออ...แล้วเรื่องงานล่ะอ้ายลาออกเลยเหรอ” พะนอขวัญถาม เธอยังไม่ได้คุยรายละเอียดเลยว่าเพื่อนสาววางแผนไว้ว่างยังไงบ้างรู้สึกว่าจันทน์กะพ้อจะทำงานกับเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรแห่งหนึ่งมาตั้งแต่เรียนจบเธอก็ไม่ค่อยเข้าใจงานของเพื่อนสาวหรอกแต่จะเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยคนละที่กันอย่างนี้ไม่น่าจะไหว

“ก็...ทีแรกก็ว่าจะลาออกนั่นแหละแต่พี่นาเขาไม่อยากให้ออกเลย ก็เลยให้มาช่วยดูโปรเจกต์แถวรังสิตก็ดีเหมือนกันจะได้มีงานทำด้วย ไม่ต้องหางานใหม่” จันทน์กะพ้อตอบงานของเธอเรียกว่าเป็นผู้ช่วยของพี่นารีมากกว่างานวิศวกรพี่นารีเป็นเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรหลายแห่งทั้งในขอนแก่นและจังหวัดอื่นๆเป็นหญิงแกร่งที่ได้ฉายาว่าเจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์แห่งภาคอีสานเธอเองก็ได้ประสบการณ์ดีๆ ทั้งการทำงานและเรื่องชีวิตจากพี่นารีมาไม่น้อย

พอนารีรู้ว่าเธอเปลี่ยนแผนมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯก็เลยให้เธอไปช่วยในโครงการใหม่ซึ่งเป็นโครงการแรกนอกเขตภาคอีสานเพราะพี่นารีอยากจะขยายธุรกิจอีก ก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับทั้งเธอและเจ้านาย

“โอ๊ะ...ดีเลยนะ” พะนอขวัญยิ้มเธอเองก็เลือกทำงานไปเรียนไปเช่นเดียวกันแม้อาจจะหนักไปบ้างแต่ก็คงต้องอดทนไปจนถึงที่สุด “แล้วนี่อ้ายจะเข้ากรุงเทพฯอีกทีตอนสอบเลยหรือเปล่า”

“อืม..น่าจะ...อีกสักสองอาทิตย์นะ”

“เอ๋...” พะนอขวัญอุทานเบาๆกับคำตอบของเพื่อน เธอสบตาคมอย่างประหลาดใจหมายความว่าจันทน์กะพ้อจะเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้าอย่างนั้นเหรอ

ชักยังไงๆ อยู่นะ

“อือ...มีเรื่องต้องมาทำก่อนน่ะ”

น้ำเสียงกับริมฝีปากที่แย้มน้อยๆของเพื่อนสาวทำให้พะนอขวัญยิ่งประหลาดใจ แววตาเป็นประกายวาววับเหมือนกับว่าเจ้าตัวกำลังตั้งใจจะก่อเรื่องอะไรสักอย่าง

“แล้วมาอยู่กับฉันเหมือนเดิมก่อนไหม”

“ไม่แล้วล่ะฉันต้องไปอยู่บ้านญาติน่ะ”

พะนอขวัญเลิกคิ้วสูง

“ฉันว่าจะลองมาเป็นทายาทเจ้าคุณปู่ดู”จันทน์กะพ้อยิ้ม

คำพูดของเพื่อนสาวยิ่งเพิ่มความประหลาดใจให้กับพะนอขวัญ

“อาหารอร่อยๆ มาแล้วสาวๆ”เฮียแป้งยกถาดใบใหญ่โผล่มา ทำให้บทสนทนาชะงักไปและถูกเปลี่ยนมาเป็นอาหารอร่อยๆอย่างที่เจ้าของร้านการันตี

“ฮือ...อะไรอ่ะเฮีย”พะนอขวัญมองแก้วทรงสูงที่มีน้ำสีขาวเหมือนนมพร้อมกับน้ำแข็งลอยฟูฟ่องหากพวกเธอไม่ได้สั่งเครื่องดื่มพิเศษอะไร

“น้ำมะพร้าว...เฮียเลี้ยงว่าที่แฟนเฮีย”

จันทน์กะพ้อเอ่ยขอบคุณก่อนจะยกขึ้นจิบเธอยิ้มกว้างในกลิ่นหอมหวาน และรสขมติดปลายลิ้น หันไปสบตาเพื่อนสาวที่จิบ ‘น้ำมะพร้าว’เช่นกัน

“เบาหวิวเลยอ่ะเฮีย...ไม่พอล้างคออ้ายมันหรอก”พะนอขวัญหัวเราะเบาๆ ค็อกเทลของเฮียแป้งมีส่วนผสมของเหล้ารัมไม่มากนักเหมาะกับจิบสบายๆ

“เฮ้ย...งั้นวันหลังมาชนแก้วกับเฮีย”เฮียแป้งหัวเราะชอบใจ

“เฮียได้เสียเหล้าฟรีแน่”พะนอขวัญพึมพำ มองเพื่อนสาวที่ยิ้มกว้าง เฮียแป้งจึงบอกให้สองสาวตามสบายก่อนจะกลับไปประจำที่เคาน์เตอร์ ก็เอ่ยทิ้งท้าย

“เออ...วันนี้เจ้าแดนกับคมจะมาร้องเพลงนะ”

“อ่ะ...เฮียบอกให้เร็วกว่านี้หน่อยได้ไหม จะได้เปลี่ยนร้านทัน เปลืองค่าเหล้าพวกนั้น”พะนอขวัญแกล้งโวยวาย น้องๆ ที่เฮียแป้งพูดถึงคือน้องในสายรหัสของเธอเองซึ่งมักจะมาเล่นดนตรีและร้องเพลงที่ร้านแป้งร่ำในยามว่าง

“หึๆ น้องใครก็เลี้ยงกันเอาเอง”

จันทน์กะพ้อมองเพื่อนสาวที่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจจึงถามว่าใครคือคนที่เฮียแป้งเอ่ยถึง

“น้องสายรหัสแดนก็คนที่อ้ายเคยเจอที่ศาลเจ้าพ่อน่ะเป็นหลานรหัส ส่วนคมเป็นเหลนก็เป็นเด็กดีอยู่หรอก แต่กวน...มาก”

จันทน์กะพ้อพยักหน้านึกถึงไม่กี่วันก่อนที่ได้เจอเพื่อนสาวที่ศาลเจ้าพ่อเจ้าเมืองคนแรกที่ประชาชนเคารพนับถือมากเธอได้เจอพะนอขวัญกับชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งคือคุณพระเอกสุดหล่อของเพื่อนสาวอีกคนเป็นน้องชาย หนุ่มสกินเฮดที่มีแววตาขี้เล่น

“นั่นไง...ไม่ทันขาดคำก็โผล่มาแล้ว”

จันทน์กะพ้อหันไปทางหน้าร้านเด็กหนุ่มร่างสูงสองคนเดินเข้ามา คนหนึ่งตัดผมสั้นแทบติดหนังศีรษะอีกคนนั้นผมยาวถักเดรดล็อกส์ คนผมสั้นนั้นสะพายกล่องใส่กีต้าร์มาด้วย

“เจ๊แพง...”สองหนุ่มประสานเสียงกัน พร้อมกับก้าวเข้าหารุ่นพี่สาวก่อนจะชะงักไปเมื่อมีหญิงสาวแปลกหน้านั่งอยู่ด้วย

แดนดินยิ้มกว้างเมื่อจำได้ว่าหญิงสาวอีกคนคือใคร

“พี่อ้าย...”

คนนี้ๆที่เคยเห็นในอัลบั้มภาพสุดอลังการนั่น...ใช่ไหมนะ

เขตชลผุดตัวขึ้นจากสระว่ายน้ำทำให้ผิวน้ำกระเพื่อมกระจาย ก่อนจะว่ายเข้าหาริมขอบสระแล้วยกตัวขึ้นไปนั่งลูบน้ำที่เกาะอยู่บนใบหน้าออก แสงแดดยามเช้ากระทบผิวน้ำเป็นแสงระยิบระยับหากรอบตัวนั้นเงียบเพราะเช้าวันนี้ไม่มีใครอยู่ในบ้าน

พี่ชายนั้นไปงานแต่งงานเพื่อนสนิทที่อังกฤษอีกสามสี่วันโน่นแหละกว่าจะกลับเจ้าน้องชายก็ไปค้างที่ห้องพักของเพื่อนส่วนพ่อกับแม่ก็อยู่ที่บ้านหลังใหญ่ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกัน

หลังจากพี่ชายกลับมาจากต่างประเทศบ้านหลังนี้ก็ถูกสร้างขึ้น พวกเขาทั้งสามจึงย้ายจากบ้านไม้หลังงามมาอยู่ ‘เรือนเล็ก’กัน เรือนเล็กที่ออกแบบในแนวโมเดิร์น สูงชั้นครึ่งเล่นระดับมีผังเป็นรูปสี่แหลี่ยมโดยมีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลางต่างจากเรือนไม้หลังใหญ่ประดับด้วยไม้ฉลุงดงามที่คุณปู่สร้างโดยสิ้นเชิง

เขตชลลุกขึ้นยืดตัวเต็มความสูงหกฟุตเสยผมสั้นที่ตอนนี้เริ่มยาวขึ้นแล้วอาจจะต้องหาเวลาไปตัดเสียบ้างไม่เคยคิดไว้ยาวเหมือนเจ้าน้องชายจอมติสส์ซึ่งตอนนี้ก็ติสส์แตกอีกรอบด้วยการไปตัดสั้นจนเป็นสกินเฮดเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่วางไว้บนโต๊ะสนาม มาเช็ดหยดน้ำที่เกาะตัวออก

เขาชอบออกกำลังกายแต่ไม่ค่อยชอบเข้าฟิตเนสเท่าไร ส่วนใหญ่ก็มักจะจ้อกกิ้งหรือไม่ก็ว่ายน้ำแต่ที่ชอบมากกว่าคือกีฬาอย่างบาสเก็ตบอลกับฟุตบอล ซึ่งสองอย่างหลังมาเริ่มชอบตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยวิชชายังทำท่าทางประหลาดใจมากเมื่อเขาชวนไปเล่นบาสเก็ตบอล

เขตชลพาดผ้าขนหนูที่ไหล่แล้วเดินกลับเข้าตัวบ้านด้านที่เชื่อมกับห้องครัวหยิบขวดน้ำเปล่าบนโต๊ะกลางมาดื่มทั้งบ้านไม่มีคนอื่นอยู่เพราะคนรับใช้จะเข้ามาทำความสะอาดเมื่อเขาและพี่ชายน้องชายออกจากบ้านแล้วพวกเขาก็เลยทำตัวตามสบาย ยกเว้นพักหลังนี้บางวันก็มีว่าที่พี่สะใภ้มาที่นี่บ้างก็ทำให้บ้านมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกแต่ถ้าพี่ชายแต่งงานแล้วน่าจะไปอยู่ที่เรือนใหญ่มากกว่าเพราะมารดาจัดห้องหอไว้ให้พี่ชายแล้ว

เขาเดินออกจากห้องครัวผ่านห้องโถงมองเปียโนสีขาวหลังงาม หยุดชั่งใจเล็กน้อย เสียงโทรศัพท์ภายในก็ดังขึ้น

“คุณกลางจะรับอาหารเช้าหรือเปล่าคะ”เสียงแม่บ้านสาวถามมา เจ้าของเสียงคงอยู่ที่เรือนใหญ่ปกติแล้วอาหารเช้าจะจัดที่เรือนใหญ่ยกเว้นพวกเขาจะสั่งเป็นพิเศษให้จัดมาที่เรือนเล็ก

“ครับ...เดี๋ยวผมไปครับพี่น้ำหวาน”เขตชลตอบมองเปียโนก่อนจะก้าวตรงไปยังห้องนอนเพื่อจัดการตัวเองให้พร้อมสำหรับการไปทำงานวันนี้เวลาคงไม่พอเล่นเปียโนแล้ว

เขตชลก้าวเข้าไปในห้องอาหารบรรยากาศยามเช้าแจ่มใสด้วยแสงแดดอ่อนๆ ที่ผ่านผ้าม่านลูกไม้ขาวเข้ามามารดาเป็นผู้ตกแต่งและดูแลเรือนใหญ่ทั้งหมดบรรยากาศจึงอบอวลไปด้วยอ่อนหวานและอบอุ่นแต่บางทีเขาก็รู้สึกว่ามันหวานเกินไปสำหรับผู้ชายตัวใหญ่ๆ อย่างเขา

จำได้ว่าตอนเด็กๆถ้าวิ่งเล่นเสียงดังโครมครามละก็โดนดุทีเดียวก็บ้านเป็นไม้ทั้งหลังจะไม่ให้เสียงดังได้ยังไง

“นึกว่าจะไม่มีลูกชายแม่กลับบ้านแล้วซะอีก”คุณวรัญญาเอ่ยเย้าๆ เมื่อลูกชายคนกลางเดินเข้ามาใบหน้าคมคายนั้นฉาบรอยยิ้มอย่างอารมณ์ดี

“ผมน่ะกลับอยู่แล้วไม่เหมือนพี่ใหญ่กับนายเล็กหรอก”เขตชลทรุดนั่งเก้าอี้ทางซ้ายมือของบิดาซึ่งกำลังจิบน้ำชากลิ่นหอมของชาชั้นดีกรุ่นอยู่ปลายจมูก บ้านเขานั้นชื่นชอบชาเพราะติดมาจากที่ไปใช้ชีวิตในยุโรปกันนานทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่ชายแต่เขาชอบดื่มกาแฟมากกว่า

“กล้าพูดนะเรา” คุณเวศม์เอ่ยเบาๆมองบุตรชายที่ยิ้มกว้าง ก็มีพักหลังๆ นี่หรอกที่เขตชลกลับมาที่นอนบ้านบ่อยๆคนที่ติดบ้านที่สุดน่าจะเป็นลูกชายคนโต

“ก็ลูกชายคุณพ่อนี่ครับต้องกล้าพูดความจริง” เขตชลยักคิ้ว แล้วก็หัวเราะเมื่อถูกมารดาปรายตามา

“พูดความจริงแบบนี้บ่อยสินะคะ”คุณวรัญญาแกล้งมองสามีด้วยแววตาคมเฉียบกับรอยยิ้มเย็นๆ

“อ้าวๆ ทำพ่อแย่แล้วไหมล่ะผมพูดกับคุณหยาจริงทุกเรื่องครับ ไม่มีลับลวงพรางแน่นอน”

เขตชลกลั้นยิ้มไม่อยู่เมื่อเห็นบิดาส่งยิ้มกับแววตาเจ้าชู้ใส่มารดา

การแสดงออกนิดๆ หน่อยๆถึงความรักที่มีให้กันของพ่อกับแม่แบบนี้ เขาเห็นมาตั้งแต่เด็กๆเพราะพ่อกับแม่นี่ล่ะมั้งที่ทำให้พวกเขาพี่น้องเชื่อว่าความรักนั้นมีอยู่จริงสักวันหนึ่งพวกเขาจะมีใครสักคนที่จะอยู่เคียงข้างกันไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต

ตอนนี้พี่ชายเขาก็พบคนๆ นั้นแล้ว

“ให้จริงเถอะค่ะ”คุณวรัญญาค้อนนิดๆ ให้สามีที่ยิ้มหวานมา

“ขอบคุณครับ”เขตชลเอ่ยเมื่อแม่บ้านสาวยกถ้วยกาแฟเข้ามาวางตรงหน้าพี่น้ำหวานเป็นหลานสาวของป้านภาแม่บ้านใหญ่ที่ดูแลบ้านหลังนี้

น้ำหวานยิ้มกว้าง คุณๆบ้านนี้พูดจาเพราะกันทั้งบ้าน แม้จะพูดกับคนรับใช้ก็ตามอีกทั้งก็ยังไม่เคยกดขี่ข่มเหงหรือเหยียดยามลูกจ้างเลยคนที่ทำงานบ้านอังสนาต่างก็ทำงานกันนานๆ ทั้งนั้น

“วันนี้มีข้าวหมูทอดของโปรดคุณกลางนะคะรับเลยไหมคะ” น้ำหวานเอ่ยถาม อาหารเช้าของคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายมักเป็นอาหารไม่หนักมากอย่างพวกข้าวต้มหรืออาหารเช้าฝรั่ง แต่ของคุณๆสามพี่น้องนั้นเป็นมื้อหนักเลยทีเดียว

“ยกมาเลยครับ” เขตชลพยักหน้า

คุณวรัญญามองบุตรชายที่ตอนนี้เป็นหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ละม้ายบิดา เปลี่ยนไปจากลูกชายตัวเล็กๆ มาก น่านฟ้าลูกชายคนโตที่ตอนนี้เป็นหนึ่งในผู้บริหารหลักของอังสนากรุ๊ปเขาเดินตามเส้นทางที่เธอกับสามีต้องการมาตลอดจริงอยู่ว่าพวกเธอไม่ได้บังคับหากน่านฟ้าจะต้องการสร้างเส้นทางชีวิตตัวเองใหม่แต่เขาก็เลือกทางที่พ่อแม่วางไว้ซึ่งแน่นอนว่าน่านฟ้าคงไม่ได้เดินมาดีๆ หรอก เพียงแต่เจ้าตัวอุบเงียบไว้ว่าเคยทำอะไรมาบ้างเท่านั้นและตอนนี้น่านฟ้าก็มีคนรักที่ดี อีกไม่นานเธอน่าจะได้อุ้มหลานเสียที

ส่วนลูกชายคนรองนั้น...เขตชลเลือกที่จะเรียนต่อมัธยมที่เมืองไทยมากกว่าไปเรียนต่ออังกฤษอย่างน่านฟ้าเขามุ่งมั่นและสนใจด้านเปียโนมีเค้าว่าอาจจะเรียนต่อเฉพาะทางด้านดนตรีซึ่งเธอกับสามีก็พร้อมสนับสนุนแต่แล้วก็กลับเลือกไปเรียนต่อวิศวกรรมศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยในต่างจังหวัดทำให้ทุกคนแปลกใจไปตามๆ กัน

ถึงจะเปลี่ยนใจเปลี่ยนเส้นทางตัวเอง แต่เขตชลก็ทำให้สิ่งที่เลือกได้ดีเมื่อเรียนจบปริญญาตรีแล้วก็เขาก็ไปเรียนต่อปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจที่อเมริกาตอนนี้เขาเข้ามาทำงานในอังสนากรุ๊ปเช่นเดียวกับนานฟ้าเหลือก็เพียงเรื่องชีวิตส่วนตัวที่เจ้าตัวยังลอยชายไปมาไม่มีทีท่าว่าจะคบหาใครจริงจัง

หรือบางที...ก็อาจมองหาใครบางคนอยู่

และแดนดินลูกชายคนเล็ก...ก็กำลังตั้งหน้าตั้งตาเพื่อคว้าปริญญาด้านการออกแบบนอกจากจะมีโปรเจกต์โน่นนี่ในวิชาเรียนก็ยังทำกิจกรรมเสริมอีกวุ่นวาย

“ตากลาง เย็นนี้ไม่มีงานอะไรใช่ไหมไปงานเป็นเพื่อนแม่หน่อย”

เขตชลรีบวางถ้วยกาแฟที่ยกขึ้นจิบสบนัยน์ตาคมหวานของมารดา เขาไม่รู้ว่ามารดาไปเช็กตารางงานของเขามาจากไหน

“อ่า...ไม่มีงานครับแต่มีใบสั่งจากอังกฤษ” เขาตอบยิ้มๆ ใบสั่งที่เพิ่งมาเมื่อคืนนี้เอง

คุณเวศม์ยิ้มขำมองแม่ลูกเขาปะทะกันอย่างมีชั้นเชิง พอวางใจเรื่องคู่ครองของน่านฟ้าแล้วเขตชลก็น่าจะกลายมาเป็นเป้าหมายลำดับถัดไป ในบรรดาลูกชายทั้งสาม น่านฟ้าก็น่าจะ ‘ร้าย’ ที่สุดนั่นแหละ แต่เขตชลก็ไม่น่าจะห่างชั้นกันมากนัก

“หือ...พี่ชายเราน่ะเหรอสั่งอะไรมา” คุณวรัญญาหรี่ตา พอรู้ว่าเขตชลหาทางเลี่ยงแต่ก็สงสัยว่าน่านฟ้าที่อยู่อังกฤษตอนนี้สั่งอะไรน้องชาย

จริงๆเธอก็ไม่ได้รีบมองหาลูกสะใภ้คนที่สองหรอก แต่ก็แค่อยากควงลูกชายออกงานบ้างเพราะพอโตขึ้นแต่ละคนก็เลิกอ้อนแม่กันหมดเวลาเธอชวนไปไหนก็ชอบหาข้ออ้างหนีอยู่เรื่อย

“พี่ชายผมนั่นแหละครับสั่งให้ไปเฝ้าพี่นาง” เขตชลตอบกลั้วหัวเราะ ยังขำพี่ชายอยู่เลย“คุณแพงเขาจะไปแฮงเอ้าท์กับเพื่อน พี่ชายผมก็โรคห่วงกำเริบ อย่างคุณแพงน่ะ...หึๆ”

คุณแพง...พี่นางหรือพี่สะใภ้ของเขาเห็นท่าทางเฉยๆซื่อๆ นั่นน่ะ ลวงตาชัดๆ

ไม่ใช่เป็นคนร้ายกาจ...

แต่เรียกว่าดูแลตัวเองได้ดี...ดีมากๆก็แล้วกัน

“อย่างนั้นแม่ก็ห่วงนะกลางไปดูแลตามที่พี่เขาว่าก็ดีแล้ว แต่อย่าไปเมาซะเองล่ะ”คุณวรัญญารีบปรามลูกชายตัวดี บางทีเธอก็เป็นห่วงเขตชลนี่แหละมากที่สุด

“งานนี้หยดเดียวก็ไม่ได้ครับ...พี่ใหญ่เขาสั่งมา”เขตชลหัวเราะในลำคอ ก็เขามีหน้าที่เป็นสารถี พี่ใหญ่กำชับว่าห้ามดื่มเด็ดขาดไม่ว่าจะเมาหรือไม่ก็ตาม แต่ถ้าดื่มห้ามขับรถเด็ดขาด

“แบบนั้นก็ดีจ้ะ”

“แต่งานนี้ไม่เมาเหล้า อาจจะเมารักก็ได้นะครับเพื่อนคุณแพงน่าจะสวยๆ กันทั้งนั้น” เขตชลหัวเราะชอบใจที่เห็นมารดาค้อนใให้

“แหม...แม่ก็รอเห็นเราเมารักหัวปักหัวปำอยู่เลยล่ะ”

เขตชลยิ้ม

เมารักหัวปักหัวปำอย่างนั่นเหรอ...


..........................................................................




 

Create Date : 30 มีนาคม 2558
2 comments
Last Update : 6 เมษายน 2558 21:31:41 น.
Counter : 1447 Pageviews.

 

จะได้เจอกันแล้ว ...รอมานานมาก อ่านพี่ใหญ่กับแพงจนจะจำคำพูดของพี่ใหญ่ได้หมดแหละ คริ คริ ขอพี่ใหญ่กับแพงหวีดหวานแทรกด้วยนะคะ .....

เรื่องของนายกลางน่าจะเผ็ด ร้อน แซ่บ กว่าแน่ ๆ เลย รอตอนต่อไป ...

 

โดย: ต่างแดน IP: 94.23.252.21 31 มีนาคม 2558 5:08:16 น.  

 

รอตอนต่อไปค่าาา

 

โดย: nako IP: 171.7.59.228 31 มีนาคม 2558 22:51:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดอกไม้ของฬีฬา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 84 คน [?]




จิบกาแฟ...อ่านนิยาย...ชมดอกไม้...ในสวนสวย
Friends' blogs
[Add ดอกไม้ของฬีฬา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.