จันทน์กะพ้อ บทที่ ๒
จันทน์กะพ้อบทที่ ๒ จันทน์กะพ้อก้าวตามเพื่อนสาวเข้าไปในร้านอาหารซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเจ้าของร้านเป็นรุ่นพี่ของตัวเองพะนอขวัญบอกว่าจะเลี้ยงรับที่เธอมากรุงเทพฯ เป็นครั้งแรกเสียหน่อยเป็นร้านที่มาสังสรรค์กับเพื่อนเป็นประจำ บรรยากาศอาร์ตๆของร้านนี้ทำให้เธอมองอย่างชื่นชม สวัสดีค่ะเฮียแป้ง พะนอขวัญร้องทักชายร่างใหญ่ในร้าน ตอนนี้มีลูกค้าเพียงแค่สองสามโต๊ะเพราะเพิ่งเปิดร้านได้ไม่นาน ถ้าค่ำอีกสักนิดคนคงเต็มร้าน ไอ้แพง...หวัดดีๆแล้วนั่น...พาแฟนใหม่ของเฮียมาเรอะเฮียแป้งทักรุ่นน้องสาวอย่างอารมณ์ดี แล้วเลยไปยังหญิงสาวรุ่นเดียวกันที่ตามมาด้วยรูปร่างและความสูงใกล้เคียงกับพะนอขวัญ หากที่ต่างกันชัดก็คงเป็นทรงผมยาวปะบ่าผิดจากผมยาวถึงเอวของพะนอขวัญซึ่งตอนนี้เกล้าขึ้นหลวมๆ อย่างที่เจ้าตัวทำเป็นประจำ อีกสิ่งที่คล้ายกันก็คงจะเป็นใบหน้าที่อาจจะไม่ได้สวยสะดุดตาแต่ดวงตาคมนั้นก็ดึงดูดความสนใจได้ไม่น้อย และรอยยิ้มจางๆบนริมฝีปากนั้นก็ทำให้ดวงหน้าละมุนที่ไม่ได้แต่งแต้มเครื่องสำอางสักนิดนั้นน่ามองดีทีเดียว เดี๋ยวก็ฟ้องซ้อหรอก พะนอขวัญหัวเราะ เฮียแป้งก็เป็นคนอารมณ์ดีชอบยั่วแหย่ให้หัวเราะเสมอๆแต่เวลาโหดก็น่ากลัวอยู่ไม่น้อย ซ้อ...เซ้อที่ไหน ไม่มี เฮียแป้งเสียงสูงอย่างที่รู้ว่าแกล้ง พะนอขวัญโคลงศีรษะทั้งขำทั้งหมั่นไส้รุ่นพี่ก่อนจะแนะนำเพื่อนสาว นี่อ้าย...เพื่อนแพงค่ะอ้ายนี่เฮียแป้งนะ จันทน์กะพ้อไหว้รุ่นพี่ซึ่งน่าจะอายุห่างจากพวกเธอพอสมควรแต่ท่าทางสนิทสนมกับเพื่อนสาวไม่น้อย เห็นแพงบอกว่าเฮียทำอาหารอร่อยแถมหล่อและใจดีด้วย เฮียแป้งหัวเราะเสียงดังรับไหว้หญิงสาว ไอ้แพงมันตาถึง...แต่เฮียก็ยอมรับล่ะนะว่าหล่อน้อยกว่าแฟนแพงมันนิดนึง สองสาวหัวเราะเบาๆ ไม่ค้านว่า นิดนึงของเฮียแป้งนั้นขนาดไหน แล้วจะนั่งไหนในร้านหรือในสวนล่ะ เฮียแป้งถาม เพราะนอกจากในร้านแล้วยังมีสวนเล็กๆด้านในซึ่งพวกรุ่นน้องเขามักจะไปนั่งกันในสวนเสียมากเพราะเหมาะกับนั่งยาวๆสังสรรค์เฮฮากันได้ ในร้านดีกว่าค่ะมากันสองคนแค่นี้ พะนอขวัญตอบ โอเค เลือกโต๊ะเอาเลยเดี๋ยวเฮียเอาเมนูมาให้ว่าที่แฟนเฮียดู เฮียแป้งขยิบตาให้ก่อนจะเดินไปที่เคาน์เตอร์สองสาวหัวเราะกัน ก่อนจะเลือกโต๊ะนั่งชิดผนัง เออ...แล้วนี่แพงมาอยู่กับฉันทั้งวันคุณพระเอกของแพงจะเขม่นหน้าฉันไหมนี่ จันทน์กะพ้อเอ่ยเมื่อนั่งลงแล้วตั้งแต่ไปรับเธอที่หมอชิต พะนอขวัญก็อยู่กับเธอตลอด แล้วก็แทบไม่เห็นเพื่อนใช้โทรศัพท์เลยต่างจากพฤติกรรมเพื่อนๆ ที่เคยมีแฟนแล้วอยู่ในช่วงโปรโมชั่นแบบนี้แทบจะห่างโทรศัพท์ไม่ได้เลยทีเดียว พะนอขวัญค้อนให้เพื่อนสาวรู้สึกว่าแก้มร้อนขึ้น บ้า...เขาไม่เวอร์อย่างนั้นหรอก จริงๆ พามาด้วยก็ได้นะฉันไม่สำลักน้ำตาลหรอก จันทน์กะพ้อหัวเราะคิกคักเพราะท่าทางเขินของเพื่อนสาวไม่บ่อยหรอกที่จะทำให้พะนอขวัญเขินได้ แซวเพื่อนนี่สนุกมากใช่ไหม ใช่สิ... ระวังเหอะ...อย่าให้ถึงคราวฉันเอาคืนบ้างพะนอขวัญพูดอย่างหมายมั่นปั้นมือ อย่าให้เธอได้มีโอกาสบ้างก็แล้วกัน ยากล่ะ...เนื้อคู่ฉันอาจจะยังไม่เกิดจันทน์กะพ้อยักคิ้ว คงยากที่จะถูกพะนอขวัญแซวในเวลาใกล้ๆ นี้ แต่พูดจริงๆ นะชวนคุณพระเอกมาด้วยก็ได้ ฉันไม่ได้อยากแยกคู่รักหวานแหวว ไอ้อ้ายนี่...พะนอขวัญโคลงศีรษะอย่างอ่อนใจ ล้อมากๆ เธอก็ชักไม่อยากจะเขินแล้ว จริงๆก็อยากมาอยู่หรอกนะ แต่ตัวไม่อยู่ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่พลาดที่จะมาหรอก อ้าว...ซะงั้น แต่ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวคงได้เจอกันบ่อยๆ มั้ง จันทน์กะพ้อเสียดายเล็กน้อยแต่ก็อย่างที่พูดเพื่อนสาวกับคนรักนั้นน่าจะคบหากันยาวเพราะถึงขนาดแนะนำพาไปแนะนำให้พ่อกับแม่รู้จักแล้ว ไม่แน่...พะนอขวัญอาจจะต้องออกแบบการ์ดแต่งงานตัวเองเร็วๆนี้ก็ได้ ก็อ้ายมาอยู่กรุงเทพฯแล้วคงได้เจอกัน พะนอขวัญพยักหน้านิดๆก่อนจะหยุดเมื่อเฮียแป้งมาพร้อมกับรายการอาหาร และยังบอกว่าจะทำอะไรเด็ดๆ มาให้ชิม วันนี้กินกันสองคนไปก่อนเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยจัดเต็ม พวกเพื่อนๆ น่าจะมากันได้หลายคน พะนอขวัญเอ่ยกับเพื่อนสาวหลังจากสั่งอาหารไปแล้วพอรู้ว่าจันทน์กะพ้อจะมากรุงเทพฯบรรดาเพื่อนสมัยมัธยมที่มาเรียนและยังทำงานกันอยู่ที่กรุงเทพฯ ก็รีบนัดเจอกันแต่เพราะพรุ่งนี้ยังเป็นวันทำงานจึงนัดกันเย็นพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันศุกร์แทนเพื่อที่จะได้เฮฮากันได้เต็มที่ไม่กังวลเรื่องต้องไปทำงาน จันทน์กะพ้อพยักหน้าเธอเองก็ดีใจที่จะได้เจอเพื่อนๆ กันเพราะตั้งแต่แยกย้ายกันไปเรียนก็ได้เจอกันประเดี๋ยวประด๋าวบางคนแทบไม่ได้เจอกันตั้งแต่เรียนจบมัธยมปลาย ไม่น่าเชื่อว่าเพื่อนเราก็อยู่กรุงเทพฯกันเยอะ อือ...นั่นสิ พะนอขวัญพยักหน้าเห็นด้วยพอลองนับดูแล้วเพื่อนๆ ที่เข้ามาเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯ และรอบๆนั้นกว่าสิบคนทีเดียว แต่ก็ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไรมีไอ้เนตรนั่นแหละที่เจอบ่อยที่สุดเธอเอ่ยถึงเนตราซึ่งเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันแต่คนละคณะ เออ...แล้วพรุ่งนี้เนตรมาหรือเปล่าน่ะ มันบอกว่าน่าจะมาได้ ไม่มีเวร ไอ้นี่ก็ใจเอา...อยู่ตั้งชลบุรี ไอ้เนตรมันก็งี้...เรื่องเมา เอ๊ยเรื่องเม้าท์ ถึงไหนถึงกัน พะนอขวัญหัวเราะ นึกถึงว่าที่คุณหมอเนตราตอนนี้เรียนปีสุดท้าย แต่ไปเรียนชั้นคลีนิคอยู่ที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด เห็นบอกว่าเดี๋ยวจะกลับเข้ามากรุงเทพแล้วล่ะใกล้จะจบแล้วต้องกลับมาที่คณะ ดีๆ จะได้มาเม้าท์มอยกันจันทน์กะพ้อยิ้มกว้าง มีเพื่อนเยอะๆ ก็ดี โดยเฉพาะเนตราถ้าขาดไปก็ขาดสีสันไปเลยทีเดียว ดีนะที่อ้ายจะมาเรียนต่อที่นี่จะได้เจอกันบ่อยแม้จะยังแปลกใจที่เพื่อนสาวตัดสินใจมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ก็ตาม อือ...ดีใจเหมือนกันที่แพงจะเรียนด้วยนะเธอดีใจมากที่พะนอขวัญบอกว่าจะสมัครเรียนต่อด้วย แถมยังจะเรียนสาขาเดียวกัน อืม...ก็ไหนๆ ก็ต้องเรียนแล้วมีเพื่อนเรียนน่าจะดีกว่า แต่ว่า...ต้องสอบได้ก่อนนะ พะนอขวัญหัวเราะแต่ก็หวั่นใจอยู่ไม่น้อยเรื่องการสอบเธอวางแผนไว้นานแล้วว่าเมื่อทำงานไปได้สักพักก็จะเรียนต่อปริญญาโทความตั้งใจของเธอก็คือการกลับไปทำงานที่บ้านเกิด สามารถที่จะสร้างธุรกิจเล็กๆของตัวเองได้ การมีเพื่อนเรียนด้วยก็น่าจะดีกว่า นั่นสิ...ประเด็นสำคัญล่ะจะสอบได้ไหมนี่ จันทน์กะพ้อหัวเราะ เธอเองก็ตั้งใจเรื่องเรียนต่อเช่นกันหากความตั้งใจแรกก็คือเรียนที่มหาวิทยาลัยเดิม เพราะเธอทำงานอยู่แถวนั้นหากก็จำเป็นต้องเปลี่ยนความตั้งใจจนได้ เออ...แล้วเรื่องงานล่ะอ้ายลาออกเลยเหรอ พะนอขวัญถาม เธอยังไม่ได้คุยรายละเอียดเลยว่าเพื่อนสาววางแผนไว้ว่างยังไงบ้างรู้สึกว่าจันทน์กะพ้อจะทำงานกับเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรแห่งหนึ่งมาตั้งแต่เรียนจบเธอก็ไม่ค่อยเข้าใจงานของเพื่อนสาวหรอกแต่จะเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยคนละที่กันอย่างนี้ไม่น่าจะไหว ก็...ทีแรกก็ว่าจะลาออกนั่นแหละแต่พี่นาเขาไม่อยากให้ออกเลย ก็เลยให้มาช่วยดูโปรเจกต์แถวรังสิตก็ดีเหมือนกันจะได้มีงานทำด้วย ไม่ต้องหางานใหม่ จันทน์กะพ้อตอบงานของเธอเรียกว่าเป็นผู้ช่วยของพี่นารีมากกว่างานวิศวกรพี่นารีเป็นเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรหลายแห่งทั้งในขอนแก่นและจังหวัดอื่นๆเป็นหญิงแกร่งที่ได้ฉายาว่าเจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์แห่งภาคอีสานเธอเองก็ได้ประสบการณ์ดีๆ ทั้งการทำงานและเรื่องชีวิตจากพี่นารีมาไม่น้อย พอนารีรู้ว่าเธอเปลี่ยนแผนมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯก็เลยให้เธอไปช่วยในโครงการใหม่ซึ่งเป็นโครงการแรกนอกเขตภาคอีสานเพราะพี่นารีอยากจะขยายธุรกิจอีก ก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับทั้งเธอและเจ้านาย โอ๊ะ...ดีเลยนะ พะนอขวัญยิ้มเธอเองก็เลือกทำงานไปเรียนไปเช่นเดียวกันแม้อาจจะหนักไปบ้างแต่ก็คงต้องอดทนไปจนถึงที่สุด แล้วนี่อ้ายจะเข้ากรุงเทพฯอีกทีตอนสอบเลยหรือเปล่า อืม..น่าจะ...อีกสักสองอาทิตย์นะ เอ๋... พะนอขวัญอุทานเบาๆกับคำตอบของเพื่อน เธอสบตาคมอย่างประหลาดใจหมายความว่าจันทน์กะพ้อจะเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้าอย่างนั้นเหรอ ชักยังไงๆ อยู่นะ อือ...มีเรื่องต้องมาทำก่อนน่ะ น้ำเสียงกับริมฝีปากที่แย้มน้อยๆของเพื่อนสาวทำให้พะนอขวัญยิ่งประหลาดใจ แววตาเป็นประกายวาววับเหมือนกับว่าเจ้าตัวกำลังตั้งใจจะก่อเรื่องอะไรสักอย่าง แล้วมาอยู่กับฉันเหมือนเดิมก่อนไหม ไม่แล้วล่ะฉันต้องไปอยู่บ้านญาติน่ะ พะนอขวัญเลิกคิ้วสูง ฉันว่าจะลองมาเป็นทายาทเจ้าคุณปู่ดูจันทน์กะพ้อยิ้ม คำพูดของเพื่อนสาวยิ่งเพิ่มความประหลาดใจให้กับพะนอขวัญ อาหารอร่อยๆ มาแล้วสาวๆเฮียแป้งยกถาดใบใหญ่โผล่มา ทำให้บทสนทนาชะงักไปและถูกเปลี่ยนมาเป็นอาหารอร่อยๆอย่างที่เจ้าของร้านการันตี ฮือ...อะไรอ่ะเฮียพะนอขวัญมองแก้วทรงสูงที่มีน้ำสีขาวเหมือนนมพร้อมกับน้ำแข็งลอยฟูฟ่องหากพวกเธอไม่ได้สั่งเครื่องดื่มพิเศษอะไร น้ำมะพร้าว...เฮียเลี้ยงว่าที่แฟนเฮีย จันทน์กะพ้อเอ่ยขอบคุณก่อนจะยกขึ้นจิบเธอยิ้มกว้างในกลิ่นหอมหวาน และรสขมติดปลายลิ้น หันไปสบตาเพื่อนสาวที่จิบ น้ำมะพร้าวเช่นกัน เบาหวิวเลยอ่ะเฮีย...ไม่พอล้างคออ้ายมันหรอกพะนอขวัญหัวเราะเบาๆ ค็อกเทลของเฮียแป้งมีส่วนผสมของเหล้ารัมไม่มากนักเหมาะกับจิบสบายๆ เฮ้ย...งั้นวันหลังมาชนแก้วกับเฮียเฮียแป้งหัวเราะชอบใจ เฮียได้เสียเหล้าฟรีแน่พะนอขวัญพึมพำ มองเพื่อนสาวที่ยิ้มกว้าง เฮียแป้งจึงบอกให้สองสาวตามสบายก่อนจะกลับไปประจำที่เคาน์เตอร์ ก็เอ่ยทิ้งท้าย เออ...วันนี้เจ้าแดนกับคมจะมาร้องเพลงนะ อ่ะ...เฮียบอกให้เร็วกว่านี้หน่อยได้ไหม จะได้เปลี่ยนร้านทัน เปลืองค่าเหล้าพวกนั้นพะนอขวัญแกล้งโวยวาย น้องๆ ที่เฮียแป้งพูดถึงคือน้องในสายรหัสของเธอเองซึ่งมักจะมาเล่นดนตรีและร้องเพลงที่ร้านแป้งร่ำในยามว่าง หึๆ น้องใครก็เลี้ยงกันเอาเอง จันทน์กะพ้อมองเพื่อนสาวที่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจจึงถามว่าใครคือคนที่เฮียแป้งเอ่ยถึง น้องสายรหัสแดนก็คนที่อ้ายเคยเจอที่ศาลเจ้าพ่อน่ะเป็นหลานรหัส ส่วนคมเป็นเหลนก็เป็นเด็กดีอยู่หรอก แต่กวน...มาก จันทน์กะพ้อพยักหน้านึกถึงไม่กี่วันก่อนที่ได้เจอเพื่อนสาวที่ศาลเจ้าพ่อเจ้าเมืองคนแรกที่ประชาชนเคารพนับถือมากเธอได้เจอพะนอขวัญกับชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งคือคุณพระเอกสุดหล่อของเพื่อนสาวอีกคนเป็นน้องชาย หนุ่มสกินเฮดที่มีแววตาขี้เล่น นั่นไง...ไม่ทันขาดคำก็โผล่มาแล้ว จันทน์กะพ้อหันไปทางหน้าร้านเด็กหนุ่มร่างสูงสองคนเดินเข้ามา คนหนึ่งตัดผมสั้นแทบติดหนังศีรษะอีกคนนั้นผมยาวถักเดรดล็อกส์ คนผมสั้นนั้นสะพายกล่องใส่กีต้าร์มาด้วย เจ๊แพง...สองหนุ่มประสานเสียงกัน พร้อมกับก้าวเข้าหารุ่นพี่สาวก่อนจะชะงักไปเมื่อมีหญิงสาวแปลกหน้านั่งอยู่ด้วย แดนดินยิ้มกว้างเมื่อจำได้ว่าหญิงสาวอีกคนคือใคร พี่อ้าย... คนนี้ๆที่เคยเห็นในอัลบั้มภาพสุดอลังการนั่น...ใช่ไหมนะ เขตชลผุดตัวขึ้นจากสระว่ายน้ำทำให้ผิวน้ำกระเพื่อมกระจาย ก่อนจะว่ายเข้าหาริมขอบสระแล้วยกตัวขึ้นไปนั่งลูบน้ำที่เกาะอยู่บนใบหน้าออก แสงแดดยามเช้ากระทบผิวน้ำเป็นแสงระยิบระยับหากรอบตัวนั้นเงียบเพราะเช้าวันนี้ไม่มีใครอยู่ในบ้าน พี่ชายนั้นไปงานแต่งงานเพื่อนสนิทที่อังกฤษอีกสามสี่วันโน่นแหละกว่าจะกลับเจ้าน้องชายก็ไปค้างที่ห้องพักของเพื่อนส่วนพ่อกับแม่ก็อยู่ที่บ้านหลังใหญ่ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกัน หลังจากพี่ชายกลับมาจากต่างประเทศบ้านหลังนี้ก็ถูกสร้างขึ้น พวกเขาทั้งสามจึงย้ายจากบ้านไม้หลังงามมาอยู่ เรือนเล็กกัน เรือนเล็กที่ออกแบบในแนวโมเดิร์น สูงชั้นครึ่งเล่นระดับมีผังเป็นรูปสี่แหลี่ยมโดยมีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลางต่างจากเรือนไม้หลังใหญ่ประดับด้วยไม้ฉลุงดงามที่คุณปู่สร้างโดยสิ้นเชิง เขตชลลุกขึ้นยืดตัวเต็มความสูงหกฟุตเสยผมสั้นที่ตอนนี้เริ่มยาวขึ้นแล้วอาจจะต้องหาเวลาไปตัดเสียบ้างไม่เคยคิดไว้ยาวเหมือนเจ้าน้องชายจอมติสส์ซึ่งตอนนี้ก็ติสส์แตกอีกรอบด้วยการไปตัดสั้นจนเป็นสกินเฮดเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่วางไว้บนโต๊ะสนาม มาเช็ดหยดน้ำที่เกาะตัวออก เขาชอบออกกำลังกายแต่ไม่ค่อยชอบเข้าฟิตเนสเท่าไร ส่วนใหญ่ก็มักจะจ้อกกิ้งหรือไม่ก็ว่ายน้ำแต่ที่ชอบมากกว่าคือกีฬาอย่างบาสเก็ตบอลกับฟุตบอล ซึ่งสองอย่างหลังมาเริ่มชอบตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยวิชชายังทำท่าทางประหลาดใจมากเมื่อเขาชวนไปเล่นบาสเก็ตบอล เขตชลพาดผ้าขนหนูที่ไหล่แล้วเดินกลับเข้าตัวบ้านด้านที่เชื่อมกับห้องครัวหยิบขวดน้ำเปล่าบนโต๊ะกลางมาดื่มทั้งบ้านไม่มีคนอื่นอยู่เพราะคนรับใช้จะเข้ามาทำความสะอาดเมื่อเขาและพี่ชายน้องชายออกจากบ้านแล้วพวกเขาก็เลยทำตัวตามสบาย ยกเว้นพักหลังนี้บางวันก็มีว่าที่พี่สะใภ้มาที่นี่บ้างก็ทำให้บ้านมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกแต่ถ้าพี่ชายแต่งงานแล้วน่าจะไปอยู่ที่เรือนใหญ่มากกว่าเพราะมารดาจัดห้องหอไว้ให้พี่ชายแล้ว เขาเดินออกจากห้องครัวผ่านห้องโถงมองเปียโนสีขาวหลังงาม หยุดชั่งใจเล็กน้อย เสียงโทรศัพท์ภายในก็ดังขึ้น คุณกลางจะรับอาหารเช้าหรือเปล่าคะเสียงแม่บ้านสาวถามมา เจ้าของเสียงคงอยู่ที่เรือนใหญ่ปกติแล้วอาหารเช้าจะจัดที่เรือนใหญ่ยกเว้นพวกเขาจะสั่งเป็นพิเศษให้จัดมาที่เรือนเล็ก ครับ...เดี๋ยวผมไปครับพี่น้ำหวานเขตชลตอบมองเปียโนก่อนจะก้าวตรงไปยังห้องนอนเพื่อจัดการตัวเองให้พร้อมสำหรับการไปทำงานวันนี้เวลาคงไม่พอเล่นเปียโนแล้ว เขตชลก้าวเข้าไปในห้องอาหารบรรยากาศยามเช้าแจ่มใสด้วยแสงแดดอ่อนๆ ที่ผ่านผ้าม่านลูกไม้ขาวเข้ามามารดาเป็นผู้ตกแต่งและดูแลเรือนใหญ่ทั้งหมดบรรยากาศจึงอบอวลไปด้วยอ่อนหวานและอบอุ่นแต่บางทีเขาก็รู้สึกว่ามันหวานเกินไปสำหรับผู้ชายตัวใหญ่ๆ อย่างเขา จำได้ว่าตอนเด็กๆถ้าวิ่งเล่นเสียงดังโครมครามละก็โดนดุทีเดียวก็บ้านเป็นไม้ทั้งหลังจะไม่ให้เสียงดังได้ยังไง นึกว่าจะไม่มีลูกชายแม่กลับบ้านแล้วซะอีกคุณวรัญญาเอ่ยเย้าๆ เมื่อลูกชายคนกลางเดินเข้ามาใบหน้าคมคายนั้นฉาบรอยยิ้มอย่างอารมณ์ดี ผมน่ะกลับอยู่แล้วไม่เหมือนพี่ใหญ่กับนายเล็กหรอกเขตชลทรุดนั่งเก้าอี้ทางซ้ายมือของบิดาซึ่งกำลังจิบน้ำชากลิ่นหอมของชาชั้นดีกรุ่นอยู่ปลายจมูก บ้านเขานั้นชื่นชอบชาเพราะติดมาจากที่ไปใช้ชีวิตในยุโรปกันนานทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่ชายแต่เขาชอบดื่มกาแฟมากกว่า กล้าพูดนะเรา คุณเวศม์เอ่ยเบาๆมองบุตรชายที่ยิ้มกว้าง ก็มีพักหลังๆ นี่หรอกที่เขตชลกลับมาที่นอนบ้านบ่อยๆคนที่ติดบ้านที่สุดน่าจะเป็นลูกชายคนโต ก็ลูกชายคุณพ่อนี่ครับต้องกล้าพูดความจริง เขตชลยักคิ้ว แล้วก็หัวเราะเมื่อถูกมารดาปรายตามา พูดความจริงแบบนี้บ่อยสินะคะคุณวรัญญาแกล้งมองสามีด้วยแววตาคมเฉียบกับรอยยิ้มเย็นๆ อ้าวๆ ทำพ่อแย่แล้วไหมล่ะผมพูดกับคุณหยาจริงทุกเรื่องครับ ไม่มีลับลวงพรางแน่นอน เขตชลกลั้นยิ้มไม่อยู่เมื่อเห็นบิดาส่งยิ้มกับแววตาเจ้าชู้ใส่มารดา การแสดงออกนิดๆ หน่อยๆถึงความรักที่มีให้กันของพ่อกับแม่แบบนี้ เขาเห็นมาตั้งแต่เด็กๆเพราะพ่อกับแม่นี่ล่ะมั้งที่ทำให้พวกเขาพี่น้องเชื่อว่าความรักนั้นมีอยู่จริงสักวันหนึ่งพวกเขาจะมีใครสักคนที่จะอยู่เคียงข้างกันไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต ตอนนี้พี่ชายเขาก็พบคนๆ นั้นแล้ว ให้จริงเถอะค่ะคุณวรัญญาค้อนนิดๆ ให้สามีที่ยิ้มหวานมา ขอบคุณครับเขตชลเอ่ยเมื่อแม่บ้านสาวยกถ้วยกาแฟเข้ามาวางตรงหน้าพี่น้ำหวานเป็นหลานสาวของป้านภาแม่บ้านใหญ่ที่ดูแลบ้านหลังนี้ น้ำหวานยิ้มกว้าง คุณๆบ้านนี้พูดจาเพราะกันทั้งบ้าน แม้จะพูดกับคนรับใช้ก็ตามอีกทั้งก็ยังไม่เคยกดขี่ข่มเหงหรือเหยียดยามลูกจ้างเลยคนที่ทำงานบ้านอังสนาต่างก็ทำงานกันนานๆ ทั้งนั้น วันนี้มีข้าวหมูทอดของโปรดคุณกลางนะคะรับเลยไหมคะ น้ำหวานเอ่ยถาม อาหารเช้าของคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายมักเป็นอาหารไม่หนักมากอย่างพวกข้าวต้มหรืออาหารเช้าฝรั่ง แต่ของคุณๆสามพี่น้องนั้นเป็นมื้อหนักเลยทีเดียว ยกมาเลยครับ เขตชลพยักหน้า คุณวรัญญามองบุตรชายที่ตอนนี้เป็นหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ละม้ายบิดา เปลี่ยนไปจากลูกชายตัวเล็กๆ มาก น่านฟ้าลูกชายคนโตที่ตอนนี้เป็นหนึ่งในผู้บริหารหลักของอังสนากรุ๊ปเขาเดินตามเส้นทางที่เธอกับสามีต้องการมาตลอดจริงอยู่ว่าพวกเธอไม่ได้บังคับหากน่านฟ้าจะต้องการสร้างเส้นทางชีวิตตัวเองใหม่แต่เขาก็เลือกทางที่พ่อแม่วางไว้ซึ่งแน่นอนว่าน่านฟ้าคงไม่ได้เดินมาดีๆ หรอก เพียงแต่เจ้าตัวอุบเงียบไว้ว่าเคยทำอะไรมาบ้างเท่านั้นและตอนนี้น่านฟ้าก็มีคนรักที่ดี อีกไม่นานเธอน่าจะได้อุ้มหลานเสียที ส่วนลูกชายคนรองนั้น...เขตชลเลือกที่จะเรียนต่อมัธยมที่เมืองไทยมากกว่าไปเรียนต่ออังกฤษอย่างน่านฟ้าเขามุ่งมั่นและสนใจด้านเปียโนมีเค้าว่าอาจจะเรียนต่อเฉพาะทางด้านดนตรีซึ่งเธอกับสามีก็พร้อมสนับสนุนแต่แล้วก็กลับเลือกไปเรียนต่อวิศวกรรมศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยในต่างจังหวัดทำให้ทุกคนแปลกใจไปตามๆ กัน ถึงจะเปลี่ยนใจเปลี่ยนเส้นทางตัวเอง แต่เขตชลก็ทำให้สิ่งที่เลือกได้ดีเมื่อเรียนจบปริญญาตรีแล้วก็เขาก็ไปเรียนต่อปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจที่อเมริกาตอนนี้เขาเข้ามาทำงานในอังสนากรุ๊ปเช่นเดียวกับนานฟ้าเหลือก็เพียงเรื่องชีวิตส่วนตัวที่เจ้าตัวยังลอยชายไปมาไม่มีทีท่าว่าจะคบหาใครจริงจัง หรือบางที...ก็อาจมองหาใครบางคนอยู่ และแดนดินลูกชายคนเล็ก...ก็กำลังตั้งหน้าตั้งตาเพื่อคว้าปริญญาด้านการออกแบบนอกจากจะมีโปรเจกต์โน่นนี่ในวิชาเรียนก็ยังทำกิจกรรมเสริมอีกวุ่นวาย ตากลาง เย็นนี้ไม่มีงานอะไรใช่ไหมไปงานเป็นเพื่อนแม่หน่อย เขตชลรีบวางถ้วยกาแฟที่ยกขึ้นจิบสบนัยน์ตาคมหวานของมารดา เขาไม่รู้ว่ามารดาไปเช็กตารางงานของเขามาจากไหน อ่า...ไม่มีงานครับแต่มีใบสั่งจากอังกฤษ เขาตอบยิ้มๆ ใบสั่งที่เพิ่งมาเมื่อคืนนี้เอง คุณเวศม์ยิ้มขำมองแม่ลูกเขาปะทะกันอย่างมีชั้นเชิง พอวางใจเรื่องคู่ครองของน่านฟ้าแล้วเขตชลก็น่าจะกลายมาเป็นเป้าหมายลำดับถัดไป ในบรรดาลูกชายทั้งสาม น่านฟ้าก็น่าจะ ร้าย ที่สุดนั่นแหละ แต่เขตชลก็ไม่น่าจะห่างชั้นกันมากนัก หือ...พี่ชายเราน่ะเหรอสั่งอะไรมา คุณวรัญญาหรี่ตา พอรู้ว่าเขตชลหาทางเลี่ยงแต่ก็สงสัยว่าน่านฟ้าที่อยู่อังกฤษตอนนี้สั่งอะไรน้องชาย จริงๆเธอก็ไม่ได้รีบมองหาลูกสะใภ้คนที่สองหรอก แต่ก็แค่อยากควงลูกชายออกงานบ้างเพราะพอโตขึ้นแต่ละคนก็เลิกอ้อนแม่กันหมดเวลาเธอชวนไปไหนก็ชอบหาข้ออ้างหนีอยู่เรื่อย พี่ชายผมนั่นแหละครับสั่งให้ไปเฝ้าพี่นาง เขตชลตอบกลั้วหัวเราะ ยังขำพี่ชายอยู่เลยคุณแพงเขาจะไปแฮงเอ้าท์กับเพื่อน พี่ชายผมก็โรคห่วงกำเริบ อย่างคุณแพงน่ะ...หึๆ คุณแพง...พี่นางหรือพี่สะใภ้ของเขาเห็นท่าทางเฉยๆซื่อๆ นั่นน่ะ ลวงตาชัดๆ ไม่ใช่เป็นคนร้ายกาจ... แต่เรียกว่าดูแลตัวเองได้ดี...ดีมากๆก็แล้วกัน อย่างนั้นแม่ก็ห่วงนะกลางไปดูแลตามที่พี่เขาว่าก็ดีแล้ว แต่อย่าไปเมาซะเองล่ะคุณวรัญญารีบปรามลูกชายตัวดี บางทีเธอก็เป็นห่วงเขตชลนี่แหละมากที่สุด งานนี้หยดเดียวก็ไม่ได้ครับ...พี่ใหญ่เขาสั่งมาเขตชลหัวเราะในลำคอ ก็เขามีหน้าที่เป็นสารถี พี่ใหญ่กำชับว่าห้ามดื่มเด็ดขาดไม่ว่าจะเมาหรือไม่ก็ตาม แต่ถ้าดื่มห้ามขับรถเด็ดขาด แบบนั้นก็ดีจ้ะ แต่งานนี้ไม่เมาเหล้า อาจจะเมารักก็ได้นะครับเพื่อนคุณแพงน่าจะสวยๆ กันทั้งนั้น เขตชลหัวเราะชอบใจที่เห็นมารดาค้อนใให้ แหม...แม่ก็รอเห็นเราเมารักหัวปักหัวปำอยู่เลยล่ะ เขตชลยิ้ม เมารักหัวปักหัวปำอย่างนั่นเหรอ...
..........................................................................
Create Date : 30 มีนาคม 2558 |
|
2 comments |
Last Update : 6 เมษายน 2558 21:31:41 น. |
Counter : 1447 Pageviews. |
|
|
|
เรื่องของนายกลางน่าจะเผ็ด ร้อน แซ่บ กว่าแน่ ๆ เลย รอตอนต่อไป ...