ไหว้พระ ๑๑ วัด รัตนโกสินทร์

สวัสดีคร่าาาาาา วันนี้มารีวิว ออกนอกเรื่องกินบ้าง มาเป็นรีวิวไหว้พระ ๑๑ วัด รัตนโกสินทร์ จ้า

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถเวียน "ไหว้พระ ๑๑ วัด รัตนโกสินทร์" (รับของที่ระลึก ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม) ระหว่าง 8 กรกฎาคม ถึง 31 สิงหาคม 2560 เวลา 09.00-17.00 น. ทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันหยุดราชการ ให้บริการฟรี !!



กิจกรรม "ไหว้พระ ๑๑ วัด…รัตนโกสินทร์" ซึ่ง ททท. และ ขสมก. จัดรถเวียนรอบเกาะรัตนโกสินทร์และพื้นที่ใกล้เคียงกรุงเทพมหานคร เดินทางเส้นทางเริ่มจากวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม - วัดมกุฎกษัตริยาราม - วัดบวรนิเวศ - วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ - วัดระฆังโฆสิตาราม - วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม – วัดราชบุรณะ – วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม - วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม - วัดสุทัศนเทพวราราม - วัดสระเกศ และวนกลับมายังวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม โดยผู้ใช้บริการสามารถขึ้น-ลง (ฟรี) ได้หน้าวัดทั้ง ๑๑ แห่งนี้ ซึ่งแต่ละวัดมีความสำคัญคือเคยเป็นที่ประทับสมเด็จพระสังฆราชในแผ่นดินรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่องค์ที่ ๑ ถึงองค์ปัจจุบัน (องค์ที่ ๒๐)



เราลืมถ่ายรูปหน้ารถเมล์มา รถเมล์ก็จะเป็นรถเมล์แดงของ ขสมก. แหละค่ะ แต่ขึ้นที่เลขสายว่าเป็น “ไหว้พระ ๑๑ วัด รัตนโกสินทร์” เป็นป้ายสีเหลืองทอง และป้ายที่ข้างประตูทางซ้ายมือจะบอกว่าไปวัดไหนบ้าง ส่วนป้ายทางขวามือจะบอกถึงเวลาในการออกรถ รถเมล์จะออกทุก 15 นาที โดยออกตั้งแต่เวลา 9.00 - 17.00 น. และมีบริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 


วัดชนะสงคราม


วัดชนะสงคราม

วัดแรก เราไปเริ่มต้นที่วัดชนะสงครามค่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับไหว้พระ ๑๑ วัดที่ขสมก. จัดแต่ก็สามารถไปไหว้พระกันได้นะคะ เพราะอยู่ไม่ไกลจากวัดบวรนิเวศค่ะ เราเริ่มต้นที่วัดนี้แล้วเดินไปวัดบวรนิเวศ





วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร
ในอดีตเคยเป็นที่ประทับจำพรรษาของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวิรยาลงกรณ์ (พระองค์เจ้าฤกษ์ ปญญอคฺโต) สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ องค์ที่ ๘
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส (พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ มนุสฺสนาโค) สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ องค์ที่ ๑๐
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (หม่อมราชวงศ์ชื่น สุจิตฺโต นพวงศ์) สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ องค์ที่ ๑๓
และ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน คชวัตร) สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ องค์ที่ ๑๙



ที่วัดบวรฯ นี้นะคะ นอกจากจะมีพระประธานในพระอุโบสถแล้ว ยังสามารถไปที่วิหารเก๋ง ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระสรีรางคารของสมเด็จพระสังฆราช ๔ พระองค์ ได้แก่
- พระสรีรางคารของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ประดิษฐานไว้ที่วิหารเก๋งด้านทิศใต้

บนแท่นจะมีพระพุทธชินสีห์จำลอง ซึ่งสร้างหล่อไว้ตั้งแต่เมื่อปีที่สมเด็จพระสังฆราช ครบ 84 พรรษา โดยใต้ฐานจะเป็นที่ตั้งพระสรีรางคาร
- สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ พระสรีรางคารจะอยู่ที่ฐานมุขด้านทิศตะวันออก บนฐานคือพระพุทธฑีฆายุมหามงคล หรือที่รู้จักกันในชื่อ “หลวงพ่อดำ” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย
- ส่วนพระสรีรางคารของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ประดิษฐานบนพระพุทธปัญญาอัคคะ
- พระสรีรางคารของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ประดิษฐานในฐานพระพุทธไสยาสน์





เราชอบไปไหว้หลวงพ่อดำค่ะ เซียมซีแม่นดี 555 เอาเป็นว่า ถ้าใครได้ไปวัดบวรฯ เราขอแนะนำว่าเดินไปให้ทั่ววัดค่ะ ที่ไหนเปิดในไหว้ก็เข้าไปไหว้เลยค่ะ และยังสามารถเดินไปดูเต่าดูปลาได้ด้วยนะคะ จากวิหารเก๋งเดินตรงๆ ไปตามทาง สะพานที่สองค่ะ จะเห็นเต่าเห็นปลาเยอะมากกกกก เราไป เราต้องแวะไปดูทุกครั้งเลยค่ะ





จากนั้นก็ขึ้นรถเมล์ไหว้พระ ๑๑ วัดที่หน้าวัดตรงป้ายรถเมล์เลยค่ะ รอสักพักใหญ่ๆ เกือบครึ่งชั่วโมง รถเมล์ก็มา พนักงานน่ารักมากค่ะ คุยเก่งแนะนำดี หน้าตาก็น่ารักด้วยนะคะ ^^ ชื่นชมๆ ค่ะ ซึ่งวัดต่อไปที่จะไปคือวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร แถวท่าพระจันทร์ค่ะ ซึ่งจะลงก็ได้ หรือจะไปต่อวัดอื่นเลยก็ได้ค่ะ



ซึ่งวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร
ในอดีตเคยประทับพรรษาของ สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ศุข) สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ องค์ที่ ๒
สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (มี) สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ องค์ที่ ๓
สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สุก ญาณสังวร) สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ องค์ที่ ๔
และสมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ด่อน) สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ องค์ที่ ๕

วัดที่เราไปไหว้เป็นวัดที่สาม คือ วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร วัดนี้รถเมล์จะจอดให้ที่ท่าช้างแล้วเราร้องข้ามเรือข้ามฟากไปเองค่ะ อ้อ ที่ท่าช้างสามารถข้ามไปได้ 2 ที่นะคะ คือวัดระฆังและวังหลัง ถ้าข้ามไปวังหลังจะอยู่ฝั่งขวามือค่ะ ส่วนเราข้ามไปวัดระฆังอยู่ฝั่งซ้ายมือ ค่าเรือคนละ 3 บาทค่ะ






นี่คือท่าข้ามไปวัดระฆังค่ะ


นี่คือท่าข้ามไปวังหลังค่ะ


เพื่อความมั่นใจมองบนหลังคาเรืออีกที



ท่าวัดระฆังเป็นท่าที่นกพิราบเยอะมากกกกกก หากเป็นคนเดินนำนี่ต้องคอยแหวกทางนก บางตัวนี่แทบจะเหยียบหัวเลยทีเดียว 555



วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
ในอดีตเคยเป็นที่ประทับจำพรรษาของสมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ศรี) สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ องค์ที่ ๑





เมื่อไหว้พระเสร็จก็แวะให้อาหารปลาอาหารนก หรือปล่อยปลาปล่อยนกก็ได้นะคะ มีคนยืนเรียกลูกค้าอยู่แถวๆ ท่าน้ำค่ะ แต่เราจะเอาอาหารปลาจากตู้กด หยอดสิบบาท เอาถุงรอง อาหารปลาก็จะไหลๆๆๆ ลงมา คิดถึงสมัยเด็กๆ ดีค่ะ อิอิ




จากนั้นเราก็ข้ามเรือกลับไปที่ท่าช้าง


ระหว่างนั่งเรือก็ชมวิวไปเรื่อยๆ

เรามายืนรอรถเมล์จุดเดิมที่เราลงมา ครั้งนี้รอไม่นานเลยค่ะรถมาล่ะ วัดต่อไปที่รอจะจอดให้ลงคือวัดโพธิ์ แต่เราเห็นคนเยอะเลยของไปวัดต่อไปเลยล่ะกัน



วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)

ในอดีตเคยประทับจำพรรษาของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรามานุชิตชิโนรส (พระองค์เจ้าวาสุกรี สุวณฺณรงฺสี) สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ องค์ที่ ๗
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริ สุขเจริญ) สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์องค์ที่ ๑๗

วัดต่อไปที่จะจอดคือ วัดราชบุรณราชวรวิหาร หรือวัดเลียบตรงสะพานพุทธค่ะ ระหว่างทางจะมีจอดป้ายให้ที่ป้าย รด. ค่ะ สามารถต่อรถไปที่อื่นๆ ได้ ทั้งรถเมล์รอบเกาะ รถเมล์สาย 1, 2, 25, 48, 82 ที่จริงมีอีกนะคะ แต่จำได้แค่นี้ แหะๆ 😅



วัดที่เราไปไหว้เป็นวัดที่สี่ คือ วัดราชบุรณราชวรวิหาร

ในอดีตเคยเป็นที่ประทับจำพรรษาของสมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (นาค) สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ องค์ที่ ๖
(ประทับวัดมหาธาตุในพระนาม ประทับจริงวัดราชบุรณะ)





วัดนี้เป็นวัดที่เราผ่านบ่อยมากกกกกก แต่ไม่เคยเข้าไปเลยค่ะ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เข้า แต่...โบสถ์ไม่เปิดคร่าาาา ยืนไหว้หน้าโบสถ์นั่นแหละ แล้วออกมานั่งรถเมล์ไปวัดต่อไปคือออออ



วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็น วัดที่เราไปไหว้เป็นวัดที่ห้า

ในอดีตเคยเป็นที่ประทับจำพรรษาของ
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ (หม่อมเจ้าภุชงค์ สิริวฑฺฒโน ชมพูนุท) สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ องค์ที่ ๑๑
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน นิลประภา) สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ องค์ที่ ๑๘
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมฺพโร ประสัตถพงศ์) สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ องค์ที่ ๒๐ ซึ่งเป็นองค์ปัจจุบัน



และพระอุโบสถก็ไม่เปิดอีก ก็ยืนไหว้ที่ข้างหน้าอีกรอบ วัดนี้เป็นวัดที่เราชอบมากกกก เลนค่ะ เราว่าเป็นวัดที่สวยงามมากกกกก

อ้อ เขาว่าว่าให้มารับของที่ระลึกที่นี่แต่เราไม่เห็นมีใครมาแจกเบยยยย เสียใจ ถ้าใครไปแล้วได้ เอามาอวดหน่อยนะคะ อยากรู้ว่าได้อะไร อิอิ

เสร็จแล้วเราก็ข้ามคลองไป วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็น วัดที่เราไปไหว้เป็นวัดที่หก




ในอดีตเคยเป็นที่ประทับจำพรรษาของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทโว) สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ องค์ที่ ๙



เหมือนกันเลยค่ะ พระอุโบสถไม่เปิด เฮ้อออออ ท้อจุงหลายวัดล่ะ เลยถ่ายรูปเลยซะเลย 555



ข้ามคลองเดินกลับมาที่ตรอกหม้อค่ะ  หมดไปครึ่งวันใช้พลังงานไปเยอะ ต้องแวะเติมพลังซะหน่อย กับราดหน้าร้านนายเคี้ยง อยู่ตรงข้ามวัดราชบพิธค่ะ ราคาไม่แพง เริ่มต้นจานละ 30 บาทเอง จะเลยเป็นเส้นใหญ่ เส้นหมี่ หมี่กรอบ ผัดซีอิ้ว จะเพิ่มไข่ดาวไข่เจียว ก็ได้เลยจ้าาาา นอกจากนี้ยังมีลูกชิ้นหมูปิ้งและหมูสะเต๊ะด้วยน้าาาา รอรีวิวเต็มๆ รีวิวหน้านะคะ






ได้พลังจากราดหน้าและน้ำซ่าๆ แล้วก็เดินทะลุตรอกหม้อมา ก็จะเจอวัดถัดไปที่เราจะเข้าก็คืออออออ วัดสุทัศนเทพวรารามวรมหาวิหาร เป็น วัดที่เราไปไหว้เป็นวัดที่เจ็ด



ในอดีตเคยเป็นที่ประทับจำพรรษาของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว พงษ์ปาละ) สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ องค์ที่ ๑๒



ที่นี่มีพระอุโบสถ 2 หลัง เป็นวัดที่เราเป็นลูกศิษย์มาหกปี แต่รู้จักวัดและเข้าวัดนี้น้อยมากกกกก ถ้าไม่นับที่ต้องเข้าตามโรงเรียนนะคะ อ้อ แอบบอกนิดนึงว่าที่วัดนี้มาถ่ายรูปสวยมากกกกก เรามาถ่ายช่วงบ่ายแก่ๆ หน่อย แสงสวยมากกกกก ต้องชมตากล้องเก่งด้วยนะเนี่ย อิอิ

และวัดนี้ก็เป็นอีกวัดนึงที่ไม่เปิดอีกแล้วววววววว เสียจายยยย สี่วัดติดเลยนะเนี่ยที่ไม่ได้เข้าไปในพระอุโบสถ 😢😢😢 แต่ไม่ท้อ ท้องอิ่มแล้วลุยต่อไปวัดเบญฯ ดีกว่าาา





ออกมารอรถเมล์ที่มีป้ายไหว้พระ ๑๑ วัด รอไปชั่วโมงกว่าไม่มีรถมาสักคันเลยคร่าาาา มีแต่สาย 12 รอจนท้อจะถอดใจแล้ว ว่ารถวิ่งผ่านป้ายนี้จริงๆ หรือเปล่า โทรไปถามขสมก. เขาบอกว่าต้องถาม ททท. ให้เบอร์ 02 มา โทรไปติดไม่มีคนรับ เลยหาเบอร์จากในเน็ต ได้เป็นคอลเซ็นเตอร์มา เขาก็บอกว่าหน้าวัด ซึ่งหน้าวัดสุทัศน์เนี่ยมันมีหบายทางที่เขาเรียกว่าหน้าวัดไงคะ แต่พนักงานก็ดีนะคะ หาข้อมูลให้เรา โทรกลับมาบอกด้วย แต่จุดๆ นั้นคือรอรถจนหายอิ่ม รอจนเหนื่อย จนหมดแรงจะไปต่ออ่ะค่ะ แม่ไม่ไหวแล้ว แม่บ่นอยากไปห้างหาแอร์เย็นๆ แล้ว เราเลยตัดสินใจนั่งสาย 12 ไปลงรด. จะไปเที่ยวห้างต่อล่ะ พอไปรอรถเมล์ที่ รด. รถเมล์ไหว้พระ ๑๑ วัดมาคร่าาาา มองหน้ากันกระโดขึ้นวัดวัดเบญฯ โล้ดดดดด ทีนี้ก็วนอีกรอบ มาวัดเลียบ วัดราชบพิธ วัดสุทัศน์ ทำให้เราได้รู้ว่าการที่เขาติดป้ายว่ารถเมล์จอดที่ป้ายจริงๆ แล้วนั้น รถเมล์มาจอดที่หน้า กทม. ค่ะ!!! แล้วเอาป้ายไปติดที่ป้ายรถเมล์ทำมายยยยยยย ให้เราเสียเวลารอเป็นชั่วโมงๆ  เสียเวลามากกกกกกกกกก แล้วรถเมล์ก็ไปวัดสระเกศต่อค่ะ แต่เราไม่ได้ลงเราตีไปวัดเบญเลยจ้าาาาาา



วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

ในอดีตเคยประทับจำพรรษาของ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทโย ช้างโสภา)  สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ องค์ที่ ๑๕



และวัดที่เราไปไหว้เป็นวัดที่แปด คือ วัดเบญจมบพิตดุสิตวนารามราชวรวิหาร เป็นวัดที่เห็นได้ด้านหลังของเหรียญห้าที่ใช้ในปัจจุบัน
ในอดีตเคยเป็นที่ประทับจำพรรษาขอะคงสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตติโสภโณ เกตุทัต) สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ องค์ที่ ๑๔





วัดนี้เราไม่ได้หลายปีแล้ว ปีนี้มานักท่องเที่ยวเปลี่ยนไปเยอะมากกกก มีแต่นักท่องเที่ยวตะวันออกกลางหรือแขกนั่นแหละ และก็เป็นคนจีนทั้งน้านเลยยยยย








5

ไหว้จนครบที่ใจต้องการล่ะ เราก็กระโดขึ้นรถเมล์กลับไปที่วัดบวรฯ ที่เราเริ่มต้นค่ะ อุ๊ย ได้ขึ้นรถคันเดิมด้วย ขึ้นปุ๊บรถออกปั๊บ ได้นั่งคันเดิมที่เริ่มต้นนั่งด้วย นี่ที่นั่งมาทั้งวัน คนน้อยมากกกกก บางจังหวะเหมือนมารับส่งเราแค่สองคนแม่ลูกเลยค่ะ 5555



ถัดจากวัดเบญฯ ก็จะมาที่วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร

ในอดีตเคยประทับจำพรรษาของ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฐายี สิริสม) สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ องค์ที่ ๑๖

วัดนี้ก็เป็นอีกวัดที่เรานั่งรถผ่านบ่อยมากกกกก แต่ไม่เคยได้แวะเข้า วันนี้ก็ไม่ได้แวะเข้าเพราะโบสถ์ไม่เปิดเราก็เลยไม่ลง

จบเส้นทางไหว้พระ ๑๑ วัด รัตนโกสินทร์ของเราแล้ว แต่ยังไม่จบการไว้หพระของเราเพราะเราไปปิดท้ายวัดที่เก้าที่วัดปทุมวนารามนั่นเองค่ะ

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก //www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9580000137820
และรูปภาพบางรูปจาก
//travel.trueid.net/detail/92843

ยังไงใครได้อ่านแล้วตามกันไปไหว้พระได้นะคะ เหลืออีกสองวันสุดท้ายเท่านั้นคือ เสาร์และอาทิตย์หน้า เราขอแนะนำว่าให้ออกมาเช้าๆ เพราะคนจะน้อยและรถไม่ค่อยติดด้วยค่ะ

สำหรับรีวิวไหว้พระรีวิวคงต้องขอจบแค่นี้ก่อนนะคะ เจอกันใหม่รีวิวหน้าแต่จะเป็นรีวิวอะไรต้องรอดูนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ บ๊ายบายยยยยยย

Create Date : 20 สิงหาคม 2560 Last Update : 20 สิงหาคม 2560 15:01:55 น. Counter : 3291 Pageviews.		1 comments
Share Tweet