Group Blog
กุมภาพันธ์ 2551

 
 
 
 
 
1
2
4
5
7
8
9
10
11
12
14
15
16
17
18
19
20
21
22
24
25
26
27
28
29
 
 
ขั้นตอนที่ 3 สำหรับคนที่อยากประสบความสำเร็จในการฝึกฝนภาษาอังกฤษ: หาเวลาในการฝึกฝนภาษาอังกฤษ
3. มาหาเวลาฝึกภาษาอังกฤษกันเถอะ

คนไทยร้อยละ 90 ขึ้นไป(จากโพลของผมเอง) อยากเก่งภาษาอังกฤษกันทั้งน้าน แต่มีเพียงไม่ถึง 10% ที่ได้ใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน ดังนั้น 80% ขึ้นไปคือพวกฝันลมๆ แล้งๆ ว่าอยากเก่งภาษาอังกฤษ แต่ไม่ได้ฝึกฝน แล้วจะเก่งได้อย่างไร? (นอกจากไปเกิดใหม่เป็นลูกฝรั่งน่ะครับ) วันนี้ผมอยากจะพูดถึงเรื่องเวลาในการฝึกฝนภาษาอังกฤษ ผมมักจะพร่ำบอกกับลูกศิษย์ผมทุกคนว่า ผมช่วยแนะนำพวกคุณได้นะว่า คุณฝึกฝนถูกวิธีหรือไม่? คุณควรจะฝึกอย่างไรให้สำเร็จ? แต่สิ่งหนึ่งที่ผมช่วยเหลือพวกคุณไม่ได้คือเรื่องของการหาเวลาในการฝึกฝนนั่นเอง ซึ่งงานนี้ตัวใครตัวมันครับ เพราะแต่ละคนก็ใช้ชีวิตแตกต่างกันไป ผมคงไม่เข้าไปนั่งจัดเวลาให้นักเรียนแต่ละคนได้

สิ่งที่ผมแนะนำคือ คุณควรจะหาเวลาฝึกให้ได้ประมาณ 2 ชั่วโมง ถ้าอยากเห็นผลภายใน 3 เดือน อย่าเพิ่งพูด “โอ้โห...ใครจะไปหาเวลาได้ตั้งวันละ 2 ชั่วโมง” เพียงแค่ 2 ชั่วโมงใน 24 ชั่วโมงของแต่ละวันเองไม่มากหรอกครับ ลองดูภาษาไทยสิ คุณใช้ภาษาไทยวันละกี่ชั่วโมง แล้วจะไม่เก่งภาษาไทยได้ยังไง? ดังนั้นถ้าคุณใช้ภาษาอังกฤษได้มากขึ้นเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งเก่ง(เหมือนภาษาไทย)มากขึ้นเท่านั้น คุณมี 2 ทางเลือกครับ 1) คือตัดกิจกรรมบางอย่างในชีวิตคุณออกไปเพื่อให้มีเวลาว่างมาฝึกภาษาอังกฤษมากขึ้น ผมแนะนำเช่น การดูละครตอนหัวค่ำ 1 เรื่องก็ 2 ชั่วโมงแล้ว ดังนั้นเอาเวลาติดละครหลังข่าว มาฝึกภาษาอังกฤษเพื่ออนาคตอันสดใสดีกว่าดูละครสนุกชั่วครู่ พูดง่ายแต่ทำอาจจะยากมากกกก (สำหรับบางคนที่ติดละคร) ส่วนทางเลือกที่ 2) สำหรับคนที่ไม่อยากตัดกิจกรรมใดๆ ทั้งสิ้นออกจากชีวิตคุณ คือคุณต้องนอนดึกขึ้นกว่าเดิม 2 ชั่วโมงเพื่อฝึกภาษาอังกฤษ ถ้าคุณไม่เลือกทั้ง 2 อย่าง ก็คงหาเวลาฝึกฝนภาษาอังกฤษไม่ได้ และคงต้องฝัน(กลางวัน)ต่อไปว่าจะเก่งภาษาอังกฤษได้ในที่สุด

ผมเจอมาเยอะครับ คนอยากเก่งแต่ไม่อยากฝึก เพราะคนไทยชอบอะไรที่สำเร็จรูป ไม่ค่อยทุ่มเทจริงๆ จังๆ เรียกว่าไม่มีวินัยในการฝึกน่ะครับ มีเยอะ เมื่อก่อนผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เป็นคนที่มีข้ออ้างให้กับตัวเองว่าไม่มีเวลาฝึกเพราะเรียนหนักมาก ต้องทำวิทยานิพนธ์ด้วย ครูเคทให้การบ้านมาฝึกก็ไม่ฝึก พอเห็นเราไม่มีพัฒนาการก็เลยถามว่าให้บอกมาว่าวันๆ นึงเราทำอะไรบ้าง ถึงแม้เราจะเรียนหนัก แต่ก็เทียบไม่ได้กับครูเคทที่ทำงานเยอะมาก เรายังพอมีเวลาดูหนัง ดูละคร ไปช็อปปิ้ง ซึ่งครูเคทก็ให้สติว่า ถ้ายังคิดว่าภาษาอังกฤษสำคัญกับชีวิตเราในอนาคต ก็ต้องเจียดเวลาให้กับมัน ถ้าไม่มีเวลาให้กับภาษาอังกฤษแสดงว่าเราเห็นความสำคัญกับการดูหนัง ดูละคร มากกว่าภาษาอังกฤษสิ ขอบคุณมากครับ...ครูเคท ถ้าไม่มีวันนั้นที่ครูเคทเตือนสติผม ก็คงไม่มีผมในวันนี้แน่ๆ ผมอยากให้คุณผู้อ่านนำเอาสิ่งนี้กลับไปคิดดูนะครับ

หลังจากผมได้สติ(ที่จะต้องฝึกฝนภาษาอังกฤษทุกวัน)กลับมา ผมก็ฝึกฝนทุกวัน อาจจะไม่ถึงวันละ 2 ชั่วโมง ได้ฝึกสักครึ่งชั่วโมงก็ยังดี จนติดว่าต้องทำทุกวันเหมือนที่คนเราต้องกินเข้าทุกวันเลยครับ ถ้าวันไหนไม่ได้ทำจะรู้สึกเหมือนมันขาดอะไรไปสักอย่าง ถ้าคุณสนุกกับการฝึกฝน ไม่คิดว่ามันเป็นหน้าที่ที่ต้องจำใจทำ ทำจนติด แล้วคุณก็จะสำเร็จในที่สุดครับ ลองดูนะครับ

ผมอยากยกตัวอย่างลูกศิษย์ในใจผมที่ผมมักจะพูดถึงอยู่บ่อยๆ ลูกศิษย์คนนี้หน้าตาออกจะเป็นนักเลงด้วยซ้ำ ตอนเรียนอยู่ผมก็ไม่เห็นวี่แววว่าเค้าจะสำเร็จนะ แต่พอตอนสอบช่วงกลางหลักสูตร คนนี้เข้าห้องมาสาย เพื่อนๆ เค้าพูดบทละครให้ครูเคทฟังกันหมดแล้ว แต่พอคนนี้พูดออกมา ทุกคนในห้อง (รวมถึงผมกับครูเคทด้วยครับ) ถึงกับตะลึง! เพราะเสียงที่ได้ยิน ถ้าไม่เห็นหน้านึกว่าฝรั่งมาพูดให้ฟังเลยครับ พอซักถามว่าฝึกยังไงถึงเปลี่ยนสำเนียงเป็นฝรั่งได้ภายใน 6 สัปดาห์ เค้าฝึกหนักมากๆ อย่างพูดตามหนัง วันธรรมดาเค้าจะดู 1-2 เรื่องทุกวัน ส่วนเสาร์และอาทิตย์เค้าจะดู 4-6 เรื่อง คือเรียกว่าดูแล้วพูดตามทั้งวัน คือมีลูกฮึด ลูกบ้าในการฝึกมากๆ ให้การบ้านอะไรไปเค้าจะทำ 2-3 เท่าจากที่สั่งไปเลย ผมและครูเคทจึงไม่แปลกใจว่าเค้าจะทำสำเร็จได้ภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ แต่อยากให้มีคนไทยอย่างนี้เยอะๆ จัง (ซึ่งจากประสบการณ์...หายากมากๆ)

อย่าลืม หันกลับมาวิเคราะห์เวลาของคุณเองนะ ว่าจะจัดการหาเวลาว่างในการฝึกฝนภาษาอังกฤษในแต่ละวันได้อย่างไร? ใครยุ่งมากๆ ก็เจียดเวลาสักวันละครึ่งชั่วโมงก่อนนอนฝึกภาษาอังกฤษเพื่ออนาคตอันสดใสของคุณเอง ก็ยังดีนะครับ



Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2551 22:03:50 น.
Counter : 2134 Pageviews.

10 comments
  
โดย: pumpond วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:58:38 น.
  
ขอบคุณฮ่ะ ครู
โดย: taatum IP: 203.131.208.115 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:02:28 น.
  
มาต่อสิฮ่ะครูรออออออออออรอออออออรออออออออ!!! อยู่ฮ่ะ
โดย: taatum IP: 203.131.208.115 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:24:55 น.
  
เรียนถามครูเฟียตครับว่าถ้ามีจำนวนหนังที่จะใช้ฝึกไม่มากนัก เราสามารถดูซ้ำได้หรือเปล่าครับ และดูได้ประมาณกี่รอบ
โดย: แท็บ IP: 202.91.18.204 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:07:51 น.
  
ดูซ้ำได้ไม่ควรเกิน 2-3 รอบ แนะนำให้เปลี่ยนหนังไปเรื่อยๆ จะดีกว่านะครับ จะได้สถานการณ์ที่หลากหลายครับ
โดย: Kru Fiat (KruFiat ) วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:4:24:55 น.
  
ดูทุกวันเลยค่ะ วันละหลายเรื่องเลย แต่ก็ยังอ่านภาษาไทยอยุ่ดีอะ อิอิ
โดย: แป๊ะย๊ง วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:18:27:25 น.
  
ติดสงครามนางฟ้าอยู่ ตอนนี้ใกล้จบแล้ว แต่พอมาอ่านบทความครูเฟียตเลยตัดใจละครน้ำเน่าได้ หันมาฝึกฝนภาษาอังกฤษดีแทน ขอบคุณครูเฟียตที่เขียนบทความดีๆจนทำให้มีแรงฮึดในการฝึกฝนนะคะ
โดย: แป๊ะย๊ง วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:22:53:04 น.
  
ขอบพระคุณครูมากค่ะขอให้ครูและครอบครัวและคนที่ครูรักมีแต่ความสุขความเจริญสมหวังในทุกๆด้านน่ะค่ะ
โดย: หลิน IP: 58.9.79.190 วันที่: 2 เมษายน 2551 เวลา:14:04:35 น.
  
ขอบพระคุณครูมากค่ะขอให้ครูและครอบครัวและคนที่ครูรักมีแต่ความสุขความเจริญสมหวังในทุกๆด้านน่ะค่ะ
โดย: หลิน IP: 58.9.79.190 วันที่: 2 เมษายน 2551 เวลา:14:04:54 น.
  
คือถ้าเราฟังเสียงอังกฤษได้ถ้าเจอคำใน นสพ เราจะอ่านได้เลยไหม
โดย: PAN IP: 58.9.228.24 วันที่: 3 ธันวาคม 2552 เวลา:19:58:10 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

KruFiat
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 304 คน [?]



ครูเฟียต ธีรเจต บุญพยุง
"หากคุณพูดภาษาไทยได้ คุณก็ควรจะพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นการเรียนรู้ภาษาด้วยวิธีธรรมชาติเหมือนกัน"
ข่าวดีสุดๆ!หนังสือ pocket book เล่มแรกของครูเฟียต ชื่อ "เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบนอก" มีวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book แล้ว และขึ้นอันดับ 1 top seller เป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดใน Ookbee อยู่ในขณะนี้ อย่าบอกนะ ว่าคุณยังไม่ได้ download ที่ https://bit.ly/KruFiatBook 4| | | ข่าวดีสุดๆ!หนังสือ pocket book เล่มแรกของครูเฟียต ชื่อ "เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบนอก" มีวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book แล้ว และขึ้นอันดับ 1 top seller เป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดใน Ookbee อยู่ในขณะนี้ อย่าบอกนะ ว่าคุณยังไม่ได้ download ที่ https://bit.ly/KruFiatBook | | |3