Smiley.๐Smiley*~๐..ความรัก เป็นเรื่อง สวยงาม..๐Smiley*~๐Smiley.๐Smiley*~๐.
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
9 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
..Next Story : เรื่องรักของสองเรา ตอนที่1..

คำเตือน
ขอสงวนสิทธิ์ใดๆ ตามกฎหมาย ในการทำคัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง ส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของนิยายเรื่องนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต และ หากผู้ใดกระทำการคัดลอกหรือนำไปโพสในเวปอื่น ๆ หรือบล็อค โดยมิได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือ หากนำเรื่องไปเสนอต่อสำนักพิมพ์ ถือเป็นการเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ.กฏหมายลิขสิทธิ์


***************************
Next Story : เรื่องรักของสองเรา
ตอนที่ 1

***************************






Create Date : 09 ตุลาคม 2550
Last Update : 19 ตุลาคม 2552 19:28:03 น. 9 comments
Counter : 457 Pageviews.

 
“ห้าววววววววววววว................” เสียงห้าวหวดดังขึ้นพร้อมกับท่าทางบิดตัวไปมาของคนที่กำลังเดินตามคุณสุ


“อะไรกันห้าวน่าเกลียดจริง” คุณสุหันมาต่อว่าคนที่กำลังเดินตามหลังเธอ


“โธ่............ก็คนมันง่วงนิแม่” หนุ่มน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มขมวดคิ้วยุ่งร้องโวยตอบ


“หัดตื่นเช้าๆ เข้าวัดเข้าวาบ้าง วันๆ เข้าแต่ผับ เข้าแต่บาร์” คุณสุยังคงเดินไปบ่นไปเรื่อยตลอดทาง


“ก็ปลาไปทำงานนะแม่ ไม่ได้ไปเที่ยว” พาสนาโวยด้วยสีหน้ายุ่งๆ


“ก็นั่นล่ะ........หางานอย่างอื่นทำไม่ได้หรือไง” คุณสุยังคงบ่นไม่เลิก


“แม่.........ความรู้อย่างปลานะ จะไปหางานอะไรทำ.......อีกอย่าง ปลาก็ชอบร้องเพลง เงินก็ดี แม่ไม่ชอบรึไง” พาสนายิ้มหน้าเป็นกับคุณสุ


“เงินดีแม่ไม่เถียง แต่เราหน่ะ........” คุณสุเริ่มตั้งท่าเทศยาวอีกครั้ง จนพาสนาต้องรีบยกมือปิดปากท่านเอาไว้


“หยุดๆ แม่.............ถึงวัดแล้ว บ่นมากพระหนีหมดนะ” พาสนาพูดยิ้มๆ แล้วยักคิ้วให้คุณสุมองไปที่ศาลา

“เฮ้ย....” คุณสุยกมือปัดมือของพาสนาออกจากปากของท่าน พร้อมกับขมวดคิ้วมองพาสนาอย่างขัดใจ


“ปะ...” พาสนายิ้มอย่างรู้ทัน รีบคว้าแขนคุณสุ แล้วเดินเข้าไปในศาลา
.
.
.
“สวัสดีจ๊ะแม่สุ.......” ป้าหมูเล็กกล่าวทักทายคุณสุอย่างสนิทสนม


“สวัสดีจ้าแม่หมูเล็ก” คุณสุยิ้มตอบก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างๆ ป้าหมูเล็ก


“วันนี้ลมอะไรจ๊ะ หอบเอาเจ้าปลามาด้วยได้” ป้าหมูเล็กหันมองพาสนาแล้วกล่าวยิ้มๆ


“จะลมอะไรล่ะป้า ก็ลมคุณนายสุ หน่ะซิ” พาสนารีบพูดแทนมารดา


“เดี๋ยวเถอะ...” คุณสุหันไปปรามพาสนาที่แซวท่าน


“.........อืม หัดเข้าวัดบ้างก็ดีลูก” ป้าหมูเล็กพูดกับพาสนายิ้มๆ


“จ้า..........” พาสนาลากเสียงยาวรับ


ในศาลา เริ่มมีคนเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใหญ่มีอายุซะเยอะ..........


เมื่อหลวงพ่อเริ่มขึ้นเทศธรรมะให้ทุกคนที่ตั้งใจมาฟัง.........พาสนาที่มีอาการง่วงอยู่แล้วก็เริ่มหลับตาลง..........


“เจ้าปลา....” คุณสุเรียกพาสนาด้วยดวงตาดุ


“อะไรล่ะแม่.......” พาสนายกมือเกาศีรษะ พร้อมทำหน้าหงุดหงิด


“ฉันให้แกมาฟังเทศ ฟังธรรมนะ ไม่ใช่ให้มาหลับ” คุณสุ ขมวดคิ้วยุ่งดุลูกคนเดียวของท่าน


“อืมม....” พาสนาพยักหน้าให้มารดา แล้วพนมมือหันหน้าไปทางหลวงพ่อที่กำลังนั่งเทศนาอยู่


แต่เพียงไม่นาน........ดวงตาที่ดูจะปรือๆ ของเธอก็ปิดสนิทอีกครั้ง
.
.
.
.
.
ตี๊ดๆๆๆ ติ๊ด.............ตี๊ดๆๆๆ ติ๊ด.............ตี๊ดๆๆๆ ติ๊ด.............


เสียงนาฬิกาปลุกหัวเตียงบอกเวลา 9 โมงเช้า.....


มือหนึ่งยกขึ้นมาปิดนาฬิกาที่กำลังดังอยู่ และหยิบมันขึ้น


ชายหนุ่มลืมตามองเวลาที่นาฬิกา ด้วยอาการงัวเงีย ก่อนจะวางมันลงกลับที่เดิม


ร่างแกร่งลุกขึ้นจากที่นอน พร้อมกับเดินซวนเซเข้าไปยังห้องน้ำหรู.........เสียงน้ำจากฝักบัวดังขึ้น..........และไม่นานก็มีเสียงฮัมเพลงดังตามมาเป็นระยะๆ.........


เพียงไม่นาน ชายหนุ่มก็เดินออกมาจากห้องอาบน้ำ ด้วยท่าทางที่สดชื่น....เค้าเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า ที่มีเสื้อผ้าราคาแพงหลายต่อหลายชุดแขวนเรียงรายให้เลือกใช้ตามเฉดสี.....


เพียงไม่นานชายหนุ่มมาดนักธุรกิจ ก็เดินออกมาจากห้องนอน.....


“คุณณุรับอะไรดีค่ะ” คุณต่าย แม่บ้านใหญ่ประจำบ้านไตรศร กล่าวถามชายหนุ่มด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม


“ผมขอกาแฟร้อนๆ สักถ้วยก็พอคุณต่าย” พิษณุกล่าวกับคุณต่ายสีหน้ายิ้มๆ


“ค่ะ...” คุณต่ายรับรายการจากชายหนุ่มก็หันไปบอกกับป๊อก เด็กในบ้านที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอ


เพียงไม่นาน ป๊อก ก็ยกถ้วยกาแฟมาให้คุณต่าย ........แม่บ้านใหญ่รับถ้วยกาแฟจากป๊อก แล้วเดินนำไปเสริฟให้กับเจ้านายของเธอ


“แล้วเย็นนี้คุณณุจะกลับมาทานข้าวมั้ยค่ะ” คุณต่ายซักถามพิษณุ พร้อมกับยกถ้วยกาแฟมาเสริฟ


“ไม่ครับ พอดีวันนี้ผมต้องออกไปงานเลี้ยงของบริษัทฯ ลูกค้า ยังไงฝากคุณต่ายเรียนคุณพ่อ คุณแม่ให้ด้วยแล้วกันนะครับ” พิษณุหันไปตอบคุณต่าย พร้อมยกถ้วยกาแฟขึ้นดื่ม


“ผมไปล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มให้แม่บ้าน และเดินออกจากบ้านไปอย่างอารมณ์ดี


“เท่ห์จัง...” ป๊อกมองเจ้านายของเธอด้วยสีหน้ายิ้มๆ


“ป๊อก มาเก็บถ้วยกาแฟซิ” คุณต่ายหันไปมองป๊อกที่ยืนยิ้มฝันค้างมองเจ้านายของเธอขับรถออกจากประตูรั้วบ้าน


“........” เด็กสาวยังคงยืนยิ้มฝันหวานอยู่


“เจ้าป๊อก” คุณต่ายดุเสียงดังขึ้น จนป๊อกต้องสะดุ้ง รีบเดินเข้ามาเก็บถ้วยกาแฟทันที


“เรานี่.......” คุณต่ายยังคงมองเด็กป๊อกด้วยสายตาตำหนิ
.
.
.
ติ๊ด.......ติ๊ด.......


เสียงมือถือของชายหนุ่มดังขึ้น...........ชายหนุ่มหันมากดรับสาย


“ว่าไงคะยาย่า” ชายหนุ่มทักทายตามสายด้วยเสียงนุ่มหวาน


“ณุขา..........ทำอะไรอยู่คะ” อรินยา ส่งเสียงหวานมาตามสาย


“อ้อ ผมกำลังขับรถไปบริษัทฯ ครับ” พิษณุตอบน้ำเสียงหวาน


“อะไรกันคะ ทำไมไปแต่เช้าเลย” อรินยายังคงซักถามชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ


“พอดีเช้านี้ที่บริษัทฯ มีประชุมหน่ะจ๊ะ..........ว่าแต่ทำไมเช้านี้ยาย่าถึงได้ตื่นแต่เช้าละคะ” ชายหนุ่มซักถามหญิงสาวด้วยน้ำเสียงหวานหู


“ก็พอดีเช้านี้ยาย่าต้องไปถ่ายปกให้นิตยาสารผู้หญิงหน่ะค่ะ เลยต้องตื่นเช้าหน่อย” หญิงสาวตอบน้ำเสียงหวาน


“หรือครับ....ว่าแต่ถ่ายที่ไหนหรอ” พิษณุถามต่อ


“สตูแถวลาดพร้าวค่ะ” อรินยาตอบกลับน้ำเสียงสดใส


“ท่าทางต้องถ่ายออกมาสวยแน่เลย” พิษณุยังคงพูดชมหญิงสาวส่งมาทางสายโทรศัพท์
.
.
.
“แกนะแก...........ฉันพาแกไปวัดเพื่อไปฟังพระเทศธรรมะ ดันไปนั่งหลับให้ฉันขายขี้หน้า” คุณสุเดินโวยขึ้น เมื่อพาสนาดันไปนั่งหลับในศาลา


“โธ่ แม่........ก็ปลาง่วงจริงๆ นิ เลิกงานนะก็ตี 3 กว่าจะกลับถึงบ้าน กว่าจะได้นอนเกือบตี4 แล้วแม่ปลุกตั้งแต่ 6 โมงเช้า ใครไม่ง่วงก็ให้มันรู้ไปซิ” พาสนาพูดเถียงคณุสุ


“แกไม่ต้องมาบ่นเลยปลา..........เดี๋ยววันพระหน้า แกต้องมาฟังธรรมะกับฉันใหม่” คุณสุพูดขู่ลูกของท่าน


“โอ้ยยยย ไม่เอาแล้วแม่ ปลาง่วง........ห้าวววววววว” พาสนายกมือป้องปากห้าวออกมา ก่อนที่จะรีบวิ่งพาคุณสุข้ามถนนเพื่อเดินเข้าไปซื้อของในตลาด........


“แม่เดินดีๆ นะ ตรงนี้น้ำมันขัง” พาสนาบอกกับคุณสุ ขณะที่กำลังพาท่านเดินข้ามถนน


ปรี้นนนนนนนนน!!!!!!!!!!!!!!~


รถคันหนึ่งวิ่งผ่านไปด้วยความเร็ว


“ว้ายยย........” คุณสุร้องออกมาด้วยความตกใจ พาสนารีบจับตัวมารดาหลบรถคันนั้น พร้อมกับเอาตัวเองบังน้ำไว้ เมื่อรถคันนั้นวิ่งผ่านไป สภาพของพาสนาจึงเปียกเปื้อนเต็มไปด้วยน้ำที่ขังข้างทาง

“เฮ้ยยยยยย........” พาสนาร้องโวยออกมาเมื่อน้ำที่อุตส่าห์ระมัดระวังเมื่อสักครู่ โดนรถคันนั้นวิ่งผ่านจนน้ำกระเด็นมาโดน


“ไอ้บ้าเอ้ย ขับรถไงวะ” พาสนาโวยไล่ตามหลังรถคันสวยไปด้วยอารมณ์โมโห....


“บ้าเอ้ย...” เสียงพิษณุสบถออกมา


“มีอะไรคะณุ” อรินยาร้องถามปลายสาย


“ไม่มีอะไรจ๊ะ มีพวกกุ้ยที่ไหนก็ไม่รู้ เดินไม่ดูถนนเลย เกือบขับชนแล้ว” พิษณุบ่นอุบพร้อมกับมองผ่านทางกระจกส่องหลังของเค้า


ชายหนุ่มเห็นภาพของหนุ่มน้อยคนหนึ่งกำลังยืนชี้ไม่ชี้มือบ่นโวยไม่หยุด พร้อมกับผู้หญิงมีอายุที่ยืนอยู่ข้างๆ........


“แล้วเป็นอะไรรึป่าวคะ” อรินยาซักถามต่อ


“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ........ก็แค่กุ้ยหน่ะ” ชายหนุ่มตอบสีหน้ายิ้มๆ ก่อนจะชักชวนสาวสวยพูดคุยต่อ.....



.


โดย: kokoo_129 วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:20:24:08 น.  

 

“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณณุ” เมทณีเลขาคนสวยกล่าวทักเจ้านายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาในออฟฟิศ


“อรุณสวัสดิ์จ๊ะ” พิษณุยิ้มทักทายเลขาคนสวยของเค้าก่อนเดินเข้าไปในห้องทำงาน....


เมทณีเดินตามพิษณุเข้าไปในห้องทำงาน เพื่อรอรับคำสั่งจากเค้าประจำวัน


“อืม คุณเม....เดี๋ยวจัดดอกไม้สวยๆ สักช่อไปที่สตูXXX แถวลาดพร้าวให้ผมหน่อยนะ....” พิษณุกล่าวสั่งงานเลขาคนสวย


“ค่ะ....ให้คุณยาย่าหรือคะ” เมทณีกล่าวถามถึงผู้รับ


“ครับ” พิษณุตอบสีหน้ายิ้มๆ


“ค่ะ...” เมทณียิ้มหวานตอบเจ้านายของเธอ...


“อืมม เดี๋ยวขอเอกสารสำหรับประชุมเช้านี้ให้ผมด้วยนะ” พิษณุกล่าวสั่งงานอีกงานกับเลขาของเค้า


“ค่ะ...” เมทณีรับคำสั่งจบก็เดินออกไปหยิบเอกสารมาให้เจ้านายของเธอ


พิษณุรับเอกสารจากเลขาคนสวย แล้วจัดการเตรียมเอกสารสำหรับเข้าประชุมในเช้าวันนี้.......
.
.
.
“พี่ปลาไปทำอะไรมา” เสียงหวานใสดังขึ้นเมื่อพาสนากลับมาถึงบ้าน


“ก็โดนพวกเศรษฐีขับเบนส์มันเหยียบโคลนใส่หน่ะซิ” พาสนาขมวดคิ้วบ่นน้ำเสียงหงุดหงิด


“เค้าคงไม่ได้ตั้งใจมั้ง” คุณสุบอกกับลูกของเธอ


“ไม่ตั้งใจยังไงแม่ ดูดิเสื้อผ้าเปื้อนหมดเลย” พาสนายังคงโวยด้วยอารมณ์หงุดหงิด


“แมงปอ ไปเอาผ้ามาให้พี่เค้าหน่อยไป” คุณสุหันไปบอกกับแมงปอหลานสาวลูกของน้องสาวท่าน


“ค่ะป้าสุ” แมงปอรีบวิ่งเข้าไปในบ้านเพื่อนำผ้ามาให้พาสนาเช็ดเนื้อเช็ดตัว


“อย่าให้เจออีกนะ จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเลย” พาสนาพูดด้วยน้ำเสียงแค้นเคือง


“ไม่เอาน่า......ฉันพาแกไปฟังพระเทศธรรมะ เพื่อให้จิตใจสงบ ไม่ใช่ให้มามีอารมณ์แค้นเคืองใครนะ” คุณสุปรามลูกของเธอ


“แม่ก็งี้ทั้งปี.......พวกเศรษฐีมีเงินมันเคยเห็นหัวพวกเราบ้างรึป่าว” พาสนารู้สึกไม่ชอบใจที่คุณสุตำหนิ


“โกรธเค้าเราก็เจ็บ สู้ไม่โกรธดีกว่า” คุณสุกล่าวสั่งสอนพาสนา


“โอ้ยยยยยยยยย แม่........ใกล้แล้วนะนี่ ใกล้สำเร็จอรหันต์แล้ว” พาสนาแกล้งแซวมารดาด้วยสีหน้ายิ้มๆ


“เดี๋ยวเถอะว่าแม่ได้ไง ไอ้ลูกคนนี้” คุณสุขมวดคิ้วมองลูกของเธอ แล้วต้องยิ้มออกมา


“พี่ปลา ผ้า” แมงปอกลับออกมาที่โต๊ะหินหน้าบ้านเพื่อนำผ้ามาให้พาสนา


“ขอบใจจ๊ะ” พาสนารับผ้ามาจากแมงปอ แล้วเช็ดตามเนื้อตามตัวที่เปื้อนน้ำเมื่อสักครู่


“อืม ปอ แล้ววันนี้ไม่ไปเรียนหรอ” พาสนาซักถามแมงปออย่างสงสัย


“วันนี้ปอมีเรียนช่วงบ่ายพี่” แมงปอยิ้มตอบ


“งั้นดีเลย....จะไปเรียนแล้วปลุกพี่ด้วยนะ........ห้าววววววววว ง่วง” พาสนาพูดไม่ทันขาดคำ อาการห้าวง่วงนอนก็เกิดขึ้นอีก


“ได้เลยพี่ปลา” แมงปอพยักหน้ายิ้ม


“ไปนอนก่อนนะ.......” พาสนาบอกกับสาวน้อย แล้วเดินเข้าไปในบ้านเพื่อกลับไปนอน


“อะไรกันปลา นี่ฉันลากแกให้ตื่นเช้า นี่จะหนีกลับไปนอนอีกแล้ว” คุณสุมองลูกของเธอกลับเข้าไปนอนอีกรอบก็ต้องบ่นออกมา
.
.
.
สตูดิโอ XXX~


“คุณยาย่าค่ะ มีคนส่งดอกไม้มาให้ค่ะ” พนักงานประจำสตู เดินถือช่อดอกไม้ช่อสวยมาส่งให้อรินยา


“จากไหนค่ะ” อรินยาซึ่งกำลังนั่งแต่งหน้าอยู่นั้น หันมากล่าวถามด้วยสีหน้ายิ้มๆ


“อืม จากคุณพิษณุค่ะ” พนักงานคนเดิมพลิกการ์ดที่แนบมากับช่อดอกไม้แล้วอ่านชื่อผู้ส่ง


“ต๊าย คุณยาย่าขา..........คุณณุส่งดอกไม้มาให้ถึงที่เลย น่าอิจฉาจัง” แต๋วช่างแต่งหน้าพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มแกมอิจฉานิดๆ


“.........” อรินยายิ้มออกมา ก่อนจะรับช่อดอกไม้ช่อสวยนั้น


หญิงสาวพลิกการ์ดขึ้นดูอีกครั้ง......


“เมื่อไหร่จะได้ยินข่าวดีค่ะน้องยาย่า” แต๋วกล่าวถามเพิ่มเติม


“อุ้ย....ยังหรอกค่ะพี่แต๋ว ยาย่ากับณุยังไม่คิดถึงขั้นนั้นเลย” อรินยาตอบคำถามช่างแต่งหน้าด้วยรอยยิ้ม


“แหม ใครๆ เค้าก็รู้กันทั้งนั้นว่า คู่รักแห่งปี ที่น่าอิจฉาที่สุดคือคู่น้องยาย่าสาวไฮโซแสนสวย กับคุณพิษณุนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง” แต๋วพูดด้วยสีหน้ายิ้มๆ


“......” อรินยาไม่ตอบอะไร เธอยิ้มหวานออกมาแล้วยกช่อดอกไม้สวยขึ้นมาชื่นชม
.
.
.
ชายหนุ่มมาดเท่ห์ หยิบมือถือขึ้นมากดเบอร์โทรออก...


“สวัสดีครับ...” ชายหนุ่มกล่าวทักทายเมื่ออีกฝ่ายกดรับสาย


“ชอบดอกไม้ที่ผมส่งไปมั้ย” พิษณุถามน้ำเสียงหวาน


“ชอบซิคะณุ...สวยมากเลยค่ะ ขอบคุณนะ” อรินยายิ้มตอบชายหนุ่ม


“ผมดีใจนะที่ยาย่าชอบ” ชายหนุ่มยิ้มบางๆ ออกมา


“แล้วถ่ายปกเป็นยังไงบ้างครับ สนุกมั้ย” ชายหนุ่มกล่าวถามเรื่องถ่ายปกของหญิงสาวในเช้านี้


“สนุกค่ะ....ชุดก็สวย” อรินยาตอบน้ำเสียงหวาน


“แปลว่า หนังสือปักษ์นี้ต้องออกมาสวยแน่ๆ เพราะยาย่าอารมณ์ดี” ชายหนุ่มพูดยิ้มๆ


“แหม........พูดเหมือนยาย่าเป็นคนเรื่องมากเลยนะคะณุ” หญิงสาวโต้กลับน้ำเสียงงอนนิดๆ


“โอ้ย ผมล้อเล่นนะ ยาย่าอย่าโกรธซิ” พิษณุยิ้มขำๆ ออกมา


“ไม่รู้ล่ะ ยาย่าจะงอน” หญิงสาวแกล้งพูดขู่ชายหนุ่ม


“งั้นเดี๋ยวผมไปรับยาย่าไปทานข้าวกลางวันไถ่โทษนะครับ” พิษณุต่อรองน้ำเสียงหวาน


“..........” อรินยาไม่ตอบอะไร เธอเอาแต่ยิ้มหวาน


“อีกสัก 15 นาทีผมจะไปรับยาย่านะครับ” พิษณุกล่าวจบก็วางสายทันที


“อะไรกัน ยังไม่ได้ตอบตกลงเลย” อรินยามองมือถือในมือ แล้วต้องยิ้มขำๆ ออกมา


พิษณุเดินออกจาห้องทำงานของเค้าด้วยสีหน้าสดชื่น


“คุณเม เย็นนี้มีนัดกับลูกค้าที่ไหนนะ” พิษณุหยุดถามรายละเอียดเกี่ยวกับการนัดตกลงธุรกิจกับลูกค้าในเย็นนี้


“ที่โรงแรมแกรน์ฮิล ค่ะ” เมทณีเปิดสมุดโน้ตดูข้อมูลตอบเจ้านายของเธอ


“โอเค.......ผมจะออกไปข้างนอกนะ ถ้ามีอะไรสำคัญก็โทรแจ้งแล้วกัน” พิษณุสั่งงานกับลูกน้องคนสวยเรียบร้อย ก็รีบเดินออกจากออฟฟิศไป


เมทณีมองเจ้านายของเธอ แล้วก็ต้องก้มหน้าทำงานที่ค้างอยู่บนโต๊ะต่อ



.


โดย: kokoo_129 วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:20:24:49 น.  

 
“พี่ปลา....พี่ปลาตื่นได้แล้ว” เสียงใสร้องเรียกคนที่กำลังหลับสบาย


“อืมมมมม...” พาสนาร้องออกมาก่อนจะพลิกตัวหนี


“พี่ปลา จะบ่ายโมงแล้ว” แมงปอเอื้อมมือเขย่าตัวพาสนาที่ยังคงนอนคุดคู้อยู่บนที่นอน


“อืมมมมม...” พาสนาร้องออกมาอีกครั้ง ก่อนจะหยิบหมอนอีกใบปิดหน้า


“พี่ปลา นี่จะไม่ตื่นใช่มั้ย” แมงปอ จ้องมองพี่ของเธอ พร้อมยกมือท้าวเอว


“..........” พาสนายังคงนอนคุดอยู่ใต้หมอนใบใหญ่


“ได้...” แมงปอยิ้มมุมปาก ก่อนจะโน้มตัว แล้วดึงหมอนใบใหญ่ที่พาสนาใช้ปิดหน้าออก


“พี่ปลาตื่นนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!~” สาวน้อยยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ หูของพาสนา แล้วตะโกนเสียงดัง จนเธอต้องตกใจตื่น


“โอ้ยยยยยยยยย หูจะแตกแล้วปอ” พาสนาลุกขึ้นยกมือขยี้หูตัวเอง


“อืมม ตื่นได้แล้วจะบ่ายโมงแล้ว” แมงปอยกนาฬิกาข้อมือสีสวยชูให้พาสนาดู


“เออออออ ตื่นแล้ว โดนเข้าไปแบบนี้ใครไม่ตื่นก็บ้าแล้ว” พาสนายังคงใช้มือขยี้หูไปมา


“งั้นปอไปเรียนแล้วนะ” แมงปอยิ้มกว้างให้พาสนา พร้อมทำท่าจะเดินออกจากห้องไป


“เดี๋ยวๆ ปอ” พาสนากวักมือเรียกน้องสาวลูกพี่ลูกน้องของเธอเอาไว้


“หืมม..” แมงปอหันมองกลับมาหน้าตาบ๊องแบ๊ว


“รอพี่แปบ เดี๋ยวไปส่ง” พาสนาบอกกับแมงปอ พร้อมกับลุกจากที่นอน


“อ้าว....พี่ปลาไม่ไปทำงานหรอ” แมงปอร้องถามอย่างสงสัย


“ทำ.....แต่พอดีบ่ายนี้มีงานแถวมหาลัยฯ ปอพอดี” พาสนาตอบยิ้มๆ


“อืมมม......ได้ๆ” แมงปอยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ ที่ไม่ต้องโหนรถเมล์ปุเรงๆ ไปเรียนในวันนี้


“ขออาบน้ำแปบ...ห้าววววววว” พาสนาบอกกับสาวน้อยหน้าใส แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างเนือยๆ


แมงปอยืนยิ้มมองพี่ของเธอเดินเข้าห้องน้ำ แล้วสาวน้อยก็หันมาจัดที่นอนให้พาสนา


เพียงไม่นานพาสนาก็ออกมาจากห้องน้ำด้วยหน้าตาที่สดชื่นขึ้นกว่าเดิม.............เธอจัดการแต่งตัว หวีผม จนสภาพออกมาเนียบต่างกับเมื่อสักครู่หลายเท่า


“ปะ....” หลังจากฉีดน้ำหอมกลิ่นโปรดเสร็จเรียบร้อย พาสนาก็หันมาพยักหน้าให้แมงปอ ที่นั่งรออยู่ในห้องนั้น


“แหม วันนี้พี่ปลาเท่ห์จัง” แมงปอมองพาสนาตั้งแต่หัวจรดเท้า วันนี้พาสนาในสายตาเธอแต่งตัวได้เท่ห์บาดใจจริงๆ


“ก็พอดีงานบ่ายนี้มันอยู่ในโรงแรมหรูหน่ะ” พาสนาตอบยิ้มๆ


“อ้อ ค่ะ” แมงปอพยักหน้ารับรู้อย่างเข้าใจ ก่อนจะเดินออกจากห้องตามพาสนา


“อ้าว จะไปแล้วหรอปลา” คุณสุที่นั่งอ่านหนังสืออยู่หน้าบ้าน หันมองลูกของท่าน แล้วต้องให้ทักถาม


“ฮะแม่..............” พาสนาตอบมารดา แล้วเดินออกจากประตูบ้าน


“ปอไปนะคะป้า” แมงปอ ยกมือไหว้คุณสุก่อนเดินตามพาสนาออกไปติดๆ


คุณสุนั่งมองเด็กสองคนเดินออกไป แล้วก็ต้องหันกลับมาอ่านหนังสือในมือต่อ............


พาสนาเดินตรงมาที่รถคันน้อยของเธอ ......แล้วขึ้นนั่งประจำที่คนขับ


เธอหยิบแว่นกันแดดสีควันบุหรี่ขึ้นมาใส่ พร้อมกับส่องกระจกดูความเรียบร้อยบนใบหน้า


“หล่อแล้วพี่ปลา” แมงปอที่ขึ้นมานั่งข้างๆ คนขับ พูดแซวพี่ของเธอ


“อืมม” พาสนาหันมายิ้มแป้นให้น้องสาว ก่อนจะสตาร์ทเครื่องแล้วขับเจ้ารถยนต์คันสีดำ คันน้อยคู่ชีพของเธอออกเดินทาง....
.
.
.
“จริงๆ ณุไม่ต้องมารับยาย่าก็ได้นะคะ” อรินยากล่าวยิ้มๆ กับชายหนุ่มที่เดินทางมารับเธอไปทานข้าวกลางวัน


“ก็ผมอยากเจอคนสวยนิ.....” พิษณุพูดยิ้มๆ


“แหม ปากหวานจังนะ” อรินยาพูดยิ้มๆ


“ว่าแต่ เดี๋ยวณุต้องไปพบลูกค้าไม่ใช่หรือคะ” อรินยามองนาฬิกาข้อมือของเธอแล้วหันถามพิษณุ


“ครับ แต่เป็นช่วงเย็นหน่ะ........ผมไปส่งยาย่าที่บ้านก่อนยังทันเลย” ชายหนุ่มกล่าวยิ้มๆ ก่อนจะเปิดประตูรถให้สาวสวย


“ขอบคุณค่ะ” อรินยากล่าวขอบคุณชายหนุ่มก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ


พิษณุปิดประตูให้หญิงสาวอย่างสุภาพ และเดินมาขึ้นประจำตำแหน่งคนขับ....


“เย็นนี้ ณุคุยกับลูกค้าเสร็จกี่โมงคะ” อรินยากล่าวถามชายหนุ่ม


“ก็.....คงประมาณ 2 ทุ่มครับ ยาย่ามีอะไรรึป่าวครับ” ชายหนุ่มถามกลับ


“คือ เย็นนี้ยายปุ่น เค้ามีเลี้ยงฉลองวันเกิดค่ะ ยาย่าเลยคิดว่าอยากจะชวนณุไปด้วยกัน” อรินยาพูดยิ้มๆ


“อ้อ ได้ซิครับ........ที่ไหนหรือครับ เดี๋ยวผมคุยกับลูกค้าเสร็จแล้วจะได้รีบตามไป” ชายหนุ่มถามสีหน้ายิ้ม


“ก็ที่ผับ Ninety Eight แถวรัชดาฯ ค่ะ..........” อรินยาตอบ


“ครับ.....แล้วยังไงผมจะโทรหายาย่าอีกทีนะครับ” ชายหนุ่มกล่าวจบก็ยิ้มให้หญิงสาวข้างๆ


“ค่ะ” อรินยายิ้มตอบ
.
.
.
“ขอบคุณพี่ปลามากนะคะ” แมงปอกล่าวขอบคุณพาสนาก่อนลงจากรถ


“ตั้งใจเรียนนะ” พาสนาบอกกับน้องสาวสีหน้ายิ้มๆ


“ค่ะ...” แมงปอยิ้มหวานตอบ ก่อนจะหันเดินเข้ามหาลัยฯ


พาสนาก็ขับรถออกจากหน้ามหาลัยฯ และมุ่งหน้าตรงไปยังโรงแรม แกรน์ฮิล......
.
.
.
“เฮ้ย ปลา ทำไมเพิ่งมา” เป้มือเบสประจำวงร้องถามพาสนา เมื่อเธอเดินทางมาถึงห้องซ้อมดนตรีของโรงแรมแกรน์ฮิล


“รถมันติดว่ะ” พาสนาตอบเพื่อนร่วมวง ก่อนจะหันไปหยิบหนังสือเพลง


“วันนี้ร้องเพลงไรบ้างฮะพี่เจ” พาสนาร้องถามพี่เจผู้จัดการวงของเธอ


“ลูกค้าเค้าขอเพลงนี้เลย..............” พี่เจอธิบายรายละเอียดของเพลงที่จะร้องในวันนี้ให้พาสนาฟัง เมื่อรู้ว่าจะต้องร้องเพลงอะไรบ้าง พาสนากับเพื่อนในวงก็ร่วมกันซ้อมหนึ่งรอบก่อนขึ้นเวที


.


โดย: kokoo_129 วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:20:25:22 น.  

 

“แหม....ต้องขอบคุณคุณเจมากนะครับ ที่จัดคิวให้งานของเราในวันนี้” เสี่ยเล็ก กล่าวขอบคุณพี่เจที่นำวงมาเล่นในงานเลี้ยงครบรอบวันแต่งงานปีที่ 25 ของเสี่ยเล็กกับภรรยา


“ไม่เป็นไรครับเสี่ย คนกันเอง” พี่เจกล่าวยิ้มๆ


“อืม นักร้องของคุณเจนี่....เสียงใสดีนะครับ แต่ทำไมมัน...” เสี่ยเล็กมองไปที่เวที ซึ่งพาสนากำลังขึ้นร้องเพลงหวานๆ ตามคอนเซปของงาน


“อ้อ.....ปลาเค้าเป็นคนเสียงหวานครับ มันต่างกับบุคลิกภายนอกนิดหน่อย” พี่เจมองไปทางพาสนา แล้วหันมาพูดยิ้มๆ กับเสี่ยเล็ก


“นั่นซิครับ ดูข้างนอกละแมนมาก แต่เสียงกลับหวานใส” เสี่ยเล็กพูดจบก็ยิ้มออกมา


“ครับ” พี่เจยิ้มรับ
.
.
.
“.....ผมกำลังหาที่จอดรถหน้าในโรงแรมอยู่ ยังไงคุณก็บอกกับลูกค้าด้วยแล้วกัน ถ้าลูกค้าโทรมาถาม” พิษณุกล่าวกับเมทณีทางโทรศัพท์มือถือ ขณะที่กำลังหาที่จอดรถอยู่ในลานของโรงแรม


“อืมม......ขอบใจ” พิษณุกล่าวจบก็ว่างสายลง พร้อมกับหาที่จอดได้พอดี


ชายหนุ่มส่องกระจกตรวจสอบความเรียบร้อยของตัวเองอีกครั้ง ก่อนลงจากรถ..........


ปี๊บ...........ปี๊บ.................


เสียงมือถือดังขึ้นมาอีกครั้ง พิษณุหยิบมือถือขึ้นมากดรับสาย


“สวัสดีครับ...” ชายหนุ่มกล่าวทักทายปลายสาย


“ครับ พอดีผมกำลังเดินเข้าไปพอดี....” พิษณุกล่าวน้ำเสียงสุภาพ ขณะที่กำลังเดินเข้าไปในโรงแรม
.
.
.
“วันนี้เล่นได้เยี่ยมมากนะทุกคน” พี่เจกล่าวกับทุกคนในวงหลังเวที


“แล้วพี่เจจะกลับไปกับพี่เรารึป่าวครับ” เป้ กล่าวถามพี่เจ


“ยังๆ พอดีพี่มีอะไรต้องคุยกับเสี่ยเล็กอีกนิดหน่อย พวกเราไปที่ผับก่อนเลย” พี่เจบอกกับทุกคนในวง


“ได้ฮะพี่” พาสนาพยักหน้ารับ


แล้วทุกคนในวงต่างก็แยกย้ายเพื่อเดินทางกลับไปที่ผับ Ninety Eight...


“เออ ปลา......” พี่เจเรียกพาสนาที่กำลังหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นสะพาย


“ฮะ...” พาสนาหันมองกลับมาทางพี่เจอีกครั้ง


“เสี่ยเล็กเค้าฝากมาชอบแกด้วยนะ” พี่เจพูดยิ้มๆ


“ว่าไงหรอพี่” พาสนาเลิกคิ้วถาม


“เค้าว่าแกอ่ะ เสียงเพราะดี แต่........หน้าโหดว่ะ” พี่เจพูดจบก็ยิ้มขำๆ ชอบใจ


“ เออออ........โหดหล่อนะพี่” พาสนาพูดจบก็ยิ้มเดินออกมาจากหลังเวที


ทุกคนในวง ต่างพากันเดินออกมาจากห้องจัดเลี้ยงของโรงแรม.......


“เฮ้ย เป้” พาสนาเรียกเพื่อนร่วมวงขณะที่กำลังยืนรอลิฟธ์


“ว่าไงมีไร” เป้หันมองพาสนา


“พวกแกไปกันก่อนนะ เดี๋ยวฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” พาสนาบอกกับเป้จบก็รีบเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากลิฟธ์มากนัก


“เอออ มันบอกเสร็จมันก็ไปเลยเว้ย” เป้มองพาสนาที่วิ่งดุกๆ หายเข้าไปในห้องน้ำ แล้วส่ายหน้าไปมา


“ลิฟธ์มาแล้ว ไปกันเหอะเป้..........ไม่ต้องไปห่วงปลามันหรอก” ปูมือกลองประจำวงร้องเรียกเป้ที่ยืนอยู่หน้าลิฟธ์


“เอออ...” เป้ร้องออกมา และเดินเข้าไปในลิฟธ์กับเพื่อนๆ
.
.
.
พาสนาจัดการทำธุระในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อย ก็เดินออกมาด้วยท่าทางอารมณ์ดี....


“ดีนะ ที่ไม่ไปปวดบนเวที” เธอเดินบ่นอุบอิบขณะที่กำลังก้มหน้าก้มตาพับแขนเสื้อ


“ครับ.....โครงการนี้เป็นงานใหญ่นะครับ...ใช่ครับ” พิษณุเดินคุยโทรศัพท์มาตามทาง


“โอ้ยยยยยยยยยย...” เสียงโวยดังขึ้น พร้อมกับร่างของพาสนาที่กระเด็นล้มลงกับพื้น


“อ้าวเฮ้ย!!!~..........” พิษณุเองก็ร้องออกมาเมื่อมือถือราคาแพงของเค้าร่วงลงไปนอนกระจายกับพื้น


“เดินไงวะ......ชนมาได้” พาสนาร้องโวยเสียงดัง ก่อนจะเงยหน้ามองคนที่ชนเธออย่างจัง


“นายนั่นล่ะ เดินไงดูซิ มือถือฉัน” พิษณุมองหน้าคนที่โวยใส่เค้า...และมองไปยังชิ้นส่วนมือถือที่แตกกระจายกับพื้น


“คนทั้งคนมองไม่เห็นหรือไง...” พาสนาลุกขึ้นยืนพร้อมกับปัดแขนปัดขาด้วยอาการหงุดหงิด


“น้องชาย น้อยหน่อยนะ นี่มือถือพี่พังเลยนะน้อง” พิษณุก้มเก็บชิ้นส่วนมือถือของเค้าขึ้นมา


“..........” พาสนาขมวดคิ้วมองมือถือในมือของอีกฝ่าย


“ที่สำคัญ ฉันกำลังคุยธุระอยู่ด้วย.......” พิษณุรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันทีเมื่อคิดถึงความเสียหายกับงานที่เกิดขึ้น


“เดินไม่ดูเอง แล้วจะโทษใครคับพี่” พาสนายื่นหน้าถามด้วยท่าทางกวนๆ


“อ้าวนี่น้อง” พิษณุยืนจ้องหน้าอีกฝ่าย แล้วรู้สึกไม่ชอบสีหน้ากวนๆ นั้นเลย


“เฮ้ย วันนี้วันซวยอะไรนักวะ เช้าก็ซวย เย็นก็ซวย” พาสนาพูดโวยด้วยอารมณ์หงุดหงิด


“ซวยๆๆๆๆๆๆๆ ซวยจริง” เธอตะโกนเสียงดังใส่หน้าอีกฝ่าย ก่อนจะทำท่าเดินหนีออกไป


“เฮ้ย ไอ้น้องพูดงี้ไม่ดีนะ ใครซวยกันแน่” พิษณุหันมองตามหนุ่มน้อยที่กำลังเดินบ่นออกไป


“ซ.......ว...........ย..........” พาสนาหันมาย้ำคำเดิมใส่หน้าชายหนุ่ม


“เฮ้ย พูดงี้หาเรื่องหรือไง” ชายหนุ่มขมวดคิ้วแน่นจ้องหน้าอีกฝ่าย


“แล้วไง อยากจะมีเรื่องก็ได้นะ” พาสนาเองก็ไม่ยอมน้อยหน้า เธอถกแขนเสื้อขึ้น ด้วยท่าทางก่างๆ


พิษณุขมวดคิ้วมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทางเหลืออด.....แต่ในเวลานี้เค้าจะมาทะเลาะกับเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้ เค้ายังต้องไปพบกับลูกค้าที่นัดไว้


“วันนี้พี่ไม่ว่าง โชคดีของเราไป” ชายหนุ่มพูดขึ้นเมื่อก้มมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือ


“โธ่..........ไม่แน่จริงนิหว่า” พาสนายังคงมีท่าทางยียวน


“เออ ฝากไว้ก่อนเถอะ” พิษณุจ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตาดุ


“ไม่รับฝาก......” พาสนายิ้มมุมปาก พร้อมทำหน้าเย้ยๆ


“........” พิษณุรู้สึกหงุดหงิดใจกับท่าทางที่ยียวนของอีกฝ่าย แต่เค้าก็ต้องรีบไปแล้วเช่นกัน


ติ๊ง................


เสียงลิฟธ์ดังขึ้น พร้อมกับชายหนุ่มที่กำลังเดินออกมา


“เฮ้ยปลาทำไรอยู่ ไปได้แล้ว” เป้ขึ้นมาตามพาสนาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเธอยังไม่ยอมลงไปชั้นล่าง


“เออ กำลังจะลงไปนี่ล่ะ” พาสนาหันไปตอบเป้ แต่ก่อนที่เธอจะเดินไปที่ลิฟธ์ เธอก็หันมองกลับมาหาพิษณุอีกครั้ง


“ซวย!!!!!~” พาสนาย้ำคำเสียงดังใส่อีกฝ่าย แล้วเดินไปที่ลิฟธ์ทันที


“เฮ้ย.......” พิษณุที่ดูจะนิ่งลงแล้ว ต้องรีบมองตามเจ้าตัวแสบที่เดินหายเข้าไปในลิฟธ์เรียบร้อยแล้ว


“ไอ้เด็กบ้า...” ชายหนุ่มสบถออกมาด้วยอาการขุ่นเคืองใจ .....


.


โดย: kokoo_129 วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:20:26:15 น.  

 
วันที่เธอนั้นเจอกับเขา วันที่เราต้องเป็นเพื่อนกัน


รู้มั๊ยทำให้ฉันเกือบจะร้องไห้


มีแต่รอยยิ้มให้กับเธอ ยามที่เจอหน้ากันเสมอ


รู้มั๊ยใจข้างในมันเจ็บแค่ไหน





เสียงเพลงจากบนเวที ทำเอาแขกที่มานั่งดื่มสรรสันกันนั้น ต้องหันมองขึ้นไปบนเวที.....


ภาพนักร้องมาดเท่ห์ หน้าหวาน กำลังร้องเพลงขับกล่อมบรรดาลูกค้าของผับ Ninety Eight .....




เมื่อไหร่ที่เห็นเขาและเธอสองคน


อยากจะตะโกน ว่าใจมันทนไม่ได้





อรินยาที่กำลังพูดคุยเฮฮากับเพื่อนๆ หันมองไปที่นักร้องบนเวทีนั้น แล้วหญิงสาวก็ต้องยิ้มหวานออกมา.....เธอจ้องมองนักร้องหน้าหวานบนเวที แบบไม่กระพริบตา....


พาสนาที่กำลังร้องเพลงอยู่บนเวทีในเวลานี้ช่างดูเท่ห์ และน่ามองอย่างที่สุด แสงไฟหลากสีสาดส่องมายังเธอ...




ไม่อยากทำให้ลำบากใจ


อยากจะเป็นเพื่อนเธอต่อไป เหมือนเก่า


ก็ได้แต่เก็บมันเอาไว้...


คำว่ารัก ถ้าพูดออกไป


อาจจะทำให้เราห่างไกล ฉันกลัว....


เก็บไว้ในใจของฉันคนเดียวก็พอ





“ไงยาย่า ถึงกลับตะลึงเลยหรอ” ปัญจรีเจ้าภาพงานวันเกิดในวันนี้ร้องถามเพื่อนสาวของเธอ ซึ่งกำลังนั่งตาลอยมองไปบนเวที


“......” อรินยายังคงนั่งยิ้มหวานมองไปบนเวที


“เฮ้ย ยาย่า....” อรวี สาวสวยในกลุ่มร้องเรียกอรินยาเสียงดังขึ้น จนหญิงสาวต้องสะดุ้งหันมองกลับมาทางเพื่อนๆ


“หะ....” อรินยาหันมองกลับมายังเพื่อนสาวในกลุ่ม


“เป็นอะไรใจลอยเชียว............หรือว่าปิ้งนักร้องซะแล้ว” อรวียังคงแกล้งแซวต่อ


“เอออ...” อรินยามีอาการหน้าแดงขึ้นมาทันที....หญิงสาวมีท่าทางอึกอักไม่ยอมตอบคำถามเพื่อนๆ


“แหม แต่ถึงเป็นฉัน ฉันก็เพ้อนะ.........ดูซิ เท่ห์ออกขนาดนั้น หน้าตาก็ดี้ดี........น่ารัก” อรวีไม่วายหันไปทำตาหวานเชื่อมใส่พาสนาบนเวที


ตี๊ด........ตี๊ด......

เสียงเมือถือของอรินยาดังขัดจังหวะการแซวของกลุ่มสาวๆ หญิงสาวหยิบมือถือขึ้นมารับทันที


“ค่ะณุ........” อรินยารับโทรศัพท์ แล้วพูดโต้ตอบ


“ตอนนี้ณุอยู่ข้างหน้าแล้วหรอคะ.......เข้ามาเลยค่ะ พวกยาย่าอยู่โต๊ะกลางหน้าเวทีค่ะ” อรินยาตะโกนใส่มือถือของเธอ


“ค่ะๆ” อรินยาพยักหน้างึกงักกับมือถือ2-3 ที ก่อนจะกดวางสาย


“คุณณุมาแล้วหรอยาย่า” ปัญจรีถามเพื่อนรักด้วยรอยยิ้ม


“อืมม” อรินยาพยักหน้ายิ้มๆ ให้เพื่อนรัก


“แหม น่าอิจฉาจริง หวานได้ทุกวัน” อรวีแกล้งพูดแซว


“เซี้ยวกันใหญ่แล้วพวกเธอ” อรินยามองเพื่อนๆ ที่จ้องจะแซวเธอด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ แต่แล้วเธอก็หันมองไปทางเวทีอีกครั้ง




ยามที่ต้องอยู่ใกล้ชิดกัน ใจหนึ่งมันอยากเดินหนีไป


เพราะกลัวทำอะไรให้เธอรู้สึก


ได้แต่ฝืนยิ้มและข่มใจ พูดอะไรไม่กล้าสบตา


เพราะฉันกลัวน้ำตา มันอาจจะไหล




“เท่ห์ดีเนอะ.........” สาวๆ ในโต๊ะ ต่างก็จ้องมองไปทางเวที และมองนักร้องที่กำลังร้องเพลงอยู่


“น่ารักชะมัด..” ปัญจรีมองพาสนายิ้มๆ




ไม่อยากทำให้ลำบากใจ


อยากจะเป็นเพื่อนเธอต่อไป เหมือนเก่า


ก็ได้แต่เก็บมันเอาไว้...


คำว่ารัก ถ้าพูดออกไป


อาจจะทำให้เราห่างไกล ฉันกลัว....


เก็บไว้ในใจของฉันคนเดียวก็พอ




พิษณุ เดินเข้ามาในผับ..........ซึ่งตอนนี้ภายในบรรยากาศมืดๆ มีแสงไฟสาดไปบนเวที ตรงที่นักร้องกำลังร้องเพลงอยู่..........แสงไฟหลากสีหมุนวนทำให้เกิดความแปลกตา


ชายหนุ่มมองไปรอบๆ ร้าน.........



เมื่อไหร่ที่เห็นเขาและเธอสองคน


อยากจะตะโกน ว่าใจมันทนไม่ได้


ไม่อยากทำให้ลำบากใจ


อยากจะเป็นเพื่อนเธอต่อไป เหมือนเก่า


ก็ได้แต่เก็บมันเอาไว้...


คำว่ารัก ถ้าพูดออกไป


อาจจะทำให้เราห่างไกล ฉันกลัว....



เก็บไว้ในใจของฉันคนเดียวก็พอ





พิษณุมองไปทางเวที.........นักร้องกำลังร้องเพลงเพราะๆ อยู่บนเวที มาดเท่ห์ น่ามองทำให้ชายหนุ่มยืนมองอยู่พักใหญ่........


“คุณณุคะ..........ทางนี้ค่ะ” เสียงสาวๆ โบกมือร้องเรียกเค้าจากโต๊ะที่ไม่ไกลนัก


ชายหนุ่มหันไปส่งยิ้มให้สาวๆ แล้วเดินตรงไปที่โต๊ะนั้น


“สวัสดีครับ...” ชายหนุ่มกล่าวทักทายสาวๆ ที่นั่งอยู่ในโต๊ะ


“สวัสดีค่ะ คุณณุ” ปัญจรีทักทายชายหนุ่มพร้อมยิ้มหวาน


“นี่ครับ..สุขสันต์วันเกิดครับ” พิษณุส่งของขวัญกล่องสวยน่ารักให้กับปัญจรี


“อุ้ย ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวรับกล่องของขวัญพร้อมยิ้มหวาน


พิษณุมองไปทางอรินยาที่เหมือนจะไม่รู้เลยว่าเค้าได้เดินเข้ามายืนข้างๆ เธอ


“ยาย่าครับ...” พิษณุเรียกอรินยาที่กำลังนั่งมองไปทางเวที........หญิงสาวยังคงนั่งนิ่ง


“ยาย่าครับ” ...พิษณุเรียกเธออีกครั้ง แต่ก็ยังคงเหมือนเดิม



ไม่อยากทำให้ลำบากใจ


อยากจะเป็นเพื่อนเธอต่อไป เหมือนเก่า


ก็ได้แต่เก็บมันเอาไว้...


คำว่ารัก ถ้าพูดออกไป


อาจจะทำให้เราห่างไกล ฉันกลัว....


เก็บไว้ในใจของฉันคนเดียวก็พอ





.


โดย: kokoo_129 วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:20:27:14 น.  

 
“ยาย่าคะ...” พิษณุเรียกหญิงสาวดังขึ้นอีก....จนอรินยาต้องสะดุ้งแล้วหันกลับมองมาทางเค้า



“อ้าวณุ...” อรินยายิ้มให้ชายหนุ่ม



“เป็นอะไรไป ผมเรียกตั้งนานแล้วนะ” ชายหนุ่มถามหญิงสาวด้วยความสงสัย



“เอออ ........” อรินยายิ้มบางๆ ให้ชายหนุ่ม เธอไม่รู้จะตอบเค้าอย่างไรดี



เสียงตบมือจากนักเที่ยว นักดื่มในผับ ดังขึ้น ต่างก็ตบมือให้กับนักร้องบนเวที .......อรินยาจึงหันไปร่วมตบมือด้วย



“เพลงเพราะดีนะคะณุ” อรินยาหันมาบอกกับชายหนุ่ม หลังจากที่นักร้องโค้งรับเสียงตบมือ และเดินไปด้านหลังเวที...



“อืมม ครับ” พิษณุจ้องมองหญิงสาวข้างๆ เค้าไม่เคยเห็นอรินยาให้ความสนใจอะไรได้มากขนาดนี้มาก่อน...



“เป็นอะไรไปคะณุ” อรินยาจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้า เมื่อเห็นว่าเค้ากำลังจ้องหน้าของเธอเขม็ง



“อ้อ เปล่าครับ” พิษณุยิ้มให้สาวสวย



“อืมม พวกเธอคุยกันไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันมา” อรวี บอกกับเพื่อนๆ ด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน



“ตามสบายนะคะ คุณณุ” อรวีหันมาส่งยิ้มหวานให้พิษณุก่อนที่จะลุกเดินไปจากโต๊ะ



“ไอวี่ เค้าไปไหนหรอปุ่น” อรินยาหันไปถามปัญจรี เมื่อเห็นท่าทางของอรวี



“ไม่รู้เหมือนกัน” ปัญจรีเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า อรวี รีบออกไปไหน....



ปัญจรียิ้มหวานให้เพื่อนรัก แล้วหันไปหยิบแก้วเครื่องดื่มขึ้นมา



“เอาๆ ดื่มๆ ค่ะ” หญิงสาวไอโซ พูดชักชวนเพื่อนดื่ม



“ดื่มจ๊ะ...” อรินยายกแก้วเครื่องดื่มของเธอขึ้น แล้วชนกับเพื่อนรัก



“คุณณุดื่มค่ะ” ปัญจรี หันไปพูดชวนพิษณุดื่มเช่นกัน



“ครับ....สุขสันต์วันเกิดครับ” พิษณุยกแก้วของเค้าขึ้น แล้วพูดอวยพรปัญจรี



“ขอบคุณค่ะ” ปัญจรียิ้มหวานให้ชายหนุ่ม แล้วยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นดื่ม...
.
.
.

ด้านหลังเวที...


อรวี เดินดุ่มๆ เข้ามาทางด้านหลังเวที หญิงสาวชะโงกหน้าเข้ามาในห้องพักของนักร้อง ซึ่งตอนนี้พาสนากำลังนั่งพัก เพื่อรอคิวออกไปร้องในเพลงต่อไป


หญิงสาวแสนสวย ค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ๆ พาสนาอย่างเงียบๆ.....



“ทำอะไรอยู่ค่ะ” เธอร้องทักขึ้น ทำเอาคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาดูเพลงในมือถึงกับสะดุ้งโหยง



“อุ้ย...” พาสนาหันหลังมองเจ้าของเสียงหวาน



“สวัสดีค่ะ” อรวียิ้มหวานให้อีกฝ่าย



“สวัสดีฮะ” พาสนายิ้มตอบ



“เออ.........ไอวี่ค่ะ แล้วคุณ.........” อรวียิ้มหวาน ทำตัวยืนบิดไปมา จ้องหน้าของอีกฝ่าย



“อ้อ ปลาฮะ.........ชื่อปลา” พาสนายิ้มแหยๆ ให้หญิงสาวตรงหน้า เธอชี้มือแนะนำตัวเองให้อีกฝ่ายได้รู้จัก



“อุ้ย ชื่อน่ารักจัง ยินดีได้รู้จักค่ะ คุณปลา” อรวียิ้มหวานออกมา พร้อมกับเข้าไปนั่งใกล้ๆ พาสนา เธอยื่นมือทำความรู้จักให้กับอีกฝ่าย



“ฮะ...ยินดี” พาสนายื่นมือไปจับมือหญิงสาวแล้วยิ้มให้เธอ



“คุณปลารู้มั้ยค่ะว่า คุณปลาเนี่ยะ ร้องเพลงเพราะมากเลย..........” อรวียิ้มหวานทำตากระพริบใส่พาสนา



“เอออออ ขอบคุณฮะ” พาสนามองปฏิกิริยาของอีกฝ่าย แล้วต้องยิ้มแห้งๆ ออกมา



“แหม........เสียงก็เพราะ หน้าตาก็ดี ไม่รู้ว่า........” อรวีทำท่าบิดม้วนไปมา แล้วส่งสายตาหวานให้กับพาสนา จนพาสนาเองต้องมีอาการทำหน้าไม่ถูก



“คุณปลามีแฟนรึยังคะ” อรวีถามออกไปด้วยความกล้าที่มี



“............หะ” พาสนารู้สึกแปลกใจที่มีหญิงสาวหน้าตาสะสวยมาถามเธอแบบนี้



“ว่าไงค่ะ มีแฟนรึยัง” อรวีถามย้ำอีกครั้งด้วยแววตาหวาน



“เอออ ...ยังฮะ” พาสนาตอบจบก็มองปฏิกิริยาของอีกฝ่าย



“จริงนะค่ะ........” อรวีถามเสียงสูง แล้วเธอก็ยิ้มหวานออกมาอย่างดีใจ



“ฮะ....” พาสนายิ้มแห้งๆ มองอาการของหญิงสาวที่ดูจะดีใจจนออกนอกหน้า



“ไอวี่ดีใจจัง” แล้วสิ่งที่พาสนาไม่ทันได้คิดก็เกิดขึ้น สาวสวยโผเข้าไปกอดเธอไว้แนบแน่น



“เอออ.......เออออ........” พาสนามีอาการตกใจอยู่พอสมควร เธอพยายามดันตัวอรวีออก



“ขะ....ขอโทษนะฮะ พอดีปลามีคิวต้องขึ้นร้องอีก ขอตัวนะฮะ” พาสนารีบบอกกับสาวสวย แล้วลุกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ เพื่อเดินไปยืนข้างเวที เตรียมขึ้นร้องอีกครั้ง



อรวีที่โดนพาสนาแกะออกมา ก็ได้แต่นั่งยิ้มหวาน มองพาสนาขึ้นเวที.....



“น่ารักชะมัด.....” หญิงสาวพูดออกมาทั้งรอยยิ้ม
.
.
.
“ไงปลา..........มีสาวมาตามอีกแล้วหรอ” พี่เจที่กำลังยืนอยู่ข้างเวที หันมาถามพาสนา เมื่อเธอเดินเข้ามายืนข้างๆ



“........” พาสนาไม่ตอบอะไร เธอยิ้มแห้งๆ ให้เค้า



“เฮ้ออออ ทำใจหน่อยเว้ย เกิดมาหน้าตาดีนิหว่า” พี่เจแกล้งพูดขำๆ



“โอ้ย พี่อย่าแซวปลาได้มั้ย.......แค่นี้ก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว” พาสนาขมวดคิ้วทำหน้าบู้บี้ตอบพี่เจ



“เอาน่า........เดี๋ยวเตรียมตัวให้ดีแล้วกัน ตอนกลับบ้านหน่ะ เด็กๆ แกมีหวังตบกันอีกแล้ว” พี่เจพูดยิ้มขำๆ


“ไม่ขำเลยพี่ ไม่ขำ” พาสนาบ่นอุบ ด้วยท่าทางไม่ชอบใจ



“ปลามันทำบุญมาด้วยไรว้า มีแต่สาวสวยๆ น่ารักๆ มาชอบ” พี่ปุ้ยคนคุมเสียงหันมาแซวบ้าง



“หยุดเลยพี่ปุ้ย....” พาสนาทำตาดุใส่พี่ปุ้ย



“ไอ้นี่มันกินอะไรมาวะ ดุชิป” พี่ปุ้ยยิ้มขำๆ ที่เห็นหน้าตาของพาสนาในเวลานี้



“เอ้าๆ ไม่ต้องเถียงกันแล้ว ได้เวลาแล้วปลา ขึ้นไปได้แล้ว” พี่เจหันมาบอกกับพาสนา เมื่อนักร้องอีกคนบนเวทีร้องจบแล้ว



“ฮะ...” พาสนาพยักหน้าให้พี่เจ แล้วรับไมค์พร้อมเดินออกไปยังกลางเวทีอีกครั้ง..




.


โดย: kokoo_129 วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:20:28:04 น.  

 

อรวีเดินยิ้มหวานกลับมานั่งที่โต๊ะกับเพื่อนๆ อีกครั้ง....


ปัญจรี หันมองเพื่อนรักของเธอที่กำลังเดินยิ้มมาด้วยความสงสัย


“เป็นอะไรไปไอวี่” ปัญจรีซักถามเพื่อนรักที่ดูเหมือนกำลังใจลอยเต็มที


อรวียังคงยิ้มหวานกับตัวเอง โดยไม่ได้สนใจเพื่อนของเธอเลย จนปัญจรีต้องใช้มือจับตัวเพื่อนรักเขย่า


“ไอวี่...ฉันเรียกไม่ได้ยินหรอไง” ปัญจรีเขย่าตัวอรวี พร้อมร้องถามเสียงดังขึ้น


“หะ.....” อรวีที่โดนเขย่าตัว ก็ต้องตื่นจากอาการใจลอย แล้วมองหน้าเพื่อนของเธอ


“เป็นอะไรใจลอย ยิ้มหวานคนเดียว บ้ารึป่าว” ปัญจรีร้องถาม ขณะที่กำลังจ้องหน้าของอรวี


“ป่าว.......ฉันแค่” อรวีหุบยิ้มส่ายหน้าตอบปฏิเสธปัญจรี แต่แล้วเธอก็ต้องยิ้มหวานอีกครั้งเมื่อมองไปบนเวที


“ว้ายยย ออกมาแล้วๆ” อรวีร้องออกมาด้วยอาการตื่นเต้นดีใจ เมื่อมองเห็นคนที่กำลังออกมายืนตรงกลางเวที


ปัญจรีหันมองไปทางเวทีบ้าง เธอก็เห็นพาสนาที่กำลังเดินออกมาเพื่อร้องเพลงต่อไป หญิงสาวพอจะรู้สาเหตุที่เพื่อนของเธอมีอาการใจลอย ยิ้มหวานแล้ว......


“ชอบหรอ” ปัญจรีกระซิบถามเพื่อนรัก



“อืมมม...” อรวีตอบด้วยท่าทางที่กำลังเคลิ้มไปกับคนที่อยู่บนเวที


“เค้าชื่อพาสนา....ชื่อเล่นชื่อปลา” ปัญจรีบอกกับเพื่อนรักของเธอ


“อืมมม รู้แล้วว่าชื่อปลา...” อรวียังคงมีท่าทางเคลิ้มอยู่


“เฮ้ย แกรู้ได้ไงปุ่นจัง” อรวีหันกลับมองมาทางเพื่อนรักที่นั่งพูดกระซิบกระซาบอยู่ข้างๆ เธอ


“........” ปัญจรีไม่ตอบอะไร เธอเอาแต่ยิ้มแป้นให้เพื่อนรัก


“ว่าไง แกรู้ได้ไง” อรวีจ้องมองเพื่อนรักตาเขม็ง แต่ปัญจรียังคงนั่งยิ้มไม่ยอมตอบ


“ยายปุ่น แกจะบอกฉันมั้ยหะ............” อรวีทำตาเขียวใส่เพื่อนรักที่ไม่ยอมบอกเธอว่าไปรู้จักพาสนาได้ยังไงกัน


“จุ๊ๆ เบาๆ ฉันจะฟังเพลง แกอยากรู้อะไร รอตอนกลับแล้วกัน” ปัญจรีสงวนท่าที แกล้งไม่ตอบเมื่อเห็นว่าอรวีอยากรู้มากเหลือเกิน


“ยายปุ่น....” อรวีมีท่าทางฟึดฟัดที่เพื่อนแกล้งไม่ยอมบอกรายละเอียดเกี่ยวกับพาสนาให้เธอรู้


“ดูๆ โน้น น่ารักเนอะ” ปัญจรีชี้มือไปบนเวที ให้เพื่อนหันไปดู ด้วยสีหน้ายิ้มๆ


“เออ แกต้องสัญญานะว่าตอนกลับจะเล่าให้ฟังหน่ะ” อรวี ทำเสียงเข้มบอกกับเพื่อนของเธอ


“อืมมมม” ปัญจรีพยักหน้ารับ


“ถ้าแกไม่เล่าล่ะก็ น่าดู” อรวีทำเสียงขู่เพื่อนรักก่อนจะหันมองไปยิ้มหวานกับคนบนเวทีอีกครั้ง



“เพลงเพราะดีนะครับยาย่า” พิษณุพูดกับอรินยาที่กำลังนั่งมองไปบนเวที


“ค่ะ” อรินยาตอบสีหน้ายิ้มๆ ดวงตาคู่สวยของเธอกำลังโฟกัสไปยังคนที่ยืนร้องเพลงอยู่บนเวที


พิษณุเห็นอาการของสาวๆ ทั้งสามแล้วให้ส่ายหน้าไปมาเบาๆ................เค้ามองไปยังคนที่ร้องเพลงอยู่บนเวที เสียงที่ร้องออกมาก็เพราะหวานใสดี ส่วนหน้าตาของคนบนเวทีนั้น.......เพราะแสงไฟที่สาดจากด้านหลังของตัวนักร้องนั้น ได้มากระทบกับหน้าของเค้าพอดี จึงทำให้มองไม่ค่อยชัดสักเท่าไหร่ แต่ท่าทางของคนในผับ กับเสียงกรี๊ดของบรรดาสาวๆ ก็พอจะแสดงให้รู้ว่า หนุ่มน้อยคนนี้ต้องหน้าตาดีพอสมควร....


ตี๊ด..........ตี๊ด..........


เสียงมือถือดังขึ้น.....


“ฮัลโหลครับ” พิษณุหยิบมือถือของเค้าที่กำลังสั่นอยู่บนโต๊ะขึ้นมารับสาย


“อะไรนะครับ....ฮัลโหล” ด้วยเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มในผับ ทำให้ชายหนุ่มได้ยินเสียงปลายสายไม่ชัด


“สักครู่นะครับ..” ชายหนุ่มพูดใส่มือถือกลับไปก่อนจะหันมาทางอรินยา


“ยาย่าครับ.....ยาย่า” พิษณุสะกิดเรียกอรินยาที่กำลังจ้องมองไปทางเวที


“ค่ะ....” หญิงสาวหันมองกลับมาเมื่อโดนพิษณุสะกิดเรียก


“ผมขอตัวไปคุยโทรศัพท์สักครู่นะ....” พิษณุพยายามพูดแข่งกับเสียงเพลงบนเวที


“อะไรนะคะ” อรินยาได้ยินไม่ชัดสักเท่าไหร่


“ผมไปข้างนอกแปบนะครับ” พิษณุก้มลงพูดกับเธออีกครั้ง


“อ้อ ค่ะ” อรินยาพยักหน้ารับรู้ และหันกลับไปยังเวทีอีกครั้ง


ชายหนุ่มยิ้มให้เธอก่อนจะเดินออกไปด้านนอกเพื่อพูดโทรศัพท์....


มาดเท่ห์ๆ บนเวที ทำเอาคนในผับต่างพากันมองด้วยอาการปลื้มๆ...........ด้านหน้าเวที มีสาวน้อย สาวใหญ่หลายคนที่ไปยืนออ ส่งเสียงกรี๊ด......


“ปลาค่ะ..........ปลา” เสียงสาวๆ ร้องเรียกนักร้องบนเวที ส่วนตัวพาสนาเองก็หันมาส่งยิ้มให้บรรดาสาวๆ ที่กำลังร้องเรียกอยู่เช่นกัน


กรี๊ดดดดดดดด


เมื่อเห็นรอยยิ้มของคนบนเวที ก็ทำเอาสาวๆ ด้านล่างถึงกลับร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น.....แต่แล้วเหตุการณ์วุ่นๆ ก็เกิดขึ้น


“โอ้ยยย อะไรกันย่ะ มากระแทกฉันทำไม” สาวน้อยคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มหน้าเวที หันมาแผดเสียงใส่สาวสวยอีกคนที่ยืนข้างๆ


“นี่พูดดีๆ นะ ใครไปกระแทกเธอ” สาวคนที่โดนต่อว่า หันกลับมาแผดเสียงไม่แพ้กัน


“กระแทกเค้าแล้วไม่ยอมรับ อยากมีเรื่องรึไง” สาวน้อยคนเดิมยังคงพูดอย่างไม่เกรงกลัวอะไร


“เอาซิ........แน่มาจากไหนกัน” สาวสวยที่โต้คารมอยู่ด้วยนั้นก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน


แต่ก่อนที่สองสาวจะลงมือลงไม้นั้น พาสนาที่ยืนอยู่บนเวที ก็ต้องรีบร้องห้าม


“เดี๋ยวๆ พี่ๆ อย่าตีกันนะ” พาสนาร้องบอกกับสาวๆ


“ปลาดูนังนี่ซิ มันมากระแทกแคทหน่ะ” สาวน้อยหน้าตาน่ารัก รีบพูดฟ้องพาสนาทันที


“ใครกันแน่ น้องปลาดูนะ เด็กคนนี้มาหาเรื่องพี่ก่อน” สาวสวยอีกคนก็หันไปฟ้องพาสนาเช่นกัน


“เออออ........ปลาของร้องนะ น้องแคท พี่เชอรี่ อย่าทะเลาะกันเลยนะ” พาสนามองดูคนในผับที่จ้องมาทางคนกลุ่มนี้เป็นตาเดียวกัน แล้วให้รู้สึกแทบจะเอาหน้าไปซุกไว้ใต้เวที


“แต่ว่าน้องปลา........” สาวสวยเชอรี่ ยังมีท่าทางอิดออด


“ก็ได้ค่ะ เพื่อพี่ปลา แคทยอมก็ได้” สาวน้อยหน้าใส พูดยิ้มๆ ให้กับพาสนา ก่อนจะหันมาทำตาเหลือกใส่เชอรี่


“ดีมากจ๊ะน้องแคท แล้วพี่เชอรี่ล่ะ ได้มั้ย” พาสนาหันมองไปทางเชอรี่อีกครั้ง


“ก็ได้ ถ้าเพื่อน้องปลาพี่ยอมก็ได้” สาวสวยยอมไม่เอาเรื่องเด็กสาวคู่กรณีตามคำขอของพาสนา


“ดีแล้วฮะ งั้นมาฟังปลาร้องเพลงต่อนะ” พาสนายกมือปาดเหงื่อที่ซึมออกมาทางหน้าผากของเธอ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเพื่อร้องเพลงต่อ


แม้ว่าทั้งคู่จะบอกว่าไม่เอาเรื่องกันแล้ว แต่สายตาที่ส่องมอบให้กันและกัน มันช่างดุเดือดเหลือเกิน



.


โดย: kokoo_129 วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:20:29:03 น.  

 
พาสนาร้องเพลงสุดท้ายในค่ำคืนนี้จบลง ก็มองสาวๆ หน้าเวทีอย่างหวั่นใจ เธอส่งยิ้มให้สาวๆ กลุ่มนั้น ก่อนจะรีบเดินไปทางด้านหลังเวที



“พี่เจ ช่วยปลาด้วยนะ” พาสนาร้องบอกพี่เจ เมื่อกลับเข้ามาถึงด้านหลังเวที



“อีกแล้ว...” พี่เจทำหน้าเบื่อๆ มองพาสนา



“นะพี่...ปลาขอร้อง” พาสนายกมือไหว้ประหงกๆ



“เออๆ รีบไปเลย เดี๋ยวพี่ถ่วงเวลาให้” พี่เจพยักหน้ารับแบบเสียไม่ได้ แล้วโบกมือไล่พาสนาให้กลับไปอย่างเร็ว



“ขอบคุณมากพี่” พาสนายิ้มดีใจ ก่อนจะรีบหยิบกระเป๋าสะพายของเธอ แล้วเดินหนีไปทางประตูหลังของร้าน



พี่เจมองพาสนาด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ..........



“แหม เป็นฉันหน่อยไม่ได้ จะจัดการให้เรียบยกกองเลย” พี่เจบ่นออกมาเบาๆ แล้วมองไปทางกลุ่มสาวๆ หน้าเวที ที่ร้องเรียกหาพาสนา



และเพียงไม่นาน สาวๆ กลุ่มนั้นก็รีบวิ่งมาทางด้านหลังเวที เพื่อมาหาพาสนา.........แต่ก็เจอแต่พี่เจ



“พี่ค่ะ พี่ปลาไปไหนแล้วค่ะ” น้องแคทชะเง้อคอมองหาพาสนา



“อ้อ พอดีปลาเค้าไปเข้าห้องน้ำจ๊ะ เดี๋ยวคงมา” พี่เจตอบสีหน้ายิ้มๆ



“ห้องน้ำหรอค่ะ........” น้องแคทยังคงซักถามต่อ



“ใช่จ๊ะ….พวกน้องรอกันแปบนะ เดี๋ยวปลาก็มา” พี่เจยังคงยิ้มตอบ



กลุ่มสาวๆ มองหน้าพี่เจ อย่างไม่อยากเชื่อ เพราะพวกเธอโดนหลอกมาหลายทีแล้ว แต่ในเมื่ออยากเจอพาสนาก็ต้องรอ..........
.
.
.
“ครับ ใช่ครับ.....โครงการนี้ก็จะมีนักออกแบบมืออาชีพมาจัดให้.....” พิษณุที่ออกมาคุยโทรศัพท์ข้างนอกร้าน ยังคงพูดคุยเกี่ยวกับโครงการรีสอร์ทของเค้าที่ชะอำกับลูกค้าไม่จบ



ชายหนุ่มเดินวนไปวนมาแถวลานจอดรถ เพื่อพูดคุยกับลูกค้าของเค้าอย่างสบายอารมณ์



พาสนาที่แอบออกมาทางหลังร้าน รีบเดินตรงไปที่รถของเธอ...........แล้วสายตาเจ้ากรรมก็ดันไปเจอกับรถเบนส์สีดำสวย เลขทะเบียน พณ 8998 ที่จอดนิ่งสนิทอยู่ไม่ไกลกับรถของเธอ



พาสนายืนมองรถคันนั้นนิ่ง...........พร้อมกับขบฟันดังกรอดดด



“ฮืมมม โลกกลมจริงวุ้ย” พาสนาพูดออกมาพร้อมยิ้มมุมปาก



เธอจำ รถเบนส์ คันนี้ได้ดี จนติดตา...........ก็เพราะมันคือคันๆ เดียวกับที่วิ่งเหยียบน้ำกระเด็นใส่เธอกับแม่เมื่อเช้านี้ ซึ่งทำเอาชุดของเธอเปียกปอนเลอะเทอะกลับบ้าน



“หึหึหึ” พาสนายิ้มออกมา พร้อมกับยกมือสองข้างขึ้นหักนิ้วเล่น



“มาถึงที่ ไม่สนองซะหน่อย ก็ไม่ใช่ไอ้ปลาแล้ว” พูดจบ พาสนาก็รีบเดินไปทางรถเบนส์คันสวย..........เธอหยิบอะไรบางอย่างในกระเป๋าสะพายออกมา



แคร่กกกกกกกกกกก..........................................



เสียงของแหลมมีคม ขูดกับโลหะ ดังยาว



“หึหึหึ.........รวยนักใช่มั้ย.....” พาสนายิ้มสะใจ แล้วจัดการฝากรอยแผลไว้ที่ประตูรถอีก สองแผลใหญ่



“สมน้ำหน้า ซ่าส์นักโดนอย่างนี้ละสะใจ” พาสนายืนมองผลงานที่เพิ่งจะบรรเลงไปเมื่อครู่ด้วยแววตายิ้มๆ



พิษณุที่กำลังยืนคุยโทรศัพท์ หันมองมาทางรถของเค้า แล้วชายหนุ่มก็ต้องแปลกใจที่มีคนยืนจ้องรถของเค้าอยู่.........



“เฮ้ย ทำอะไรหน่ะ” ชายหนุ่มรีบวางสายจากลูกค้า แล้วหันมาตะโกนเรียกพาสนาที่ยืนอยู่ข้างๆ รถของเค้า



พาสนาหันมองไปทางเจ้าของเสียง..............



“เฮ้ย....” พาสนาเห็นว่าน่าจะเป็นเจ้าของรถคันนี้ เธอรีบวิ่งไปยังรถของเธอทันที



พิษณุเองก็รีบวิ่งตามเพื่อไม่ให้พาสนาหนีรอดไปได้.............



พาสนาควานหากุญแจรถของเธอในกระเป๋า...........ด้วยอาการรีบร้อนสุดๆ เลยทำให้เธอหากุญแจในกระเป๋าไม่เจอสักที



“โอ้ยยยยย อยู่ไหนวะ............อยู่ไหน อยู่ไหน” พาสนาบ่นไปก็ก้มหากุญแจในกระเป๋าไป เธอเงยมองคนที่กำลังวิ่งมาทางเธออย่างร้อนใจ



“หายไปไหนวะ ซวย ขืนโดนจับได้มีหวังต้องจ่ายค่าทำสีบานแน่เลย.....โอ้ยยย อยู่ไหนเนี่ยะ” ยิ่งรีบก็ยิ่งไม่เจอ พาสนาควานหายังไงก็หาไม่เจอสักที



“เฮ้ยจะหนีไปไหน หยุดนะ” พิษณุเองที่วิ่งตามมาติดๆ รีบตะโกนเรียกไม่ให้พาสนาวิ่งหนี แต่มีหรือคนอย่างพาสนาจะยอมให้จับง่ายๆ ในเมื่อหากุญแจรถไม่เจอ เธอจึงตัดสินใจวิ่งออกมาจากรถของเธอ ไปตามลาดจอดรถ



“อยู่ให้โง่ดิ หนีก่อนละเว้ย” พาสนารีบวิ่งสุดชีวิต เพื่อไม่ให้จับได้



พิษณุเองก็วิ่งไล่กวดไม่ยอมหยุด...........



“หยุดนะ บอกว่าให้หยุดไง” พิษณุตะโกนร้องเรียกให้พาสนาหยุดวิ่ง



“บ้าดิ หยุดก็โง่แล้ว” พาสนาเองก็ไม่ยอมหยุด เธอพยายามวิ่งสุดแรง



แต่ด้วยร่างกายที่ตัวเล็กกว่า และขาก็สั้นกว่า ทำให้พาสนาวิ่งช้ากว่าพิษณุหลายเท่า เพียงไม่นานชายหนุ่มก็วิ่งจนทันเธอ............เค้ากระโจนรวบตัวเธอเอาไว้



“เฮ้ยยยยย...........” พาสนาร้องเสียงดังก่อนที่ตัวของเธอจะล้มลงไปนอนกลิ้งกับพื้น พร้อมๆ กับพิษณุ



“จะหนีไปไหน......ไอ้น้อง” พิษณุยิ้มสะใจที่จับตัวแสบได้สำเร็จ



“โอ้ยยยย ปล่อยๆ” พาสนาพยายามดิ้นขลุกขลักในยาย่าแขนของชายหนุ่ม



“เมื่อกี้ทำอะไรที่รถพี่หะ” พิษณุถามเสียงดัง



“บอกว่าให้ปล่อยไง.......” พาสนาเงยหน้าตะโกนเสียงดังใส่คนที่จับตัวเธอเอาไว้



แล้วเมื่อพาสนาเงยหน้าขึ้นมา ก็ทำให้เธอเห็นหน้าของอีกคนอย่างชัดเจน พิษณุเองก็ต้องตกใจ ปนแปลกใจไม่น้อยที่เห็นหน้าของอีกฝ่าย



“เฮ้ยยยยย นี่.........” พิษณุร้องออกมาด้วยความตกใจ



“เฮ้ย.....ไอ้ตัวซวย” พาสนาเองก็ร้องออกมาเช่นกัน



พิษณุขมวดคิ้วแน่นเมื่อได้ยินอีกฝ่ายเรียกเค้าแบบนี้.............



“ปล่อยได้แล้ว ปล่อยซิวะ” พาสนาดิ้นรนให้พ้นจากแขนที่จับตัวเธอเอาไว้



เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังนอนกอดอีกฝ่ายอยู่พิษณุจึงยอมปล่อย และลุกขึ้นยืน......... พาสนาเองก็รีบลุกขึ้นเช่นกัน เธอใช้มือปัดแขน ปัดขา และทำท่าจะเดินหนีอีกครั้ง จนพิษณุต้องจับแขนเธอเอาไว้



“เฮ้ย มาจับฉันทำไม” พาสนาพยายามสะบัดแขนให้มือพิษณุหลุด แต่ชายหนุ่มกับกำมือไว้แน่นจนเธอหนีไปไหนไม่ได้



“เมื่อกี้ไปทำอะไรที่รถฉันหะ บอกมา” พิษณุไม่ยอมปล่อยตัวพาสนา เค้าร้องถามเธอเสียงเขียว



“อะไร ใครไปทำอะไร มั่วเปล่า” พาสนาเองก็ทำเสียงเข้มโต้กลับเช่นกัน



“ก็เมื่อกี้ฉันเห็น นายไปก้มๆ เงยๆ ที่รถฉัน ไปทำอะไรบอกมา” ชายหนุ่มถามน้ำเสียงขุ่น ดวงตาดุ



“........” พาสนาจ้องมองหน้าอีกฝ่าย แล้วอาการหวาดเกรงก็เกิดขึ้น แต่เธอก็ไม่ยอมให้ฟอร์มหลุด เธอพยายามขมวดคิ้วจ้องหน้าอีกฝ่ายกลับไปเหมือนกัน



.


โดย: kokoo_129 วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:20:29:38 น.  

 

“ว่าไง เมื่อกี้ฉันเห็นนะว่าเราหน่ะ ไปด่อมๆ มองๆ แถวรถฉัน ไปทำอะไรมา หรือว่าจะขโมยรถหะ” พิษณุซักถามเสียงเขียว


“บ้าหรอ ใครขโมย.......” พาสนาขมวดคิ้วหน้ายุ่งตอบ


“แล้วไปทำอะไรที่รถฉัน” ชายหนุ่มซักถามเสียงเข้มอีกครั้ง


“เออออ...........ไปดูรถไง เห็นมันสวยดี” พาสนารีบตอบเฉไฉ


“.........” พิษณุขมวดคิ้วจ้องหน้าอีกฝ่าย อย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อ


พาสนาชำเลืองมองสีหน้าอีกฝ่าย...ซึ่งดูจะเกิดอาการลังเลขึ้นมานิดๆ


“จริงๆ ก็เห็นรถหรูๆ แพงๆ สวยๆ ก็เลยอยากเข้าไปดูใกล้ๆ ไม่มีอะไรหรอกน่า.......” พาสนาทำเป็นตีหน้าซื่อพูดขึ้น


“แน่ใจหรอ” พิษณุเองก็เริ่มลดเสียงลง


“อืมๆๆๆ ก็แหม ก็เห็นว่ารถมันสวยดี ราคาคงแพงน่าดูใช่ม๊า........” พาสนาแกล้งถามสีหน้ายิ้มๆ


“ใช่ซิ” พิษณุเองก็เริ่มยิ้มออกมาเมื่อมีคนชมรถของเค้า


“ฉันหน่ะ ชีวิตนี้ไม่รู้จะมีปัญญาได้ขับรถหรูๆ ราคาแพงๆ แบบนี้รึป่าวเลย พอได้เห็นใกล้ๆ ก็เลยอยากชื่นชมนิดหน่อยหน่ะ” พาสนาสังเกตว่าตอนนี้พิษณุกำลังแสดงอาการภูมิใจในความเป็นเจ้าของรถเบนส์สปอร์ตคันหรูนั้น เธอจึงรีบพูดชมอย่างต่อเนื่อง


“เออ พี่นี่โชคดีนะ มีวาสนาได้ขี่รถสวยๆ แพงๆ แบบนี้” พาสนาพูดชมชายหนุ่มไม่หยุดปาก


“อืมมม..” พิษณุยิ้มอย่างภูมิใจ


“เออออ ปล่อยได้ยังอ่ะ” พาสนามองไปที่แขนของเธอที่ยังโดนพิษณุจับเอาไว้


“อ้อ อืม โทษที” พิษณุมองไปที่แขนของพาสนาที่โดนเค้าจับเอาไว้ แล้วชายหนุ่มก็ปล่อยมือของเค้าจากแขนของเธอ


“น่าอิจฉานะ มีรถแพงๆ ขับเนี่ยะ” พาสนายังคงแกล้งชมต่อ


“เอาน่า.......สักวันน้องคงมีขับบ้างล่ะ” พิษณุพูดให้กำลังใจอีกฝ่าย ด้วยท่าทางยิ้มๆ


“อืมม....งั้นไปนะ...” พาสนาค่อยๆ เดินถอยออกห่างจากชายหนุ่ม


“ทีหลังก็อย่าไปเที่ยวด่อมๆ มองๆ รถใครเค้าแบบนี้อีกล่ะ เดี๋ยวเค้าจะเข้าใจผิดเอา” พิษณุบอกพาสนาสีหน้ายิ้มๆ


“อืมมม...” พาสนาพยักหน้าให้ชายหนุ่มพร้อมยิ้มให้เค้า


เมื่อเห็นว่าพิษณุไม่ได้สนใจในตัวเธอแล้ว พาสนาก็รีบล้วงกระเป๋ากางเกง แล้วเธอก็พบกับกุญแจรถของเธอในนั้น..........รอยยิ้มกว้างเกิดขึ้นบนใบหน้า


“อยู่นี่เอง” พาสนาหยิบพวงกุญแจรถออกมาจากกระเป๋าแล้วมองยิ้มๆ


“รีบไปดีกว่า...ก่อนที่มันจะรู้ตัว” พาสนารีบเดินไปที่รถของเธอ แล้วจัดการไขกุญแจขึ้นไปนั่งบนรถ


“ไปนะ...” พาสนายังมีอารมณ์หันมาบอกกับพิษณุด้วยสีหน้ายิ้มๆ ก่อนจะขับรถออกจากลานจอดรถ


พิษณุที่กำลังเดินไปทางรถของเค้าก็โบกมือพร้อมส่งยิ้มให้พาสนาเช่นกัน....




ชายหนุ่มเดินกลับมาที่รถของเค้า.......


ชายหนุ่มยืนมองรถอย่างชื่นชม เมื่อนึกถึงคำชมจากพาสนาเมื่อสักครู่........แต่แล้วรอยยิ้มของเค้าก็เริ่มจางลง พร้อมกับดวงตาเบิกโพลงแทน


“เฮ้ย........อะไรเนี่ยะ” พิษณุเดินเข้าไปดูประตูรถของเค้าใกล้ๆ


ชายหนุ่มมองประตูรถที่ตอนนี้มีรอยขีดยาวอยู่หลายขีด............เค้ากัดฟันกรามแน่น ด้วยแววตาแค้นเคือง


“ไอ้.......ไอ้.......ไอ้เด็กบ้า ไอ้ตัวแสบ อย่าให้เจออีกทีนะ ตายแน่” พิษณุเงยหน้าตะโกนออกมาด้วยความโกรธ


“กร๊ากกกกกกกกก ไอ้โง่...........5555555” พาสนาหัวเราะชอบใจหลังจากขับรถออกมาจากลานได้สักพัก เธอยิ้มสะใจเมื่อคิดถึงหน้าของอีกฝ่ายเมื่อต้องไปเจอของฝากที่เธอมอบไว้ก่อนจากมา


“โธ่เอ้ย แค่ชมรถสวยหน่อยละทำเป็นเคลิ้ม ดีสมน้ำหน้า.......เอากลับไปซ่อมซะให้เข็ดเหอะ” พาสนาพูดยิ้มๆ ก่อนจะหันไปเปิดเพลงในรถฟังอย่างสบายอารมณ์...
.
.
.
พิษณุยืนจ้องมองรถของเค้าด้วยอาการหงุดหงิด แค่แผลที่รถก็ทำให้เค้ารู้สึกหงุดหงิดมากพอสมควรแล้ว แต่นี่ยิ่งมารู้ตัวว่าโดนไอ้เด็กแสบนั้นหลอกอีก ยิ่งทำให้เค้ารู้สึกหงุดหงิดหนักขึ้นเป็นสองเท่า


“อย่าให้เจอนะ.......” ชายหนุ่มขบฟันกรามด้วยอาการโกรธอย่างที่สุด


“ณุคะ ทำอะไรอยู่คะ” เสียงหวานๆ ดังขึ้น ทำให้พิษณุต้องหันไปมอง


“อ้าว ยาย่า” ชายหนุ่มพยายามเก็บอารมณ์โกรธเมื่อสักครู่ แล้วหันไปยิ้มให้หญิงสาว


“พอดียาย่าเห็นณุหายออกมานาน ก็เลยออกมาตาม” อรินยาพูดกับชายหนุ่มด้วยสีหน้ายิ้มๆ


“ผมขอโทษนะ พอดีคุยธุระกับลูกค้าเพลินไปนิด” พิษณุตอบสีหน้ายิ้มๆ


“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อืม พอดีพวกเราจะกลับกันแล้ว…” อรินยาบอกกับชายหนุ่มน้ำเสียงหวาน


“อ้าว จะรีบกลับกันแล้วหรือครับ.....ผมขอโทษทีนะ ที่ไม่ได้...” พิษณุเองก็รู้สึกตัวว่าไม่ค่อยได้เทคแคร์สาวๆ เท่าที่ควรในค่ำคืนนี้


“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” อรินยายิ้มหวานบอกกับชายหนุ่ม


เพียงไม่นาน ปัญจรี กับอรวีก็เดินออกมาจากผับ และตรงมาหาคนทั้งคู่


“คุณปุ่น ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้ไปร่วมสนุกข้างใน” พิษณุกล่าวน้ำเสียงสุภาพ


“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่คุณณุมาร่วมงานของปุ่น ปุ่นก็ดีใจแล้วค่ะ” ปัญจรียิ้มหวานให้ชายหนุ่ม


“อืม ยาย่า พวกเราจะไปต่อกันที่บ้านปุ่นจัง ยาย่าจะไปด้วยกันมั้ย” อรวี ร้องถามอรินยา


“เออออ.....” ใจจริงอรินยาก็อยากไปกับเพื่อนๆ แต่เธอก็ต้องเกรงใจพิษณุที่เธอชวนมาด้วยในคืนนี้ หญิงสาวหันมองชายหนุ่มข้างๆ ด้วยท่าทีที่เกรงใจ


พิษณุมองอรินยายิ้มๆ เค้ารู้ว่าอรินยาอยากไปต่อกับเพื่อนๆ


“ยาย่าไปกับเพื่อนๆ ก็ได้นะครับ” พิษณุกล่าวสีหน้ายิ้มๆ


“จะดีหรือค่ะ คืนนี้ยาย่าชวนณุมาแท้ๆ” อรินยายังคงรู้สึกเกรงใจพิษณุอยู่


“ไม่เป็นไรหรอกครับ....แล้วถ้ายาย่าจะกลับเมื่อไหร่โทรบอกผมแล้วกัน แล้วผมจะขับรถไปรับ” พิษณุพูดกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงนุ่ม


“แหม.........น่าอิจฉาจริง” อรวีแกล้งพูดแซวคนทั้งสอง


“น้อยหน่อยยายไอวี่” ปัญจรีพูดปรามเพื่อนสาว


“งั้นพวกเราขอลาคุณณุตรงนี้เลยนะคะ ยังไงปุ่นก็ขอบคุณอีกครั้งนะคะ สำหรับของขวัญ” ปัญจรีหันไปพูดกับพิษณุด้วยรอยยิ้ม


“ไม่เป็นไรครับ” พิษณุยิ้มให้สองสาว


“เราไปรอที่รถนะยาย่า” ปัญจรีบอกกับอรินยา ก่อนจะจูงมืออรวีเดินไปทางรถของเธอ


“งั้นยาย่าไปก่อนนะคะ” อรินยาหันมาส่งยิ้มหวานให้พิษณุ


“ครับ...” พิษณุเองก็ยิ้มให้หญิงสาวเช่นกัน


เมื่อล่ำลาเรียบร้อย อรินยาก็เดินไปขึ้นรถของปัญจรี ........แล้วสาวๆ ทั้งสามก็เปิดกระจกรถหันมาโบกมือให้พิษณุอีกครั้งก่อนจะขับรถออกจากลานจอดรถนั้น


พิษณุยืนยิ้มให้สาวๆ จนพวกเธอขับรถออกไป...........แล้วชายหนุ่มก็หันมองมาทางประตูรถของเค้าอีกครั้ง


“.............” ชายหนุ่มมีสีหน้าเครียดอีกครั้ง




*********จบตอนที่1********








โดย: kokoo_129 วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:20:30:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kokoo_129
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Smiley*~๐.."รัก" ก็แค่คำว่า "รัก"..๐~*Smiley
Cute Cursors from Dollielove
Free Hit Counters
Friends' blogs
[Add kokoo_129's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.