Welcome to my little WORLD
"
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
21 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 

บุพเพอาละวาด หรือ เป็นความโชคร้ายของเธอ ที่มาเจอช้านนนนน? ตอนจบ

... ในที่สุดก็ได้มาเที่ยวเมืองเบียร์แล้วค่ะ มาเหยียบเมืองเบียร์ วันแรกก็ได้กินอาหารไทย โดยฝีมือคุณแม่หมูไก่ ก็เป็นอะไรที่ประทับใจตั้งแต่วันแรกที่เหยียบประเทศเยอรมนีค่ะ (หมูไก่เค้าจะเรียกประเทศเค้าว่า หมูแลนด์ค่ะ ฮาาาา ) ถามเค้าว่าทำมัยเรียกอย่างนั้นง่ะ เค้าบอกประเทศเค้ามีแต่คนอ้วนๆ ( ตัวเองด้วยง่ะดิ อ้วน) เค้าเลยชอบเรียกเยอรมนี ว่า หมูแลนด์ (ออกเสียงตามเขียนเลยค่ะ ฟังแล้วขำดี) ก็คิดว่า เออ จริงๆ ด้วยแฮะ

ขอลงรูปซ้ำค่ะ แบบว่าย้อนความหลังนิดหน่อยจากบล็อคที่แล้ว

Photobucket

หมูไก่เช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่ค่ะ ก้าวแรกที่เข้าไปในอพาร์ทเม้นท์ของหมูไก่ เราก็เห็นแค่ คอมพิวเตอร์เค้าสองเครื่อง โซฟา หนึ่งตัว ทีวี เก่าๆ หนึ่งเครื่อง(ได้รับมรดกจากเจ้าคุณพ่อมา) แล้วชั้นวางหนังสือ สมัยเด็ก อีก สองสาม ชั้น (ตอนนั้นคิดในใจ ตรูจะมาลำบากป่ะเนี่ย ) อะไรก็ไม่มีเลย ก็ยังดีมีครัวไว้ทำอาหารด้วย คงไม่อดตายน่า เข้าไปในห้องนอน ไม่ต้องพูดถึงค่ะ หมูไก่มีเตียง หนึ่ง เตียง (คงจะเป็นเตียงสมัยเป็นวันรุ่น) ตู้ใส่เสื้อผ้า 1 ตู้ ก็คงเป็นตู้สมัยเด็กเหมือนกัน ฮาาาาา (แกจะไม่มีอะไรบ้างรึงัยเนี่ย) หมูไก่ไม่มีอะไรเลยใน อพาร์ทเม้นท์ เราคิดว่าถ้าแต่งงาน ชั้นจะรอดหรือเปล่าเนี่ย กัดก้อนชีส กินแน่ๆ แงๆๆๆๆๆ คิดแล้วเครียดค่ะตอนนั้น

แต่ความที่หมูไก่เป็นคนที่ไม่มีอะไร (ไม่หล่อ แต่จน) ทำให้เรายิ่งสงสารเค้ามากขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะว่าขนาดตัวเองไม่ค่อยจะมีอะไร ยังจะมาทำอะไรให้ชั้นมากมายขนาดนี้น้อ เหมือนกับว่าเค้าจะไม่ค่อยได้คิดถึงตัวเองมากเท่าไร แต่ทุกอย่างเค้าจะคิดถึงเราก่อนเป็นอันดับแรก เค้าจะทำทุกอย่างให้เรามีความสุข ถึงเค้าจะเป็นคนไม่ค่อยมีเงินมีทองมากมาย แต่หัวใจของหมูไก่เค้ารวยน้ำใจเสมอค่ะ


ครอบครัวหมูไก่เป็นครอบครัวไม่ใหญ่มาก มีกันอยู่ไม่กี่คน พอดี พ่อ กะ แม่ หมูไก่ เค้าหย่ากัน แต่หมูไก่อยู่กะแม่ ก็มีพี่สาว และ ยาย เท่านั้น แต่ทั้งหมดนี้ อยู่ คนละที่เลย ช่วงมาเยอรมันใหม่ๆ หมูไก่ก็จะพาเดินสายโชว์ตัว แหะๆๆ อยู่พักใหญ่ๆ ช่วงมาใหม่ก็ตื่นเต้นเห็นอะไรแปลกใหม่ดี อยู่ได้ 2 อาทิตย์ ก็เริ่มคุ้นเคยกับหมูแลนด์ซะแล้ว อิอิ แต่ไปไหนคนเดียวไม่เป็นค่ะ ต้องรอมีคนพาไปตลอด เพราะกลัวเรื่องภาษามากๆๆ บางคนเค้าก็ไม่ใช้ภาษาอังกฤษกัน แต่เข้าไปในเมืองหน่อย หรือ ห้างสรรพสินค้า เค้าก็พูดภาษาอังกฤษได้ แต่ว่าแถวๆ บ้านที่เราอยู่ เค้าก็ไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษกันเท่าไร (แบบว่าบ้านนอกมาก) มีทุ่งนา ทุ่งไร่ ริมทาง หุหุ บรรยากาศเหมือนได้อยู่ต่างจังหวัดเมืองไทยเลยที่เดียว แต่ดีที่ไม่ร้อนเหมือนเมืองไทยเท่านั้นเอง


ประมาณว่ายิ่งอยู่ ก็ยิ่งชอบ ชอบผู้คนแถวๆ หมู่บ้าน เพราะเวลาเราเดินออกไปไหน เค้าจะพูด Hallo (ฮาโหล) เกือบจะทุกคน ไม่เว้น ลูกเล็ก เด็กแดง (เป็นหมู่บ้านเล็กๆ อารมณ์ เหมือน ที่ต่างจังหวัดเราง่ะค่ะ อัธยาศัยดีกันทุกคน ) พอดีหมู่บ้านที่เราไปอยู่นั่นง่ะ เป็นหมู่บ้านไม่ค่อยมี คนไทยเท่าไรมั้ง ทุกคนจะให้ความสนใจกับเรามาก เวลาเดินไปไหน จะมีคนชอบมองอยู่เรื่อย ฮาาาา (ตอนแรกก็นึกว่า เค้ามองว่าเราสวยซะอีก) แต่จริงๆ แล้วเค้าคงคิดว่า อีนี่ หลุดมาจากไหนหว่าาาา แม้แต่หมา เห็น ก็ เห่า ต้อนรับกันใหญ่เลยค่ะ

แต่ยังงัยก็ช่าง รู้สึกว่าชอบ หมูแลนด์ ขึ้นมาแล้วดิ ได้มาครั้งแรก ทุกคนก็ต้อนรับเราเป็นอย่างดี ครอบครัวหมูไก่ ก็ดูจะเอ็นดูเราดี อิอิ โดยเฉพาะพ่อหมูไก่ แกจะดีใจเป็นพิเศษ (เพราะแกเคยมีแฟนเป็นคนไทยมาก่อน สมัยแกหนุ่มๆ อายุประมาณ 25 ปี ) แฟนเก่าน่าจะเป็น แอร์โฮสเตส แต่ที่เลิกกันก็คงเพราะ ช่วง 30 กว่าปี เทคโนโลยี ไม่ได้เหมือนสมัยนี้ ทำให้ติดต่อกันยาก เลยทำให้ต้องห่างกันไปตามกาลเวลานั่นเอง

พอพ่อหมูไก่รู้ว่า ลูกชายมีแฟนเป็นคนไทย แกก็ปลื้ม ออกหน้าออกตา ต้อนรับเราเป็นอย่างดีเหมือนกัน ตอนที่เราไปเยี่ยมท่าน (พ่อหมูไก่แต่งงานใหม่ แล้วย้ายไปอยู่ สเปน Mallorca) ทำให้เรามีโอกาสไปเทียวสเปนด้วย กร๊ากกกกกกกก ดีใจๆๆ

ทำให้เรารู้สึกว่า เอออออ คนเยอรมัน ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด หรืออย่างที่ได้ยินมาเลย ยิ่งได้มาสัมผัส ก็ยิ่งทราบซึ้งดี (หรือว่าเรายังเพิ่งมาเที่ยว ก็เลยยังไม่รู้อะไรที่มันมากกว่านี้ ) แต่สำหรับเราแล้ว แค่ครอบครัวของหมูไก่ ต้อนรับ และยอมรับเราเป็นอย่างดี เราก็ปลื้มสุดๆ แล้ว คนอื่นช่างศีรษะเค้าเถอะ เราไม่ได้ขอเค้ากินนี่หว่า (ช่วงนี้เราเกาะหมูไก่กินอยู่ ฮาาาา) ฉะนั้น อย่าได้แคร์ แต่จะพูดจากใจจริง เท่าที่สัมผัสมา คนเยอรมัน ที่อยู่รอบๆตัวหมูไก่ ไม่ว่าจะครอบครัว เพื่อนๆ ของเค้า ในสายตาเรา เค้าดีกะเรามากๆ ต้อนรับเราเสมอ ทำให้เรายิ่งปลื้ม หมูแลนด์ และหมูไก่ เข้าไปใหญ่

เราไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องภาษามากในการสื่อสารกับครอบครัวหมูไก่ เพราะครอบครัวหมูไก่พูดภาษาอังกฤษ ได้ทุกคน (แม้แต่ยายเค้ายังพูดได้นิดหน่อยค่ะ อิอิ ) เลยทำให้เราไม่เครียด แล้วก็แบบสบายๆ ในการมาเที่ยวครั้งนี้ (และนั่นก็เป็นการโชคดีของเราด้วยที่ไม่ต้องปวดหัวกับภาษาเยอรมัน หุหุ)

ระหว่างที่มาเที่ยว หมูแลนด์ ดินแดน เมืองเบียร์ หมูไก่ดูแลเราเป็นอย่างดี อาหารการกิน พูดได้เลยว่า ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ร้านอาหารไทย หรือร้านขายของกินไทย แม่หมูไก่ ก็หาเสริ์ตข้อมูลในอินเตอร์เน็ตให้ คือประมาณว่า หายคิดถึงเมืองไทยไปเลยก็ว่าได้ แม้จะไปเยี่ยมพ่อหมูไก่ แม่เลี้ยงหมูไก่ ท่านยังทำแกงเขียวหวานไก่ให้กินด้วยเลยค่ะ (เอากันเข้าไป กลัวแต่เราจะกินอาหารฝรั่งไม่ได้หรืองัยน้อ หน้าเราบ่งบอกว่าไม่เคยกินอาหารฝรั่ง หรือ อย่างไร )

และเรายังได้เที่ยวในประเทศที่อยู่ในกลุ่มเชงเก้น อีกด้วย หมูไก่พยายาม ทำความฝันของเราให้เป็นจริง เพราะเค้าเคยรู้ว่าเราอยากไป ประเทศที่พูดได้เลยว่า เคยฝันตอนเด็ก ว่าอยากไปซักครั้งนึงในชีวิต นั่นก็คือ ปารีส ประเทศฝรั่งเศสนั่นเอง (เหมือนฝันจริงๆ เพราะเกิดมาก็ไม่เคยคิดว่าจะได้ไปจริงๆ ) แต่พอดีตอนนั้นมีเพื่อนสมัยเรียนมัธยม เค้ามาทำงานที่ปารีส หลายปีแล้ว แต่เค้ายังไม่เคยได้มีโอกาสกลับเมืองไทยเลย เราก็เลยถือโอกาสไปเยี่ยมเค้าเลย ซึ่งไม่เจอกันมา 13 ปี เพื่อนเราคนนี้ ดีใจมากๆๆ เพราะไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เจอเราที่ปารีส พูดได้ว่า น้ำตาแตก ตามๆ กันเลยทีเดียว

เพื่อนเราคนนี้ เค้ามากับญาติเค้ามาทำงานที่โรงงานเย็บเสื้อผ้า ยี่ห้อ ดังๆ ของ ฝรั่งเศสนั่นแหล่ะ และเค้าก็ได้แต่งงาน กับ คนไทยที่ทำงานที่ปารีส เหมือนกัน เราเคยเล่าเรื่องนี้ให้หมูไก่ฟัง ว่าคิดถึงเพื่อนคนนี้ ไหนๆ ก็มาแถวเยอรมันแล้ว อยากไปเยี่ยมเพื่อนคนนี้ จากนั้นหมูไก่ก็จัดการทุกอย่าง ทำความฝันของเราให้เป็นจริงจนได้ ทั้งได้เที่ยว ทั้งได้เจอเพื่อน (ก่อนจะไปหาเพื่อนคนนี้ เราได้โทรหาแม่ที่เมืองไทย ให้โทรหาป้าของเพื่อน ที่เป็นเพื่อนแม่ เพื่อจะขอเบอร์โทรของเพื่อนเราให้หน่อย) เราอยากทำเซอร์ไพรส์เพื่อนของเราง่ะ แต่นั่นก็เป็นเซอร์ไพรส์ ที่วิเศษ จริงๆ


หลังจากที่ได้เที่ยวไป ใน หมูแลนด์ ดินแดนเมืองเบียร์ และประเทศเพื่อนบ้านซักพัก เวลามันก็ช่างเร็วเสียนี่กระไร (พูดได้ว่าอยู่ ตด ยังไม่หายเหม็นเลย) เวลาของนางซิน ก็หมดเวลาลง ถึงเวลาต้องใส่ เกิบแก้ว กลับพระนคร ซะแว้วววว ช่วงนั้นเป็นช่วงคริสมาสต์พอดี หลังจากฉลองคริสมาสต์ บวก กับ ได้ของขวัญจาก บรรดา ญาติพี่น้องหมูไก่ ซะมากมาย นางซินก็ต้องเตรียมตัวกลับ พระนคร ก่อนหน้านี้ หมูไก่ไม่ได้แพลนจะกล้บ พระนครด้วย แต่เราไม่อยากเดินทางคนเดียว หมูไก่เลยไปให้แม่ออกตั๋วสแตนบายให้หน่อย จะบินไปส่งเราที่ พระนครด้วย ส่วนแม่หมูไก่ เห็นลูกชายอยากไป ก็รีบไปออกตั๋ว ที่ ลุฟหรรษาให้ แต่ก็บินของรักคุณเท่าฟ้าได้ (แต่ก็ไม่รู้ชะตากรรมว่าจะได้ไปเครื่องเดียวกันหรือไม่)

ตอนนั้นเราเช็คอินแบบตั๋วปกติไปก่อน ส่วนอีหมูไก่ก็ต้องเข้าไปรอที่ Gate ถ้ามีที่นั่งถึงจะได้ไปเครื่องเดียวกันกะเรา ตอนนั้นเราเข้าไปนั่งรอห้องผู้โดยสารแล้ว อีหมูไก่รออยู่ข้างเคาต์เตอร์ เราก็ยืน น้ำตาไหลพรากอยู่ หมูไก่บอกไม่ต้องร้องไห้ เค้าไม่ได้ไปลำนี้ เค้าก็จะรอลำต่อไป ซึ่งจะห่างกันประมาณ 4 ชม. ไอ้เราที่ร้องง่ะไม่ได้อะไรหรอก กลัวได้กลับคนเดียวง่ะ ไม่เคยขึ้นเครื่องบินคนเดียว กลัวทำอะไรเปิ่นๆ แล้วเวลาเข้าห้องน้ำอีกล่ะ ใครจะไปยืนเฝ้าให้ง่ะ ประตูห้องน้ำก็เปิดไม่เป็น แงๆๆๆ ที่เศร้าไม่ได้หมายความว่า กลัวแกไม่ได้ไป แต่ชั้นกลัว เปิดประตูห้องน้ำไม่เป๊นนนน รู้ป่ะ

หลังจากพนักงานเรียกผู้โดยสารเข้า เรายิ่งน้ำตาไหล (คิดในใจ ตรู ปวดขี้ จะทำง้ยดี กลัวเปิดประตูห้องน้ำไม่เป็น แถมเวลานั่งขี้นานๆ พวกที่รออยู่หน้าห้องน้ำ ชอบมองจิกๆๆเรายังงัยไม่รู้ ตอนเราออกจากห้องน้ำง่ะ) ถ้ามีหมูไก่ก็ค่อยยังชั่ว ให้เค้าเฝ้าหน้าประตูแบบทุกครั้งได้ง่ะ ยิ่งคิด ยิ่งน้ำตาไหล เห็นหลายๆ คนมองมาที่เรา ก็คงคิดว่าเราเศร้าที่จะต้องจาก กับคนรักมั้ง

หลังจากไปนั่งที่ได้ซักครู่ ใจก็เต้นรัวขึ้นมาทันที ไม่รู้ชะตากรรมหมูไก่จะได้มาเครื่องเดียวกันหรือเปล่า คิดในใจแล้วไอ้กระเป๋า สี่ใบที่โหลดใต้เครื่องง่ะ ใครจะช่วยตรูแบกกลับบ้านว่ะเนี่ย ยิ่งคิดยิ่งเศร้า....นั่งมองหน้าต่างได้ประมาณ 10 นาที ก็เห็นอีหมูไก่เดินมา กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด ได้ที่นั่งแล้ว จากนั้นเค้าก็เลยขอเปลี่ยนที่นั่งกับคนที่นั่งข้างๆ เรา ให้ไปนั่งที่หมูไก่แทน ฮาาาาาาาาาาาา (คราวนี้ตรู มีคนไปยืนเฝ้าหน้าห้องน้ำแล้ววุ้ย จะได้นั่งขี้ได้นานๆ) ไม่รู้เป็นอะไร ขึ้นเครื่องทีไร ปวดขี้ทุกทีซิเรา


จากนั้นนั่งเมื่อยตรูดได้ซัก 10 ชม. ก็ถึงซักที พระนคร ไชโยๆๆๆ ถึงแว้ววว ซื้อช็อคโกแล็ตมาฝากพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงมากมายเลย ทั้งสี่กระเป๋าง่ะ มีแต่ช็อคโกแลต และจะได้มาฉลองปีใหม่ที่ไทย โอ๊ยยย มีความสุขที่สุด ถึงไทยโดยสวัสดิภาพแล้ว

หมูไก่อยู่ฉลองปีใหม่ที่ไทย 1 อาทิตย์ (จริงๆ แล้วมาส่งเราง่ะ) แต่ผลพลอยได้ หมูไก่ก็ได้มาเที่ยวอีกตามเคย และได้ฉลองปีใหม่ที่ไทย พาหมูไก่ไปเดินแถวๆ ราชประสงค์ หมูไก่บอก ไฟ สวยกว่า เมืองปารีส ซะอีก ฮาาาาาา (อะไรก็สวยไปหมดแหล่ะที่เมืองไทยง่ะ)

1 อาทิตย์ รู้สึกว่าจะน้อยเกินไปสำหรับหมูไก่ และแล้ว ตดไม่หายเหม็น เค้าก็ต้องกลับหมูแลนด์ อีกตามเคย แต่คราวนี้ ตกเครื่องค่ะ ฮาาา รักคุณเท่าฟ้า มันไม่ให้หมูไก่ขึ้นเครื่อง ก็เลยต้องกลับมานอนที่บ้าน ซัก 3-4 ชม. ก็ต้องไปรอที่สนามบินอีก เพื่อรอเที่ยวต่อไป เป็นเที่ยวบิน ของCondoor คราวนี้ไม่พลาดแน่นอน และแล้วหมูไก่ก็บินกลับ หมูแลนด์ อย่างปลอดภัย และเราก็ต้องรออีก 1 เดือน เค้าก็จะบินมาอีกครั้ง


ระหว่างรอหมูไก่กลับมา เราก็ได้ไปเรียนภาษาเยอรมัน ที่สถาบันภาษาเกอเธ่ ลงคอร์สเรียนไว้ 2 เดือน ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้สนใจภาษาเยอรมันเลยซักนิดเดียว แต่ก็ต้องมาเรียน ไปเยอรมนีมา 3 เดือน ขอบอกว่าไม่ได้ภาษาอะไรมาเลย เพราะไม่คิดจะสนใจจำอะไรทั้งนั้นง่ะ อยากเที่ยวอย่างเดียว อีกอย่างเราก็ไม่ต้องกระตือรือร้น อะไร สำหรับเราไม่มีปัญหาด้านการสื่อสารกับครอบครัวหมูไก่เลย ส่วนเพื่อนๆ หมูไก่ก็พูดภาษาอังกฤษได้ทุกคน ฉะนั้นเราเลยไม่อยากจะจำภาษาเยอรมันอะไรทั้งนั้น เพราะคิดว่ามันไม่เพราะเอาซะเล๊ยยยยยยยยยยยยย

Photobucket

อาทิตย์แรกที่เรียน อยากร้องไห้กลับบ้านเลยแหล่ะ ไม่อยากเรียนแล้ว แต่พอได้ซัก 2 อาทิตย์ ก็เริ่มเข้าที่ และอยากจะค้นหาคำตอบ เพราะมันยาก มันยิ่งท้าทาย จากนั้นก็เริ่มเรียนดีขึ้นเรื่อยๆ


เรียนๆ เล่นๆ เย็นๆ ใจ ครบ 1 เดือนพอดี หมูไก่ก็บินมาเมืองไทยอีกครั้ง มาพร้อมเอกสารที่จะแต่งงาน อิอิ ก่อนหน้านี้ เราเคยคุยกันไว้ค่ะว่า ถ้าเราไปเที่ยวเยอรมันแล้วเราชอบ หรือ เราโอเคกับเค้า เราก็จะจดทะเบียนกันก่อน และเราก็คุยกันว่าจะจดในวันที่ 14 ก.พ. จดที่บางรักค่ะ (เพราะเผื่อฟลุค อาจจะได้ทะเบียนทองคำ แหะๆๆ )


ท้าวความนิดนุงค่ะ ว่าเราไปตกลงจะแต่งงานกันตอนไหน และอย่างไรค่ะ เรื่องของเรื่องคือ หมูไก่บอกว่า หมั้นแล้วก็ไม่อยากรอนาน อยากแต่งงานเลย ไอ้เราก็บอกเราไม่พร้อมแต่งง่ะ (จริงๆ ยังทำใจไม่ได้ที่จะต้องเปลี่ยน เป็น นางง่ะค่ะ แงๆๆๆ อารมณ์เหมือนตอนที่เปลี่ยน จากเด็กหญิง เป็นนางสาวเลยค่ะ มันยังงัยไม่รู้บอกไม่ถูก) แต่หมูไก่เค้าอยากแต่งงานมาก ไอ้เราก็นึกว่าเค้าคงรักเรามาก ถ้าหมั้นนานๆ อาจจะไม่ดี หมูไก่ขอเราแต่งงาน กับเหตุผลที่ว่า แต่งงานกันเถอะ เพราะจะได้ทำเรื่องลดหย่อนภาษี ได้ โอ้พระเจ้าช่วย กล้วยทอด อีชั้นก็นึกว่า รักเราปานจะแหกตรูดดม ที่ไหนได้ อีนี่ แกอยากเอาไปลดภาษี นี่เอง


เค้าบอกจดทะเบียนกันก่อน แล้วค่อยจัดงานเลี้ยงปีหน้า ประมาณว่า ขอเวลาเก็บเงิน อีกซักปี เค้าว่างั้นค่ะ ไอ้เราก็ไม่มีทางเลือก ขบวนสุดท้าย แต่งก็แต่งวุ้ย เอางัยเอากัน ช่วยๆกัน ทำมาหากิน ฮาาาาาาาาาาาาา (ทำงัยได้ หมูไก่ ดันไม่หล่อ แต่จน ง่ะ )

เป็นที่มาของการที่เราต้องไปเรียนภาษา เพื่อจะทำวีซ่าติดตามคู่สมรสไปอยู่ หมูแลนด์ ดินแดนเมืองเบียร์ อย่างถาวรค่ะ จะไปอยู่ประเทศเค้าไอ้คนต่างด้าวอย่างเราต้องเรียนภาษาเค้าก่อน และต้องสอบผ่านระดับภาษาขึ้นพื้นฐานของเค้า พร้อมต้องยื่นเอกสารขอวีซ่าด้วยค่ะ อยากจะให้เราไป แต่ทำมัย กรรมต้องมาตกที่ตรูน้อ หมูไก่เอ๊ยยย แงๆๆๆ (แต่คิดอีกทีก็ดีค่ะได้เรียนรู้หลายๆ ภาษา มันเป็นกำไรชีวิตซะอีก )


ช่วงระหว่างเรียนยังไม่จบ พวกเราทั้งสองก็ดำเนินเรื่องจดทะเบียนเรียบร้อยโรงเรียนเยอรมัน แล้วค่ะ ที่เขตบางรัก เค้าจัดงานให้เราใหญ่มาก จัดที่โรงแรม ตะวันนา ฮาาาาาา ก็วันที่ 14 ก.พ.นิ จัดให้คู่รักมาจดทะเบียนในวันนี้ รวมๆแล้วก็ประมาณ 700 คู่ค่ะ ช่วงนั้นเดินไปเดินมาหน้าจอทีวี บ่อยๆ ปรากฏว่าได้ผลแฮะ ช่อง 5 มาสัมภาษณ์ด้วย กร๊ากกกกกกก ได้ออกทีวี แล้วตรู พอช่องห้าสัมภาษณ์ หนังสือพิมพ์แนวหน้า ก็มาสัมภาษณ์ ชีวิตรักเราอีก ดังแล้วตรูคราวนี้ หลังจากนั้นเราก็ไม่รู้หรอกค่ะ ที่เค้าสัมภาษณ์ง่ะ เค้าจะเอาไปทำอะไร รู้ตอนหลัง เพื่อนโทรมาบอกว่า เห็นออกข่าว ช่อง 5 ประมาณ 5 วินาที และหลังจากนั้น 2 อาทิตย์ เราก็ได้ลงหนังสือพิมพ์ แนวหน้า รวมกับ คู่รักอื่นๆ อีกหลายคู่ ฮาาาาาาาา

เรารีบไปซื้อเก็บไว้เลยค่ะ เอาไว้ไปอวดชาวบ้านเค้า ว่าได้ออกหนังสือพิมพ์ด้วย ถึงไม่ใช่หน้าหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่ ข่าวอาชญากรรม นะจ๊ะ กรี๊ดดดด


"ข่าวในหนังสือพิมพ์แนวหน้า กดตรงนี้เลยจ้า"



ถ้าใครอยากเห็น ตามลิงค์นี้ไปเลยนะคะ แหะๆๆๆ แล้วหา ข้าเจ้า เอาเอง คงเดาไม่ยากง่ะ

แต่จริงๆ แล้วแอบซื้อหนังสือพิมพ์เก็บไว้ด้วย จะเป็นภาพขาวดำ แล้วมีข้อความที่เค้าสัมภาษณ์เราด้วย อิอิ

หมูไก่ดีใจตื่นเต้นใหญ่ กับการได้ออกหนังสือพิมพ์ และโทรทัศน์ในไทย หุหุ

แต่ที่โชคดีกว่านั้นคือ จับฉลากได้ทอง 1 สลึง ติดไม้ติดมือมาด้วย ถึงจะไม่ได้ ทะเบียนสมรสทองคำ แต่ได้ทองเท่าหนวดกุ้งก็เอาวุ้ย ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย กร๊ากกกกกกกกกกกก


หลังจากที่เราจดทะเบียนกันวันที่ 14 ก.พ. 2551 เราก็ไปดินเนอร์กันที่ดึกใบหยก ชั้นเท่าไรจำไม่ได้ รู้แต่ว่า เค้าจัดเป็น กระโจมๆ ไว้สำหรับคู่รัก พอดีเราไปจองไว้ ก็นั่งไปกินไป ดูวิว กรุงเทพ เมืองอมร ไป ซักพักหลับไม่รู้ตัว ฮาาาาาาาาาาาา เพราะวันนั้นเหนื่อยมาก ต้องตื่นแต่เช้า จะไปลงทะเบียนจดทะเบียน อยากไปคนแรกๆ เผื่อได้ ทะเบียนสมรสทองคำ แต่ปรากฏว่า เค้าจับฉลากเอาง่ะ เซ็งเป็ดเลย อุสาห์ตื่นตั้งแต่ ตี 3 ตาก็มีสภาพคล้าย หลินปิง เลยยังงัยยังงั้น

วันจดทะเบียน อุตสาห์จองดินเนอร์หรูไว้ ปรากฏว่า อีหมูไก่ ต้องนั่งนับดาวคนเดียว ส่วน อีชั้น ก็นอนกรน ค่อกๆๆๆ อยู่ข้างๆ อาหารก็ยังกินไม่หมดเลย ดันหลับไปซะก่อน ฮาาาา ส่วนหมูไก่ก็ไม่อยากปลุก เพราะคงเห็นว่าเหนื่อยเลยปล่อยให้นอนตามสบายเลย (เอ หรือว่าที่ปล่อยให้เราหลับไป เพราะอยากกินอาหารของเราง่ะดิ แน่ๆเลยง่ะ ถึงว่า ตื่นขึ้นมา อาหารเราหมดเกลี้ยงเลย ) พอเราถาม ก็บอกว่า พนักงานมาเก็บไปแล้ววว สงสัย อีนี่แอบกินของเราแน่ๆ เลยง่ะ

Photobucket


ในที่สุดการจดทะเบียนสมรส และความเป็นนางสาวที่รักษาได้มาถึง 33 ปี ก็ได้สิ้นสุดลง ไม่รู้จะดีใจหรือจะเสียใจดี หุหุ

ความเป็นครอบครัวกำลังจะเริ่มขึ้น จากเคยอยู่คนเดียวจนเคยชิน ต่อไปจะมีคนมาอยู่ข้างๆ ไปไหนไปกัน กินอะไร กินด้วยกัน และต่อไปคงจะต้องเตรียมตัวเป็นแม่บ้านเต็มตัวซักที (จากที่ไม่เคยที่จะชอบทำเลย)

ต่อจากนี้ต่อไปจะเป็นยังงัยบ้างน้อ เราก็ยังไม่รู้อนาคต ต้องย้ายถิ่นฐาน ไปอยู่หมูแลนด์ อย่างถาวร ไม่รู้จะเป็นยังงัย จะชอบเหมือนที่ตอนไปเทียวหรือเปล่าก็ไม่รู้เลย เพราะจะไปคราวนี้มันเป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่ และคงต้องปรับตัว ปรับใจ กับอะไรใหม่ๆ อีกเยอะ คิดแล้วก็เศร้าเหมือนกัน ที่ต้องจากครอบครัวไป ต้องจาก เจ้าน้องหมา สามตัวของเราไปไกล และคงอีกนานกว่าจะได้กลับมาอีก

ขั้นนตอนต่อไปคือการยื่นขอวีซ่าแต่งงาน หลังเรียนจบภาษาและได้ใบประกาศมาแล้ว วีซ่าซึ่งภาวะนาว่าขอให้ผลรอนานๆหน่อย เราจะได้อยู่กะครอบครัวนานๆ อยู่เมืองไทยนานๆ ก่อนจะเดินทางย้ายไปอยู่ หมูแลนด์ แต่โชคก็ไม่เข้าข้างเลย วีซ่าดันได้เร็วซะอีก

และแล้วก็ถึงเวลา เจ้าชายหมูไก่ ขี่หมู มารับ นางซินที่เมืองไทยอีกครั้ง ครั้งนี้หมูไก่อยู่ไทย 3 อาทิตย์ เพราะเราต้องเตรียมตัวซื้อของ และทำอะไรๆๆ ให้มันเสร็จเรียบร้อยที่เมืองไทยซะก่อน 3 อาทิตย์มันสั้นเหลือเกิ๊น ถึงเวลาที่เราต้องจากครอบครัว และเพื่อนฝูง ไป แม้รู้ว่าจะกลับมาเมืองไทยอีก แต่ใจมันก็ยัง หวิวๆ อยู่ดีง่ะแหล่ะ

วันจะเดินทาง พ่อแม่ถามว่า ต้องไปส่งมั้ย เราบอกไม่ต้องหรอกแม่ ลำบากเปล่าๆ ไม่อยากให้แม่มาส่ง แล้วเราก็ไม่อยากร้องไห้ด้วย เพราะคิดว่าอีกไม่นานก็กลับมาอีก ไม่นานเกินรอ ลาก่อนประเทศไทย อีกไม่กี่เดือนเราคงได้พบกันอีก แล้วเราจะกลับมา


แล้วเจอกันอีกครั้งในงานฉลองสมรส อีกปีค่ะ

Photobucket







 

Create Date : 21 กรกฎาคม 2553
21 comments
Last Update : 13 ตุลาคม 2553 6:46:11 น.
Counter : 779 Pageviews.

 

ต้องขอโทษ คุณปุ่น Bananarumba เกิดการผิดพลาด ไปกดลบ เฉยเลย ดีที่ยังมีข้อมูลเก่าอยู่ง่ะจ้า ทำให้ comment ในนี้หายไป ยังงัยจะ copy มาไว้ใหม่นะจ๊ะ แหะๆๆๆ
...............................................................................

เล่าเรื่องสนุกน่าติดตามดีค่ะ ภาพประกอบก็น่ารักเชียว มีคนลุ้นตามเยอะนะคะเนี่ย เดี๋ยวขอตามไปอ่านตอนก่อน ๆ ด้วย ไม่รู้พลาดไปได้ไง

จาก Bananarumba

..............................................................................

 

โดย: ณ เมืองเบียร์ 21 กรกฎาคม 2553 21:41:34 น.  

 

.. ชอบ พี่เล่าเรื่องมากเลย ค่ะ..

...สนุก ดี ... ขอให้ มีความสุขกับชีวิต ครอบครัว ค่ะ..

.... ไว้ อีก 1 ปี จะตามมาดู ภาพงานแต่ง ค่ะ..^__^..

 

โดย: แมวขี้อาย IP: 124.122.180.178 21 กรกฎาคม 2553 23:24:37 น.  

 

สนุกจริงๆค่ะ เห็นภาพเลย

 

โดย: momodaka 21 กรกฎาคม 2553 23:28:26 น.  

 

แบบว่าเพิ่งเข้าไปดูรูปตามลิ้ง พี่เหมือน ต่าย อรทัย อ่ะ
แล้วที่พี่บอกว่าแฟนอ้วนก็ไม่เห็นจะอ้วยเลยด้วย**-**

 

โดย: momodaka 21 กรกฎาคม 2553 23:31:48 น.  

 

ชีวิตเหมือนคุณน้าเราเลยอ่ะ ตอนนี้อยู่ที่ฮัมเบิกอ่ะคะ

 

โดย: patthanid 21 กรกฎาคม 2553 23:59:01 น.  

 

หือ คุณหมูไก่หล่อล่ำซะขนาดนั้น คุณจขบ.ก็สวยคม ดูเหมาะสมกันมากๆ ไม่ได้ชมนะคะ พูดจริงๆเลย

จขบ.อยู่แถวไหนคะเนี่ย ถ้าว่างๆและอยู่ไม่ไกลมาก เสาร์นี้ไปเที่ยวงานไทยที่ Bad-Homburg มั้ยคะ ชาวบล็อกแก็งค์ไปกันตรึม

 

โดย: LittleBlueTwingo 22 กรกฎาคม 2553 2:20:12 น.  

 

อ่านไปยิ้มไป มีความสุขกับพี่ไปด้วยเลยน่ะพี่มด
แหม เพิ่งรู้น่ะเนี๊ยะว่าได้ลงหนังสือพิมพ์ แถมได้ออกทีวีด้วย
จะรอดูภาพงานแต่งอีกทีแล้วกันน่ะ
จำได้ว่าภาพ บรรยากาศสวย น่าจดจำมากๆ

 

โดย: จอยเองจ๊ะ..! IP: 217.235.200.179 22 กรกฎาคม 2553 4:11:43 น.  

 

น๊อตรออ่านต่อนะ

 

โดย: พลูด่างในอ่างดิน 22 กรกฎาคม 2553 9:24:53 น.  

 

หุๆๆ อ่านแล้วอิจฉา เพื่อนลุง พ่อแม่ลุง บาเยินอย่างเดียว โฮคด๊อยช์ ก็ไปทางบาเยินอีก แงๆๆ กลุ้มๆๆๆๆ

ปอลิง พี่หมูไก่น่ารัดดดด ขอแต่งงานเพราะอยากลดหย่อยภาษี ฮาาา คิดได้ไง

 

โดย: P&Mtogether 23 กรกฎาคม 2553 1:09:26 น.  

 

เข้าไปดูคู่สมรส หล่อสวยตามลิ้งส์
ที่บอกว่าแฟนอ้วนหน่ะ ไม่เห็นจริงเลย ตอนแรกจินตนาการ
นึกว่าตือป๋วยก่าย ออกจะหล่อแมน แฮนด์ซั่มซะขนาดนั้น
เจ้าของบล็อคก้อสวย สมกันดี สวย หล่อ ทั้งคู่
ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ เราแอดไว้ใน Favoris
แล้ว หนุกดีๆ แล้วจะติดตามอ่าน บล็อค เรื่อยๆนะตัวเอง
ว่างๆก้อแอดมาคุยกับเราได้
pandi57@hotmail.fr

 

โดย: anong IP: 83.203.193.239 26 กรกฎาคม 2553 5:55:06 น.  

 

แอบตามไปดูลิงค์แล้วล่ะ เห็นด้วยกะความเห็นข้างบน หล่อสวยสมกันยังกับกิ่งทองใบหยก แล้วคุณมดได้ไปงานที่บ๊าดฮอมบวร์กกะเขาหรือเปล่า ดูในรูปมีตติ้งมีหลายคนที่ปุ่นไม่รู้จัก ไม่กล้าเดาว่าคุณมดอยู่ในนั้นด้วยไหม

ความเห็นที่ถูกลบน่ะ มะเป็นไรหรอกน่า ยังไงก็เข้ามาเยี่ยมกันประจำอยู่แร้ว เด๋วก็มีอะไรใหม่ ๆ มาเม้าท์กันเรื่อย (เชียว)

 

โดย: Bananarumba 29 กรกฎาคม 2553 21:48:43 น.  

 

ยินดีด้วยค่ะ ได้ทองด้วย

หมูไก่ ใจดียืนเฝ้าหน้าห้องน้ำให้ด้วย สุดๆเลย

 

โดย: เอ๋ IP: 125.24.217.17 31 กรกฎาคม 2553 6:31:28 น.  

 

เพื่อนๆ พี่น้องคะ รูปที่เห็นในลิงค์ง่ะ เป็นรูปที่หมูไก่โดนขู่ให้ลดน้ำหนักง่ะจ้า ถ้าไม่ลด ไม่จดทะเบียนด้วย อิอิ

ก็เลยดูไม่อ้วนมากกก แต่ขอบอกว่าตัวจริง อ้วนอย่าบอกใครเลย รวมทั้ง จขบ. ด้วย ฮาาาา

 

โดย: ณ เมืองเบียร์ 2 สิงหาคม 2553 1:54:48 น.  

 

กรี๊ดดดดด ดังใหญ่เลยนะคะได้ออกทีวี ลงหนังสือพิมพ์ด้วย

รอดูภาพงานแต่งอยู่นะคะ

 

โดย: asita 4 สิงหาคม 2553 23:03:02 น.  

 

เขียนได้สนุกดีเพื่อนมด เรื่องราวความรักกับหมูไก่ก้อน่ารักดี เดี๋ยวจะแวะมาเป็นลูกบ้านประจำนะเพื่อน.........

 

โดย: cat IP: 92.206.86.159 7 สิงหาคม 2553 2:40:00 น.  

 

พี่มด อัพบล็อคด่วนเลย เน่าเเล้ว

เรื่องเรียน ไม่เศร้าค่ะ หนูกะว่าถ้าสอบผ่านก็จะลงเรียนใหม่อยู่ดี เพราะเรียนมาเหมือนไม่ได้อะไรเลยอ่ะพี่ ฮาาาา

 

โดย: P&Mtogether 8 สิงหาคม 2553 23:27:08 น.  

 

น่ารักจังเลยค่ะ...โชคดีจังเลยน่ะค่ะ ที่ได้เจอคนดี ๆ แบบหมูไก่ และได้ไปอยู่ หมูแลนด์(คริ คริ)

 

โดย: Li Shana 9 สิงหาคม 2553 13:06:50 น.  

 

จับสลากได้ทองในวันจดทะเบียนสมรสด้วย ฤกษดีนะคะนั่นหน่ะ
แล้วฉายาหมูไก่ ทั่นน้องได้แต่ใดมาคร๊า?

 

โดย: ich habe kein Geld 11 สิงหาคม 2553 14:42:45 น.  

 

ขอบคุณค่ะที่มาเยี่ยม blog นะคะ ได้มาอ่าน blog คุณมด แล้วสนุกดีค่ะ เขียนเก่งจัง ขอเป็นแฟนด้วยคน :)

 

โดย: Q-Mundus 20 สิงหาคม 2553 2:11:03 น.  

 

ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ เรื่องเล่าของคุณน่ารักดีค่ะ

 

โดย: โต๊ะกลม ณ บ้านไร่ 27 กันยายน 2553 12:37:26 น.  

 

ย้อนไปอ่านตั้งแต่เริ่มแรกแล้วค่ะ ความรักของพวกคุณน่ารักมากๆ ขอแอดเป็นเพื่อนนะคะ จขบ.เล่าสนุกดีค่ะ อ่านแล้วอารมณ์ดี มีความสุขตามไปด้วยเลย

 

โดย: โต๊ะกลม ณ บ้านไร่ 27 กันยายน 2553 13:10:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ณ เมืองเบียร์
Location :
Aschaffenburg- Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับสู่ โลกใบเล็กๆ แห่งนี้ ทำไมถึงต้อง My little World " โลก" สำหรับเราแล้ว มันไม่ได้กว้างขวางไร้พรมแดนอีกต่อไป โลกใบนี้ เราสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ได้ทุกเวลา โลกใบนี้ ทำให้เรารู้จัก มิตรภาพดีๆ ที่มีอยู่ทุกมุมของโลก อะไรที่ทำให้โลกที่ทุกคนมองว่า มันใหญ่และกว้างไกลสุดตา กลายเป็น โลกใบเล็กๆ ที่เราจะสามารถเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด คงจะเป็นไซเบอร์เน็ต นี่แหล่ะ ไซเบอร์เน็ต ทำให้โลกของเราเล็กลง และน่าเรียนรู้มากขึ้น ยินดีต้อนรับสู่โลกใบเล็กๆแห่งนี้ค่ะ :-)
Friends' blogs
[Add ณ เมืองเบียร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.