Bloggang.com : angy_11 : Angry Young Man

Angry Young Man

Angry Young Man
Time Out Amsterdam ( Netherlands) - September 1995

คีอานู รีฟส์ พูดถึงข่าวลือเกี่ยวกับตัวเขาเองว่า “ผมโคตรเกลียดมันเลย” นักข่าวของเรา คาร์เมน เอ็ม เนลสไตน์ บอกเราว่า คีอานูยินดีจะคุยเรื่อง บทละครเช็คสเปียร์ มากกว่า เรื่องเซ็กส์

เมื่อไรก็ตาม ที่หัวข้อสนทนาพาไปที่ สถานะทางเพศ ไอคิว และ รสนิยมการแต่งตัว , คีอานู รีฟส์ มักจะเลิกคุยกับสื่อมวลชน รวมทั้งตอนที่ นักข่าวบันเทิงทั้งหลาย ขนานนามเขาว่า “ดาราสุดยอดขี้อาย” หรือว่า “ อัจฉริยะในการตอบคำถามด้วยคำสั้นๆ”ก็เช่นเดียวกัน มีเพียงฉายาเดียว ที่เขาเลือกใช้ล้อเลียนตัวเอง เวลาที่ตอบคำถามผม นั่นคือ เขาเป็นเพียงไอ้เด็กหนุ่มตัวแสบ ที่ชอบจำคำพูดมาจากบทละครเช็คสเปียร์ เพื่อให้มันกลายเป็นคำตอบเพี้ยนๆ ตลกๆ ต่อคำถามที่เขาไม่ชอบใจนัก มันจะได้ ลดความรุนแรงในความรู้สึก ของเขาลงเท่านั้น

และเพราะเหตุนั้น ผมจึงคิดว่า มันคงฉลาดกว่า ถ้าเราจะเริ่มกันที่เรื่องพื้นๆเสียก่อน หลังจากเมื่อคืนนี้ วงของเขา “ด็อกสตาร์” เล่นที่แอล เอบาร์
นี่เขาคิดจะสร้างอาชีพเสริม หรือว่าเป็นเพียงงานอดิเรกที่ทำเล่นๆกันแน่ คีอานูตอบผมว่า "ไม่ครับ , ผมไม่ได้คิดจะเป็นดาราเพลงร็อค ผมเป็นนักแสดง การเล่นดนตรีและร่วมก๊วนอยู่กับเพื่อนๆมันสนุกดี ก็แค่นั้น" รีฟส์เรียกเพลงของพวกเขาว่า"folk-thrash." (แปลไม่ถูกฟ่ะ)

"ผมยังไม่ได้แต่งเนื้อร้องอะไร เป็นเรื่องเป็นราวสักที ตอนนี้ ผมก็แค่คนเล่นเบสส์ประจำวง เท่านั้นเอง ผมชอบเสียงเบสส์ แล้วก็รูปร่างมันด้วย," เขากล่าว แต่ในความเป็นจริง เมื่อใดที่วงนี้แสดงสด ความเป็นดาราภาพยนตร์ของเขานั่นแหละ ที่ดึงดูดผู้คนให้เข้ามาชมการแสดง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ บรรดาสาวๆ) เช่นเดียวกับเมื่อคืนนี้ "ผมว่า เมื่อคืนนั่นมีคนดูสัก 50คนล่ะในบาร์เล็กๆนี่ แล้วก็ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนผมทั้งเพ" เขายิ้มยิงฟัน "มือกีตาร์บอกว่าชวนเพื่อนเขามาดู 19 คน พวกเราหัวเราะกันจะตาย แต่สุดท้ายก็ยังดีนะ ถ้าไม่งั้นห้องคงว่างตั้งครึ่งนึง" เขายังอุตส่าห์สังเกตนะ.

ธันวาคมปีที่แล้ว ที่ มานิโทบา เทียร์เตอร์เซ็นเตอร์ ใน วินนิเพ็กแคนาดา,รีฟส์ เล่นเป็น เจ้าชายแฮมเล็ตให้ผู้ชม ซึ่งพร้อมจะเรียกตัวเองว่า บรรดาผู้คลั่งไคล้คีอานู ได้เห็นฝีมือของเขา บางคนบินตรงมาจากออสเตรเลีย เพียงเพื่อจะได้ดูการแสดงของดาราคนโปรด และแน่นอน เธอคนนั้นดูไปแปดรอบ ข้อมูลเหล่านี้ทำให้คีอานูประสาทหรือไม่ เขารู้ไหมว่ามีผู้คนขนาดไหนที่คอยสนับสนุน และให้ความสนใจเขาอยู่ " ไม่ถึงกับเหลือบ่ากว่าแรงหรอกครับ ตราบใดที่แฟนๆยังไม่ถึงกับใช้ มีดหรือปืน หรือว่าทำตุ๊กตาวูดูเป็นรูปผมนะ , ผมว่ามันเป็นการหลงใหลประเภทหนึ่ง แล้วก็ได้แต่หวังว่า พวกเขาจะชอบสิ่งที่ผมทำ มันน่าทึ่งดีเหมือนกัน บางคนก็มีจินตนาการไปได้ไกลเชียวนา มันเจ๋งจะตาย นักแสดงคนไหนก็น่าจะยินดีกับเรื่องนี้ทั้งนั้นล่ะ ผมว่า ผมมีแฟนๆที่ยอดเยี่ยมที่สุดเลย ทุกๆคนมาเพื่อจะ กรี๊ดกันจริงๆ" เขาเล่าอย่างตื่นเต้น.

อย่างต่ำ2000เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่ออาทิตย์ คือค่าแรงนิดหน่อยจากการแสดงเป็นเจ้าชายเดนมาร์กผู้ทุกข์ทรมานของรีฟส์ หลังรอบปฐมทัศน์ คีอานู รีฟส์ถูกสับเละจากนักวิจารณ์ต่างชาติ ที่กล่าวว่า “ ขาดความสามารถที่จะแสดงความเศร้าของแฮมเล็ต และมีชีวิตชีวาเฉพาะในฉากต่อสู้เท่านั้น” แต่ในรอบต่อมา นักวิจารณ์เหล่านี้ กลับยอมกลืนน้ำลายตนเอง ความสามารถของ คีอานูฉายแววแจ่มจรัสจนกลายเป็น “แฮมเล็ต ผู้เหนือ แฮมเล็ตคนอื่นๆ” รีฟส์ก็แค่สั่นหัวเล็กน้อย เมื่อต้องพูดถึงโลกอันวุ่นวายของสื่อมวลชนทั้งหลายที่แวดล้อมเขาอยู่ “ ทำไมเค้าชอบคิดว่า มีเพียงนักแสดงคนเดียวที่จะเหมาะกับบทใดบทหนึ่งเสมอ ทั้งๆที่บางคนก็แก่เกินไปที่จะเล่นบทนั้นแล้วนะ”

"คุณหมายถึง เมล กิ๊บสันรึเปล่า?" ผมถามเกรงๆ แต่คีอานูกลับฉลาดกว่านั้น เขาทำเป็นไม่ได้ยินคำถามล่อเป้าของผม มันคล้ายกับเขาลืมมันไป และพูดกับเครื่องบันทึกเทปที่ยังคงทำงานว่า “ ผมไม่เคยดู แฮมเล็ตฉบับภาพยนตร์ มันไม่มีค่าอะไร ผมหมายความว่า มันน่าเกลียดแย่เลย ถ้านักแสดงจะ (ทำท่าล้อเลียนเสียงแบบเช็คสเปียร์ ) ‘ โออ ดดดาร์ลิง คุณสามารถเป็นแฮมเล็ต จนคุณอายุ 50 โน่น’ ไม่!!” เขาตะโกน “มันเป็นบทสำหรับคนหนุ่ม จริงๆแล้วน่ะ คุณต้องเล่นเป็นแฮมเล็ตตั้งแต่อายุ 17 หรือ 18 ด้วยซ้ำไป ใช่ไหม มันมีส่วนที่เป็นที่มาของเรื่องที่มีความเป็นละครตะวันตก หรือคุณว่าไง ให้ตายสิ” เขายิ้มเหมือนเด็กๆ “เท่าไรกันล่ะ ที่คุณอยากแสดง ไม่ว่าจะเป็นบท รัก โกรธ เชื่อมั่น ศรัทธา หรืออะไรก็แล้วแต่ บทแฮมเล็ตคือที่สุด ลองถามตัวคุณดูเที่ยวหน้าละกัน มันโคตรจะวิเศษ จริงไหม?”

รีฟส์ควรจะขอบคุณ”สปีด” สำหรับการทำให้เขาหลุดจากภาพยนตร์แบบที่เป็นแบบฉบับของเขา ก่อนหน้าเรื่องนี้ รีฟส์สลัดไม่หลุดจากภาพพจน์เด็กวัยรุ่นเพี้ยนๆ ที่เขาเล่นไว้ใน บิลแอนด์เท็ด เอ็กเซลเลนท์แอดเวนเจอร์ แต่หลังความสำเร็จถล่มทลายของสปีด คีอานูเลื่อนระดับรายได้ขึ้นอีก ในภาพยนตร์ที่จะเริ่มถ่ายทำฤดูใบไม้ร่วงนี้ เขารับถึง 7 ล้านเหรียญดอลลาร์

แต่แทนที่จะก้าวหน้าไปเรื่อยๆในบท แอคชันฮีโรที่แสนจะมีรายได้ดีเช่นนั้น คีอานูตัดสินใจจะเปลี่ยนทิศทางของบทที่เขาเล่น อย่างใน จอหนนี นิวโมนิค หนังทริลเลอร์ล้ำยุคชวนมึนงง หรือ อะ วอลค์ อิน เดอะ คลาวด์ หนังโรแมนทิคของผู้กำกับ อัลฟองโซ เออราว ซึ่งในหนังรักเรื่องนี้ เขาแสดงเป็นทหารที่กลับจากสงครามโลกครั้งที่สอง สู่อ้อมอกภรรยาที่แอบนอกใจเขา และต้องตกหลุมรักหญิงสาวที่ท้องแล้วถูกแฟนทิ้ง และนี่ เป็นบทโรแมนทิคครั้งแรก (ไม่นับ ทูน อิน ทูมอโรว์ ที่ทำยอดรายได้ต่ำกว่าหนังเรื่องอื่นที่เคยแสดงโดย คีอานู) นี่เป็นบทสำหรับนักแสดงวัยหนุ่มที่ได้เติบโตเป็นชายเต็มตัว รีฟส์เล่าเขินๆว่า " ผมมองหาบทแบบนี้อยู่ อืมม แล้วก็ ได้มา ยอดไปเลย."

ความสำเร็จจากการแสดงนำในหนังที่ได้อันดับต้นๆ ในบ็อกซ ออฟฟิส ให้โอกาส คีอานูเลือกรับงานที่เขาต้องการ และได้รับบทที่เขาอยากได้ “ ความได้เปรียบที่สุดก็คือ ถ้ามีเรื่องที่ผมสนใจ ผมสามารถบอกให้คนเขียนบท ปรับปรุงบทได้ มันก็ใช้เวลาพอควรนะ กว่าจะมาถึงจุดนี้ และผมก็หวังว่า มันคงจะเป็นแบบนี้ต่อไป”

"ในชีวิตการแสดงของผม ผมชอบที่จะเล่นหนังหลายประเภททั้งจากสตูดิโอ หนังอินดี หรือละครเวที แล้วยังอยากเล่นหนังต่างประเทศด้วย ผมอยากเล่นเป็น เอ็ดวาร์ด เดอ เวียร์ ที่บางคนคิดว่าเป็นงานของเช็คสเปียร์ ผมอยากเล่นหนังที่พูดภาษาฝรั่งเศส หรืออิตาลี หรือว่ากรีกโบราณ ไม่ก็ภาษาลาตินไปเลย มันน่าจะเจ๋งดี ที่สามารถอ่านภาษาอื่นๆได้” รีฟส์กระตือรือร้นที่ได้บอกผมแบบนั้น เขาปั่นสองมือของเขา ก่อนบอกผมว่า “คุณรู้ไหม ผมสั่งอาหารเป็นภาษาฝรั่งเศสได้ แล้วก็ได้ภาษาสเปนมานิดหน่อย จากเพลงทีต้องร้องตอนที่ถ่ายหนัง อะวอลค์อินเดอะคลาวด์ ทั้งๆที่จำเนื้อเพลงไม่ค่อยได้นะเนี่ย "

ชื่อของรีฟส์ หมายถึง สายลมเย็นเหนือขุนเขา ในภาษาฮาวาย เขาเกิดในเบรุต ไปเติบโตที่ โทรอนโท ซึ่งเขาเริ่มเรียนการแสดงที่นั่น ถ่ายหนังทีวีซีรีส์ และละครเวทีบางเรื่อง และในขณะเดียวกันก็รับขัดใบมีดรองเท้าสเก็ตในลานน้ำแข็งไปด้วย และหลังจากงานแสดงในหนังโฆษณา โคคา-โคลา เขาย้ายมา ลอส แอนเจลิส เพื่อรับบทเล็กๆในงานทีวี จนกระทั่งได้บทดีขึ้นในเวลาต่อมา และจนบัดนี้สามารถเรียกค่าตัวได้ถึงเจ็ดล้านดอลลาร์ต่อเรื่อง

เราได้ยินเสมอว่า รีฟส์แสดงได้แข็งเหมือนไม้ และเขาก็ยังต้องเผชิญสิ่งนี้ต่อไป “มันน่าจะพูดถึง งานสร้างสรรค์ของผมบ้าง ผมว่าผมก็มีรสนิยมพอดูได้ การแสดงของผมมันก็ปรับปรุงขึ้นบ้าง แต่บางทีผมก็ต้องยอมรับว่า มันก็แค่ คุณชอบผมหรือไม่” เขาทำสัณญาณมือเป็นเครื่องหมายบางอย่าง “จริงแล้ว ผมจะโดนมากกว่านักแสดงคนอื่นๆอยู่เรื่อย เวลาเขาวิจารณ์งานแสดงของผม เขาก็จะใส่ความไม่ชอบตัวจริงของผมลงไปด้วยประจำ”

แล้วทำไม มันเป็นแบบนั้น ? เขาทำท่าผายมือในอากาศเพื่อบอกถึงการไร้ความสามารถที่จะควบคุมทุกสิ่ง “บางที มันเป็นความเกียจคร้านของพวกเขากระมัง มันง่ายดีสำหรับสื่อมวลชนกระมัง ที่จะบอกว่า ผมก็แค่ไอ้บื้อตัวนึง ไม่รู้สิ คุณรู้ไหม” เขานิ่งไป หรือเป็นเพราะความอายของเขา ขัดแย้งกับธรรมเนียมของสื่อ “ โอ๊ย ไม่หรอก ไม่แน่นอน ผมไม่ได้รู้สึก อายอะไร ส่วนใหญ่จะเป็นความรู้สึกไม่สบายมากกว่า บางทีก็กับตัวผมเองด้วยซ้ำ ถ้ามันดูเหมือนผมอาย นั่นหมายความว่า ผมกำลังรู้สึกไม่ดี บางทีก็แค่ในสถานการ์ณนั้นที่ผมเจออยู่”

แล้วเรื่องข่าวลืออื้อฉาวในหนังสือพิมพ์ ที่ปั้นเรื่องการแต่งงานของเขากับ โพรดิวเซอร์ เดวิด เกฟเฟน ล่ะ? มันเป็นหนึ่งในแผนการทำลาย คีอานู รีฟส์หรือ? “อูห์หหห” เขาถอนหายใจ “ผมไม่รู้จะคิดว่า มันมาได้ไงเลย ผมหมายถึงว่า มันจะมีอะไรบ้าไปกว่านี้อีกไหม เว้นแต่ว่าครั้งหน้าผมจะมีลูกกับมนุษย์ดาวอังคารละมั้ง ผมพยายามอย่างยิ่งเลยที่จะไม่สนใจมัน ในชีวิตผม ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือพวกนี้อยู่แล้ว เพราะว่า ถ้าขืนผมไปอ่านมันเข้า ผมก็จะโกรธเอามากๆ เซ็งสุดๆกับ การถูกรายงานผิดๆ อ้างคำพูดผมก็ผิด ปั้นข่าวไปมา พยายามทำให้ผมขึ้นแท่น ไม่ก็พยามยามอัดผมให้ร่วง”

ทางเดียวที่จะจัดการกับข่าวลือไร้สาระเรื่องแต่งงานกับผู้บริหารรายนี้ได้ คือ การแถลงข่าวต่อสาธารณะ “ ผู้จัดการ กับตัวแทนของผม ต่างก็บอกว่า ผมต้องจัดการแบบนั้น เพราะไอ้ข่าวบ้านั่น มันไปไกลกว่าที่คิด แล้วมันก็ทำให้ผู้คนหวั่นไหว บางคนก็เชื่อไปจริงๆ ก็ได้ เอางั้นก็ได้ แต่ว่า สรุปแล้วผมก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่ดีนั่นล่ะ ก็เอาดิ เอาไงเอากัน พวกคุณอยากได้ยินข่าวแบบนี้เองนี่ ใช่ ใช่ ผมเกลียดมันมากมาก มันคือขยะ อีกอย่างหนึ่ง ผมว่า นี่มันไม่ใช่ธุระของใคร หรือบางที ผมก็คิดว่า ผมพยายามคิดว่า มันเป็นตลกบ้าๆชนิดหนึ่งที่ผมต้องเจอ” เขาคำราม

"ที่พิเศษในอเมริกา คืออะไร รู้ไหม มันเหมือนกับว่า ‘เออนะ คุณเป็นคนสาธารณะ ดังนั้นผมมีสิทธิที่จะถามอะไรคุณก็ได้ มันเป็นงานของสื่อมวลชน’ แล้วไงล่ะ ตัวผมล่ะ ผมก็เลย ต้องตอบทุกคำถามงั้นหรือ มันก็ไม่เป็นไรหรอก ผมยินดีตอบทุกอย่าง ตราบใดที่มันยังเกี่ยวข้องกับงาน ไม่ใช่เรื่องนินทางี่เง่า” เขาว่า

"แต่ว่า คนดีมักไม่ตายก่อน ไม่ใช่หรือ” ผมบอก

คีอานูนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ที่จริง คนดีต้องโดนหลังสุด เพราะเขาต้องถูกอัดด้วยก้อนหิน แล้วก็โดนกระทืบไปทั้งชีวิต เทพเจ้าชอบเล่นตลกกับเรา คุณไม่รู้หรือ”

คุณผู้อ่านขา....ป๋าคี แกตอบได้ แทงหัวใจดีแท้

Create Date : 15 มิถุนายน 2548

Last Update : 16 ตุลาคม 2551 12:10:46 น.

5 comments

Counter : 1633 Pageviews.

ขยันจังค่ะ
โพสท์บ่อยๆนะคะ
คนนี้สุดที่รักจริงๆ

โดย: mungkood

วันที่: 15 มิถุนายน 2548 เวลา:17:05:37 น.

ตอบคำถามน่ารักดี *อิอิ* เรื่องHamletดูแล้วให้ความรู้สึกแปลกๆ เพราะเราเคยดูเวอชั่นก่อนหน้านี้ด้วยล่ะมั้ง(จำไม่ได้แล้วว่าใครแสดง) พอคีอานูมาแสดงเลยไม่ค่อยชิน

โดย: Minnie IP: 61.91.97.180 วันที่: 15 มิถุนายน 2548 เวลา:20:13:02 น.

Thank you หลายเด้อ
รักแองจี้น้อยกว่าพี่คีนี๊ดเดียวจริงๆ

โดย: pam IP: 203.170.146.138 วันที่: 15 มิถุนายน 2548 เวลา:21:01:43 น.

Hello there, I discovered your blog by way of Google while looking for a comparable matter, your website came up, it appears to be like great. I have bookmarked it in my google bookmarks.
Replica Mulberry Handbags //www.relaisroches.com/

โดย: Replica Mulberry Handbags IP: 94.23.252.21 วันที่: 2 สิงหาคม 2557 เวลา:17:27:18 น.

Awesome blog! Is your theme custom made or did you download it from somewhere? A design like yours with a few simple adjustements would really make my blog stand out. Please let me know where you got your theme. Thanks a lot
oakley frogskins lx matte black //www.robertodoria.it/?it-oakley-frogskins-lx-matte-black-21145.html

โดย: oakley frogskins lx matte black IP: 192.99.14.34 วันที่: 16 ตุลาคม 2558 เวลา:1:08:20 น.