Bloggang.com : angy_11 : "Something's Gotta Give": Keanu Reeves

"Something's Gotta Give": Keanu Reeves

"Something's Gotta Give": Keanu Reeves
Dark Horizons ( Australia) - December 25, 2003
Posted: Thursday December 4th, 2003 8:00 PM

Author: Paul Fischer

Location: New York City, NY

- - -

Question: คุณหมอนี่กำลัง “อิน” หรือ?

Answers: ก็แล้วถ้าใช่ มันมีปัญหายังไงหรือครับ?
(พ่อนักข่าวคนนี้ เริ่มต้นมิสวยแฮะ คำถามแรก พี่แกก้เริ่ม กวน ซะแล้ว)

Question: แล้วสนุกดีไหม ที่ได้กลับมาจาก บลูสกรีน ?

Answers: คุณหมายความถึง เซนทิเนล พวกนั้นด้วยใช่ไหม ผมว่า ผมก็เคยเล่นเป็นคนธรรมดามาก่อนนะ ไม่ล่ะ ถ้าจะคุยกันรื่อง การเปลี่ยนบทบาทจากเรื่อง เดอะ แมทริกซ์มาเป็นเรื่อง 'Something's Gotta Give' ผมว่า มันเป็นการเปลี่ยนจาก ความเป็นทางการ มาเป็น ความเป็นธรรมชาติมากกว่า และสำหรับผม ผมชอบลองเล่นหนังหลายประเภทอยู่แล้ว และยิ่งได้ทำงานกับ Jack Nicholson และ Diane Keaton มันยิ่งเจ๋งใหญ่ นี่ยังไม่พูดถึงการเขียนบทและกำกับโดย Nancy Meyersนะ ทั้งหมดนี่ มันคือ ฝันเป็นจริง แท้ๆ

Question: มันไม่สำคัญเลยหรือ ที่เป็นแค่ บทสมทบ น่ะ?

Answers: เออ ผมไม่เคยคิดเรื่องนั้นนะ ในงานของ Sam Raimi เรื่อง 'The Gift'ผมก็ทำมาแล้ว งานก็สนุกดี แล้วผมว่า เรื่องบทนำหรือไม่ ก็ไม่สำคัญ ถ้าบอกว่าอยากลองเล่นหลายๆบท แต่ไปเจาะจงอยู่ที่แค่บทนำ มันจะไปแตกต่างอะไรกัน ถ้าบทสมทบนั้นๆ มีความสำคัญต่อเรื่อง ผมว่า มันก็น่าสนใจ และไม่ควรมองข้ามไป. (ช่าย เลย เพ่)

Question: แล้ว Nancy ไปหาคุณเอง หรือเธอส่งบท ไปให้คนของคุณดูล่ะ?

Answers: ตัวผมเองหรอก ที่เป็นคนวิ่งเข้าหางาน คุณหัวเราะทำไม นี่เรื่องจริง ผมอ่านสคริป แล้วก็ชอบมาก จึงได้ติดต่อไป และไปออดิชันบท

Question: อย่างคุณ ยังไปออดิชันอีก?

Answers: ใช่ แน่นอน

Question: ออดิชันฉากไหน แล้ว อ่านบทพร้อมกับ ไดแอนตอนฉากไหน?

Answers: ผมไปทดสอบบทครั้งแรก ก็กับไดแอนนั่นแหละ.

Question: ตัวคุณเป็นคนตัดสินใจเร็วแบบตัวละครตัวนี้รึเปล่า?

Answers: บางทีครับ บางที ใช่ บางที นึกจะไป ผมก็ไปเลย

Question: คุณเป็นคนพูดคำเหล่านี้รึเปล่า ที่ว่า ความใกล้ชิดและแรงดึงดูดทางเพศ เป็นสาระสำคัญของหนังเรื่องนี้ และเป็นหลักทั่วไป ในความสัมพันธ์ของ ชายหญิง?

Answers: ใช่ ผมเคยพูด บางคนบอกว่า หนังเรื่องนี้ เป็นเรื่องของการก้าวผ่านวัย (age oriented) แต่ผมกลับว่า นี่มันพ้นวัย( ageless )มากกว่า โดยส่วนตัว ผมว่า มันเป็นการยอมรับความเสี่ยง และการเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ มันน่ากลัวเหมือนกันล่ะ การเปิดตัวเองให้คนอื่นเข้าใจเนี่ย และผมคิดว่า หนังเรื่องนี้ ให้เราเห็นคนดีที่แสนฉลาดสองคน Diane Keaton กับ Jack Nicholson เปิดใจเข้าหากัน และมันก็ทำให้มีเรื่องสนุกเกิดขึ้นบนจอภาพยนตร์

Question: ตัวละครของคุณ รู้สึกว่าจะเข้าใจผู้หญิงมากเหลือเกินนะ คุณว่า ในชีวิตจริงของคนทั่วไปจะเข้าใจแบบนั้นหรือ (ชีวิตจริงคุณคีอานู มีหญิงรออยากเข้าใจ เพียบบเลยค่ะ)

Answers: ผมเล่นบท ชายคนที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมามาก และก็เป็นหมอด้วย ผมว่า เขามีความชัดเจนในการเข้าใจคนอื่น และผมว่า นั่นคือสิ่งที่เขาเป็น และทำให้เข้าใจว่าเขาเป็นคนละเอียดอ่อน และผมยังเชื่อว่า ถ้าคุณใส่ใจคนที่คุณรักจริงๆ คุณก็จะเข้าใจเธอ

Question: คุณคิดว่า เขาบอกเธอแบบนั้นหรือ?

Answers: ผมจะเล่าให้ฟัง บทมันว่างี้ “ดีนะเนี่ย ที่ผมไม่กลัวความเก่งกาจของคุณ” เอ้อ ไม่ใช่ “ มันยอดเยี่ยมสำหรับคุณนะ ที่ผมไม่ถูกทำให้กลัวเพราะความฉลาดของคุณ” แล้วเขาก็กอดเธอ แล้วต่อมา เขาก็พูดว่า “ผมจำได้ว่า นี่เป็นเรืองลำบากของคุณ ที่ชายคนอื่น ไม่กล้าเข้าหาคุณ เพราะคุณเก่งเกินไป และนั่นทำให้คุณโดดเดี่ยว” แล้วก็ “แต่ว่า ที่รัก คุณไม่ต้องอยู่คนเดียวอีกแล้ว เพราะว่า ผมรักไม่ว่าคุณจะฉลาดขนาดไหนก็ตาม” นั่นละ ที่ผมว่า เขากล้าบอกเธอว่า เขาเข้าใจเธอ.

Question: คุณว่า อายุ มีบทบาทสำคัญในความสัมพันธ์ไหม?

Answers: ผมว่า คุณก็ไร้เดียงสาเกินไป ถ้าคิดว่า มันไม่สำคัญ แต่ว่า ผมว่ามันไม่สำคัญมากมายอะไรนักหรอก มันแค่ข้อแตกต่างของคน และผมว่า การที่ คนสองคนสามารถเข้าใจกันได้ น่าจะมีน้ำหนักมากกว่า เรื่องอายุต่างกัน ( ตรงนี้ อย่าไปคิดว่า ข่าวลือของพ่อเจ้าประคุณ กับ ไดแอน คีตัน เป็นเรื่องจริงนะ)

Question: คุยเรื่อง Diane Keaton หน่อยได้ไหม? เธอบอกว่า เธอประหม่าเรื่อง love scene,กับคุณ และคุณช่วยเธอ

Answers: เธอยอดมากเลย ผมหมายถึงว่า ในการร่วมงานกัน และการเล่นบทของเธอ โดยส่วนใหญ่ก็ผ่านไปด้วยดี แต่พอถึงเลิฟซีน ผมก็ได้แต่บอกตัวเองว่า ไม่มีปัญหา น่าจะผ่านไปได้ ก็ ทั้งๆที่ มันไม่ง่ายนะ ประสาทเสียเหมือนกันล่ะ การจูบคนอื่นนี่ มันเป็นเรื่องส่วนตัว แล้วก็ละเอียดอ่อน ใจงี้ เต้นระส่ำเลยล่ะ แต่ว่าตามบท มันจะต้องเป็นอีกอย่างนึง บทของผมน่ะ ผมเป็นฝ่ายเข้าหาเธอ และขอเธอ เขาต้องวางมือลงบนมือเธอ แล้วพูดว่า “ ถ้าคุณจูบผม ผมจะอภัยให้คุณ”

Question: คุณคิดว่า Jack และ Diane ทำงานและวางตัวอย่างไร?

Answers: วางตัวเหรอ “คุณวางตัววันนี้ยังไง แจ๊ค” “ โอ้ คีอานู ผมวางตัวแบบของผมไง” (หัวเราะ) น่าจะเป็นบทเรียนที่ดีนะ เขาสองคนเป็นมืออาชีพ และโดยส่วนตัว ก็เป็นคนน่ารัก และมีความโดดเด่นของตัวเอง แน่ละ เขาสองคนต่างกัน แต่ผมจะเล่าถึงส่วนที่คล้ายกันก็คือ ทั้งคู่ ไม่ทำตัวงี่เง่า ตั้งใจทำงาน เป็นมืออาชีพและยังเป็นคนสนุกสนานด้วย ผมประทับใจตลอดเวลาที่อยู่กับพวกเขา และรู้สึกโชคดี เพราะนอกจากเขาจะเป็นคนยิ่งใหญ่แล้ว ยังเป็นนักแสดงที่เก่งมากด้วย

Question: รู้สึกยังไงบ้างล่ะ ที่ได้ขึ้นปก “ แมด” แมกกาซีน?

Answers: ผมได้ขึ้นปก แมด เลยเหรอ คุณมีให้ดูสักเล่มไหม ทำไมคุณไม่เอามาสักเล่มล่ะ โธ่?

Question: เขาล้อคุณ กับ อัลปาชิโน น่ะ.

Answers: โอ้ ยอดเลย โคดยอดเยี่ยม ผมจำตอนโดนล้อ เมื่อ 'Bill and Ted's Excellent Adventure' แล้วผมก็ไปคุยกับ Alex Winterที่เล่นหนังเรื่องนี้กับผม แล้วปรากฏว่า เราสองคนชอบมันมากเลย .

Question: แล้วจะรู้สึกแบบเดียวกันไหม ถ้าได้ขึ้นปก Newsweek?

Answers: เออ นั่นมันแล้วแต่ว่า คุณจะพูดถึงแง่ไหน.

Question: แง่ที่ว่า คุณกำลังหล่นจาก 'The Matrix' แล้วไง ก็มันจบแล้วนี่?

Answers: หล่น เหรอ? ไอ้แท่นที่ว่า มันอยู่ตรงไหนกัน?

(โดน ครับ โดน)

Question: แล้วคุณดีใจไหม ที่มันจบซะที เหมือน Ewan McGregorเคยพูดไว้ว่า เขาดีใจที่ได้ร่วมงาน แต่ก็ดีใจที่การทำงานรวมทั้งหมด แปดปีเสร็จซะได้

Answers: กี่ปีนะครับ แปดเลยหรือ โอ ก็อด ยอดเลย สงสัยผมต้องนัดเขาไปนั่งคุยกันที่ บาร์ไหนสักที่แล้ว แล้วค่อยมารื้อความจำ เกี่ยวกับการทำหนังไตรภาค “โอ มัย ก็อด คุณเชื่อไหม?” “ผมรู้ โคดเหลือเชื่อ ใช่ไหม” “เราโคดโชคดี มันช่าง...”

Question: คุณว่า มันอันตรายรึไง ที่จะทำหนังไตรภาค?

Answers: ไม่เชิง ผมว่า มันเป็นสิ่งมหัศจรรย์มากกว่า ผมน่าจะมีเรื่องคุยเกี่ยวกับมันไปจนผมตาย แล้วผมก็ชอบด้วย เป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่อย่างนึง

Question: แล้วคุณคิดยังไงที่ มีเสียงวิจารณ์ว่า ภาค สองกับสามไม่ดีเท่าภาคแรก?

Answers: มันไม่ดีหรือ ผมไม่เห็นด้วยแฮะ ไม่เห็นด้วยแน่ ผมว่ามันต่างออกไป อย่างเช่น บางที คุณอาจโดนกอดทั้งวัน เริ่มจากเช้ากอด บ่ายกอด เย็นก็มีคนมากอด ผมว่า มันอารมณ์ประมาณนั้นแหละ (แล้วทำไม ต้องยกตัวอย่างเรื่อง "กอด" หรือว่า โดนกอดทั้งวัน จิงอะ)

คือว่า ถึงแม้จะคล้ายกัน แต่ก็ต่างกัน ผมหมายความว่า ถ้าคุณนึกย้อนไปนะ อีตอน แมทริกซ์ภาคแรกออกฉาย มันก็ต้องรอเวลาพักหนึ่งเหมือนกัน เพราะมันไม่ใช่ทั้งหนังขวัญใจนักวิจารณ์ แต่มันเหมือนหนังใต้ดินที่กลับฮิตขึ้นมามากกว่า และผมว่า ทั้ง 'Reloaded' และ 'Revolutions' ก็คงเป็นแบบนั้น มันก็จริง ที่นักวิจารณ์ไม่ปลื้ม แต่ว่า เมื่อคุณพบคนดูทั่วไปนะ มันจะต่างออกไป บางคน บอกผมว่า “ผมเพิ่งไปดู Reloaded อีกครั้งนึง มันดีจริงๆ” แต่ว่า ในประสบการณ์ของผมเองนะ ถ้าคุณใช้เวลากับหนังสักเรื่อง แล้วปล่อยให้เวลาผ่านไปสักพัก คุณจะรู้สึกกับมันต่างออกไป ผมหมายความว่า ถ้าคุณไม่เข้าใจมัน หรือไม่ชอบมัน บางที เมื่อเวลาผ่านไป คุณอาจคิดอีกอย่างนึงก็ได้

Question: คุณรู้สึกยังไงที่ ต้องเป็นรูปลักษณ์อย่างนึงที่ถูกสร้างขึ้นมา โดยที่คุณก็รู้ตัวว่า คุณไม่ได้เป็นแบบนั้น

Answers: ผมไม่ใช่ คนที่ชอบพูดถึงตัวเอง แต่ว่า ถ้าคุยเรื่องหนังที่ผมแสดง มันก็อีกเรื่อง ผมยินดีเสมอ

Question: แล้วคุณรับมือกับสังคม ที่วุ่นวายกับชีวิตคนดังยังไงล่ะ?

Answers: ก็อย่างสวยที่สุด ที่ผมทำได้.

Question: คุณเคยดู ชีวประวัติ ที่เค้าทำเกี่ยวกับคุณไหม

Answers: ไม่เคย ไม่เคยเลย

Question: คุณคิดไง เกี่ยวกะเรื่องนี้
Answers: มีคนบอกผมเหมือนกันว่า จะมีคนทำ ชีวประวัติ แล้วเราก็ได้แต่หวังว่า มันจะทำมามีรสนิยมที่ดีละนะ แต่ว่า ตัวผมเอง ไม่หวังหรอก จริงๆ ที่จริงแล้ว ผมไม่สนเลยมากกว่า มันจะอะไรล่ะ ก็แค่เรื่องผ่านไปผ่านมา จริงมั่งไม่จริงมั่ง แล้วมันไม่เกี่ยวเลยว่า จะมีใครจ้างผมทำงานหรือไม่ หรือว่า คนที่ผมร่วมงานด้วยก็ไม่มีใครเคยบอกผมว่า “นี่คุณผมจะทำงานร่วมกับคุณ เพราะผมเคยดูสารคดี ชีวประวัติของคุณนะ” หรอกน่า ไอ้ที่ผมหวังจริงๆเลยนะ ผมหวังแค่ว่า ถ้ามันสร้างขึ้นมาจริงๆแล้วละก็ คงจะไม่มีใครปีนบ้านผม เพื่อมาถ่ายรูปผมตอนเดินเข้าครัวอีกมากกว่า แค่นั้นจริงๆ ที่อยากได้ แค่ให้พวกคุณควบคุมความต้องการของคุณเอง และเคารพความเป็นคนของผมบ้าง แค่นั้น

Question: นี่มีคนทำแบบนั้นกับคุณจริงๆอะ

Answers: (พูดประชดเต็มที่) อ๋อ ใช่ มีคนปีนกำแพงบ้านผมมาแล้ว

Question: แล้วคุณตกลงเล่น Constantine เมื่อไร?

Answers: ตอนนั้นผมอยู่ที่ ออสเตรเลีย กำลังทำ 'The Matrix' กำลังคิดหางานใหม่ แล้วบทร่างก็ส่งมาให้อ่าน ทางสตูดิโอ Warner Brothers ก็มาคุย แล้วก็กลับไปแก้ แล้ว Akiva Goldsman ก็มาหา แล้วก็โปรดิวเซอร์ แล้วก็กลับไปเขียนบทอีกปีนึง แล้วก็ ตอนนี้ เริ่มถ่ายไป หกอาทิตย์แล้ว.

Question: มันเป็นการ์ตูนใช่ไหม?

Answers: ใช่ มาจากการ์ตูนชุดหนึ่ง ของ Allen Moore.ผมว่ามันได้รับความริเริ่มจาก 'Swamp Thing'.

Question: แล้วคุณรับบทยังไง?

Answers: เป็นความสัมพันธ์กับพระเจ้า ซึ่งสัมพันธ์กับโลก เขาเป็นคนที่ไม่พอใจตัวเอง บทมันว่า 'God has a plan for all of us, and some people like it, some people don't.' นั่นละ แบบของคอนสแทนทิน

Question: คุณว่ามันน่าจะขายได้ เพราะว่าเป็นงานการ์ตูนด้านมืด งั้นสิ?

Answers: คือ ผมว่า มันน่าจะไม่เป็นแบบนั้น เราอยากทำหนัง PG-13แต่ว่า ตัวคาแรกเตอร์ มันไม่อำนวย อย่างฉากคุยกับแกเบรียลนั่นก็ทำให้มันทำยากแล้ว

Question: เขาเป็น อดีตพระ รึเปล่า?

Answers: ผมก็ไม่รู้สิ มันขึ้นกับเรื่องที่เล่ามากกว่า สำหรับหนังเรื่องนี้ เขาไม่เคยเป็นพระ และยังใช้ชีวิตเสเพลอีกด้วย ทั้งสูบบุหรี่ ทั้งดื่มเหล้า แถมนอนกับปีศาจสาวๆด้วย คุณเห็นไหม นี่เราจะทำมันเป็น PG-13 ได้ยังไง.

Question: งั้นก็ไม่เหมือนถ่ายฉากรักกับ Diane Keaton สิ?

Answers: ไม่มีความเห็นครับ.

Question: คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับข้อโต้แย้ง ที่พูดถึงการเป็นเฟรนไชส์?

Answers: ผมไม่รู้เรื่องข้อโต้แย้งนั่น ไม่รู้เลย คือว่า มันเป็นด้านธุรกิจของงานที่ผมมีส่วนร่วม ถ้าเราโชคดี และไม่ขัดแย้งกับจุดประสงค์เดิม เราก็สามารถสร้างหนังสนุกที่น่าสนใจได้ แค่นั้นก็ทำให้ผมพอใจมากแล้วล่ะ และผมเคยมีประสบการณ์ทางบวกในเรื่องนี้มาแล้ว ผมได้ทำงานกับคนเก่งๆหลายคน รวมถึง Francis Lawrence ซึ่งเป็นคนเก่ง มีมุมมองสดใหม่ และเป็นคนเล่าเรื่องที่ดี Akiva Goldsman ก็เป็นมือเขียนบทรางวัลออสการ์ รวมทั้งนักแสดงชั้นยอดอย่าง Rachel Weisz และ Tilda Swinton เรามีทีมที่ดี ผมว่าหนังเรื่องนี้ มันเท่แน่ๆ เป็นเรื่องของคนที่พยายามหาที่ยืนของตัวเองบนโลก และถ้าเราโชคดีพอ ผู้คนชอบเรื่องของเรา มันก็เป็นไปได้ที่ ผมจะได้ยินว่า “คีอานู คุณอยากเล่นบทนี้อีกครั้งไหม” ก็ต้องคอยดูกันไป และเมื่อถึงตอนนั้น มันก็เป็น เฟรนไชส์ จะได้มีรูปผมติดข้างกล่องอาหาร นี่มันก็แค่เดาๆนะ แต่ก็แค่หวัง มันจะเป็นไปได้ขนาดไหน ก็ยังไม่รู้

Question: ในฐานะนักแสดงระดับคุณ การตัดสินใจรับงานใดนี่ ทำให้คุณลำบากมากไหม.?

Answers: ก็เป็นส่วนใหญ่นะครับ มันจะเป็นแรงผลักดันอยู่ข้างใน ผมจะรู้ได้ทันทีที่ผมอ่านบทว่า ผมอยากทำหรือไม่ อย่างเช่นใน 'Something's Gotta Give', ครั้งแรกที่อ่านบท ผมบอกตัวเองว่า “ เฮ้ นี่มันบทที่ดี มากในรอบปีที่ผมอ่านมาเลย” และยิ่งเมื่อรู้ว่า จะได้ทำงานกับ Jack Nicholson และ Diane Keaton, บทคุณหมอเมอร์เซอร์ ผมแทบรอไม่ไหวเลยล่ะ ดังนั้น การตัดสินใจรับงาน จึงขึ้นกับสิ่งเหล่านี้ บท , เรื่อง ,คาแรกเตอร์ และความรู้สึกของตัวผมเอง

Question: ปกติแล้วคุณต้องเป็นฝ่ายหางาน หรือว่า มีบทรอให้คุณอ่านเป็นตั้งๆล่ะ?

Answers: มันก็ , ใครๆก็ต้องหาวัตถุดิบที่ดีใช่ไหม ผมชอบการแสดง คุณดู Jack Nicholson. สิ เขาอายุ 66 แล้วนะ แต่ก็ยังได้บทดีๆตลอดเวลา เขาทำงานของเขาได้ดี และต่อเนื่อง ชีวิตพวกเราก็แบบนี้

Question: คุณเคยคุยกับ Jack หรือขอคำแนะนำจากเขาในเรื่องการแสดงบ้างไหม?

Answers: จริงแล้ว ก็เพิ่งเมื่อคืนนี้เอง Nancy Meyers ,Jack แล้วก็ผม เพิ่งคุยกันเรื่องหนังเรื่องนี้ คือปกติ แนนซีเธอชอบหมุนกล้อง แล้วเราก็คุยกันเรื่องนี้ แล้ว แจ๊คก็เลยเสนอว่า เขาอยากได้ สโลว์คัท นั่นคือเขาเสนอว่าเธอสั่งตัดเร็วไป บางที มันมีช่วงที่เราแสดงได้ดีในเวลานั้น แต่กลับต้องหยุดเล่นเมื่อ ผู้กำกับ สั่ง คัท มันเป็นช่วงเวลาที่น่าเสียดาย ทั้งๆที่บทจบแล้วก็จริง แต่ถ้าสั่งคัทเพราะเสียดายฟิลม์นี่ มันอาจเสียช่วงเวลาของอารมณ์ที่สำคัญต่อคาแรกเตอร์นั้นไปก็ได้ แจ๊คจึงเสนอว่า เธอควรทำ สโลว์คัทบ้าง และทันทีที่แจ็คพูด ผมก็เห็นด้วยเลยทันที

Question: คุณเคยไปออดิชันที่ Stratford ไหม?

Answers: เคยสิ คิวยาวตั้งสี่ปี

Question: ทั้งๆที่ มีชื่อเสียงขนาดนี้น่ะหรือ?

Answers: ไม่ใช่ ที่พูดนั่นสมัยผมยังเด็ก อายุสัก 16 ก็ดีนะ เป็นที่ที่ดี

Question: มาถึงจุดนี้แล้ว คุณอยากเป็นอย่างไหนมากกว่ากัน ระหว่างการนั่งดูความสำเร็จ กับการไปขวนขวายหาเกียรติยศอันใหม่

Answers: ผมอยากให้ร่างกายผมได้กระฉับกระเฉงมากกว่า ผมหมายความว่า ถ้าให้เลือกแล้ว ผมชอบฝึกฝนเต็มที่ เพื่อให้ได้งานดีๆ มากกว่า

Question: คุณเชื่อในรักแท้ หรือคู่แท้ บุพเพ อะไรแบบนั้นไหม?

Answers: แน่นอน เชื่อครับ ใช่ ผมว่าจริง

Question: คุณเป็นพวกชายโรแมนติกที่ผิดหวังบ่อยหรือไง(Are you a hopeless romantic? )

Answers: ผมไม่รู้เหมือนกัน ผมเป็น a hopeless romantic รึเปล่า? มันก็สนุกดี ที่จะอกหัก ถึงจะอันตราย แต่ก็สนุก( It's fun to be hopelessly in love. It's dangerous, but it's fun. )

Question: เวลาอยู่ที่ ปารีส มันโรแมนติก ไม่ใช่หรือ

Answers: อย่างแท้จริงเลยล่ะ.

Question: คุณเคยอยู่ที่นั่นมาก่อนรึ?

Answers: ผมเคยทำงานที่นั่นมาแล้ว ใน 'Dangerous Liaisons'.

Question: คนที่นั่นจำคุณได้ไหม?

Answers: ก็มี ไม่มากเท่าไร มีบ้าง แต่ไม่บ่อยครับ.

Create Date : 12 กันยายน 2548

Last Update : 16 ตุลาคม 2551 10:26:43 น.

3 comments

Counter : 1872 Pageviews.

ถ้าเราเป็น เอริก้า ในหนังเรื่องนี้นะ

เราไม่กลับไปหา นาย แฮรรี่ (ไม่ใช่พอตเตอร์นะ) หรอก

เราจะอยู่กับคุณหมอจูเลียน

น่ารัก รูปหล่อ เข้าใจผู้หญิง ยอมเสียสละ เพื่อให้คนที่เรารักมีความสุข

เฮ้อ ว่าแล้วก็ไปหยิบ ดีวีดีมาดูรอบที่ 26

หลงรักคุณหมอจูเลียนด้วยคน

ปล. นึดถึงตอนที่บอกว่า "May I" แล้วมองตา ไดแอน คีตัน แบบตรงๆ จ้องลึกเข้าไปในดวงตา เพื่อให้เห็นถึงความจริงใจ และความรัก ที่มีอยู่ ก่อนที่จะโน้มหน้าลงไปจูบ

จะละลายเสียให้ได้

โดย: พฤษภาคม 2510

วันที่: 12 กันยายน 2548 เวลา:11:47:12 น.

กลับมาอ่านเองแล้วแสนงง
นี่ชั้นพิมพ์ไว้อ่านเอง ใช่ไหม

โดย: angy_11

วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:16:33:13 น.

กลับมาอ่านอีกที

ก็ยังคิดว่าตัวเองเรียบเรียงบทความนี้ได้ดีอีกนั่นล่ะ

โดย: angy_11

วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:11:56 น.