ที่นี่ดีต้องที่มีน้องเสื้อแดง มาคอยให้คำอธิบายในทุกส่วน ทุกชั้นของการแสดง มีทั้งการทดลอง วิวัฒนาการของเครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ ซึ่งในแต่ละหัวข้อเรื่อง ก้อจะมีการทำลองทางวิทยาศาสตร์ให้เรา (เด็กแก่) และเด็กๆ ได้ทำการทดลอง โดยจะมีน้องเสื้อแดงเนี่ยแหละ คอยอธิบาย (แต่ไม่ค่อยอธิบายกานต์หรอกค่ะ น้องคงเห็นว่าเราแก่เกิน
ถ่ายรูปมาไม่เยอะเท่าไหร่ มัวแต่เล่นอยู่ค่ะ มีการทดลองหลายอย่าง แต่ที่ชอบคือเกี่ยวกับร่างกาย มีทั้งทดสอบค่า BMI ความยืดหยุ่นของร่างกาย วัดระดับการเต็นของหัวใจ วัดความสามารถในการทรงตัว ( อันนี้ชอบยังกะเล่น บอร์ด ) แล้วยังมีการผ่าตัดโดยใช้หุ่นยนต์ ทดสอบความจำ ก้อสนุกดีอะเนอะ ถ้ามีเด็กๆ ไปด้วย (เวลาเล่นจะได้ไม่เขิน ทำเป็นฟอร์มว่าเล่นเป็นเพื่อนเด็ก ที่ไหนได้อยากเล่นเอง ha ) วันไหนต้องหว่านล้อมพาพวกน้อง ๆ ( ลูกคุณน้าทั้งหลาย ) มาเที่ยวบ้างซะแล้ว คงจะวิ่งกันเพ่นพล่านน่าดู ขนาดคุณพี่ไก่ อายุแกก้อมากแล้ว แกยังอ่าน,เล่นเกมส์ แต่ละบูธนานมาก ไอ้เรามันพวกสมาธิสั้น อ่านผ่านแป๊ป ๆ แล้วก้อผ่านเลย คุณพี่นี่อยู่นาน แถมให้ถ่ายรูปเกี่ยวกับความรู้ กะจะเอาไปอ่านต่อพี่บ้าน เสียค่าเข้าคนละ 60 บาท คุณพี่เขาคนเดียวก้อคุ้มแล้ว

ออกจากที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสต์ ก้อประมาณเที่ยง หิวขนาด อยากจะแวะกินเตี๋ยวเรือ รังสิต เลียบคลอง แต่ก้อด้วยความอยากไปดูดาวด้วย เดี๋ยวจะเสียเวลา ก้อเอ้าไปกินที่ ศูนย์วิทยาศาสตร์ที่เราจะไปดูดาวกันเลยแหละกัน เลี้ยวชะแว้บเข้าคลอง 6 เลี้ยวซ้ายก่อนถึง ราชมงคล จะเจอโดมของท้องฟ้าจำลองค่ะ

ค่าตั๋วชมดาวที่นี่ ก้อแค่คนละ 30 บาทเท่านั้น ตอนที่กานต์ไปถึงเด็กๆ ก้อเยอะอยู่ค่ะ แต่ด้วยความหิวจัด จึงตรงดิ่งไปหาของกินก่อนดีกว่า กินอิ่มปุ๊ป คณะท่านก้อบอกว่าเชิญเข้าไปชมได้แล้วค่ะ ก้อเลยไม่ได้เดินดูรอบๆ เท่าไหร่ ha พอเข้ามาข้างใน เด็กๆ ส่งเสียงกันให้เจี๊ยวเลยค่ะ คงจะตื่นเต้นน่าดู อย่าว่าแต่เด็กเลยค่ะ กานต์ก้อเหมือนกัน

เบาะนิ่มๆ เอนจนแทบจะนอน ( จริงๆแล้วก้อนอนจริง ) โอ้ววว ฉายแล้วค่ะ ดาววูบวาบ วูบวาบเต็มไปหมดเลยค่ะ ha จริงๆ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่ด้วยความที่เค้าวูบเข้าวูบออก จนบางทีเหมือนดาวจะเข้ามาที่หน้าเลยค่ะ เด็กๆ ก้อตื่นเต็นกันใหญ่เลย พอดีเขาห้ามถ่ายรูป เลยไม่ได้ถ่ายอะไรที่เขาฉายมาให้ดูค่ะ ฉายทั้งหมด 1 ชั่วโมง ครึ่งชั่วโมงแรก จะเป็นเรื่องของประวัติความเป็นมาของ ท้องฟ้าจำลองรังสิต ค่ะ แล้วก้อเป็นเรื่องของอุปกรณ์ที่สุดแสน ไฮเทค ในการฉายดวงดาว ( ha ไม่อยากจะบอกว่า ช่วงนี้ รายละเอียดไม่ค่อยรู้เท่าไหร่หรอกค่ะ หลับ.... หนังท้องตึง หนังตาก้อหย่อนเนอะ ไม่ได้ตั้งใจนะ ) พอครึ่งชั่วโมงหลัง ก้อจะเข้าเรื่องราวของดวงดาวแล้วค่ะ จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ เอกภพ ที่เราอาศัยอยู่กันนะค่ะ ว่ากว้างใหญ่ไพศาลนัก แกแล็คซี่ของเราก้อเป็นแค่แกแล็คซี่เล็ก ๆ ในหลายๆ แกแล็คซี่ค่ะ แล้วเขาก้อแจ้งว่า แกแล็กซี่ของเรานะเกี่ยวข้องกันอยู่กับแกแล็คซี่แอนโดรเมด้า วันหนึ่งในอีกกี่ล้านปีข้างหน้าเนี่ยแหละ แกแล็คซี่เราจะชนกันกับแกแล็คซี่แอนโดรเมด้า และอีกกี่ล้านปีต่อจากนี้ ก้อจะมารวมกันกลายเป็น แกแล็คซี่ใหม่ เล่าถึงจุดดับของดวงอาทิตย์ พูดถึงฮีเลียมณ จุดกึ่งกลางของดวงอาทิตย์ ( ถ้าจำไม่ผิดธาตุนะค่ะ ) วันหนึ่งในอีกกี่ล้านปีข้างหน้า ( จำไม่ได้ ) เมื่อดวงไฟในดวงอาทิตย์เผาผลาญก๊าซที่มีอยู่ เอ่อ หรือธาตุที่มีอยู่จนหมด ก้อจะเกิดการเผาไหม้ครรั้งสุดท้าย ที่ยิ่งใหญ่ เขาเรียกว่าซูปเปอร์โนว่า คิดดูซิค่ะ ว่าดวงอาทิตย์ที่เราเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จะถึงวันแตกดับ โลกเราเนี่ยมันนิ๊ดเดียวซะจริง ( อย่าไปพูดถึงคนเราเลยค่ะ ว่าจะเล็กสักแค่ไหน ในแกแลคซี่ ในเอกภพ โอ้ว มายก้อด ) สรุปตื่นตา ตื่นใจ ชอบเรื่องราวของเนื้อหาในครึ่งชั่วโมงหลังด้วยค่ะ ฟังแล้วอยากจะไปซื้อหนังสือมาอ่านเพิ่มเติม ที่เขียนมาถ้ามีสิ่งใด ผิดพลาดประการใด ก้อต้องขออภัยด้วยนะค่ะ แบบว่าครึ่งหลับครึ่งตื่นนะค่ะ แต่ถ้าจะพาเด็กน้อย น้อย ไปดูเนี่ย รู้สึกว่าเนื้อหามันจะซับซ้อนไปหน่อยค่ะ แต่ถ้าไปดูแอฟเฟ็กซ์ละก้อ ตื่นเต้นดีค่ะ แต่ค่อนข้างจะปวดหัวนิดหน่อย ภาพจะวูบวาบไปวูบวาบมา ha ha ถ้าใครคิดจะไปดูดาวลูกไก่ ดาวคันไถ่ ดาวไทยๆ ชัดชัด (เหมือนกานต์)เนี่ย ค่อนข้างย้าก ค่ะ เพราะที่นี่จะเป็นเรื่องของวิชาการ และ อนาคต เกี่ยวกับการค้นหาสิ่งมีชีวิตบนดาวดวงอื่น อืม ค่อนข้างจะเป็นวิชาการเยอะค่ะ แต่ได้ความรู้เยอะค่ะ ha ha พอดีนึกถึงสมัยเด็กที่เคยไปดูท้องฟ้าจำลองที่เอกมัยเมื่อสมัยเนิ่นน้านนานมาแล้วค่ะ
เอาเท่านี้ก่อนเนอะ แล้วเดี๋ยวต่อค่ะ..รูปบรรยากาศภายใจศูนย์วิทยาศาสตร์ค่ะ

ha มองเมฆเข้าไว้ จาได้มีความรักในหัวใจ ha

เฮ้อ มาดูอีกที ทำไมเขียนยาวอย่างนี้หนอ .. แล้วทำไมรูปไม่เห็นจาอยู่ตรงกลางเลยหนอ .. เฮ้อ อู้งานมานานแล้ว ขอกลับไปทำงานก่อนดีก่า ..