แม่หมอ Pa MiMi Begins
แม่หมอ Pa MiMi Begins
สมัยก่อนป้ามีมี่มีงานอดิเรกอย่างนึงที่เกิดจากความขี้สงสัย บรรดาหมอดูที่ป้าชอบไปเสียตังค์ดูเสมอๆ ดูไปดูมาวันนึงได้ที่ป้าขอเรียนมั่งจากสำนักวิชาแห่งหนึ่ง จริงๆครูก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าป้าเท่าไรนักเพราะชอบถามคำถามแปลกๆ ทำมั๊ยไอ้ลูกศิษย์คนนี้มันเชื่อยากจริงวุ้ย คุณครูคงคิด เช่น คำถามที่ว่าครูขาทำไมเราต้องมาเรียนฤกษ์ยามทำไมคะ ก็พระพุทธเจ้าบอกว่าเวลาที่คิดดี ทำดีอยู่เป็นฤกษ์ดียามดี ทำไมครูว่าวิชานี้สุดยอดอ่ะ 555+ ส่วนคำถามสุดท้ายที่ถึงเวลาเลิกเรียนกะครูแล้วคือ ครูขาเมื่อไรเราจะเรียนจนจบกระบวนท่าซักที ครูค้อนวงใหญ่ๆแล้วบอกว่าจนตายนั่นแหละ #@!% เออ...ถ้าเช่นนั้นเราควรเลิกเรียนเพราะไม่จบสักทีสู้วิชาพระพุทธเจ้าไม่ได้อ่ะ เรียนจบก็ได้ จะเรียนแบบไปสวรรค์ก็ได้ จะเรียนเอารวยๆก็ได้ มีให้เลือกหลายวิชาดีกว่า
จริงๆแล้วถึงขั้นท่องยุทธจักรแล้ว เราจะต้องไปหาประสบการณ์ตรงจากการทำนายเก็บสถิติเอาเอง หาตำราพิชัยสงครามเอาเอง คัมภีร์มีมากมายกระจัดกระจาย นักเรียนท่านใดสนใจก็วิจัยกันต่อไป ขั้นนี้เราต้องเป็น self learner คัมภีร์ส่วนใหญ่เป็นกลอน ป้าฝึกวิชาพระพุทธเจ้ามาก่อนจะเรียนวิชานี้ จิตที่สงบช่วยงานได้มาก ตีความแตกได้ง่ายๆ บางทีนั่งสมาธิแทนที่จะดูตัวเองกลับคิดเป็นเรื่องโหราศาสตร์ก็มี
มีคำถามว่าคนไหนเรียนได้คนไหนเรียนไม่ได้คะ อันนี้ก็เหมือนๆกะทุกวิชาค่ะ เคยสังเกตมั้ยว่าทำไมบางเรื่องเราเข้าใจง้าย ง่าย บางเรื่องเรียนเท่าไรก็ไม่รู้เรื่องเล้ย เช่น สมัยป้ายังเด็ก เรียนที่คณะต้องเรียนวิชาดรออิ้ง ดูภาพสามมิติแบบน้อตแอนด์โบลท์ ดูเท่าไรก็ทำไม่ได้ ดูไปดูไปยิ่งรู้สึกว่าเรานี้โง่มากเลย เกิดมาไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลย เพื่อนๆเรียนเก่งทุกคน เป็นที่อับอายขายขี้หน้ามาก อ้า...มาต่อคนแบบไหนเรียนได้ ก็ในเมื่อวิชานี้ทำนายได้ระดับนึงแล้ววิชาก็มีสถิติบอกด้วยว่าคนจำพวกไหนเคยเรียนมาแต่ชาติก่อนๆ (แบบนี้ก็มีนะ ทำเป็นขำ ) คนไหนมีสิทธิลุ้นเรียนชาตินี้เพราะจิตใจฝักใฝ่เรื่องแปลกๆ ลึกลับ ของเก่าแก่ คนไหนอย่าเรียนเลย อันนี้อาจทำร้ายจิตใจผู้ฟังไปหน่อย คนที่เรียนไม่ได้บางทีไม่ใช่เรื่องสมองค่ะ แต่เป็นเรื่องเวลา มีกิจธุระเยอะ(ไม่มีสมาธิพอ) ขออนุญาตยกคำของปรมาจารย์โหราศาสตร์ท่านนึงคืออาจารย์ทองเจือ (เสียชีวิตแล้ว) ท่านว่าคนที่จะทำงานด้านนี้ได้โดยเฉพาะภาคคำนวณนั้นต้องมีคุณสมบัติพร้อมดังนี้ 1. มีพื้นความรู้ทางภาคคำนวณพอ (แต่ตอนนี้คนอาจจะเถียงว่าผมก็ใช้โปรแกรมสำเร็จรูป ป้าก็ขอชี้แจงว่าแต่ถ้าคุณรู้ที่มา พื้นฐานคุณจะแน่นว่าทำไมเค้าวางหลักแบบนี้ ฤกษ์ยามมีที่มาอย่างไร ทำไมการวางลัคนาถึงทำแบบนี้ ไม่ใช่เอาแต่ท่องๆ ความจำนั้นไม่เที่ยงวันนึงอาจจำไม่ได้) 2. มีเวลาพอที่จะศึกษา 3. มีฐานะความเป็นอยู่ดี อันนี้ป้าคิดเอาเองว่าถ้าฐานะไม่ดีอาจจะเอาวิชาไปทำมิดีมิร้าย เพื่อหลอกลวงเอาเงินคนอื่นดังที่เป็นอยู่มากในสังคมปัจจุบัน 4. มีสุขภาพดี อีกข้อที่ท่านว่าไว้คือมีความต้องการเรียน ป้าอยากเพิ่มอีกข้อที่สำคัญมากคือ ต้องเป็นผู้มีคุณธรรมระดับเมตตาพรหมวิหาร มีศีลธรรมพอสมควร เพราะวิชานี้แปลกค่ะให้คุณให้โทษคนได้ถึงระดับจิตใจ ผู้มาปรึกษามักมีทุกข์ลึกๆ กังวลหน่อยๆ ส่วนใหญ่ทุกข์หนัก ทุกวันนี้วิชานี้ถูกนำเข้ามารับใช้หมอดูหยาบๆเยอะ รู้ไม่จริงบ้าง อวดรู้บ้างเท่านั้นไม่พอหลอกลวงคนให้งมงาย (ให้เค้าแย่กว่าเดิม) บ้างถึงขนาดดึงและอ้างพุทธมารับใช้ศาสตร์นี้จนคนไทยยุคปัจจุบันแยกพุทธไม่ออก (ศาสนาพุทธนั้นสอนเรื่องจิต สอนให้มนุษย์เชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง) โหราศาสตร์ยุคนี้จึงมีภาพในใจคนหลากหลายแบบ หมอดูท่านใดมาอ่านแล้วไม่เห็นด้วยขอให้ถามใจตัวเองลึกๆค่ะว่าดูหมอทำไม (คนเราโกหกใครก็ได้ โกหกเจ้าของไม่ได้-หลวงปู่ชา) ถ้ายังอยากดูต่อไปกรุณาทำให้มันดีๆอยู่ในศีลในธรรม ถ้าท่านแม่นยำจริงเค้าบอกต่อค่ะ ถ้าท่านไม่โลภอยากรวยเร็วๆ วิชานี้ก็มีคุณระดับนึงหาเลี้ยงชีพได้ แนะนำคนให้ทำเรื่องดีๆได้ ปล.ขอขอบคุณครูแป๋วที่แนะนำให้ป้าเขียนเรื่องยาวเรื่องนี้ เพราะเธอบอกว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านค่ะ
Free TextEditor
Create Date : 09 มกราคม 2553 |
|
3 comments |
Last Update : 9 มกราคม 2553 10:46:11 น. |
Counter : 1264 Pageviews. |
|
|
|