แม่หมอป้ามีมี่ตอน : คู่มือไปดูหมอ

เขียนอย่างนี้ใจจริงไม่ได้อยากให้ไปดูหมอหรอกค่ะ  แต่บางคนยิ่งห้ามยิ่งอยากค่ะ หมอดูสำหรับคนไทยแล้วก็คล้ายๆฝรั่งไปหาจิตแพทย์นั่นเอง  สาเหตุที่ต้องไปดู(ตามที่ป้าเคยเก็บข้อมูล)มีหลายเรื่องวนเวียนอยู่แถวๆเรื่อง เมื่อไรผมจะรวย การค้าเป็นยังไงฮะ สรุปคือเรื่องงาน สองอิชั้นมีปัญหากะสามี กะแม่ผัว หรือไม่ก็เมื่อไรจะมีแฟนกะเค้าซะที อีกทีเรื่องลูก อันนี้สรุปเรื่องครอบครัว  รองๆลงมาก็สำหรับเด็กๆหน่อยคือผมจะสอบติดไหมฮะ ผมควรเรียนอะไรดี  อันนี้พ่อแม่มักมาถามให้ลูกๆ  คำถามยอดฮิตพวกนี้พวกหมอดูทั้งหลายจะเจอตลอดชีวิตที่ยังคิดดูหมอ 

สมัยยังเรียนกะครูอยู่  ครูถามพวกเราว่าใครในนี้ยังดูหมอฟรีๆอยู่บ้าง  ป้ายกมืออย่างมั่นใจ  ครูบอกว่าเธอรู้มั้ยผมเคยถูกครูของผมถามแบบนี้แหละ และผมก็ยกมือเหมือนคุณเลย แต่ผมถูกท่านด่าเอาว่า...เธอคิดว่าวิชานี้เหมือนโสเภณีหรือ  ไม่มีคุณค่าเลยหรือ  ฟังแล้วอึ้งกิมกี่เลยอ่ะ  บางครั้งคนที่มาดูจะมีชีวิตที่กำลังมีปัญหามากหรือไม่ก็เป็นเพื่อนพ้องน้องพี่ ป้าไม่ใช่เจ้าหนี้ใจโหดขนาดนั้น  อีกอย่างเราสามารถทำบุญช่วยเค้าได้ทางหนึ่ง  หลังจากนั้นเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจที่ครูสั่งมา  ป้าก็มีเก็บตังค์บ้าง แต่เอาไปทำทานหมด เงินพวกนี้เป็นเงินร้อน เหมือนเราไปรู้เรื่องที่เค้าไม่อยากให้เรารู้  มีบางคนที่ฐานะไม่คล่องตัวนักป้าก็จะบอกให้เค้าไปทำทานแทนป้าไปเลย ใครดูแลพ่อแม่ดีดีก้ให้เอาไปให้พ่อแม่เค้านั่นและ  เค้าจะได้ยิ่งเจริญ

ส่วนใหญ่คนที่มาดูนั้นมักมีทุกข์จนออกนอกหน้า บ้างก็เล่าพรรณนาให้ฟังจนบางทีไม่ได้ถามอะไรหรอก  หมอดูนั้นกลัวคนอยู่หนึ่งประเภทต่อให้เก่งยังไงก็กลัว เพราะกลัวดูพลาด  คนแบบไหนๆใครๆก้อยากรู้  คำตอบคือคนนิ่งๆ  มานั่งเฉยๆไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร แล้วไม่ถามด้วย อันนี้ป้าก็ทดสอบหมอดูมาหลายสำนักแล้ว(สมัยที่ยังไม่ได้เรียน)

ฉะนั้นใครที่ยังอยากไปดูหมอนั้นควรเตรียมตัวดังนี้(ยังกะไปสอบเข้าอะไรสักอย่างเนอะ)

หนึ่ง แต่งตัวสวยๆ ให้พอดีๆ อย่าปล่อยตัวให้โทรมเด็ดขาด เพราะเค้าจะทักเรื่องร้ายๆให้คุณต๊กกะใจได้ง่ายๆโดยเฉพาะพวกดูโหวงเฮ้ง  ใครมีเครื่องประดับแต่งองค์ทรงเครื่องดูมีราคาหมอดูไม่เก่งจะเสร็จไปเลย

สอง เมื่อเจอคุณหมอ ทักทายแต่พองาม ไม่ควรรีบเล่าเรื่องตัวเองให้คุณหมอฟัง  เพราะคุณหมอที่เป็นของแท้ควรจะดูและรู้เรื่องราวของคุณจากสิ่งที่เป็นแผนที่ในชีวิตได้ดีกว่า อันนี้เป็นการทดสอบคุณหมอว่าแน่จริงป่าวไปในตัวด้วย

สาม ฟังอย่างมีสติ ใครที่รู้ตัวว่าจิตอ่อน จิตตกง่าย  ไม่ควรดูหมอเด็ดขาด  อันนี้เพราะคนฟังสามารถเป็นอย่างที่หมอดูบอกเพียงเพราะมีจิตอุปาทาน  จริงแล้วเรื่องนี้ควรต่อว่าพวกแม่หมอพ่อหมอทั้งหลายด้วย  พวกนี้มักมาแปลกๆ มักพูดเรื่องร้ายๆให้กลัว เมื่อกลัวเพราะกำลังมีปัญหาอยู่แล้วยิ่งกลัวหนัก คราวนี้พอบอกให้ทำอะไร ก็ยอมทำแต่โดยดี อันนี้ป้าขี้เกียจสาธยายเพราะฟังเพื่อนๆที่ไปทำตามแล้วได้แต่ปลง  จบมาก็สูง  เฮ้อ!

สี่ กรณีเป็นพระ ห้ามไปดูเด็ดขาด จริงๆแล้วพระท่านมาบวชเพื่อตัดสงสาร(การเวียนว่ายตายเกิด)ไม่ใช่มาบวชเพื่อลาภสักการะ  และพระองค์นั้นได้ผิดวินัยสงฆ์เรียบร้อยแล้ว(โปรดศึกษาเรื่องมหาศีล มีข้อห้ามไม่ให้พระดูหมอเด็ดขาด)  เรื่องนี้เพื่อนป้ามีมี่เกือบเสียท่าพระรูปนึงไปแล้ว  ท่าน(ใจไม่อยากเรียกท่านหรอก เพราะสิ่งที่ท่านทำนั้นได้ขาดจากความเป็นสงฆ์แล้ว)เรียกค่าทำพิธีสามหมื่น โชคดีที่คุณเธอโทรมาปรึกษาเสียก่อน

ห้า หมอดูแก้กรรมนั้น อย่าไปเชื่อเด็ดขาด กรรมใครกรรมมัน เดี๋ยวนี้มีรู้รายละเอียดของกรรมอีกด้วยว่าชาติก่อนๆนู้นทำอะไรมาบ้าง  อันนี้หมอดูท่านนี้กำลังคิดว่าตัวเองแน่เท่าพระพุทะเจ้าเชียวนะเออ  หมอดูซิกส์เซ้นส์นั้น  ฟังแล้วหมั่นไส้มากอ่ะ จริงๆแล้วทุกคนมีซิกส์เซ็นส์  สามารถพัฒนาได้ทั้งนั้น  อิทธิฤทธิ์ทั้งหลายนั้นอยู่ภายใต้กฎความไม่เที่ยง(ถ้าท่านไม่บริสุทธิ์จริง)  ยิ่งถ้าศีลห้าอย่างน้อยไม่สมบูรณ์  ไอ้ที่ว่ารู้น่าจะรู้แบบมัวๆมั่วๆมากกว่า  ใครจำเรื่องพระเทวทัตได้บ้าง  ขนาดเหาะได้แล้วฌานยังเสื่อมได้เลย   

 หก เมื่อดูไปแล้วก็ฟังไปก่อน อย่าเพิ่งไปเชื่อ อะไรที่เขาแนะนำดีๆก็ทำตามกำลัง

วันเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เองค่ะ  ใจเย็นๆ

Create Date : 18 มิถุนายน 2553
Last Update : 18 มิถุนายน 2553 17:48:38 น.		7 comments
Counter : 1009 Pageviews.
Share Tweet