ลูกใครก็ไม่น่ารักเท่าลูกตู
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
1 เมษายน 2551
 
 
เกาลัคไปโรงเรียนวันแรกจ้าาาา

ไปงานสัปดาห์หนังสือมา

เดี๋ยวนี้ เวลาไปงานหนังสือ 80-90% ของหนังสือที่ซื้อ จะเป็นของลูกซะหมดเลย


เช้าวันนี้ (1/4/2008)เกาลัคจะไปโรงเรียนวันแรกแล้ว
ไม่รู้จะเป็นไงมั่ง

อย่างที่เคยบอก ตอนไปสมัครเนอสเซอรี่ ที่ละอออุทิศนี่
จ่ายตังเสร็จเค้าก็ไล่กลับเลย ให้มาอีกทีวันที่หนึ่ง ค่อยมาฟังระเบียบการ
ชุดนักเรียน ชุดนอน อุปกรณ์การเรียน อะไรต้องเตรียมยังไงก็ไม่บอกซักคำ
แค่บอกว่าวันที่หนึ่งให้ผู้ปกครองอยู่ด้วยครึ่งวันก็กลับบ้านได้ อ่า..
ไม่รู้เราเข้าใจผิดไปเองรึเปล่า ถ้าไม่ใช่ละก็แย่แน่เลย

เอาเท๊อะ..เดี๋ยวก็รู้ ว่าหมู่รึจ่า
แล้วจะกลับมาเล่านะจ๊า

*********************************************

คืนวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม
ปกติเกาลัคจะนอนสี่ทุ่มตื่นแปดเก้าโมงเช้า
แต่สองวันนี้พยายามขยับเวลาขึ้นนิดหน่อย
กลางคืนเตรียมชุดที่จะต้องใส่พรุ่งนี้ไว้ จัดกระเป๋าไว้
มาม๊าตื่นเต้น เกาลัคจะไปโรงเรียน นอนไม่หลับอ่ะ
กว่าจะหลับก็ตีสามกว่าจะตีสี่ละ เว่อร์ซะไม่เมียะ

วันอังคารที่ 1 เมษายน
ตื่นหกโมงเช้าจับเกาลัคและมิเลนอาบน้ำแต่งตัว
ข้าวเช้าให้เกาลัคกินน้อยหน่อย เพราะผิดเวลา
ปู่ย่าให้พรพร้อมค่าขนม1000บาท(ปาป๊าเก็บซะเลย )
เดินออกมานั่งรถแท๊กซี่ไปโรงเรียน เพราะเชื่อว่าคงไม่ีมีที่จอดเป็นแน่
ถึงละอออุทิศก็เจ็ดโมงกว่า็เกือบแปดโมง
ดูรายชื่อแล้ว ห้องของนลเป็นเนอสเซอรี่ห้องห้า
เป็นห้องที่อยู่บ้านสีชมพูถัดจากบ้านเขียว
บ้านสองหลังนี่จะแยกออกไปจากตึกเรียนต่างหาก
ดูแล้วก็น่าจะดีกว่า เพราะถ้าอยู่ห้องในตึกเรียนเสียงจะดังถึงกันข้ามห้องง่าย
กับที่นี่มีห้องนอนแยกอยู่ชั้นสองพร้อมห้องน้ำทั้งสองชั้น
ปาป๊าเลยชอบกว่าห้องในตึกซะอีก เรียกว่าโชคดีไม๊เนี่ย

ตอนเดินมาถึง ยังไม่ค่อยมีใครมาเท่าไหร่เลย
มีเด็กมาถึงแล้วแค่สองสามคนเอง(จากสิบเก้าคน)

ก็คิดอยู่แล้วล่ะนะว่าวันนี้คงต้องได้เห็นเ็ด็กร้องไห้แน่ๆ
แต่ว่า.. อะไรกันเนี่ย เดินเข้าห้องปั๊บ ก็มีเด็กนั่งร้องไห้หาแม่อยู่แล้วคนนึง!
อ้าวแล้วแม่ไปไหนเนี่ย (เห็นว่าแม่ทำงานอยู่ในราชภัฏฯ)
เด็กคนอื่นๆมีทั้งพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย มั่งล่ะ มากันเยอะแยะไม่ยอมห่างด้วยซ้ำ

ตามแพลน วันนี้โรงเรียนจะให้ผู้ปกครองอยู่กับเด็กครึ่งวัน แล้วก็เอาเด็กกลับบ้านได้เลย พรุ่งนี้วันที่สองค่อยมาส่งเด็กเฉยๆ(ไม่ให้อยู่ด้วยละ)

สักเก้าโมงเด็กๆรวมผู้ปกครองก็เริ่มมากันเต็มห้อง
เด็กๆส่วนใหญ่ก็จะหาของเล่นมาเล่นใกล้ๆพ่อแม่ ยังไม่เล่นด้วยกันเท่าไหร่
มีเด็กผู้ชายคนนึงเก่งจัง ไม่มีผู้ปกครองมาด้วยก็นั่งเล่นเองได้
อ๋อ..เค้าเรียนเนอสมาตั้งแต่ขวบครึ่ง(ปีนึงแล้ว)ตะหากถึงเก่ง

แต่เด็กผู้หญิงอีกคนก็เด็กเก่า แตยัง่ร้องหาแม่อยู่เลย
ครูบอก ของอย่างนี้อยู่ที่เด็กค่ะ บางคนก็ร้องทั้งเทอมเลย
แต่ยังไงก็ต้องร้องทุกคนมากน้อยต่างกันไป ไม่ร้องสิแปลก อ่านะ

พอซักสิบโมง เอ..มองๆดู ทำไมคนบางๆตา
อ๋อ..ที่แท้ มีผู้ปกครองบางคนเริ่มแอบหลบไปบ้างแล้ว
บ้างก็นั่งรอข้างนอก บ้างก็แอบชะเง้อมองลูกตัวจากนอกหน้าต่าง
งั้นเดี๋ยวเราเอามั่งดีกว่า ซ้อมไว้ๆ

คิดแล้วก็เข้าไปบอกลูก
"นลครับ เดี๋ยวมาม๊าไปห้องน้ำแป็บนึงนะ เล่นตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวมา๊ม๊ามา"
พอนลพยักหน้ารับรู้เราก็หลบมาข้างนอก แอบมองหน้าต่างหลบหลังต้นไม้มั่ง
สักสิบนาที เห็นลูกเริ่มๆมองหา เดินหันไปหันมา ก็รีบเดินเข้าไป

เอาใหม่ๆ ลองอีกที คราวนี้บอกเดี๋ยวปาป๊ามาม๊าไปทำงานเดี๋ยวมารับ
สักสิบนาทีเหมือนเดิม ..คราวนี้เดินออกมาหาที่ประตูเลย
พอเห็นเราก็บอก "ไปด้วยๆ" ...
เลยไปหลบละ นั่งอยู่ในห้องให้เห็นเฉยๆ แล้วไล่ให้ไปเล่นกับเพื่อนแทน

ตอนสายมีขนมเป็นคอนเฟล็กสตาร์ใส่นม เด็กๆนั่งตักกินเองกันทุกคนน่ารักจัง
ตอนสิบเอ็ดดโมงกินก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่เป็นข้าวเที่ยง ก็กินเองกันได้ มีอ้อนให้ป้อนกันมั่ง เด็กบางคนกินเก๊งเก่ง แต่บางคนก็กินยากหน่อย

กินเสร็จสิบเอ็ดโมงกว่าก็เริ่มๆกลับกันละ
ปาป๊าเล่าว่า อุ้มมิเลนไปเดินเล่นมา ได้ไปเดินดูห้องอื่นๆด้วย
เห็นห้องที่ติดๆกันที่ริมระเบียง มีผู้ปกครองออกันเยอะมากๆเลย
ยังกับตลาดนัดแน่ะ แล้วก็มีลำโพงร้องเพลงตลอด
เนื้อร้องทำนองว่า วันนี้มาโรงเรียนสนุกจัง อะไรเงี๊ยะ ไซโคกันน่าดู
แต่ละห้องๆ ก็มีร้องกระจองอแงกันดังขรมไปหมดทุกทิศๆ จนไม่รู้ดังมาจากห้องไหนกันแน่
พอเดินกลับมาถึงบ้านชมพู ก็เห็นผู้ปกครองยืนดูจากนอกหน้าต่างกัน
แล้วพอดีเห็นพ่อแม่คู่นึงยืนแอบดูลูกอยู่ แล้วอยู่ๆก็..ผลุ๊บ!..
ก้มหัวพร้อมกันเลย หลบลูกที่หันมาทางหน้าต่างไง..
เห็นแล้ว ก็ขำ เรื่องจริงๆของคนเป็นพ่อแม่ เป็นกันเยอะด้วยนะ
พอมาเล่าให้มาม๊าฟัง ..เอ ก็คล้ายๆกันเลยนิ..แหะๆ

สรุปวันนี้เกาลัคของมาม๊า(นลของปาป๊า) ยังไม่ร้องไห้นะ
ถ้าไม่นับที่ทำหน้าเศร้าๆตอนมองหาปาป๊ามาม๊าไม่เจอ
กับตอนที่โดนเด็กอีกคนแกว่งของเล่นไม้โดนหัวดังโป๊ก!..(แงเลยแหละ)
กลับมาปา๊ป๊าเป็นห่วงนิดหน่อยว่า นลไม่แย่งของเล่นคนอื่นเลย
แต่มีเด็กมาแย่งของเล่นจากมือนลบ่อยมาก อย่างนี้พรุ่งนี้ลูกจะเป็นไงน๊า
ถ้าเป็นเด็กเห็นแต่ตัวเองกล้าแย่งกล้าหยิบของจากคนอื่น ก็ดูเกเร
ถ้าเล่นเฉยๆ ให้แบ่งเพื่อนไม่แย่งคนอื่น แต่โดนคนอื่นแย่ง ก็ดูเป็นเด็กแหยๆ
เฮ้อ..จะอย่างไหนก็ไม่ดีทั้งนั้น จะสอนไงดีน๊อ...

แล้วมาเห็นเด็กร้องกรี๊ดๆ แงๆ จะเอาตามอย่างไม๊น๊อ
จะโดนเพื่อนแกล้งไม๊ จะติดหวัดเพื่อนไม๊น๊อ
พรุ่งนี้จะร้องไห้ไม๊น๊อ เฮ้อ กังวลจัง..

พอเที่ยงปุ๊บ ปู่ ย่า อาม่า ยาย อี๊ๆ ทยอยโทรมาถามกันใหญ่ ว่านลร้องไห้ไม๊
แฮ่ๆ นลคนเก่ง ใครๆก็รักก็เป็นห่วง น่าดีใจเนอะ


Create Date : 01 เมษายน 2551
Last Update : 4 เมษายน 2551 22:39:36 น. 4 comments
Counter : 843 Pageviews.

 
ส่วนมากเด็กไปโรงเรียนวันแรกจะร้องนะ ประมาณว่าร้องแข่งกันเลย พ่อแม่ไปส่งวันแรกต้องใจแข็งนิดนึง พออาทิตย์ผ่านไปจะดีขึ้น


โดย: thaigirl21 วันที่: 1 เมษายน 2551 เวลา:1:28:58 น.  

 
เป็นกำลังให้น้องเกาลัดนะคะ จะได้ไปโรงเรียนแล้ว เย้ๆ ว่าแต่คุณแม่จะแอบร้องไห้หาน้องเกาลัดมั้ยเนี่ย


โดย: Picike วันที่: 1 เมษายน 2551 เวลา:3:09:33 น.  

 
เค้าว่าโรงเรียนนี้เอาแต่ตังนะ ไม่ค่อยเรียน มีแต่กิจกรรมบันเทิงนะ จบอนุบาล 3 ยังอ่านไม่ออกเลยละนะ รู้มาก็บอกต่อกันไปละนะ


โดย: หวังดี IP: 203.113.0.222 วันที่: 1 เมษายน 2551 เวลา:13:06:27 น.  

 
สวัสดีครับพอดีไม่มีโอกาสอ่านเรื่องราวจากบล็อคนี้ แล้วไปสะดุดที่ความคิดเห็นของท่านหนึ่งที่ชื่อหวังดี...

จริงๆอยากให้ลองศึกษาการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยดูครับ การเรียนรู้ของเด็กเกิดขึ้นผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ ได้ลงมือปฏิบัติ ไม่ใช่จากการอ่าน และกิจกรรมที่จัดนี่ถ้าไม่บันเทิงเด็กจะสนใจไหมครับ??

แต่ผู้ปกครองส่วนมากขาดการศึกษา(แนวการเรียนรู้ของเด็ก) โดยคิดเสมอว่าเด็กที่สามารถอ่านได้ไวกว่า เขียนได้เร็วกว่า เป็นเด็กที่เก่ง เพราะเป็นสิ่งที่สามารถประเมินโดยง่ายได้ครับ

ระดับปฐมวันคือการเตรีรยมพร้อม ทั้งร่ายกายอารมณ์สังคมและสติปัญญา ที่นี้ลองคิดตามนะครับ กิจกรรมบันเทิงที่ท่าน หวังดี บอกเด็กได้พัฒนาทักษะอะไรบ้าง

ยกตัวอย่างกิจกรรม การแสดง (เห็นบล็อคเกียยวกับการแสดงเป็นนกด้วยนะครับ)
ด้านร่างการ เด็กได้เคลื่อนไหว ร่ายการ การใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก มัดใหญ่ในการทำท่าทางต่างๆ

ด้านอารมณ์การแสดงการเล่น เด็กเกิดเจตคติที่ดีต่อตนเอง ภูมิใจในตนเอง ฝึกการกล้าแสดงออก ....

ด้านสังคม การแสดง1การแสดงเด็กต้องฝึกไหมครับ ได้ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนไหมครับ ได้ปฏิบัติตามข้อตกลง รู้จักรอคอยคิดการแสดงของตนเอง....และรู้จักเชื่อฟังผู้อื่น

และสุดท้าย ด้านสติปัญญา เด็กเกิดความจำท่าทางในการแสดง ได้สื่อสารพูดคุยกับเพื่อนและครู ได้คิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้าขณะแสดงบนเวที ได้ทักษะต่างๆ เช่นเรียนรู้เกี่ยวกับพื่นที่ ทิศทาง สี....

การจัดกิจกรรมแต่ละกิจกรรมนี่ โรงเรียนต้องลงทุก และคุณครูเหนื่อยขนาดไหน สู้สอนในหนังสือไม่ได้ แค่ใช้เสียงขู่ให้เด็กกลัวและอ่าน ท่องๆ ขีดๆเขียนๆ....คิดเอาครับ

คุนหวังดีคิดว่า การอ่านของเด็กจะทำให้เด็กได้ทักษะเหล่านี้จริงๆหรือครับ

**เรื่องนานมาแล้ว 7-8 ปี แต่รู้มาก็เลยบอกต่อละนะ



โดย: หวังดีกว่า IP: 1.20.194.91 วันที่: 20 มกราคม 2559 เวลา:14:27:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

แมวกนล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






[Add แมวกนล's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com pantip.com pantipmarket.com pantown.com