วันนี้มีหนังสือที่อยากแนะนำอีกเล่มหนึ่งค่ะ จริง ๆ แล้วน่าจะเป็นสองเล่มเนอะ เล่มหนึ่งภาษาไทย เล่มหนึ่งภาษาอังกฤษ แต่ที่จริงยิ่งกว่าคือเรื่องเดียวกันค่ะ คุณโตมร ศุขปรีชาแปลมาจากงานพิมพ์ของ OSHO แต่แหม ดูเฉพาะชื่อเรื่องแล้ว ฉบับภาษาไทยตั้งชื่อเรื่องได้น่าเกรงขามมาก เกรงบารมีชื่อจนมองผ่านไปหลายรอบ คิดว่าน่าจะเป็นหนังสืออ่านยากจนไม่อยากอ่าน แต่เมื่ออ่านแล้ว วางไม่ลงค่ะ หนังสือใช้ภาษาได้สวยงามนะคะ แต่ที่งดงามยิ่งกว่าคือเนื้อหาและสาระที่สื่อผ่านออกมาจากมุมมองของบุคคลคนหนึ่งซึ่งมีวิธีคิดวิธีถ่ายทอดที่น่าทึ่งและกระตุกลึกเข้าไปในจิตวิญญาณของคนที่กำลังแสวงหาเพื่อการเติบโตงอกงามด้านในของตนเอง เนื้อหาเป็นเรื่องราวพูดคุยถึงบุคคลที่ผู้เขียนคิดว่าสำคัญต่อโลกในเรื่องของการพัฒนาด้านในของมนุษย์ ผ่านการ บรรลุธรรม ของศาสดาและนักปราชญ์ 20 ท่านในอดีตที่ผ่านมา ด้านหนึ่งเสมือนการวิพากษ์บุคคลจากร่องรอยซึ่งมีหลงเหลือจากอดีต มากบ้างน้อยบ้างตามแต่หลักฐานประจักษ์พยานและจิตวิญญาณแห่งความจริงบางอย่างที่ผู้เขียนสัมผัสและต้องการถ่ายทอด ในอีกด้านหนึ่งก็เหมือนการแนะนำเชิญชวนคนยุคปัจจุบันให้รู้จักบุคคลพิเศษต่าง ๆ ในหนังสือเล่มนี้ เป็นการเชิญชวนให้รู้จักทั้งสาระพิเศษบางอย่างที่ถ่ายทอดไว้เป็นคำสอน เป็นผลงาน หรือแม้กระทั่งเป็นตำนาน รวมทั้งเชิญชวนให้คนอ่านรู้จักตัวเองผ่านการตีความต่อสิ่งต่าง ๆ ที่ตนเองพบเจอด้วยสำหรับคนที่สนใจชีวิตด้านในแล้ว เป็นหนังสือที่น่าอ่านมากเลยค่ะสำหรับแฟนหนังสือโอโชในแบบฉบับแปลและเรียบเรียงโดยดร.ประพนธ์ ผาสุขยืดเล่มอื่น ๆ ก็อาจจะอ่านหนังสือเล่มนี้ผ่านอารมณ์ภาษาอีกแบบหนึ่งซึ่งอาจต่างกันไปบ้าง.. แต่เนื้อในแห่งข้อความที่ถ่ายทอดออกมานั้น ถ้ารู้จัก OSHO แล้ว ก็ไม่ควรพลาดเหมือนกันนะคะไม่อยากเขียนมากไปกว่านี้ค่ะ เพราะคิดว่า การเขียนถึงไม่ว่าในมุมใด ก็ล้วนแต่ผ่านการตีความของคนเขียนทั้งนั้น (ซึ่งแน่นอนว่ารวมถึงการแปลและเรียบเรียงด้วย) อยากแนะนำสำหรับคนอ่านให้ ตีความ เอาเองเอาเป็นว่า ขออนุญาตยกข้อความส่วนหนึ่งของหนังสือมาปิดท้ายตรงนี้ก็แล้วกันนะคะวันหนึ่ง ฮาซันไปหาราบิยา เขาเพิ่งเรียนรู้วิธีเดินบนน้ำ เขาจึงบอกกับราบิยาว่า เราไปเดินบนน้ำกัน จะได้สนทนาธรรมกันไปด้วย การสนทนาธรรมเป็นเพียงข้ออ้าง เขาอยากจะอวดราบิยาว่าเขาสามารถเดินบนน้ำได้ราบิยากล่าวว่า บนน้ำหรือ ฉันไม่สนใจเท่าไหร่หรอก เราไปเดินบนเมฆกันดีกว่า! เราจะได้นั่งบนก้อนเมฆแล้วสนทนาธรรมกัน ฮาซันกล่าวว่าแต่ฉันไม่รู้วิธีไปนั่งบนก้อนเมฆนี่ ราบิยากล่าวว่า ฉันก็ไม่รู้! แต่จะสำคัญอะไรเล่า ทำไมเราถึงไม่สนทนาธรรมกันเสียที่นี่ ทำไมต้องไปเดินบนน้ำหรือบนก้อนเมฆด้วยหมายเหตุ: ไม่มีรูปปกหนังสือมานะคะ แต่ยกคำโปรยหน้าปกมาแทน ดังนี้ค่ะหนังสือวิพากษ์แก่นธรรมะของชายที่อันตรายที่สุดถัดจากพระเยซู! คุรุวิพากษ์คุรุ เมื่อโอโชวิพากษ์การรู้แจ้งของ 20 ศาสดาและนักปราชญ์: * ท่านโพธิธรรม * พระพุทธเจ้า * ชิโยโนะ * จวงจื่อ * ไดโอนิซิอุส * คาลิล ยิบราน * เกอร์จิยา * เฮราคลิตุส * พระเยซู * กาบีร์ * พระกฤษณะ * เจ.กฤษณะมูรติ * เล่าจื่อ * มีรา * นิทเช่ * พิธากอรัส * ราบิยา อัล-อดาบิยา * รูมี * ซานาย * โสกราตีส * คำนำโดย ว. วชิรเมธีชื่อเรื่อง : คุรุวิพากษ์คุรุ (จากหนังสือเรื่อง MEETING WITH REMARKABLE PEOPLE)ผู้เขียน : OHSOผู้แปลและเรียบเรียง : โตมร ศุขปรีชาสำนักพิมพ์ : GM BOOKSพิมพ์ครั้งที่ 1 : เมษายน 2552ราคา 230 บาท
VDO ONLINE
NEWS ONLINE
แหล่งโปรโมทเว็บ