|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เรื่อง คนเหมือนกัน
เราคงต้องมาย้อนกลับไปในสมัยกรุงศรีอยุธยากันอีกสักครั้ง
หลายท่านคงจะรู้จักพระเจ้าเสือ พระมหากษัตริย์ที่ขึ้นชื่อเรื่องของพระทัยนักเลงของพระองค์ พระองค์ทรงพอพระทัยในการออกประพาตต้น ทางชลมาศอยู่เสมอ
มีอยู่ครั้งหนึ่ง พระเจ้าเสือทรงใคร่จะท่องเที่ยวไปทางลพบุรี จึงให้มีการจัดเรือพระที่นั่ง เป็นขบวนเล็ก ๆ ก็มีพวกฝีพาย พวกให้จังหวะหรือพวกเห่เรือ พันท้าน มหาดเล็ก และพวกนางสนมติดตามไปกันเป็นริ้วขบวน เรือพระที่นั่งก็พายไปเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ นกบินเฉียงไปเป็นกลุ่ม วันนั้นแดดร้องจัด เพราะอยู่ในฤดูร้อน พวกที่เห็นทีจะงานหนักมากก็พวก พลพายนี้หละ
ก็มีเจ้าพลพายคนหนึ่ง เป็นเพื่อนกับมหาดเล็ก ไอ้ตอนมาสมัครก็คิดว่าตัวจะได้ดี ที่ไหนได้ ดันมาได้เป็นพลพาย ส่วนเจ้าเพื่อนที่กินเล่น เติบโตมาด้วยกันยันได้เป็นมหาดเล็ก วัน ๆ ไม่มีอะไร ได้แต่นั่งปัดแมลงให้พระเจ้าอยู่หัว
พลพายทั้งหนัก ทั้งเหนื่อย เหงื่อท่วมตัว มันชัดขัดใจขึ้นมา ก็บ่นเปรย ๆ ขึ้นว่า "คนเหมือนกัน แต่ไม่ยักจะเหมือนกัน"
ที่เจ้าพลพายบ่นเช่นนั้น เพราะเห็นเพื่อนของตัว นั่งสัปงกไป หมุนพัดไป แถมยังได้นั่งในเงาฉัตรอีกด้วย
เสียงเจ้าเพื่อนยากบ่นเบา ๆ แต่พระเจ้าเสือ พระองค์เป็นกษัตริย์ที่พระกรรณไวใช่ย่อย แต่พระองค์ก็ทรงนิ่งเสีย ไม่ลงทัณฑ์เจ้าพลพาย
เรื่อพระที่นั่งมาถึงหน้าวัดแห่งหนึ่ง แสงอาทิตย์เริ่มอัศดง สายลมเอื่อย ๆ พัดพาละอองน้ำทำให้สดชื่นขึ้น หลวงยกกระบัตร ขึ้นไปเจรจาต้าอ่วยกับท่านเจ้าของวัดเป็นที่เรียบร้อย ขบวนประภาตต้นก็พากันขึ้นไปบนศาลาใหญ่ของวัด พวกต้นเครื่อง ปลายเครื่องก็จัดแจงเครื่องเสวยกันอย่างเร่งรีบ
พระเจ้าเสือ ทรงพักผ่อนอริยาบทบนศาลาหลังใหญ่ มีเหล่าสนมถวายงาน เจ้ามหาดเล็กนั่งปัดแมลงตามหน้าที่ ส่วนเจ้าพลพายก็นั่งหน้าสลอนอยู่แถว ๆ นั้น
ร่มไม้ไพรพฤษในบริเวณวัด ดูน่าภิรมณ์ยิ่งนัก เจ้าสกุนาเจื่อยแจ้ว จำนรรจาหยอกเย้าตามภาษาไพร หมู่ปลาซิบ ปลาส้อย มัจฉาน้อยต่างแหวกว่ายไปตามกระแสธาร
อยู่ ๆ ก็มีเสียงอะไรบางอย่างแว่ว ๆ มาจากใต้ถุนศาลา พระเจ้าเสือ พระองค์สงสัยใคร่จะรู้ว่า มันเป็นเสียงอะไร พระองค์จึงมีพระราชกระแสรับสั่งให้เจ้ามหาดเล็ด กับเจ้าพลพาย ลงไปดูดังว่า เป็นเสียงกะไร
พอเจ้าพลพายได้รับรับสั่งเช่นนั้น อารามดีใจจึงลุกวิ่งไปทันที ผิดกับเจ้าขันที เฮย มหาดเล็ก ดูเจ้าช่างเยื่องละย่าง อย่างบรรจง ดุจหงส์เหมาราช ไม่รีบร้อนแต่ประการใด ตามมารยาทชาววังใน
ยังไม่ทันถึงหัวกระได เจ้าพลพาย วิ่งแฮก ๆ สวนขึ้นมาและวิ่งไปหมอบกราบบังคมทูลว่า "พระอาณาไม่พ้นเกล้า สุนัขทรงพระคลอดบุตร พระเจ้าข้า"
" รึ ทรงพระคลอดกี่ตัวละ"
เจ้าพลพายไม่ฟังรับสั่งต่อ รีบวิ่งลงกระไดราวพายุ เมื่อลงไปแล้วยังเห็นเจ้ามหาดเล็กเพื่อนเกลอยังนั่งยอง ๆ ดูหมาออกลูกอยู่ ก็รีบนับจำนวนลูกหมาที่คลอดได้แล้ว รีบวิ่งขึ้นไปกราบทูลทันที
" สี่ สี่ตัว พระเจ้าข้า"
"รึ มีสีอะไรบางหรึ ?"
อีกแล้วมันไม่ฟังอีร้าค่าอีรม คิดแต่ข้าต้องรายงานก่อนเป็นใฃ้ได้ มันรีบวิ่งลงกระไดเว้นขั้น ไม่สนใจ หัวกระรั้ง ข้างจะแตก อย่างไร พอดีส่วนกับเจ้าเพื่อนเกลอ เห็นมันไม่รีบร้อนอะไร ได้แต่เดินย้วยระยาดจนน่าหมั่นไส้
เจ้ามหาดเล็กยังเดินไปไม่ถึงพระเจ้าเสือ เพื่อนพลพายรีบกระโดดแซงหน้าไปหมอบกราบบังคมทูลก่อนทันที "มีสีแดงสองตัว สีดำหนึ่งตัว สีขาวหนึ่งตัว สีด่างอีกหนึ่งตัว พระเจ้าข้า" หอบแฮก ๆ อยู่ที่นั้น
เจ้าพระเสือทรงหันไปดุเจ้ามหาดเล็กว่า "ทำไม่หรึ เจ้าจึงมารายงานช้านัก "
"ขอเดชะ พระอาณาไม่พ้นเกล้า เกล้ากระหม่อมที่มาช้า เพราะว่าได้เห็นเจ้าแม่หมายังออกลูกไม่หมดพระเจ้าข้า เกล้าจึงรอให้มันออกลูกหมดก่อนพระเจ้าข้า"
"รึ แล้วเป็นอย่างไรละ?"
"พระอาณาไม่พ้นเกล้า แม่หมาออกลูกทั้งหมดห้าตัวพระเจ้าข้า เป็นตัวเมียงสองตัว เป็นตัวผู้อีกสามตัวพระเจ้าข้า ตัวเมียมีสีดำ กับสีขาวเป็นลูกตัวสุดท้านที่มันออก ส่วนสีแดงสองตัว กับสีด่างเป็นตัวผู้ พระเจ้าข้า"
"รึ แล้วที่จริงมันมีกี่ตัวกันแน่ ?" ทรงหันมาถามเจ้าพลพาย
เจ้าพลพายหน้าซีดเหมือนดินสอพอง กลาบทูนอึกอักว่า "กระหม่อนไม่ได้นับตัวสุดท้ายพระเจ้าข้า"
พระเจ้าเสือจึงพูดว่า "รู้หรือยังว่า คนเหมือนกัน แต่ทำไม ไม่เหมือนกัน"
จบ.................
Create Date : 01 กันยายน 2554 |
|
0 comments |
Last Update : 28 กันยายน 2554 11:33:37 น. |
Counter : 1392 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
ข่าวจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
facebookฝากข้อความได้ครับ
|
หลับฝันดี
๑ หลับคืนนี้ฝันดีนะที่รัก...
หลับตาพักหลับตาฝันถึงวันใหม่...
หลับคืนนี้คนดีฝันถึงใคร...
รู้บ้างไหมฉันตั้งใจฝันถึงเธอ...
|
|
|
|
|
|
|
|