Two individuals, one person;

Two bodies one soul;

Two journeys, one reason;

To be one, to be all.




Two coppers for bread and flower







Flowers in My bedroom ,20050214




"If you own two coppers .. said Li-Ti on a journey,
Buy one loaf of bread and one blossom,
The bread is there to fill you,
The blossom you buy is to tell you,
that life is worth the living."


ถ้าคุณมีเงินอยู่สองตำลึง ..
ให้นำไปซื้อ ขนมปัง กับ ดอกไม้ ..
ขนมปัง ทำให้คุณอิ่มและมีแรงสำหรับการเดินทาง
ดอกไม้ สำหรับกำลังใจ และบอกคุณว่า โลกใบนี้ สวยงาม และมีคุ้มค่าสำหรับการมีชีวิตอยู่

...
ขอแปลไม่ตรงตัว แต่แปลตรงกับความรู้สึกของฉันเอง : ฉันใช้หน่วยเงินเป็นตำลึงละกันนะ จะได้ดูเข้ากันนกับหลี่ถี่ นักปราชญ์ผู้มีพรสวรรค์ชาวจีน จะใช้เป็นบาทก็กระไร .. มันคงซื้อขนมปังกับดอกไม้ไม่ได้แน่ๆ :P

กลอนของ Harry ง่ายๆ เข้าใจไม่ยาก .. แต่แฝงความหมายไว้ค่อนข้างลึก (ลุงแกเป็นใคร อะไร ยังไง ไปสืบประวัติได้ในบล็อกก่อนหน้านี้ละกันนะจ๊ะ ^^) แต่สิ่งที่ฉันชอบมากๆ ในกลอนของ Harry ก็คือ .. ไม่ว่าจะมองจากมิติไหน ความรู้สึกที่ได้ คือ ความรู้สึกที่ดี มุมมองดีๆ ที่เรามีต่อโลกใบสีน้ำเงินใบนี้ ..
ถ้ามองกลอนบทนี้จากมุมตรง .. ความหมายที่สื่อออกมา ก็ตรงตามทุกตัวอักษร .. ถ้าคุณมีเงินอยู่แค่นี้ สิ่งที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับการใช้เงิน ก็คือ ซื้อขนมปังและดอกไม้ ขนมปังทำให้คุณหายหิว และดอกไม้ทำให้เราสบายใจ .. มันเป็น Fact ที่มองเห็นได้ง่าย .. และ ได้ความรู้สึกที่ตรงกันทุกคน คือ อิ่ม และ สุขใจ :)..

แต่ถ้าหันมามองในมุมลึก .. Harry เปรียบ "Journey" หรือ การเดินทางในบทกลอน คือ ช่วงเวลาในชีวิตของคนเรา .. คนเราทุกคนเริ่มเดินจากจุดเริ่มต้น เดินไปตามเส้นทางของเราเอง เพื่อไปจบลงที่จุดสุดท้ายจุดเดียวกัน หลี่ถี บอกว่า ในระหว่างที่เราเดินทาง .. ให้ใช้ "Coppers" ที่เรามี กับสิ่งสองสิ่งที่น่าจะคุ้มค่าที่สุด ..

Harry วางความหมายของ Coppers ไว้เป็นตัวแทนของสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของคน ..นั่นก็คือ "เวลา" .. ทุกวินาทีที่ผ่านไป เราใช้เวลาไปเรื่อยๆ และ "Coppers" ของพวกเราก็หมดลงเรื่อยๆ เช่นกัน

ดังนั้น ในระหว่างการเดินทาง สิ่งที่คุ้มค่าที่สุด คือ การซื้อขนมปังเพื่อประทังความหิว … "ขนมปัง" ที่เราลงทุนซื้อก็คือ หน้าที่ การงาน ที่เราทุกคนสละเวลา ลงทุนเพื่อให้ได้เงิน หรือสิ่งของอะไรก็ตามที่เราจำเป็นต้องใช้ในการดำรงชีวิต ในโลกของความเป็นจริง ..ขนมปังทำให้เราอิ่ม ทำให้เราอยู่ได้ โดยไม่รู้สึกหิว กระหาย อดตาย .. แต่ขนมปัง ไม่ได้ทำให้เราสบายใจ มันแค่ผ่อนคลายความทุกข์ทางกายเท่านั้นเอง

ดังนั้น ดอกไม้ ก็จะเป็นอะไรไม่ได้ นอกจาก ความฝัน การได้ทำอะไรก็ตามที่เรารัก ที่หัวใจต้องการจริงๆ เปรียบเสมือนการลงทุนซื้อดอกไม้ มันไม่ได้ทำให้คุณอิ่ม มันไม่ช่วยให้คุณพ้นจากสภาพความหิวโหยได้ แต่มันช่วยทำให้หัวใจอบอุ่น ทำให้เรารู้จักตัวเอง ทำให้เรามองโลกในมุมที่สวยงาม ..
การที่เราเสียสละเวลาจากการทำงานส่วนหนึ่ง หันมาค้นหาตัวเอง เติมความสุขเล็กๆให้กับตัวเอง ความสุขที่ได้ มันเหมือนแบตเตอรี่ที่ช่วยชาร์จพลัง ให้เราพร้อมสำหรับการเดินทางครั้งใหม่ที่มันอาจจะไม่ง่าย แต่ในเมื่อกำลังใจเราเต็มเปี่ยม หนทางจะลำบากแค่ไหน ก็พร้อมที่จะก้าวต่อไป ใช่ไหม? :) ..

กลอนง่ายๆ แค่ห้าบรรทัด บอกคนทุกคนว่า .. ใช่ ..เราทุกคนต้องทำงาน เพราะเราต้องหาเงินมาเพื่อการดำรงชีวิตอยู่ในโลกความเป็นจริงที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ .. ใช่ เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตต้องจ่ายไปกับการทำงานแลกเงิน เพื่อให้ปากกินท้องอิ่ม
.. แต่ หน้าที่การงานที่ "ต้องทำ" กับ สิ่งที่ "อยากทำ" ไม่ใช่สิ่งเดียวกันแน่ในชีวิตของคนหนึ่งคน และ ที่สำคัญ เงินไม่ใช่สิ่งเดียวในชีวิต จนถึงกับต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อให้ได้ "เงิน"ที่พ่วงมากับ "ความเหนื่อย" "ความท้อ" จนทำให้เรามองโลกใบนี้มีแต่สีเทาหม่นๆ ไม่สดใส

เสียสละ "Coppers" สำหรับสิ่งที่คุณอยากทำบ้าง กินขนมปังแค่พออิ่ม ..เอา "เวลา" ที่เหลือ ไปซื้อดอกไม้สวยๆ ซักดอก แล้วจะรู้ว่า มันคุ้มค่าแค่ไหน สำหรับการแลกเปลี่ยน และ ความหมายของการมีชีวิตอยู่บนโลกใบสวยๆ ใบนี้ ...


_______________________________________________________________________________________

นี่คือที่มาของกลอนบทโปรดของฉัน .. :)


แล้วคุณล่ะ ถ้าคุณมีเงินอยู่สองตำลึง .. นอกจากขนมปังแล้ว .. จะซื้อ "ดอกไม้อะไร" ให้ตัวเองดี ?

คำถามนี้ ใครก็ตอบไม่ได้ .. นอกจากตัวเอง ;)



Pablo Picasso ,20050312


โปสการ์ดที่พูดถึงเมื่อวาน :) ภาพที่อยู่ในรูป เป็น Selfportrait นะ .. คือ Picasso เค้าวาดรูปตัวเองอ่ะค่ะ .. ^^ ศิลปินนี่เค้ามีความคิดสร้างสรรค์ไม่จำกัดจริงๆ แบบนี้นี่เองที่เค้าเรียกว่า Gift From Heaven..




ก่อนไปนอน .. เอาปัญหามาทิ้งไว้ให้ทาย (อันที่แล้ว ที่เป็นรูปตัวอักษร NO FEAR ยังไม่ได้เฉลยนะ .. จำได้ว่าถามทิ้งไว้ ยังไม่ลืมนะ แต่ยังไม่เฉลยดีกว่า อิอิ)



รูปนี้ตั้งใจจะถ่ายอะไร .. (ข้อนี้คงไม่อยากเท่าไหร่)
และ มันคืออะไร (อันนี้ยากนิดนึงเนาะ ให้เป็น optional สำหรับคำถามอันนี้ ตอบก็ได้ ไม่ตอบก็ได้ อิอิ)
และทำไมถึงคิดว่าเป็นคำตอบนี้ .. (โอ๊ะ เหมือนข้อสอบข้อเขียนเลยแฮะ .. มันก็ต้องมีเหตุมีผลประกอบกันบ้างละน่าา เนอะ ^^)






.
.
Good Night! ^^

"Buy a blossom!,believe me :D" ,20050219
_________________________________________________________



เพลงประกอบ .. ชื่อเพลง: มีเพียงเรา / Singer : Pause (เพลงนี้ชอบมากๆ ฟังแล้วคิดถึงอากาศหนาวๆ ที่เชียงใหม่ หอหญิงหกที่มอชอ .. และชีวิตสมัยปีหนึ่ง :) )



Create Date : 16 มีนาคม 2548
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2549 6:02:11 น. 21 comments
Counter : 543 Pageviews.

 
ดอกไม้ทำให้โลกสดใสค่ะ ^^ ...


โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 16 มีนาคม 2548 เวลา:7:51:26 น.  

 
หน้าที่การงานที่ "ต้องทำ" กับ สิ่งที่ "อยากทำ" ไม่ใช่สิ่งเดียวกันแน่ในชีวิตของคนหนึ่งคน
ไม่จริงเสมอไปมั้งครับ
ผมว่า มีหลายคนในโลก ได้ทำงานที่ตัวเองรัก และสิ่งที่"ต้องทำ" ของเค้า จึงเป็นสิ่งที่เค้า"อยากทำ"
ซึ่งคนแบบนั้น น่าจะเป็นคน find ไม่ใช่คน seek


โดย: I find IP: 211.5.226.130 วันที่: 16 มีนาคม 2548 เวลา:8:48:01 น.  

 
นอนหลับฝันดีนะคะ

^----^


โดย: prncess วันที่: 16 มีนาคม 2548 เวลา:9:51:59 น.  

 
คราวที่แล้วอ่านกลอนบทนี้ก็คิดว่าตัวเองเข้าใจแล้วนะ วันนี้อ่านที่เธอเขียนแล้วมันลึกกว่าที่เราคิดตรงที่ bread=time น่ะ...เราเห็นด้วยเลย

ถ้าซื้อแต่ขนมปังชีวิตก็คงไร้สีสัน อยู่ไปวัน ๆ
ถ้าซื้อแต่ดอกไม้ก็หิวตาย อดอยู่ดูความสวยงามของชีวิตนาน ๆ

รูปนี้ขอเดาว่าถ่ายห้องน้ำ เหตุผลก็คือเธอเคยเล่าให้ฟังว่ามันมีห้องน้ำสาธารณะที่ผลุบโผล่ได้ ตอนนี้มันผลุบอยู่ใต้ดินน่ะ แล้วเธอลืมเข้าห้องน้ำมาจากบ้าน...ระหว่างรอให้ห้องน้ำมันโผล่ขึ้นมาก็ถ่ายรูปไว้เล่น ๆ (ไง...จินตนาการบรรเจิดมะ)


โดย: นทก. (flyasyou'refree ) วันที่: 16 มีนาคม 2548 เวลา:12:52:01 น.  

 
ท่าทางดอกทิวลิปแถวนั้นจะถูกนะครับ :P


โดย: Mr. Rabbit IP: 24.126.151.180 วันที่: 16 มีนาคม 2548 เวลา:14:31:46 น.  

 
ดอกไม้ทำให้โลกสดใสจริงๆค่ะ ไม่ซื้อเก็บตังค์ไว้ก่อน
ดอกหญ้าก็สวย แถมไม่เสียเงิน อิอิ ^_^


โดย: อยู่ไกลบ้าน วันที่: 16 มีนาคม 2548 เวลา:14:40:13 น.  

 
^
^
เนื่องมาจากคุณ I Find :)

เออ มันมองได้หลายมุมเหมือนกันเนอะ .. เป็นบทเรียนที่ดีสำหรับการเขียนของฉันเลย :D
--> หน้าที่การงานที่ "ต้องทำ" กับ สิ่งที่ "อยากทำ"
ย้อนกลับมาอ่านอีก ก็เลยรู้ว่า ประโยคมันมีมิติ ..

จริงๆ ฉัน Focus การมองของฉันมาที่ "ระหว่างทาง" ที่เราเดิน มากกว่า "ทาง" ที่เราไป
ฉันมองว่า อาชีพ หรือ หน้าที่การงาน เป็น "ทาง" เส้นนึงที่เราเลือกเดิน .. แต่ Bread & Flower เป็น ปัจจัยระหว่างที่เรา "เดินทาง" ..ใน journey ของเรา ..(แต่ฉันเขียนสื่อไม่ตรงเอง ^^" ขอน้อมรับในความผิดพลาด)

ยกตัวอย่างดีกว่า..

อยากเป็นนักเปียโน แต่ที่บ้านอยากให้เป็นหมอ เพราะว่าได้เงินเยอะกว่า มั่นคงกว่า .. นี่คือเส้นทางที่เราเลือกเดินทาง .. ถ้าเราเลือกเดินทางในเส้นของ "นักเปียโน" ปัจจัยระหว่างทางที่ขาดไม่ได้คือ buy a bread การหาเงินเพื่อเลี้ยงชีพ คุณนักเปียโน ก็อาจจะต้องไปเล่นเปียโน ตามร้านอาหารตอนกลางคืน หรือไปสอนพิเศษเปียโนที่โรงเรียนการดนตรี .. เมื่ออะไรที่มันเป็น "อาชีพ" หรือ "หน้าที่การงาน" บุคคลอื่นก็จะเริ่มมีอิทธิพลเข้ามาในชีวิตคุณ เช่น เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน .. บางอย่างอาจจะไม่สิ่งที่คุณนักเปียโน "อยากทำ" นัก ..

ในเมื่อ Buy a bread เพื่อเลี้ยงชีพแล้ว หลี่ถี เลยแนะนำให้เสี่ยง buy a flower บ้าง เช่น สละเวลาการสอนเปียโนสิบแปดชั่วโมงต่อวัน ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ มาเป็น หนีไปเที่ยวทะเล วาดรูป ฟังเพลง หรือจะ buy a bunch of flowers เก็บเงินก้อนนึง ไปเยี่ยมบ้าน Mozart ผู้เป็นศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจ

การ buy a flower เป็นสิ่งไม่ทำให้อิ่มกาย แต่มันทำให้อิ่มใจ และคุ้มค่าที่จะยอมเสี่ยงเสีย coppers ที่มี ซื้อมันมา ทั้งที่มันก็อยู่ได้ไม่นาน สุดท้ายก็ต้องเหี่ยวไป บางคนอาจจะคิดว่า เก็บไว้ซื้อ bread อีกก้อนไม่ดีกว่าหรือ ซื้อทำไม flower มันไม่จำเป็น ยังพอทนเดินทางไหว ก็ไม่จำเป็นต้องมีหรอก (ประมาณนั้น) ..

สำหรับฉัน

Buy a bread คือ การทำงาน ซึ่งเป็นงานที่ฉันชอบ บนทางที่ฉันเลือก
Buy a flower คือ การไปเที่ยวในที่ที่ไม่เคยไป เขียนกลอน อ่านหนังสือ ฟังเพลง ปลุกต้นไม้ ทำเทียนหอม ทำสบู่ ฯลฯ just a little thing in your life

:)

แต่ฉันสนับสนุนความคิดของคุณ I find นะ คนแบบนั้นเป็น คนที่ find ไม่ใช่ seek จริงๆ ค่ะ

|------------------------------------------------|
ทางที่อยากทำ :A ทางที่ต้องทำ(เพราะพ่อแม่อยากให้ทำ หรือ เพราะได้เงินเยอะกว่า หรือเพราะสังคมยอมรับกว่า.. whatever) :B

---------------|----------|-----------------------
A B
ใกล้เคียงนิดนึง เช่น อยากเป็น Developer พ่อแม่อยากให้เป็นครู เพราะเป็นอาชีพมั่นคงและมีเกียรติ .. solution ->เป็นอาจารย์สอนคอมพิวเตอร์



----------------------|----------------------------
A
B

Perfect!

You found it!





ขอบคุณทุก comment ค่ะ ไปทำงานล่ะ :)


โดย: chirala IP: 81.227.205.75 วันที่: 16 มีนาคม 2548 เวลา:14:49:17 น.  

 
เป็นบทความที่ยิ่งใหญ่มาก

อ่านแล้วอยากเปิดร้านดอกไม้

ปล.รูปสุดท้าย ถ้าเป็นเราจะถ่ายม้านั่งกับหิมะค่ะ
คุณคงถ่ายเหมือนกันมั้ง..


โดย: คนสวย (ทำใจได้ ) วันที่: 16 มีนาคม 2548 เวลา:16:29:14 น.  

 
อ่านจบแล้วขอไปทานพาราซักสองเม็ดครับ ดึกแล้วสมองมัน on strike ไว้พรุ่งนี้จะมาซึมซับใหม่ครับ

ส่วนในรูปก็ขอเอาว่าเขาเอาเชือกมากั้นม้านั่งไม่ให้คนมานั่ง มิเช่นนั้นน้ำแข็งอาจตกลงมาเจาะหัวเอาได้ครับ


โดย: Lon3r วันที่: 16 มีนาคม 2548 เวลา:23:21:51 น.  

 
ขอบอนุญาต add Blog ครับ จะได้ตามหาง่ายๆหน่อย :-)


โดย: Lon3r วันที่: 16 มีนาคม 2548 เวลา:23:22:27 น.  

 
เอดิสัน บอกกับผู้ร่วมงานตอนที่ทดลองล้มเหลวเป็นครั้งที่ 1000 ว่า อย่างน้อย เราก็ได้รู้วิธีที่ทำให้ไม่สำเร็จตั้ง 1000 ทาง
บิล เกตส์ บอกว่า ความสำเร็จ เป็นครูที่เลวมาก เพราะมันหลอกลวงคนฉลาดๆว่า เขาไม่มีทางแพ้ ( Success is a lousy teacher. It seduces smart people into thinking they can't lose. )

เชื่อว่าคุณ chirala คงเห็นความผิดพลาดเป็นครูที่ดี ถึงได้ออกมาตอบแบบสบายอารมณ์แบบนี้
อันที่จริง ผมไม่ได้คิดจะจับผิดอะไรเลย เพียงแค่เสนออีกหนึ่งมุมมอง เท่านั้นเอง :)

สำหรับผม การได้มาอ่านที่ blog นี้ ก็เป็นการ buy a nice flower เหมือนกัน :D


โดย: I find IP: 138.243.201.2 วันที่: 16 มีนาคม 2548 เวลา:23:35:28 น.  

 
มีครึ้มอกครึ้มใจซื้อดอกไม้ให้ตัวเองเหมือนกัน (แต่จริงๆแล้ว ชอบเวลาที่คนอื่นซื้อมาให้มากกว่า แหะ.แหะ)

รูปทายไม่ถูกนะคะ


โดย: pennyworth วันที่: 17 มีนาคม 2548 เวลา:4:26:06 น.  

 


ซื้อดอกไม้ค่ะ (ปกติก็ชอบซื้อต้นไม้มาเรื่อยๆ อยู่บ้างตายบ้างไปตามเรื่องค่ะ)


โดย: หญ้าหนวดแมว วันที่: 17 มีนาคม 2548 เวลา:5:24:23 น.  

 
เมื่อวานแวะเข้ามาแล้วตามคุณ Lon3r ไปกินพารามา 2 เม็ด

วันนี้มาใหม่ค่า อิอิ



สำหรับตัวเอง...
ซื้อทั้งขนมปัง และ ดอกไม้ ทุกวันค่ะ

อาจเป็นเพราะโชคดี ได้ทำงานในที่ที่มีทั้งขนมปังและดอกไม้ให้ได้ซื้อ

แต่พออ่านบล๊อกของคุณ
บอกกับตัวเองว่า..

ต้องเปลี่ยนรสชาติขนมปังบ้าง
ต้องซื้อดอกไม้สีอื่นบ้างแล้วหล่ะ




ปล. ประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ก็เป็นประเทศในฝันของเราเหมือนกันค่ะ :D



โดย: ~nawo~ วันที่: 17 มีนาคม 2548 เวลา:8:26:34 น.  

 
มีร้านขายขนมปังที่แถมดอกไม้ ด้วยมั๊ยนะ จะได้ ทั้งสองอย่างเลยง่ะ แบบว่าท้องอิ่ม และ อิ่มตา อิ่มใจ ด้วย


โดย: พี่ทิพ IP: 202.47.247.130 วันที่: 17 มีนาคม 2548 เวลา:9:54:31 น.  

 
เป็นกลอนที่มีความลึกซึ้งดีครับ ผมอ่านครั้งที่แล้ว ผมยังแปลไม่ได้ขนาดนี้อ่ะ แต่ทำนองเดียวกันครับ พอมาอ่านที่พี่บรรยาย..อืม..จริงด้วยเนาะ ^^"

รูปคราวนี้ยากจัง ขอเดานะครับ พี่ต้องการถ่ายไอ้อะไรสักอย่างอยู่ใต้ม้านั่งอ่า ที่มันโผล่มานิดๆ ตรงกองหิมะ เหตุผล...ผมเห็นและสะดุดตากะสิ่งนี้เป็นอันดับแรกครับ แต่ไม่รุ้คืออะไรอ่ะพี่ (ถ้ามีของรางวัลล่อใจนะ ตอยได้แล้วอ่ะครับ 555) ผมคิดมากไปป่ะครับเนี่ย!? กลัวหน้าแตกกก แฮะๆ


โดย: Due_n วันที่: 17 มีนาคม 2548 เวลา:11:37:06 น.  

 
อยากเห็น snowy rain จัง..


แบบมองผ่านกระจกในห้องอุ่นๆ..มือถือแก้วช็อคโกแล้ทร้อนๆ

ค่อยๆจิบช็อคโกแล้ทจนหมดแก้ว...รู้สึกอบอุ่นลึกๆในท้อง..



แล้วเปิดว้อดก้า สาดเข้าไปต่อเพิ่มความร้อนแรงให้กับวัญญาณ เอิ๊กๆๆๆ


/ ในรูปจะถ่ายฟุตบาทล่ะสิ...แต่เผอิญมีหิมะกับม้านั่งและเสามาขวาง!!!!

:)


โดย: ปิงปองงง วันที่: 17 มีนาคม 2548 เวลา:14:52:11 น.  

 
กรี๊ดดดด เพิ่งรู้ว่าคุณ chirala ก็จบมาจากมอชอ เหมือนกัน
แต่สมัยเรียนที่นั่น เราอยู่ หอหญิง 1 ล่ะ
พูดแล้วก็คิดถึงเชียงใหม่เนอะ


โดย: Nessa วันที่: 17 มีนาคม 2548 เวลา:15:26:49 น.  

 
กลับมาแล้วครับตอนมีสติคิดอะไรได้บ้าง

สำหรับผม journey ในที่นี้คงหมายถึงการใช้ชีวิตของคนๆหนึ่งที่ตื่นเช้าขึ้นมาก็ต้องทำงานหาเลี้ยงชีวิต พอได้เงินมาก็แบ่งเอาไปใช้จ่าย ส่วนแรกไว้หาซื้อของกินให้อิ่มท้องเพื่อจะให้มีแรงสู้ต่อไปในวันรุ่งขึ้น ส่วนเงินอีกส่วนนึงไว้ซื้อความสุขเพื่อให้มีกำลังใจอยู่ต่อในวันรุ่งขึ้น ส่วนความสุขของแต่ละคนจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นกับแต่ละบุคคล


โดย: Lon3r วันที่: 17 มีนาคม 2548 เวลา:16:14:16 น.  

 
Still in search for my flower ...

ตอนไปสัมมนานอกสถานที่ พิธีกรบอกว่า งานคือชีวิต เพราะลองคิดดูสิ ว่า สมัยนี้ วันหนึ่งๆเราใช้เวลาอยู่กับที่ทำงานมากกว่าที่บ้านซะอีก

มุมมองนี้ อยากจะลุกขึ้นบอกพิธีกรว่า ผิด ส่วนตัว เราก็ตั้งใจทำงานทุกวัน พยายามปรับปรุงความรู้ความสามารถกับการงาน(แทบ)ทุกวัน แต่ไม่มีวันไหนเลยที่คิดว่า งานคือชีวิต

เพราะสิ่งที่มีความหมายกับชีวิตของแต่ละคนนั้ต่างกัน หากทั้งสองสิ่งนี้นสามารถอยู่ร่วมกันได้ นับว่าประเสริฐแล้ว กับผู้ืที่รู้จักทั้งสองสิ่งและสามารถทำทั้งสองสิ่งได้อย่างดี ก็นับว่าประเสริฐแล้วเช่นกัน หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป ก็จงมองหามันต่อไป โดยไม่ละทิ้งหน้าที่การงานและที่ทำสิ่งที่ตนมีอยู่

สำหรับคนที่ตั้งหน้าตั้งตาหาเงินท่าเดียว ... Don't work too much till you forget to seek for your flower. Before you realise, it may be too late to even look for one.


โดย: Fonrin IP: 203.144.211.190 วันที่: 17 มีนาคม 2548 เวลา:17:26:23 น.  

 
เราจะซื้อดอกไม้ไปให้ป๊า กับม๊าล่ะ


โดย: tobtwo99 (tobetwo99 ) วันที่: 18 มีนาคม 2548 เวลา:8:46:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

chirala
Location :
London United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




"Life is a journey, enjoy the ride !"

Life is but a stopping place,
A pause in what`s to be,
A resting place along the road,
to sweet eternity.
We all have different journeys,
Different paths along the way,
We all were meant to learn some things,
but never meant to stay...






Widget_logo



Group Blog
 
<<
มีนาคม 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
16 มีนาคม 2548
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add chirala's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.