Welcome to the World of Me...
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
7 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 

Law Abiding Citizen (2009)

นิยามของคำว่า "ความถูกต้อง" แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร แล้วคำว่า "ความถูกต้อง" นั้น สามารถ "ประณีประนอม" กันได้หรือไม่ และภายหลังจากประณีประนอมแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคืออะไร นี่คืออีก 1 หน้าของภาพยนต์ที่ท้าทายความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย และความถูกต้องของกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะกับผู้ที่ถือมันอยู่ในมือ!!

Law Abiding Citizen นำแสดงโดย 2 ดาราชั้นเลิศของ Hollywood นั่นคือ Jamie Foxx รับบทเป็น Nick Rice อัยการหนุ่มผู้กำสถิติชนะคดีมากกว่า 96% ซึ่งต้องมาเฉือนบทบาทกับอดีตมันสมองของ CIA อย่าง Clyde Shelton ซึ่งรับบทโดย Gerard Butler ที่ต้องสูญเสียครอบครัวไปด้วยน้ำมือของโจร 2 คน และกระบวนการยุติธรรมก็ไม่สามารถทวงถามความยุติธรรมอย่างแท้จริงคืนให้เขาได้ จึงเป็นหน้าที่ของมันสมองของ CIA ที่จะทวงคืนความเจ็บปวดที่ครอบครัวของเขาได้รับจากการทุรยศของกระบวนการยุติธรรม

หนังเรื่องนี้หากใครไม่เข้าใจระบบกระบวนการยุติธรรมของอเมริกา อาจจะดูหนังเรื่องนี้ลำบากหน่อย แต่ถ้าใครเป็นแฟนหนังเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมของสหรัฐฯ อยู่แล้ว เรื่องนี้ก็ไม่ยากเกินกว่าจะเข้าใจ

แต่สิ่งที่หนังกำลังบอกก็คือ จริงๆ แล้ว "กระบวนการยุติธรรม" ให้ "ความยุติรรม" กับประชาชนได้จริงๆ หรือไม่?

และที่สำคัญ เราสามารถ "ต่อรอง" กับความ "ยุติธรรม" ได้หรือไม่ ซึ่งเนื้อหนังได้นำเสนอภาคของการต่อรองกับ "กระบวนการยุติธรรม" ซึ่งทำให้คนชั่วลอยนวลได้อย่างอิสระ จนผู้สูญเสีย จำเป็นต้องทวงถามด้วยตนเอง

หนังเรื่องนี้สำหรับผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการยุติธรรม พึงพิจารณาถึงรายละเอียดของหนังอย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำหน้าที่เป็น อัยการ หรือ ทนาย ซึ่งเป็นตัวแทนในการ "ต่อรองกับความยุติธรรม" ให้กับผู้เสียหายและผู้กระทำความผิดในทุกกรณี

กลับมาที่การเล่าเรื่องของหนังกันบ้าง

หนังเรื่องนี้มีวิธีการเล่าเรื่องตามปฏิทินปกติ คือไม่มีการกระโดดข้ามช็อตไปในช่วงเวลาต่างๆ เพราะลำพังเนื้อหาก็ยากแล้ว หากมีการ flash back หรือข้ามเวลาอีก ก็คงทำให้คนดูต้องใช้สมาธิเพิ่มอีกหลายเท่า

และยังเป็นการเล่าเรื่องที่ใช้สมาชิกของ 2 ครอบครัว และการเล่นเชลโล่ของลูกสาว Rice มาเป็นจุดเชื่อมต่อเรื่อง ได้อย่างละเมียดละมัย

ประกอบกับเนื้อเรื่องที่สร้างให้ Shelton เป็นอัจฉริยะจอมวางแผน ซึ่งสามารถป่วนโลกทั้งใบได้ตามความต้องการ โดยเฉพาะภาระกิจทวงแค้นครั้งนี้ ใช้ระยะเวลาวางแผนถึง 10 ปี ศิลปะการทวงแค้นของเรื่องจึงไพเราะ สวยงาม และเปี่ยมไปด้วยอัจฉริยะภาพ ซึ่งผู้เขียนบทสามารถสร้างความประหลาดใจถึงวิธีการทำลายได้ราวกับศิลปินเอก

ประกอบกับฉากความรุนแรงต่างๆ ที่มีอยู่เกลือนกลาด หนังเรื่องนี้จึงเหมาะควรแล้วที่ถูกจัดให้อยู่ในระดับ 18+ หรือเหมาะกับผู้ชมที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป

ไม่เฉพาะความรุนแรงเท่านั้น ความหมิ่นเหม่กับเรื่องนิยามของคำว่า "ความถุกต้อง" นิยามของคำว่า "การบังคับใช้กฎหมาย" ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ผู้ชมพึงใช้วิจารณญานอย่างยิ่งในการชม

การแสดงของทั้ง Foxx และ Butler ทั้งคู่เล่นได้อย่างถึงน้ำถึงเนื้อ เข้มข้นสมกับที่ต่างก็เคยได้รับการเสนอชื่อบนเวที Oscar (ไม่แน่ใจว่าทั้งคุ่ได้รางวัลมาแล้วหรือไม่ แต่เท่าที่จำได้ เคยนะ)

แนะนำว่า สำหรับผู้ที่ดูหนัง "เอาเรื่อง" ควรแวะไปชมหนังเรื่องนี้ให้ได้

สุดท้าย คำถามที่ผุดขึ้นหลังจากได้ดูหนังเรื่องนี้คือ สำหรับคนเดินดิน ที่ไม่มีสมองอันเป็นเลิศ ไม่มีสิทธิ์อำนาจพิเศษอันใด จะมีสิทธิ์ทวงถามความยุติธรรมอย่างแท้จริง หรือไม่ หรือว่ากระบวนการยุติธรรมที่เราจำต้องพึ่งพา จะประณีประนอมกับความชั่วร้ายจนเราต้องขมขื่นกับการใช้ชีวิตหรือไม่...น่าคิด




 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2552
1 comments
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2552 10:49:06 น.
Counter : 878 Pageviews.

 

เราว่ามมันโอมากกๆๆ แต่ตอนจบเนี่ยยังไม่สะอารมณ์เท่าไร ชอบตรงประเด็น เรื่องกระบวนการยุติธรร การต่อรอง ความถูกต้อง ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี และ ความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้กระทำลงไปของเรื่องนี้นะ

 

โดย: ทิเบต IP: 119.31.121.78 22 กุมภาพันธ์ 2553 2:49:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


J.Atthaphan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Welcome to my Life, feel free to know me more.
Friends' blogs
[Add J.Atthaphan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.