Welcome to the World of Me...
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
10 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 
Iron Man (2008)

ปี 2008 นี้นับเป็นปีของหนัง Super Hero เลยก็ว่าได้ เท่าที่นับคร่าวๆ มีหนัง Super Hero ไม่น้อยกว่า 4-5 เรื่อง แต่เริ่มเรื่องแรกของปีก็สร้างความประทับใจได้มิใช่น้อยซะแล้ว

Official Website: //www.ironmanmovie.com/
Synopsis: //www.imdb.com/title/tt0371746/synopsis

Iron Man เป็นเรื่องราวของ "Tony Stark" (Robert Downey Jr.) พ่อค้าอาวุธอัจฉริยะ ที่มีความปราดเปรื่องเหนือมนุษย์ธรรมดา ที่นอกจากจะมีความรู้ ความสามารถ และมีอัจฉริยะภาพในการพัฒนาอาวุธสงครามที่ล้ำสมัยแล้ว ยังมีความเชี่ยวชาญในด้านวิทยาศาสตร์ด้านต่างๆ อีกมากมาย

แต่ภายหลังจากถูกจับเป็นเชลยในอัฟกานิสถาน (ดูเหมือนประเทศนี้จะกลายเป็นที่ซ่อนของอริราชศัตรูของอเมริกาไปโดยปริยายเรียบร้อยแล้ว) การได้พบกับ "Yinsen" ที่ทั้งเป็นผู้ช่วยชีวิตเขาให้รอดพ้นจากการเสียชีวิตจากกระสุนลูกปรายเข้าหัวใจแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ให้ Stark ได้เห็น "ชีวิต" ที่รอดพ้นจากความโหดร้ายของกลุ่มผู้บ้าสงครามอันมีองค์กรทางทหารที่ตั้งตนเป็นอริกับอเมริกาที่ชื่อ "เท็น ริงส์" เป็นผู้พลิกมุมมองของ Stark

แน่นอนครับ แนวทางของหนัง Super Hero ของ Marvel ก็คือ ตัวเอกต้องเผชิญหน้ากับจุดหักเหในชีวิต จนต้องเปลี่ยนตัวเองไปเป็นอะไรสักอย่างที่สามารถรรับหน้าที่ "พิพากษาโดยไม่ต้องไต่สวน" ดังนั้นเมื่อ Stark รอดพ้นจากความโหดร้ายของ "เท็น ริงส์" ก็ได้เวลาที่เขาจะสวมบทบาทของผู้พิทักษ์ความยุติธรรมที่ไม่ได้มีพลังพิเศษใดๆ เหนือธรรมชาติ อาศัยเพียงสมอง และ "ความรวย" มหาศาลของเขา ก็เปลี่ยนมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งให้กลายเป็น Super Hero ได้โดยง่าย

ในใจจริงๆ แล้วทุกๆ ครั้งที่ผมดูหนัง Super Hero นอกจากความสนุกสนานตื่นเต้นของเนื้อเรื้องแล้ว ผมจะมีความขัดแย้งอยู่ในใจอยู่บางประการ นั่นก็คือ ควรแล้วล่ะหรือที่มนุษย์คนหนึ่ง จะทำหน้าที่เป็นผู้พิพากษาความผิดให้กับมนุษย์ หรือแม้แต่อมนุษย์ ซึ่งเป็นตัวร้ายในท้องเรื่อง การที่มีพลังพิเศษ หรือผมขอเรียกว่ามี "สิทธิพิเศษเหนือใคร" จะทำให้คนๆ นึงมีสิทธิอยู่เหนือทุกอย่างจริงๆ หรือ

แต่สำหรับ Iron Man แน่นอนว่าตามท้องเรื่องคำตอบก็คือ "ใช่" แต่เป็นคำตอบที่ผมรู้สึกว่ามันเป็นการจัดการ "เรื่องในครอบครัว" มากกว่า เพราะคู่ต่อสู้ในเรื่องนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ใช้อาวุธของ Stark Industrial ทั้งนั้น (พระเอกของเราเคยเป็นพ่อค้าความตายก่อนจะกลายเป็น Super Hero) และที่สำคัญ คนที่ทำให้เกิดเรื่องราวทั้งหมดคือ "Obadiah Stane" ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจอาวุธสงครามมากับพ่อของ Tony

เริ่มเข้าทำนองตามท้องเรื่องแล้วใช่มั้ยล่ะ?

"กูสร้างธุรกิจนี้ขึ้นมากับพ่อมึง ทำไมกูถึงต้องยกทุกอย่างให้มึงด้วย?" นี่คือประโยคที่ผมสรุปได้ง่ายๆ สั้นๆ

พูดง่ายๆ ว่า ถ้า Obadiah ไม่คิดจะฆ่า Tony เค้าก็จะมีผู้ผลิตอาวุธอันทันสมัยให้ทำกำไรต่อไป แต่เขาทำพลาดเพราะทันทีที่ Tony รู้จักคุณค่าของชีวิต ก็คิดจะพลิกชีวะนาวาของตัวเองไปในทิศทาง "ที่ถูกต้อง" ทันที ยิ่งทำให้ Obadiah ต้องรีบกำจัด Tony ออกไปจากวงจรธุรกิจ โดยตนเองกุมอำนาจเต็มอยู่เบื้องหลัง จนทำให้ Tony เห็นผู้ที่จับกุมตนเองไปมีอาวุธรุ่นล่าสุดที่เขาคิดขึ้นมาใหม่ใช้ และนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ Tony Stark กลายเป็น Iron Man อย่างเต็มตัว(เรื่องราววกไปวนมาจนมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร แนะนำว่าต้องไปดูเอาเอง แล้วค่อยๆ ปะติดปะต่อเรื่องเอานะครับ - ผมว่าหนังเรื่องนี้ลำดับเรื่องยากๆ นี้ให้เข้าใจได้ไม่ยากครับ)

จุดเด่นประการสำคัญประการหนึ่งของ Iron Man คือการเล่าเรื่องยากๆ ซับซ้อนๆ ให้อยู่ในระดับ "สามารถเข้าใจได้" คือ ภายใต้ระยะเวลาที่จำกัดของหนัง คนเขียนบทกลับทำให้ความซับซ้อนของการเกิดขึ้นของตัวละคร Iron Man ถูกทำให้คนดูเข้าใจได้ ทำให้การเกิดขึ้นของ Iron Man มีน้ำหนัก (ซึ่งแตกต่างจาก Batman ที่พ่อโดนยิงทิ้ง ตัวเองตกถ้ำค้างคาว เลยตื่นขึ้นมาเป็น Batman - แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนก็รัก Batman มาตั้งแต่เด็กๆ นะครับ)

แต่ในความเป็น Realistic ก็สอดแทรกความเหรือจริงของ Super Hero ได้อย่างแนบเนียน จนแทบจะไม่รู้สึกว่านี่คือการยัดเยียดความโหดร้ายของ "เหตุการณ์จริง" เข้ากับความสนุกสนานของการเป็น "Super Hero"

เสน่ห์ของ Iron Man อีกประการหนึ่งก็คือ หนังเรื่องนี้ไม่ได้มีแต่ความรุนแรง ความเครียด ความกดดัน การใช้อาวุธเข้าประหัตประหารกันเพียงอย่างเดียว แต่ทุกช่วงทุกจังหวะ สอดแทรกอารมณ์ขันได้อย่างไม่รู้สึกขัดหูขัดตา ก่อให้เกิดรสชาติของการดูหนังที่ผมขออนุญาตใช้คำว่า "กลมกล่อม" ขึ้น

ที่สำคัญ ตอนจบ ผู้ร้ายไม่ได้ตายด้วยความเก่งกล้าสามารถของ "ชายคนหนึ่ง" ซึ่งมี "สิทธิพิเศษเหนือใคร" หากคุณมีโอกาส คุณสามารถเป็นยอดคนเหนือคนได้ แต่การเป็นยอดคนเหนือคน ไม่ได้แปลว่าคุณจะทำอะไรก็ตามสำเร็จด้วยตัวคนเดียว (เอาอีกล่ะ คิดเยอะกว่าหนัง คิดเยอะกว่าคนเขียนบทอีกล่ะ)

ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ชื่นชอบหนัง Super Hero ด้วยเหตุผลใด ผมแนะนำว่า Iron Man จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง และแม้ว่าคุณจะไม่เคยประทับใจกับหนัง Super Hero เรื่องใดเลย ผมก็เชือว่า Iron Man จะทำให้คุณเปลี่ยนมุมมองได้...ไม่มากก็น้อย

เรียนเชิญให้ไปดูกันนะครับ
//jamkanok.spaces.live.com


Create Date : 10 พฤษภาคม 2551
Last Update : 10 พฤษภาคม 2551 19:54:30 น. 4 comments
Counter : 625 Pageviews.

 
ว่าจะดูเรื่องนี้อยู่เหมือนกันนะ


โดย: Summer Flower วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:02:41 น.  

 
แวะมาเยี่ยมนะคะ

กรี๊ดดดดด ไม่จริงงนะคะ เกี่ยวกับแบทแมน (กำลังพูดถึงภาคล่าสุดอยู่ใช่ไหม)

ไม่ใช่แค่ตื่นขึ้นมาแล้ว แล้วเป็นแบทแมนเลยนะคะ.. ก่อนหน้านั้น เขาก็ได้ไปนู่นไปนี่ เข้าคุกก็แล้ว ไปฝีกฝนก็แล้ว..

มีการปูเนื้อเรื่องว่ากว่าจะกลายมาเป็นแบทแมน เขาผ่านอะไรมาก่อน

ซึ่งน่าเชื่อถือกว่าเรื่องนี้เยอะ..


โดย: จูริง IP: 41.233.116.108 วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:49:38 น.  

 
งานนี้ห้ามพลาด


โดย: KTOne วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:45:00 น.  

 
เชื่อเหอะครับ ไม่มีหนัง Super Hero เรื่องไหนจริงซักเรื่องหรอกเน้อ :) ดูเอามันส์เข้าว่านิ เห็นด้วยป่ะคับ จูริง


โดย: JamAtt (J.Atthaphan ) วันที่: 17 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:32:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

J.Atthaphan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Welcome to my Life, feel free to know me more.
Friends' blogs
[Add J.Atthaphan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.