โบรกแนะโฟกัสรายตัว เก็งกำไร 12 หุ้นเด่น ดัชนียังคงผันผวน จับตาแรงซื้อสถาบัน หลังตุนเงินสดเพียบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.48 น. ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 31.62 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งปรับตัวอยู่ในแดนบวกและแดนลบ นักวิเคราะห์คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังคงผันผวนจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ ให้นักลงทุนโฟกัสที่การฟื้นตัวรายหุ้นมากกว่าอิงกับดัชนี และจับตาแรงซื้อสถาบันที่ถือเงินสดมากช่วงก่อนหน้านี้และเริ่มมีการออกกองทุน Trigger Funds ให้เห็นในสัปดาห์นี้ สะท้อนมุมมองของสถาบันฯ ที่ยังมอง SET ครึ่งปีหลังในทางขึ้น เน้นเก็งกำไร 12 หุ้นเด่น ได้แก่ CPF, BGH, SF, CFRESH, SINGER, BAY, KBANK, SCC, AMATA, HEMRAJ, SIRIและ AP

KGI ประเมินหุ้นไทยวันศุกร์แกว่งผันผวนทั้งบวก/ลบ กลยุทธ์คือถือเงินสด หรือลงซื้อขึ้นขายภาพรวมตลาดทุนโลกจะยังถูกกดดันจากความไม่แน่นอนในกรีซ รวมทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกไม่ว่าจะเป็นดัชนี PMIs ของทั้งจีน ฝรั่งเศส และเยอรมัน ที่ล้วนต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ มาถึงข้อมูลของสหรัฐฯ เช่นยอดซื้อสินค้าคงทนเดือน เม.ย .และยอดขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ต่ำกว่าคาดทั้งสิ้น ด้านการเมืองในกรีซยังเป็นภาพเดิมกล่าวคือพรรคการเมืองที่ต่อต้านการรัดเข็มขัด (SYRIZA) มีโอกาสสูงที่จะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 17 มิ.ย .หลังการหยั่งเสียงโพลล่าสุดชี้ว่าพรรคนี้ได้ความนิยม 30%ส่วนพรรครัฐบาลเดิมตามมาเป็นอันดับ 2 ที่ 26% ส่วนในสัปดาห์หน้าคาดว่าปัจจัยในยุโรปจะเงียบชั่วคราว และตลาดจะมุ่งไปที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะในวันที่ 1มิ.ย .ที่จะมีการรายงานทั้ง ISM และการจ้างงานเดือน พ.ค .

ด้วยราคาหุ้นที่ลงมาต่ำกว่า 1,120 จุด ซึ่งเป็นระดับ PE band ที่ 13 เท่าดังที่เราเคยกล่าวไปนั้นจะมีแรงซื้อสู้เข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะจากสถาบันฯ ที่ถือเงินสดมากช่วงก่อนหน้านี้และเริ่มมีการออกกองทุน Trigger Funds ให้เห็นในสัปดาห์นี้ สะท้อนมุมมองของสถาบันฯ ที่ยังมอง SET ครึ่งปีหลังในทางขึ้น ทั้งนี้ทาง KGI คาดว่าในช่วง 3 สัปดาห์จากนี้จนถึงกรีซเลือกตั้ง SET จะซื้อขายผันผวนรอบๆ ระดับ 1,120 จุดซึ่งเรามองเป็นระดับ Fair valuations ในช่วงที่ตลาดโลกกำลังรับรู้ความเสี่ยงจากกรีซต้องออกจากยูโรโซนมองว่ากรอบการซื้อขายน่าจะอยู่ที่ 1,090 ถึง 1,150 จุด กล่าวคือมีทางลงและขึ้นประมาณ 30 จุด ใช้การวิเคราะห์เทคนิคประกอบ

กลยุทธ์: แนะนำถือเงินสดสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย เพื่อรอจังหวะลงทุนที่ดีกว่าในเดือนมิ.ย .หรือลงซื้อ/ขึ้นขายสำหรับผู้รับความเสี่ยงได้ เน้นหุ้นในประเทศที่ลงมาแรงๆ ตามภาวะตลาดแต่พื้นฐานไม่เสียไปตามเศรษฐกิจโลก ซื้อเก็งสั้นได้ใน BAY*, KBANK*, SCC*, AMATA, HEMRAJ, SIRIและ AP

บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้ : รีบาวด์ต่อ แต่ยังผันผวนสูงกลยุทธ์การลงทุน : ทยอยขายช่วงดีดตัวแถวแนวต้าน

ภาพรวมน่าจะฟื้นตัวได้ต่อเนื่องจากวานนี้ แต่ความผันผวนจะยังคงสูงต่อเนื่อง และกรอบการปรับขึ้นรอบนี้น่าจะยังติดแนวต้านแถว 1155 ตราบเท่าที่ยังไม่มีปัจจัยเชิงบวกที่เด่นชัดในการสนับสนุนการฟื้นตัวก็ยังไม่น่าวางใจ ทั้งนี้ ยังให้น้ำหนักกับปัจจัยเรื่องยุโรปมากที่สุด จึงควรติดตามพัฒนาการของสถานการณ์ต่อไปอย่างใกล้ชิด ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆ ของยุโรป, สหรัฐ และจีนในช่วงหลังมานี้ดูอ่อนแอกว่าคาด อาจเป็นแรงกดดันต่อภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกได้มากขึ้น ด้านกระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาตินั้นยังอยู่ข้างขายต่อเนื่อง แม้ไม่มากเมื่อเทียบกับปริมาณสะสมหุ้นในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่พบสัญญาณการซื้อกลับแม้ตลาดดีดตัวแรงวานนี้

กลยุทธ์การลงทุน : เน้นการเก็งกำไรหุ้นแบบ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” ในกรอบแนวรับ-ต้าน เป็นหลักไปจนกว่าจะมีความชัดเจนของปัจจัยมากำหนดแนวโน้มตลาดอีกครั้ง ดังนั้น ที่รับหุ้นไปแล้ววานนี้แถว 1100+/- ให้รอทยอยขายทำกำไรออกไปอย่างน้อยบางส่วนก่อนแถวแนวต้าน 1140-1155 แนวต้าน : 1140-1155 แนวรับ : 1110-1100

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 25-30% : เงินสด 75-70%

ถือต่อในพอร์ต : CPF, BGH, SF, CFRESH

หุ้นที่แนะนำ :1. SINGER เก็งกำไร FV 11.50 บาท กรอบเทรดระยะสั้น มองต้าน10,10.8 รับ 9.2 Cut loss 9 บาท

บล.กสิกรไทยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ โฟกัสการฟื้นตัวรายหุ้น ไม่เน้นดัชนี

แนวโน้มตลาด: แม้ไม่มีความคืบหน้าประเด็นกรีซ อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจยุโรปหลายตัวทั้ง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) และความเชื่อมั่นผู้บริโภคในหลายประเทศที่ลดลง แต่ตลาดหุ้นยุโรปยังคงฟื้นตัวจากภาวะ “ถูกขายมากเกินไป”ในขณะที่ฝั่งสหรัฐฯ ดัชนีทรงตัวหลังไม่มีปัจจัยใหม่ที่มีนัยสำคัญเข้ามา เราคาดว่าบรรยากาศการฟื้นตัวของดัชนีไทยและหุ้นโลก ในช่วงสั้นจะยังคงมีความต่อเนื่องเพียงแต่แรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ และความกังวลกรีซที่กดดันอยู่อาจทำให้การฟื้นตัวของดัชนีดูอ่อนแรง และยังยากแก่การคาดการณ์ว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่องเลยหรือแกว่งผันผวนในช่วง 1116-1131 โดยมีเป้าหมายการฟื้นตัวที่ดีที่สุดที่ 1150-1160 ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์การเลือกหุ้นบางตัวที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และถูกขายหรือปรับลดลงมามากเกินไป น่าจะเกิดการฟื้นตัวได้ดีกว่า SET Index

กลยุทธ์การลงทุน: ดัชนัอาจแกว่งผันผวนระหว่าง 1116-1131 นักเก็งกำไรระยะสั้นให้โฟกัสการเลือกหุ้นที่จะฟื้นตัว โดยอย่าไปสนใจการแกว่งของดัชนี นักลงทุนระยะกลางทยอยสะสมหุ้นดี

หุ้นแนะนำวันนี้ TCAP PF PTTGC

สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: เราขอเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นจาก 25% เป็น 40% หลังหุ้นปรับลงมาถึง 1100 จุด และเตรียมเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้น สู่ระดับเต็มที่หาก SET ยังปรับลงถึงระดับที่เราประเมินว่าเป็น downside ของ SET Index ที่1050 จุด แต่หุ้นที่อาจพิจารณาทยอยสะสมในระหว่างตลาดปรับฐาน ได้แก่ TICON TCAP KK EGCO RATCH PS SIRI PTTGC และธนาคารขนาดใหญ่ อาทิ KTB

Create Date : 25 พฤษภาคม 2555		0 comments
Last Update : 25 พฤษภาคม 2555 10:11:30 น.
Counter : 964 Pageviews.
Share Tweet