Bloggang.com : NEWSU_CHADA : โบรกแนะเก็งกำไร 11 หุ้นอนาคตรุ่ง ดัชนีมีแนวโน้มอ่อนตัว แรงซื้อฝรั่ง-กลุ่มพลังงานพยุงตลาด

โบรกแนะเก็งกำไร 11 หุ้นอนาคตรุ่ง ดัชนีมีแนวโน้มอ่อนตัว แรงซื้อฝรั่ง-กลุ่มพลังงานพยุงตลาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.39 น. ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 30.84 บาทต่อเหรียญสหรัฐ หลังจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เนื่องจากความไม่มั่นใจต่อการแก้ปัญหาหนี้กรีซ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลงหลังจากพุ่งแรงวานนี้ นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยวันนี้อาจอ่อนตัวลงบ้าง แต่แรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ และราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง จะส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นและพยุงตลาดไว้ได้ แนะนำเก็งกำไร 11 หุ้นเด่น ได้แก่ BWG, SAT, TUF ,PTTEP,PTT,BAY, INTUCH, BH,TOP, AMATAและ STEC

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้ : อ่อนตัว ปัจจัยภายนอกอิงทางลงหลังมีข่าวเจ้าหน้าที่ยูโรโซนพิจารณาแนวทางที่จะเลื่อนการจ่ายเงินช่วยเหลือกรีซรอบสอง โดยมีแหล่งข่าวระบุอาจเลื่อนไปจนถึงหลังการเลือกตั้งในเดือนเม.ย. จะทำให้ตลาดเป็นกังวลต่อความพยายามในการหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซในช่วงกลางเดือน มี.ค. รวมถึงการร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์กว่า 97 จุดวานนี้ ส่งผลกดดันบรรยากาศลงทุนของตลาดภูมิภาคในเช้าวันนี้ ขณะที่ SETI ดีดตัวกว่า 20 จุด วานนี้ จึงอาจเผชิญแรงขายทำกำไรออกมาก่อน อย่างไรก็ดี การสะสมหุ้นอย่างต่อเนื่องของต่างชาติ และเครื่องมือทางเทคนิคที่กลับมาส่งสัญญาณซื้ออีกรอบ น่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยประคองการอ่อนตัวของตลาดในระดับหนึ่ง มองแนวรับแถว 1115 จุด

กลยุทธ์การลงทุน : การเก็งกำไรระยะสั้น เน้นแบบ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” ต่อไป แนวต้าน : 1135-1148 แนวรับ : 1122-1115

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 50% : เงินสด 50%

ถือต่อในพอร์ต : หุ้นที่ปรับออก: TTCL, SCB

BWG, SAT, TUF

หุ้นที่ปรับเข้า : PTTEP ราคาน้ำมันยังฟื้นตัวต่อเหนือระดับ 100 เหรียญ/บาร์เรล ราคาพื้นฐาน 198 บาท กรอบเทรดระยะสั้น มองต้าน 182 รับ 175 Cut loss 173 บาท

KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันพฤหัสฯ เปิดอ่อนตัวบ้างก่อนซื้อขายในกรอบจำกัด ปัจจัยภายนอกยกระดับความไม่แน่นอนขึ้นโดยเฉพาะในฝั่งยุโรป โดยแม้ว่าเมื่อวานนี้ทางการกรีซได้ยอมทำตามเงื่อนไขที่เหลือ 2 ข้อของกลุ่มยุโรปแล้ว ได้แก่การลดรายจ่าย 325 ล้านยูโร และการส่งหนังสือให้คำมั่นพร้อมลายเซ็น ซึ่งเพิ่มโอกาสว่ากรีซจะได้รับเงินช่วยเหลือในการประชุมกลุ่มยุโรปวันที่ 20 ก.พ. (เลื่อนไปจาก

กำหนดเดิมในวันที่ 15 ก.พ.) แต่ก็มีข่าวออกมาว่าทางการเยอรมันกำลังผลักดันให้มีการเลื่อนการให้เงินช่วยเหลือบางส่วน (หรือทั้งหมด) ออกไปจนกว่ากรีซจะมีการเลือกตั้งในเดือน เม.ย. และเป็นการเพิ่มความไม่แน่นอนต่อตลาด ทั้งนี้ KGI มองว่าข่าวดังกล่าวไม่น่าจะจริง เพราะหากกรีซไม่มีเงินไปไถ่ถอนพันธบัตรในวันที่ 20 มี.ค. น่าจะสร้างความปั่นป่วนอย่างมาก คงต้องติดตามเรื่องนี้ต่อไป

ส่วนฝั่งสหรัฐฯ ตัวเลขดัชนีสำรวจอุตสาหกรรม Empire State Index เดือน ก.พ. สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์แต่ตลาดหุ้นร่วงจากหุ้น Apple เป็นหลัก หลังจากมีปัญหาในการขาย iPad ในประเทศจีน ส่วนภาพใหญ่ของเศรษฐกิจนั้น รายงานการประชุมเฟดจากเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ชี้ว่าคณะกรรมการเฟดยังเสียงแตกต่อการใช้นโยบายกระตุ้นทางการเงินรอบที่ 3 ซึ่งเรื่องนี้ผนวกกับความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเรื่องกรีซดังกล่าวข้างต้น จะส่งผลให้สกุลดอลล่าร์ฯ กลับมาแข็งในระยะ 2-3 วันข้างหน้า และกดตลาดสินทรัพย์ทางการเงินบ้าง ปัจจัยในประเทศ ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำสั่งกรณี พรก. 2 ฉบับ ในวันที่ 22 ก.พ. นี้ ซึ่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นน่าจะมีค่อนข้างน้อยมาก

กลยุทธ์: แนะนำถือพอร์ตหุ้นใหญ่เช่นเดิม ลุ้นโค้งสุดท้ายเรื่องกรีซในวันจันทร์หน้า (20 ก.พ.) ในวันนี้หุ้นTOP* น่าจะมีจิตวิทยาที่ดีหลังจากแนวโน้มธุรกิจเป็นบวกมากขึ้นหลังการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวาน เราปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 85 บาท และเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ ส่วนหุ้นขนาดกลางยังแนะซื้อ AMATAและ STEC เช่นเดิม จากประเด็นของผลประกอบการที่แข็งแกร่ง

บล.กสิกรไทยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ หุ้นยุโรปปิดบวกลดลง ในขณะที่หุ้นสหรัฐปิดลบ หลังจากหนี้กรีซยังไม่มีความคืบหน้า และตลาดเพิ่มความกังวลในประเด็นดังกล่าว ทั้งนี้สมาชิกยูโรบางประเทศได้เสนอทางเลือกเพิ่มเติมนอกจากการอนุมัติเงินช่วยเหลือ 1.3 แสนล้านยูโรให้กรีซ เป็นการให้เงินกู้ยืมเฉพาะหน้าเพื่อแก้ปัญหาหนี้ของกรีซที่จะครบกำหนดชำระ 1.45 หมื่นล้านยูโร ในวันที่ 20 มี.ค. และให้มาพิจารณาเรื่องความช่วยเหลือกรีซใหม่หลังมีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มหลังเลือกตั้งในเดือน ก.พ. นี้ อย่างไรก็ตามเรามองว่าทางเลือกใหม่นี้ หากเกิดขึ้นจริงจะส่งผลเชิงลบต่อตลาดทุน เนื่องจากเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาด ขณะเดียวกันขณะเดียวกันเพิ่มความเสี่ยงต่อการอนุมัติแผนความช่วยเหลือและการแก้ปัญหาหนี้ยุโรป เนื่องจากอาจเกิดการเปลี่ยนตัวผู้นำฝรั่งเศสหลังการเลือกตั้ง ก.พ.นี้ ซึ่งโพลระบุว่าคะแนนนิยมของ ซาร์โกซีตกต่ำ ทั้งนี้ รมว.คลังยูโรมีกำหนดจะพิจารณาความช่วยเหลือกรีซในวันที่ 20ก.พ.นี้

จากการปรับขึ้นมาแรงของ SET Index เรามองตลาดระยะสั้นอาจมีการปรับฐานบ้าง แต่คาดไม่มาก ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นจากการที่อิหร่านเตรียมหยุดขายน้ำมันให้ 6 ประเทศยุโรป และข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่ดีขึ้น น่าจะทำให้กลุ่มพลังงาน ปรับตัวขึ้นช่วยประคองตลาด และเรายังให้น้ำหนักตลาดในการขึ้นทดสอบ 1138-1150 จุด ก่อนตามมาด้วยการปรับฐาน ซึ่งเหลือ Upside อีกไม่มากนัก การย่อตัวยังให้น้ำหนักในการเข้าซื้อเก็งกำไร แต่การปรับขึ้นจากนี้นักลงทุนควรพิจารณาลดน้ำหนักการลงทุนลง

กลยุทธ์การลงทุน: คาดพลังงานน่าจะเริ่มมาช่วยประคอง SET การปรับตัวลงยังเป็นโอกาสซื้อเก็งกำไร แนะนำ PTT BAY INTUCH SAT BH ส่วน Theme ลงทุนใหญ่เรายังคงคำแนะนำในหุ้นกลุ่มเดิม ได้แก่ 1) หุ้น High beta ที่มีผลประกอบการดี/จะดีขึ้น PTTGC IRPC TOP BANPU 2) ถ้าเป็นหุ้น Defensive ต้องมีผลตอบแทนปันผลดีADVANC DTAC INTUCH MAJOR 3) เป็นหุ้นที่ Underperform ในช่วงที่ผ่านมา BBL KTB BAY KK ITD CK STEC HMPRO AP BLAND 4) หุ้นที่มีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการ TICON HEMRAJ TUF THCOM

สำหรับนักลงทุนระยะกลางที่ลดพอร์ตทำกำไรไปแล้ว ให้ Wait and See หากจะซื้อกลับขอให้เป็นส่วนน้อย ส่วนพอร์ตที่ยังมีอยู่เน้น switch พอร์ตมาหาหุ้นปันผล การปรับขึ้นในระดับใกล้ 1150 จุด อาจพิจารณาทยอยลดพอร์ตลงบางส่วนอีกครั้ง

Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2555

Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2555 11:54:10 น.

0 comments

Counter : 549 Pageviews.