เปิด 18 หุ้นผลงานรุ่ง รอปรับเป้าพ.ค. ดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มไปต่อ แต่ผันผวนมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ค่าเงินบาท ณ เวลา 9.46 น. อยู่ที่ 30.74 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนบวก นักวิเคราะห์คาดวันนี้หุ้นไทยบวกต่อได้ แต่ผันผวนมากขึ้น เก็งกำไร 18 หุ้นเด่น ได้แก่ PTTEP, TTW, BGH, ROBINS, INTUCH, DTAC, HEMRAJ, ROJNA, QTC, ARIP, SAT, CPF, SIRI, ADVANC, TVO, KTB, CENTEL, SPALI

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้ : บวกได้ต่อ แต่จะผันผวนมากขึ้น กลยุทธ์การลงทุน : ยืนเหนือ 1214 ขยับเพิ่มพอร์ตไปที่ 75%

ภาพรวมตลาดของไทยในวันนี้ยังคงภาพทางเชิงบวกได้ต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดัชนีดีดตัวทำ high ใหม่ในรอบเกือบ 16 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้สัญญาณทางเทคนิคในระยะสั้นเป็นแนวโน้มขาขึ้น ขณะที่แรงซื้อสะสมหุ้นของต่างชาติกลับเข้ามาต่อเนื่องอีกระลอกจะเป็นแรงหนุนอีกทาง หากแต่เครื่องมือทางเทคนิคในกราฟระยะสั้นเริ่มเข้าสู่เขตซื้อมากเกินไป จะเข้ามาสร้างความผันผวนให้กับตลาดในระหว่างทางได้มากขึ้น ทั้งนี้ ปัจจัยลบหลักที่จะเข้ามาถ่วงการดีดตัวยังคงให้น้ำหนักที่ปัญหาหนี้ยุโรป ซึ่งต้องจับตาอย่างใกล้ชิดตลอดทาง

กลยุทธ์การลงทุน : หลังยืนเหนือ 1214 ได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนอาจปรับเพิ่มพอร์ตไปที่ 75% ได้จากแนวโน้มที่เป็นขาขึ้น ทั้งนี้ การเก็งกำไรระยะสั้นๆ ยังคงให้อยู่บนความระวังจากความผันผวนระหว่างทาง แนวต้าน : 1235-1240 แนวรับ: 1220-1214

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 75% : เงินสด 25%

ถือต่อในพอร์ต : SAT, CPF, SIRI, BGH, ADVANC, TVO

หุ้นที่แนะนำ :1. KTB FV 20.75 บาท กรอบเทรดระยะสั้น มองต้าน 18.50-18.90 รับ 17.70 Cut loss 17.50 บาท

KGI ประเมินหุ้นไทยวันพุธเปิดบวกต่อหลังจากจิตวิทยาต่อเศรษฐกิจโลกดีขึ้นอีก ดัชนี ISM ภาคการผลิตของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ และเครื่องชี้คำสั่งซื้อใหม่ (New order) พุ่งขึ้นอย่างมาก ขณะที่จีนรายงานดัชนี Official PMI เดือน เม.ย. ขึ้นสูงสุดในรอบ 13 เดือนแม้ว่าจะต่ำกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อยก็ตาม ทั้งนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กลับมาดีมีผลให้ความหวังต่อมาตรการ QE3 ลดลงอีกครั้ง เมื่อคืนนี้ผู้ว่าการเฟด 3 ท่านได้แก่ นายแลกเกอร์ (สาขาริชมอนด์) นายวิลเลียมส์ (สาขาซานฟรานซิสโก) และนายลอคฮาร์ท (สาขาแอตแลนต้า) ออกมาคัดค้านการทำ QE เพิ่มเติม ซึ่งคงต้องติดตามต่อไปว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชี้ทิศทางอย่างไร

แม้ว่า SET มีแนวโน้มขึ้นต่อและแข็งแกร่งกว่าที่เราเคยคาด แต่ด้วยปัญหาการเมืองในฝรั่งเศสและกรีซที่จะมีความไม่แน่นอนสูงขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ ทำให้เรามองว่าตลาดหุ้นยังเปราะบางและไม่น่าเข้าเล่นหุ้นใหญ่ ทั้งนี้หากการเลือกตั้งของฝรั่งเศสมีผลว่านายฟรานซิส ฮอลลองก์ ซึ่งมีแนวนิยมขวาจัดและไม่สนับสนุนการรัดเข็มขัดเศรษฐกิจ ชนะเลือกตั้งอาจทำให้การแก้ปัญหาในยุโรปซึ่งมีฝรั่งเศสและเยอรมันเป็นเจ้าภาพหลักเกิดการติดขัดขึ้นมาและส่งผลลบต่อตลาดหุ้นโลกได้ เราจึงคงมองว่าควรเลี่ยงหุ้นใหญ่เช่นเดิม

กลยุทธ์: แนะซื้อหุ้นขนาดกลางที่มีแนวโน้มกำไรแข็งแกร่งและมีโอกาสสูงที่ตลาดจะปรับประมาณการขึ้นในเดือน พ.ค. นี้ หุ้น 7 ตัวที่อยู่ในแบบจำลองรายเดือนได้แก่ PTTEP, TTW, BGH, ROBINS, INTUCH, DTAC, HEMRAJ และ ROJNA โดยหุ้นที่มีโอกาสสูงที่ตลาดจะปรับเพิ่มประมาณการคือTTW, BGH และ ROBINS

บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ SET ยังบวกต่อได้ แต่ก็มีโอกาสแกว่งผันผวน...จึงรอซื้อช่วงอ่อนลงได้!!

กลยุทธ์: ช่วงนี้ถ้าสนใจจะเข้าซื้อ ยังเน้นเรื่องการเลือกหุ้นและน่าจะรอจังหวะซื้อช่วงตลาดปรับลงจะปลอดภัยกว่า ส่วนจังหวะบวกของตลาดอาจแบ่งส่วนขายทำกำไรบ้าง เพื่อลดความเสี่ยง สำหรับหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ SPALI จากยอด presales ที่ดีขึ้น ทำให้มีการปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 19 บ. ; HEMRAJ แนวโน้มกำไร 1Q12 ดีขึ้น พร้อมกับปรับเป้าหมายยอดขายที่ดินปีนี้ขึ้น หลังยอดขายไตรมาส 1 ดีเกินคาด แม้เราจะยังคงราคาพื้นฐานที่ 3 บ.แต่แนะนำซื้อเก็งกำไรข่าวบวกดังกล่าวได้ ; CENTEL ราคาพื้นฐาน 14.50 บ. โดยคาดการณ์กำไร 1Q12 จะดีที่สุดของปีนี้ เป็นต้น

หุ้นเด่นทางเทคนิค QTC, ARIP, AOT (SBL)

แนวโน้ม ตลาดหุ้นฝั่งตะวันตกยังแกว่งบวกต่อเนื่องในช่วงวันหยุดของไทย แต่หลายประเทศในเอเชียปิดทำการเช่นเดียวกับบ้านเราเมื่อวานนี้ โดยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในช่วงนี้ถือว่ายังค่อนข้างไร้ทิศทาง เช่น ดัชนีกิจกรรมการผลิตสามารถเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือน เม.ย. แต่ข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านก่อสร้างเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ ทำให้การขยับขึ้นยังค่อนข้างมีกรอบจำกัด ซึ่งเช้านี้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเริ่มกลับมาเปิดทำการปกติอีกครั้ง ซึ่งแม้จะเปิดทำการด้วยการบวกต่อ แต่กรอบการขยับขึ้นก็ยังจำกัดเช่นกัน และมีแนวโน้มที่จะมีจังหวะแกว่งผันผวนตามมาด้วย ซึ่ง FSS คาดว่า SET ก็จะอยู่ในลักษณะการเคลื่อนไหวที่คล้ายๆ กัน อย่างไรก็ตามหลังจากนักลงทุนต่างประเทศเริ่มกลับมามียอดซื้อสุทธิติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ทำให้นักลงทุนเริ่มกลับมามีความมั่นใจมากขึ้น ดังนั้นจึงยังแนะนำตามเข้าเทรดดิ้งได้ แนวรับ 1220-1217 , 1200-1197 จุด แนวต้าน 1232 , 1250-1253 จุด

Create Date : 02 พฤษภาคม 2555

Last Update : 2 พฤษภาคม 2555 12:01:13 น.

0 comments

Counter : 601 Pageviews.