Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
26 เมษายน 2555
 
All Blogs
 
โบรกแนะเลือกซื้อ 13 หุ้นผลงานเด่น ดัชนีไปต่อ แต่ผันผวน พ.ค.ปรับคาดกาีรณ์กำไรบจ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้  ณ เวลา 9.43 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 30.93 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนบวกหลังจากนักลงทุนยังมองเห็นโอกาสในการทำ QE3 แม้ว่าจะไม่มีการส่งสัญญาณว่าจะทำ QE3 แต่ประธานเฟด เบน เบอร์นานกี มีการเปิดช่องทำนโยบายผ่อนคลายในอนาคตมากขึ้นเมื่อเทียบกับการประชุมเฟดครั้งก่อน นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น แต่ยังคงผันผวน นักลงทุนระมัดระวังในการเก็งกำไรมากขึ้น เน้น 13 หุ้นเด่น ได้แก่ SIRI, STEC, HEMRAJ, ROBINS, AMATA, PS, ERW, ESSO, MK, SAT, CPF, KH, ADVANC

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้ : เป็นบวก แต่ระวังความผันผวนมากขึ้น กลยุทธ์การลงทุน : เก็งกำไรแบบระวังตัวมากขึ้น ภาพรวมน่าจะยังอิงทางบวกได้ต่อหลังการประชุมเฟดผ่านพ้นไปพร้อมการระบุถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และคำยืนยันการรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอย่างน้อยจนถึงปลายปี 2014 รวมถึงพร้อมใช้งบดุลบัญชีของเฟดเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจหากจำเป็น อีกทั้งผลประกอบการที่ดีหนุนตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปฟื้นตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี อาจต้องระวังความผันผวนระหว่างวันให้มากขึ้น หลังจากต่างชาติเริ่มส่งสัญญาณที่ไม่ชัดเจนโดยขายสุทธิออกมาในตลาดหุ้นอีกวานนี้ ทางฝ่ายยังมองตลาดขาดปัจจัยบวกที่เด่นชัดในการขับเคลื่อนการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จึงอาจมีกรอบการปรับขึ้นที่จำกัด มองแถว 1207, 1214 ก่อน แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะดูสดใสขึ้น แต่ก็ยังต้องใช้เวลารอการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ความคาดหวังเรื่องสภาพคล่องเพิ่มเติมจาก QE3 ได้ยุติลงชั่วคราวในระยะสั้นไปจากรายงานการประชุมเฟดในครั้งก่อน โดยหากจะมีสภาพคล่องระลอกใหม่เข้ามาก็น่าจะเป็นจากทางฝั่งยุโรปมากกว่า ซึ่งอาจต้องเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากปัญหาหนี้ที่เกิดขึ้นอีกครั้งก่อนจะมีการเยียวยาอีกรอบ

กลยุทธ์การลงทุน : เก็งกำไรต่อได้ แต่ต้องระวังตัวมากขึ้น แนวต้าน : 1207-1214 แนวรับ : 1194-1188

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 50% : เงินสด 50%

ถือต่อในพอร์ต : SAT, CPF, KH, ADVANC

หุ้นที่ปรับออก : TTW

หุ้นที่แนะนำ : AMATA โมเมนตัมยอดขายไปได้ดี FV 18 บาท กรอบเทรดระยะสั้น ต้าน 19 รับ 17.10 Cut loss 16.50 บาท

บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ เพราะตลาดยังมีโอกาสแกว่งผันผวน ดังนั้นจังหวะซื้อยังรอช่วงอ่อนลงได้!

กลยุทธ์: ช่วงนี้ตลาดบวกขึ้นยังแนะนำให้มองหาจังหวะขายทำกำไรจะเหมาะสมกว่า โดยไม่ควรซื้อไล่ราคาโดยเฉพาะในหุ้นที่พุ่งขึ้นแรง เนื่องจากจังหวะซื้อยังสามารถรอช่วงตลาดปรับพักตัวลงก่อนได้ อย่างไรก็ตามช่วงนี้เรายังเน้นเป็นแค่การเทรดดิ้งตามรอบในลักษณะลงซื้อ-ขึ้นขายต่อไปก่อนเพื่อลดความเสี่ยง โดยหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ AMATA (TP=22.10) เนื่องจากยอดขายที่ดินเพิ่มมากขึ้นจากปีก่อน และคาดกำไร 1Q12 ดี ; PS (TP= 19) กำไร 1Q12 คาดจะดีขึ้น ; ERW (TP= 3.20) คาด 1Q12 จะพลิกกลับมามีกำไร

หุ้นเด่นทางเทคนิค ESSO, MK, LOXLEY (SBL)

แนวโน้ม หลังจากเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยเริ่มแกว่งตัวผันผวน จากตัวเลขเศรษฐกิจของยุโรปที่ออกมาไม่ดีมากกว่าที่คาด ส่งผลให้นักลงทุนยังวิตกต่อวิกฤติหนี้ในยูโรโซน ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศในบ้านเราก็กลับมามียอดขายสุทธิเกือบ 1 พันล้านบาทอีกครั้ง ซึ่งเป็นระดับดัชนีที่ใกล้เคียงกับจุดสูงสุดในรอบที่แล้ว ซึ่งครั้งก่อน SET ปรับพักตัวลงแรงด้วย ทำให้เป็นไปได้ว่าจะมีแรงขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงออกมากดดันตลาดในระยะนี้ได้ ขณะที่ผลการประชุมเฟดเมื่อคืนนี้ ก็ยังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ออกมาตามคาด แม้ว่าประธานเฟดจะยังยืนยันว่าพร้อมที่จะมีมาตรการออกมากระตุ้นเศรษฐกิจได้ถ้าจำเป็น แต่ก็ถือว่าไม่ได้เป็นปัจจัยบวกมากนัก ดังนั้นยังแนะนำให้ระวังแรงขายที่อาจกดดันให้ SET เริ่มแกว่งตัวผันผวนและปรับตัวลดลงต่อได้ แนวรับ  1196-1194 , 1190-1186 จุด    แนวต้าน  1203-1206 ,1210-1214  จุด

KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันพฤหัสฯ บวกกรอบแคบๆ ในรูปแบบไซด์เวย์ ผลประชุมเฟดออกมาใกล้เคียงกับที่ทีมวิเคราะห์เศรษฐกิจของเราคาดการณ์ คือไม่มีการประกาศ QE3 หรือการส่งสัญญาณว่าจะทำ QE3 เมื่อใด แต่ประธานเฟด เบน เบอร์นานกี มีการเปิดช่องทำนโยบายผ่อนคลายในอนาคตมากขึ้นเทียบกับการประชุมเฟดครั้งก่อน ซึ่งส่งผลให้สกุลเงินดอลล่าร์ฯ อ่อนตัวลงเมื่อคืนนี้ ทางเราคิดว่าจากนี้จนถึงการประชุมเฟดครั้งถัดไปวันที่ 19-20 มิ.ย. นั้น จะเป็นช่วงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก่อนกำหนดทิศทางของนโยบายในระยะถัดไป คาดว่านักลงทุนจะให้น้ำหนักกับปัจจัยสหรัฐฯ น้อยลงและเปลี่ยนกลับมาที่ยุโรปมากขึ้นในเดือน พ.ค. ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่ภาคธนาคารของยุโรปเตรียมแผนเพิ่มฐานทุน ปัจจัยเสี่ยงหลักอยู่ที่แรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งออกมาแล้ว 2 วันติดต่อกัน ทั้งๆ ที่โบรกเกอร์ต่างชาติหลายแห่งอยู่ในช่วงปรับเพิ่มประมาณการและราคาเป้าหมายของหุ้นกลุ่มหลักอยู่

ด้านปัจจัยพื้นฐานในประเทศยังแข็งแกร่ง วานนี้ PTTEP และ SCC รายงานกำไรไตรมาส 1 สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ และเมื่อผนวกกับการที่หุ้นธนาคารรายงานกำไรสูงกว่าคาดไปแล้วนั้น เราคิดว่ามีโอกาสสูงที่นักวิเคราะห์จะปรับเพิ่มประมาณการกำไรของตลาดขึ้นได้ในช่วงเดือน พ.ค. และจะเป็นปัจจัยที่ช่วยจำกัดทางลงของดัชนีฯ ในระยะกลาง

กลยุทธ์: เราคงมุมมองหลักว่านักลงทุนต่างชาติชะลอการซื้อ/ขายหุ้นทำกำไรบ้าง ตราบเท่าที่ยังไม่มีข่าวบวกในระดับนโยบายของสหรัฐฯ และยุโรป จึงคงแนะให้เลี่ยงหุ้นขนาดใหญ่และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยต่างประเทศต่อไป กลุ่มที่มีแนวโน้มแข็งกว่าตลาดได้แก่กลุ่มอาหาร ค้าปลีก ที่ดิน นิคมอุตสาหกรรม และยานยนต์ หุ้นแนะซื้อได้แก่ SIRI, STEC, HEMRAJ และ ROBINS

บล.ไทยพาณิชย์ ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ FED มาตามนัด ไม่ประกาศทำ QE รอบใหม่ แต่ระบุจะทำทุกทางเพื่อประคองเศรษฐกิจ – สรุปสาระสำคัญวานนี้ FED ปรับเพิ่มคาดการณ์การ GDP ของสหรัฐในปีนี้ เป็น 2.4 - 2.9% จากเดิม 2.2 - 2.7% ขณะเดียวกันก็ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราว่างงานในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.8 - 8.0% จากเดิม 8.2 - 8.5% และยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปีนี้ขึ้นเป็น 1.8 - 2.0% จากเดิม 1.5 - 1.8% และยังระบุว่าจะทำทุกอย่างเรื่องนโยบายเพื่อประคองเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตาม FED ไม่ได้ประกาศการทำ QE ในการประชุมครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตามตลาดยังหวัง QE ในการประชุมรอบหน้า 20 มิ.ย. ส่วน FED Statement รอบนี้ประกาศ 17 พ.ค. ซึ่งเรามองว่าประเด็นเรื่องสหรัฐฯ จะมีบทบาทหนักๆ กับตลาดหุ้นอีกครั้งในช่วง 17-20 พ.ค. สำหรับผลการประชุมวานนี้ เรามองเป็นเพียง Neutral และมองว่าไม่ส่งผลต่อตลาดในเอเชียมากนักในวันนี้




Create Date : 26 เมษายน 2555
Last Update : 26 เมษายน 2555 17:58:27 น. 0 comments
Counter : 672 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

NEWSU_CHADA
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add NEWSU_CHADA's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.