ตามใจเล่าครับ
Group Blog
 
 
มีนาคม 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
24 มีนาคม 2556
 
All Blogs
 
ที่ Madison , W.I., USA.

       หลังจากอยู่กับอากาศเย็นฉ่ำในห้องแอร์ แต่ร้อนเหงื่อโชคข้างนอกอาคารในกรุงเทพฯมานาน พอเช้ามืดวันที่ 30 เมษายน 2555  ผมและน้องกัลป์ก็ขึ้นเครื่องจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ  สมุทรปราการ ( ชาวต่างชาติชอบเรียก Suvarnabhumi  International Airport , Bangkok ) ไปยังท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ   เมืองนาริตะ  จังหวัดชิบะ ( Narita  International  Airport , Narita shi ,  Chiba  ken ) แต่คนต่างชาติก็พอใจเรียก นาริตะ โตเกียว ทั้งๆที่อยู่จังหวัดชิบะ    ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง บรรดาผู้โดยสารที่จะเปลี่ยนเครื่อง (Transit) เพื่อเดินทางไปอเมริกาพากันรีบเดินตามป้ายบอก ICF (International  Connecting  Flights) ไปเรื่อยๆ  จนถึงจุดตรวจสัมภาระและร่างกาย ต่างก็รีบเข้าคิวเพื่อถอดเสื้อนอก เสื้อกันหนาว รองเท้าและเข็มขัด (ถ้าคาด) ให้เจ้าหน้าที่ x-ray  ผมเดินผ่านสบายๆ ไม่ดัง มีหลายคนต้องไปยืนกางแขนให้เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องตรวจจนทั่วตัว   ขนาดแอร์ลูกเรือยังโดนเลยครับ     เนื่องจากป้ายชื่อเป็นโลหะ  จากนั้น ก็ผ่านกระบวนการได้ขึ้นเครื่องไปเมืองดีทร้อยท์ (Detroit) รัฐมิชิแกน ซึ่งเป็นศูนย์กลาง ( Hub ) แห่งการผลิตรถยนต์ของอเมริกา    บนเครื่องนี้หาคนไทยไม่เจอแล้ว เพราะแยกกันไปที่อื่นๆ เช่น แอลเอ  ชิคาโก  และนิวยอร์ค เป็นต้น  ส่วนน้องกัลป์ก็ได้ที่นั่งห่างกันลิบคนละส่วนของเครื่องเลยเลย กว่าเครื่องจะบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก และจากเวสท์โคส์ท( ฝั่งทางตะวันตก คือ แอลเอ. ไปยัง อีสท์โคสท์ ( ฝั่งตะวันออก ) นานมาก     เวลาเค้าเสิร์ฟของกิน เลยเรียกมื้ออาหารไม่ถูก เพราะพอบินในอเมริกา เวลาจะช้ากว่าไทยตั้งแต่ 13 ชั่วโมงทางตะวันตก  ไปจนถึง 12 ชั่วโมง ทางตะวันออก  คือ  เหมือนบินย้อนเวลาหาอดีต ตอนขาไปอ่ะครับ  และสรุปว่า ใช้เวลาบินจากนาริตะสู่ดีทร้อยท์ ประมาณ 15 ชั่วโมงครับ

กับตันนำเครื่องลงที่สนามบินเมืองดีทร้อยท์  รัฐมิชิแกน ได้นิ่มนวลมาก ขอชื่นชมครับ    ตอนออกจากเครื่อง  สาวแอร์ฯกล่าวขอบคุณผม " เซี่ยะเซี๊ยะ "  คงนึกว่าเป็นตึ่งนั้ง( คนจีน ) ที่แท้เป็นฮวงนั้ง ( คนไทย ) คือ คนจีนสมัยโบราณมีความเจริญรุ่งเรืองมากและเรียกคนเผ่าพันธุ์อื่นที่ด้อยความเจริญกว่าชาติของตัวเองว่า "  ฮวนนั้ง( ป่าเถื่อน )  " เลยเรียกกันติดปากมาเรื่อยๆ  และด่านตรวจคนเข้าเมืองดีทร้อยท์นี่น่าชื่นชมมาก มีการจัดเจ้าหน้าที่ที่ดูแล้วเป็นอาเซียนอเมริกันไว้คอยแนะนำผู้มาเยือน (visitor) คือชาวต่างชาติตลอดเวลา ถ้าไม่มีอะไรประหลาด เค้าถามสองสามคำก็ตรวจลงตรา (  stamp  visa  )  ให้แล้ว  ต่างกับที่นครชิคาโกเมืองใหญ่ลำดับสามของสหรัฐซึ่งมีผู้โดยสารเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกามากมายและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ก็ ช่างซักถามเสียเหลือเกิน กว่าจะผ่านไปรับกระเป๋าได้ก็แทบตกเครื่องที่จะบินต่อในประเทศ( Domestic  flight )  หลังจากกัลป์และผมรับกระเป๋าแล้ว เราก็รีบจ้ำอ้าวๆเพื่อขึ้นเครื่องต่อไปเมือง Madison   รัฐ Wisconsin (อเมริกันชนออกเสียง " แม้ดีสั้น " ) ในที่สุดก็ถึงเมืองเมดิสัน  ที่นี่ ณ ฤดูกาลนี้  2 ทุ่มดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้า และ 3 ทุ่มจึงเริ่มมืด   ผมดีใจจังหนุ่มขึ้นตั้งสิบสองชั่วโมงแน่ะ( ก็เวลาช้ากว่าไทยเรา 12 ชั่วโมง ) คุณเล็กมารอรับเราตรงสายพานกระเป๋า(Baggage  Claim) บอกว่าคุณGerhard กลับมาจากเยอรมันวันก่อนและยังไม่มาทำงาน เนื่องจากJet lag(ความรู้สึกมึนงงและอ่อนเพลียซึ่งเกิดจากการเดินทางโดยเครื่องบินเป็นเวลายาวนาน ในขณะที่เวลาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว) แต่พอออกจากอาคาร   ก็สัมผัสกับอากาศเย็นเฉียบ แทบอ้าปากพูดไม่ออกเลย อยากขอแบ่งความหนาวเย็นไว้ที่เมืองไทยโดยเฉพาะ กรุงเทพฯ ที่แสนร้อนบ้างจัง  คุณเล็กขับรถพาเราเข้ามาตัวเมืองเมดิสัน และได้เข้า check in  ที่The  Edgewater Hotel ซึ่งอยู่ริมทะเลสาบเมนโดต้า(Lake Mendota)   เสร็จ เข้าห้องนอนหลับยาวข้ามวันเพราะ jet lag เหมือนกัน ตื่นมาก็เที่ยง ผู้อำนวยการโครงการด้านต่างประเทศของรัฐวิสคอนซินก็มารับไปทานกลางวัน ผมเลือกสลัดกุ้งจานใหญ่  ผักสดกรอบ ไร้สาร  และกุ้งก็สด เนื้อแน่น รสหวานในต้ว เพียงแต่ตัวไม่ใหญ่บึ้มอย่างแถวอยุธยา   จากนั้นก็หารืองานกันที่สำนักจนลุล่วง  พอค่ำเค้าพากัลป์และผมไปเลี้ยงอาหารไทยที่ร้านสไบทอง (Sa-bai Thong restaurant) มองดูแล้วมีฝรั่งนั่งทานกันเต็มร้านเลย  โต้ะเราสั่งพะแนงเนื้อ  แกงเขียวหวานไก่  และต้มยำกุ้ง พร้อมทั้งเบียร์ไทยขวดเขียว  รสชาติอาหารใช้ได้ทีเดียวครับ  มารู้ทีหลังจากการอ่านหนังสือของการท่องเที่ยวเมดิสันว่า ที่นี่เป็นร้านแนะนำ ผมลองเช็คเรทติ้งยอดอาหารไทยที่คนทานมากที่สุด ได้ยินอเมริกันชนตอบเป็นภาษาไทยด้วยสำเนียงคนตะวันตก อย่างมั่นใจสุดๆว่า " พัดท๋าย "  (Pad Thai : ผัดไทย) และโดยเฉพาะชาเย็นก็ยังคงครองแชมป์ที่อเมริกันชนสั่งมาดื่มมากที่สุดเลยครับ




Create Date : 24 มีนาคม 2556
Last Update : 21 มิถุนายน 2556 17:25:34 น. 4 comments
Counter : 2595 Pageviews.

 
มาติดตามต่อค่ะ บ่องตง ชอบมาก สนุกอะ


โดย: Anut IP: 223.205.1.235 วันที่: 25 มีนาคม 2556 เวลา:20:15:06 น.  

 
ตามมาให้กำลังใจค่ะ ^^ ติดตามทุกเรื่องเลยค่ะ
ชอบทุกเรื่องค่ะ ขอบคุณที่เล่าเรื่องสนุกๆแถมได้ความรู้ให้อ่านนะค่ะ


โดย: Nush IP: 110.49.226.248 วันที่: 25 มีนาคม 2556 เวลา:23:39:18 น.  

 

ขอบคุณ คุณ Anut และคุณ Nush ที่ติดตามและให้กำลังใจครับ


โดย: Jack (Jack Happy ) วันที่: 26 มีนาคม 2556 เวลา:0:00:27 น.  

 
^____^ กำลังจิไป WI, ได้คำแนะนำดีๆ เยอะเลย รอตามต่อคร่ะ


โดย: anuban IP: 202.28.118.124 วันที่: 8 มกราคม 2558 เวลา:11:10:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Jack Happy
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add Jack Happy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.