sasayama-เชียงใหม่
สี่ห้าปีที่แล้วผมพาคณะนักเรียนและครูไปร่วมกิจกรรมด้านการศึกษาและวัฒนธรรมที่เมืองซาซายามะ (Sasayama shi) จังหวัดเฮียวโกะ (Hyogo ken) ซึ่งอยู่ห่างจากโอซาก้า (Osaka)ประเทศญี่ปุ่น ไปทางเหนือประมาณ 3 ชั่วโมงรถวิ่ง (คนญี่ปุ่นมักจะบอกจำนวนเวลามากกว่าระยะทาง) ซาซายามะ (sasa : take = ต้นไผ่ , yama : san = ภูเขา) ช่วงเดือนสิบเอ็ดเนี่ยอากาศเย็นเฉียบ เมืองนี้มีชื่อเสียงทั้งถั่วดำ (kuro mame) และถั่วแดง (akai mame) ที่เค้าชอบเอาไปทำใส้ขนมญี่ปุ่นต่างๆ พอถึงฤดูกาลคนญี่ปุ่นจากเมืองต่างๆ ก็จะหลั่งไหลมาเที่ยว ซื้อและกินถั่วที่นี่ อ้อ ถั่วอีกอย่างคือ eda mame ที่ต้มกินเล่นหรือแกล้มเหล้าสาเก (Osake) คนไทยเราเรียกถั่วแระญี่ปุ่นมั้งเวลาไปทานในห้องอาหารของคนญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ ก็จะได้ชิมถั่วจากเมืองนี้แกล้มเหล้าสาเก (คนญี่ปุ่นเลี้ยงผมน่ะครับ มันแพง) ที่ Sasayama ผมพักบ้านลุง Chikanari อายุ 72 แล้วแต่ดูแข็งแรง ตอนค่ำลุงและภรรยาก็แนะนำให้ผมรู้จักเด็กๆมหาลัยที่ลุงเคยพาไปทำกิจกรรมอาสาสมัครที่เมืองปินาตูโบ (ถ้าจำไม่ผิด) ฟิลิปปินส์ คนญี่ปุ่นมักเรียกเด็กมหาลัยว่า " College student " และพวกเราก็คัมเปยกันอย่างถูกคอจนดึกดื่นครับ เวลา 2 สัปดาห์หมดไปกับการเดินสายตามโรงเรียนต่างๆ ก็แนะนำประเทศไทย วัฒนธรรมไทย รำไทยและสาธิตทำอาหารไทย อาทิเช่น ต้มยำกุ้ง (Ebi Karai Soupu) แกงเขียวหวาน (Midori Karai Soupu )และอื่นๆ อาจเป็นเพราะการทำโรดโชว์ของพวกเรา ทำให้นอกจากมีการส่งคณะแลกเปลี่ยนมาไทยตามปกติแล้วก็ยังมีอีกหลายๆคนพากันมาเที่ยวเมืองไทยเป็นการส่วนตัว โดยเฉพาะลุงChikanari ได้เบนเข็มจากฟิลิปปินส์มาไทย ลุงนำคณะนักศึกษามาร่วมกิจกรรมจิตอาสาที่เชียงใหม่ทั้งในเมืองและบนดอย คืนแรกในเชียงใหม่ น้องกัลป์ เบิร์ด และผมพาคณะไปทานข้าวที่ไน้ท์บาซ่าส์ มากันครั้งแรกก็ต้องให้ชิมอาหารไทยมือโปรฯ กัลป์สั่งต้มยำกุ้ง ไก่ต้มข่า แกงฮังเล ส้มตำไทย (ยังไม่กล้าให้ชิมปูปลาร้า) ไส้อั่วทอดและไข่เจียวกุ้ง ตอนแรกๆก็มองแบบลังเลๆ จนผมต้องพูดซ้ำ " Itadakimasu : จะทานละนะ" แล้วลงมือนำร่อง ทุกคนจึงค่อยๆชิม พอรู้รสและเริ่มชินก็เร่ง speed กันอย่างอร่อยและสนุกสนาน แถมเวลาเจ้าของร้านมาคิดเงิน คุณป้าคิดเลขในใจเฉยเลยถูกเป๊ะด้วยรู้สึกเป็นเจ้าเดียวที่ไม่ใช้เครื่องคิดเลข พวกญี่ปุ่นอุทานด้วยความทึ่ง "Sugoii"สุดยอด วันต่อมาคณะไปร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนมัธยมกับนักเรียนไทยที่เลือกแผนภาษาญี่ปุ่นก็ได้พูดคุยตลอดจนร่วมร้องเพลงJ.pop และเรียนรู้ภาษาไทยง่ายๆ ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย พอตอนบ่ายๆ ก็พาไปปล่อยที่กาดวโรรส ผมดูอยู่ห่างๆ สาวยุ่นไปมุงที่แผงนึง แม่ค้าใจดีบอก "ชิมได้เจ้า" พร้อมทำภาษามือประกอบ เท่านั้นแหละ พวกเธอก็หยิบรถด่วนใส่ปากคนละตัวสองตัวแถมซื้อกลับไปโรงแรมด้วย (ขอสารภาพผมเองยังไม่เคยกินเลย) ส่วนสามหนุ่มไปยืนร้องไห้หน้าแดงอยู่อีกแผง น้องกัลป์และเบิร์ดต้องรีบเอาน้ำไปให้ล้างปากแล้วให้ดื่มน้ำอ้อยแช่เย็น ก็พ่อเจ้าประคุณอวดเก่งเล่นกินน้ำพริกหนุ่มแข่งกันนี่ครับ ขอบคุณภาพอาหารสวยๆจากอากู๋ครับ
Create Date : 15 มีนาคม 2556 |
Last Update : 21 มิถุนายน 2556 18:43:41 น. |
|
11 comments
|
Counter : 1484 Pageviews. |
|
|