สัญญาจะซื้อจะขายบ้าน ท่องให้ขึ้นใจ
1.ข้อความที่ระบุว่าเป็นสัญญาจะซื้อจะขาย ทั้งนี้ เพราะเป็นการลงนามเพื่อการซื้อและการขายมิใช่เพื่อการอื่นใด
2.ข้อความบ่งชัดว่า ใครเป็นผู้ซื้อ ที่อยู่หรือภูมิลำเนาของผู้ซื้อที่สามารถติดต่อได้
3.ใครเป็นผู้ขาย นั่นคือ เจ้าของที่ดินและบ้านที่จะทำสัญญาซื้อขาย หากเป็นนิติบุคคลเป็นผู้ขายจะมีข้อความระบุถึงกรรมการผู้จัดการหรือกรรมการผู้จัดการที่มีอำนาจทำสัญญาแทนนิติบุคคลนั้น รวมทั้งระบุหมายเลขจดทะเบียนของนิติบุคคลไว้ด้วย
ในกรณีซื้อจากโครงการจะต้องตรงตามที่โฆษณาไว้ ในกรณีเป็นนิติบุคคลควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือ ดูการกู้เงินจากสถาบันการเงินต่างๆ รวมถึงข่าวสารตามหน้าหนังสือพิมพ์ และที่อยู่สามารถติดต่อได้
4.ข้อความที่ระบุชัดเจนถึงทรัพย์สินที่ขายว่าคืออะไรอย่างแน่ชัด อ้างอิงได้ โดยต้องระบุว่าเป็นโฉนดเลขที่เท่าใด ตั้งอยู่ในท้องที่ใด ขนาดที่ดิน หากเป็นการซื้อขายพร้อมบ้านต้องระบุรูปทรง แบบบ้านด้วย
5.ต้องระบุชัดเจนถึงราคาของที่ดินและบ้านที่จะซื้อขายนั้น ทั้งนี้ ราคาที่ระบุในสัญญาจะเป็นราคาคงที่ในวันเซ็นสัญญา ไม่ว่าราคาตลาดจะเปลี่ยนแปลงไปเท่าใด
6.ระบุถึงการโอนกรรมสิทธิ์ แม้ว่ากรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ซื้อนั้นย่อมโอนให้ผู้ซื้อตั้งแต่ขณะเมื่อได้ทำสัญญาซื้อขายกัน แต่จะมีผลตามกฎหมายก็ต่อเมื่อมีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ต่อเจ้าพนักงานที่ดินก่อน ในการโอนกรรมสิทธิ์จะระบุผู้รับผิดชอบค่าโอนด้วย ซึ่งมักจะเป็นผู้ซื้อที่จ่ายค่าธรรมเนียมการโอน
7.ข้อบังคับจากกฎหมายแพ่งว่าด้วยการซื้อขาย ซึ่งอนุญาตให้คู่สัญญาทำสัญญากันว่าจะไม่ต้องรับผิดชอบเพื่อความชำรุดบกพร่อง ทั้งนี้ ความรับผิดชอบเมื่อเกิดความชำรุดนั้นเป็นของผู้ขาย
8.ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพื้นที่ดิน โดยปกติการซื้อขายบ้านพร้อมอยู่มักจะไม่ค่อยมีปัญหานี้ แต่ผู้ซื้อก็ควรรอบคอบซักนิด ตรวจสอบรังวัดซ้ำกับหมุดหลักเขต
Create Date : 27 สิงหาคม 2551 |
|
1 comments |
Last Update : 27 สิงหาคม 2551 3:52:27 น. |
Counter : 2732 Pageviews. |
|
|
|