เเน่นอนว่าถ้าเราตัดสินใจซื้อบ้านหนึ่งหลัง ไม่ว่าจะบ้านใหม่หรือบ้านมือสอง ถ้าเงินสดไม่พอก็จำเป็นต้องขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ซึ่งโดยทั่วไปก็ไม่ได้ปล่อยกู้เต็มจำนวนของราคาที่ซื้อขายกัน เฉลี่ยเเล้วอยู่ที่ 80-90% ของราคาประเมินหลักประกัน ยกเว้นเเบงก์มีเเคมเปญหรือมีข้อตกลงกับบริษัทเอกชนเป็นกรณีๆ ไป
ดังนั้นก่อนจะขอกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย เราต้องเตรียมความพร้อมกันสักนิดจะดีกว่า ง่ายๆ 5 ขั้นตอนดังนี้
1.สำรวจเงินออม (เงินเก็บ)
เพราะบางทีต้องใช้วางเงินดาวน์ เงินทำสัญญา หรือผ่อนดาวน์ไปสักระยะหนึ่ง โดยเบื้องต้นควรมีเงินออมอย่างน้อย 20%ของราคาบ้านที่จะซื้อ
2.อาชีพหรือกิจการที่ทำอยู่นั้นมั่นใจว่ามีความมั่นคงเพียงพอ
อาชีพนั้นต้องทำให้คุณสามารถผ่อนชำระหนี้ได้ตลอดรอดฝั่ง หรือถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงในหน้าที่การงานก็จะไม่กระทบกับความสามารถในการชำระหนี้
3.สำรวจภำระหนี้ทำงการเงินที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ต้องผ่อนค่ำอะไรบ้าง เช่น ผ่อนรถ มือถือ คอมพิวเตอร์ บัตรเครดิต บัตรกดเงินสดหรือสินเชื่อส่วนบุคคล ฯลฯ หนี้เหล่านี้จะมีผลต่อการขอวงเงินกู้เวลากู้หนี้ (ใหม่) ด้วย
ดังนั้นถ้าปิดได้ก็ควรปิดหรือเคลียร์หนี้ให้หมดก่อน ขณะเดียวกันการเป็นลูกหนี้ที่ดีผ่อนชำระตรงตามกำหนดไม่เคยผิดนัด ก็อาจจะส่งผลดีต่อการพิจารณาประวัติทางการเงินของคุณได้เช่นกัน
4.ภาระหนี้ทั้งหมดที่มีอยู่เมื่อรวมกับเงินผ่อนชำระค่าบ้านกับแบงก์ไม่ควรเกิน 40%ของเงินเดือนหรือรายได้รวม (ที่ตรวจสอบได้)
5.เช็กเครดิตบูโรของตัวเองว่าที่ผ่านมาเคยติดหนี้บัตรเครดิตหรือค้างชำระบ้างหรือไม่
ถ้ามีก็ควรสะสางหนี้ค้างชำระนั้นก่อนที่จะยื่นกู้ (อย่างน้อยๆ ควรเว้นวรรคหลังจากเคลียร์หนี้จบไปแลว้ 1-2 ปีค่อยยื่นกู้ใหม่)
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนจะยื่นกู้ซื้อบ้านควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการขอสินเชื่อจากแต่ละธนาคารอย่างละเอียดเพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกใช้บริการให้ตรงกับความต้องการ สามารถวางแผนการใช้จ่ายและชำระหนี้ได้อย่างรอบคอบมากที่สุด