แค่รู้จักพอ ก็ไม่ต้องแก่งแย่ง..
วันนี้ฝนไม่ตก อากาศไม่ครึ้ม อยู่ดี ๆ ก็อยากนั่งอัพบล็อกเรื่องนี้ขึ้นมา มันเป็นเรื่องที่รบกวนจิตใจกิ๊ฟท์ศรีมาตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา กิ๊ฟท์ศรีเลิกงานตอนเย็น เดินตลาดนัดหน้าปากซอย หาซื้อกับข้าว ที่ตลาดนัดมันจะมีร้านขายของทุกอย่าง 10 - 20 บาท จริง ๆ แล้วมันก็เป็นของกระจุกกระจิก เล็ก ๆ น้อย ๆ ทนบ้างไม่ทนบ้าง ขณะที่กิ๊ฟท์ศรียืนเลือกซื้อยางรัดผม สายตาก็เหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่ง อายุคงประมาณซัก 12-15 ปี หยิบรองเท้าคู่ละ 20 บาทมาลอง(รองเท้า 20 บาทกิ๊ฟท์ศรีก็ใช้เหมือนกันแต่ความรู้สึกตอนซื้อมันต่างกัน) กิ๊ฟท์ศรีมองตามมือเขา (แอบชำเลือง) เขาถอดรองเท้าหนีบเก่า ๆ แล้วลอง ท่าทางเขากระตือรือล้นมาก ความรู้สึกหนี่งที่แว๊บเข้ามาในสมองของกิ๊ฟท์ศรี คิดว่า คนเราก็แค่นี้ ไม่ต้องมีอะไรมาก ไม่ต้องเด่น ไม่ต้องดี ไม่ต้องแข่งขันกับใคร ความสุขจริง ๆ มันอยู่ที่ความพอใจ กิ๊ฟท์ศรีมองรองเท้าตัวเอง ถึงมันจะไม่ใช่คู่ที่แพง แต่ถ้าเป็นระดับเงินเดือนเท่า ห_ย มด อย่างกิ๊ฟท์ศรี มันก็ยังดูแพงไป มันสวย มันทน ใช้ได้นาน นี่คือเหตุผลที่กิ๊ฟท์ศรีชอบใช้หลอกตัวเองในการตัดสินใจซื้อ สุดท้ายรองเท้าที่ซื้อมา พอเบื่อก็ยัด ๆ มันไว้ในตู้ หาซื้อคู่ใหม่เพราะคิดว่าคู่นั้นมันไม่เหมาะกับเสื้อส่วนใหญ่ในตู้ของเรา(ทีก่อนซื้อไม่คิด) หรือไม่ก็เบื่อแล้ว แต่น้องคนนั้นเขาซื้อเพราะมันจำเป็นต้องใช้ มันจำเป็นต้องซื้อ มันคือปัจจัย 4 แต่เรานี่สิปัจจัยอะไร... พูดถึงเรื่องนี้แล้วนึกถึงสมัยที่กิ๊ฟท์ศรีเรียนมหาลัย ช่วงที่เรียนจบต้องย้ายออกจากหอ สิ่งไหนที่คิดว่ามันเกินความจำเป็น ก็เก็บทิ้ง เช่นเสื้อผ้า กระเป๋า ตุ๊กตา ตอนที่ขนใส่ถุงลงมาที่ถังขยะหน้าหอ เผอิญมีป้าแก่ ๆ คนหนึ่งกับหลานผู้หญิง 2 คน กำลังค้นขยะในถัง เห็นกิ๊ฟท์ศรีถือถุงมาก็เลยขอไว้ หลาน ๆ เขาค้นดูในถุง พอเขาเห็นเสื้อ กับกระเป๋า เขาดีใจมาก บอกว่า ยาย ๆ หนูได้เสื้อใหม่ หนูได้กระเป๋าใหม่ ทั้ง ๆ ที่เป็นของที่เราทิ้งแล้ว (แต่สภาพก็ดีอยู่นะ) กิ๊ฟท์ศรีแอบเบือนหน้าหนี น้ำตาคลอ เด็ก ๆ แย่งตุ๊กตากันเพราะมันมีแค่ตัวเดียว(มันเป็นตุ๊กตารูมเมท เจ้าของมันไม่เอาไปด้วย) กิ๊ฟท์ศรีเลยบอกว่า ไม่ต้องแย่งกัน เดี๋ยวพี่ไปเอามาให้อีกตัว แล้วกิ๊ฟท์ศรีก็ขึ้นไปหยิบตุ๊กตาบนห้องไปให้น้องอีกตัว น้องไหว้ขอบคุณ...กิ๊ฟท์ศรี รับไหว้ พูดอะไรไม่ออก.... ฐานะทางสังคม จำนวนเงินในบัญชี ไม่ใช่สิ่งที่จะใช้วัดความดีของคน (ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่คิดว่าใช่ก็เถอะ) พื้นฐานทางครอบครัวที่ต่ำต้อยทางสังคมเขาก็สามารถอบรมลูกหลานให้เป็นคนดีได้ .... ความสุขมันอยู่ที่ใจ อยู่ที่เรารู้จักคำว่าพอ กิ๊ฟท์ศรีก็เป็นมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งที่ชอบใช้จ่ายเกินตัว ไม่รู้จักความพอดี เงินเก็บคืออะไรยังไม่รู้เลย ... บั้นปลายชีวิต คงได้ไปเลี้ยงวัว ปลูกผักทำสวน เล่น Fram Ville ของจริง หรือไม่ก็ไปขายข้าวแกง เล่น Café World ของจริง ...
...............เรานี่มีสาระก็เป็นแฮะ ค่อยสบายใจหน่อย......
Create Date : 22 เมษายน 2553 |
|
8 comments |
Last Update : 22 เมษายน 2553 20:25:04 น. |
Counter : 570 Pageviews. |
|
|
คนเราถ้าตัดกิเลสออกไปซะได้ รู้จักใช้ชีวิตแบบพอเพียง ความสุขก็หาได้ไม่ยากเลยอ่ะเนอะ
วันนี้คุยกับเพื่อนร่วมงานเหมือนกัน ว่าจะลงไปเที่ยว กท. ไปเดินดูของจตุจักร เพื่อนบอก ไปทำไมไปแล้วเดี๋ยวกิเลสก็ขึ้นอยากได้นู่นอยากได้นี่อีก..เออ มันก็จริงของเขานะ ของบางอย่างเราซื้อมาแล้วยังไม่เคยหยิบออกมาใช้ด้วยซ้ำ รู้สึกว่ายังดำรงตนให้มีชีวิตอยู่ในความพอเพียงไม่ได้สักที