|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ธรรมะจากดวงจันทร์

ในราตรีเงียบสงบผาสุก...คุณแม่ยังสาวนั่งเพลินชมจันทร์อยู่กับลูกน้อยช่างซัก
คืนนี้ลูกอย่างรู้อะไร? หนูอยากรู้ว่าดวงจันทร์มาจากไหน
ดวงจันทร์เหรอ...อาจมาจากโลกของเรานี่เองจ้ะ มากจากโลกเรา? หมายความว่ามันเคยเป็นส่วนหนึ่งของโลกเราเหรอคะ
นักวิทยาศาสตร์เดาไว้อย่างนั้น แล้วทำไมเขาถึงไม่เดาว่ามันลอยมาจากที่อื่นล่ะคะ?
เพราะถ้ามาจากที่อื่น มันจะโคจรรอบโลกเป็นวงรี ไม่ใช่เกือบเป็นวงกลมเหมือนทุกวันนี้ ถ้าเคยเป็นส่วนหนึ่งของโลกเรา ทำไมอยู่ดี ๆ หาเรื่องแยกตัวออกไปล่ะคะ?
อยู่ ๆ มันไม่ได้หาเรื่องแยกตัวออกไปเอง แต่เพราะโลกไปชนเข้ากับอะไรอย่างหนึ่งที่มีขนาดใหญ่มาก ส่วนหนึ่งของโลกเลยกระเด็นออกไป... ถ้ามีอะไรมาชนโลกอีก เราจะได้มีดวงจันทร์อีกดวงใช่ไหมคะ?
ตอนนี้โลกเราเย็นตัวลงแล้ว ถ้าชนอีกก็เหมือนทุบลูกหินให้แตกน่ะจ้ะ พวกเราจะตายกันหมด ที่ตอนนั้นดวงจันทร์แยกตัวออกไปได้ ก็เพราะโลกยังเป็นลูกไฟที่เพิ่งหลุดออกมาจากดวงอาทิตย์ ยังไม่เย็นตัวลง ทุกหนทุกแห่งปกคลุมด้วยมหาสมุทรลาวา เพราะงั้นจึงเหมือนหนูทุ่มหินลงน้ำ น้ำกระเซ็นออกไปได้ แล้วไปรวมตัวเป็นดวง ๆ ในภายหลัง... สงสัยจัง ทำไมนักวิทยาศาสตร์รู้ดีนักล่ะคะ?
จากหลักฐานหลาย ๆ ชิ้นน่ะจ้ะ แต่...ไม่ว่าลูกจะเดา จะเลือกเชื่อ หรือจะพิสูจน์ด้วยหลักฐานชิ้นไหน โลกกับดวงจันทร์ก็มีอยู่จริง และเกิดขึ้นมานานเกินกว่าที่ใครจะทันเห็นวาระแรกของพวกมัน... แปลว่านักวิทยาศาสตร์อาจจะเดาผิดหรือคะ?
วันหน้าถ้าหนูเจอหลักฐานอื่นดีกว่าของพวกเขา พวกเขาก็จะยอมรับว่าเคยเดาผิดจ้ะ แต่วันนี้เขาจะบอกให้หนูเชื่อตามเขาไปก่อน... ถ้าเราไม่มีดวงจันทร์จะเป็นยังไงคะ?
โลกก็จะเบาตัว แล้วโคจรรอบดวงอาทิตย์เร็วขึ้น หนึ่งปีจะมีจำนวนวันน้อยลงมาก อีกอย่าง...จะไม่มีดวงอะไรโต ๆ ค้างฟ้าให้หนูเห็นเหมือนในคืนนี้ หนูจะไม่มีเรื่องน่าสงสัยมาถามแม่ เท่ากับเราขาดเรื่องคุยกันไปเรื่องหนึ่ง... คุณแม่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับดวงจันทร์หมดแล้วใช่ไหมคะ?
ไม่หรอกจ้ะ นักวิทยาศาสตร์สรุปให้ฟังยังไง แม่ก็มาบอกหนูต่อตามนั้น แต่แม่ไม่คิดว่าตัวเองรู้อะไรเกี่ยวกับที่มาของดวงจันทร์จริงเลยสักนิด แต่ครูของแม่สอนวิธีมองดวงจันทร์ไว้อย่างหนึ่ง... แม่ถึงรู้ว่าพอมองดวงจันทร์เป็น เราก็จะไม่สงสัยอะไรเกี่ยวกับมันอีกเลย... สอนหนูมั่งสิ!
ได้จ้ะ แต่หนูต้องทำตามที่แม่บอกทุกอย่างเลยนะ!! และห้ามบ่นด้วย! ค่ะ!
เอาละ ไหนหนูมองดวงจันทร์แล้วบอกแม่ซิ ว่าเห็นอะไรบ้าง... เห็นอะไร...ก็เห็นดวงจันทร์น่ะสิคะ
พูดถึงสิ่งที่หนูเห็นให้แม่ฟังละเอียด ๆ กว่านี้หน่อย อะไรก็ได้ที่หนูคิดว่าหนูเห็นจริง ๆ คืนนี้ดวงจันทร์กลมป๊อก
แล้วเห็นอะไรอีก? ดวงจันทร์คล้ายลูกกอล์ฟของคุณพ่อ
แล้วเห็นอะไรอีก? เห็น...ว่าดวงจันทร์ไม่เรียบค่ะ เหมือนคนสวยหน้าด่าง
แล้วเห็นอะไรอีก? เห็นแสงจันทร์สว่างจ้า
แล้วเห็นอะไรอีก? เห็นฟ้ามืดข้างหลังดวงจันทร์
ชักเห็นเยอะขึ้นแล้วใช่ไหมล่ะ อ้ะไหนเห็นอะไรอีก? บนฟ้ามืดมีดาวหลายดวง
แล้วเห็นอะไรอีก? มีเมฆอยู่ใกล้ ๆ สองสามก้อน
แล้วเห็นอะไรอีก? ว้า...! คุณแม่อ้ะ! ก็หนูไม่เห็นอะไรแล้วนี่คะ
เห็นซี่...ดูดี ๆ เกือบเห็นแล้ว หนูต้องเพ่งอีกนิดหนึ่ง ไม่เห็นมีอะไรซ่อนอยู่สักหน่อย
ใช่! ไม่ได้ซ่อน แต่เปิดเผยชัดเจนเลย ไหนล่ะ? คุณแม่เฉลยเถอะ
ความขัดเคืองในใจหนูไง! ตอนนี้ชัดแจ๋วกว่าดวงจันทร์ตั้งเยอะเห็นไหม? อ๋า?!? หนูนึกว่าคุณแม่ให้มองบนท้องฟ้านี่คะ
แม่ให้ดูว่าหนูเห็นอะไร? ก็เหมือนที่ธรรมชาติไม่เคยบังคับให้หนูต้องดูแต่โลกและดวงดาวภายนอก จะดูใจตัวเองเมื่อไหร่ก็ได้ ดูแล้วมีประโยชน์อะไรคะ?
หนูคิดว่าอย่างไร...ตอนโมโหเป็นสุขหรือเป็นทุกข์? เป็นทุกข์ค่ะ
เป็นทุกข์มีประโยชน์หรือเป็นโทษกับใจของหนูเอง? เป็นโทษค่ะ
เมื่อกี้พอเลิกมองดวงจันทร์ หันกลับมาเห็นใจตัวเองแล้วเกิดอะไรขึ้น? หายโมโหค่ะ
หายโมโหนี่เป็นประโยชน์หรือเป็นโทษ? เป็นประโยชน์ค่ะ
ใช่แล้ว...โตขึ้นลูกจะค่อย ๆ รู้ว่า ประโยชน์สูงสุดของการมีชีวิตอยู่ที่การดับทุกข์ภายในตัวเองได้ ถ้ามีสติเห็นทุกข์ เราจะไม่เป็นทุกข์ ถ้าเอาแต่เห็นและสงสัยโลกภายนอก ลูกจะยิ่งลืมดูทุกข์ภายในใจตัวเอง และเป็นทุกข์กับสิ่งที่ตั้งไว้หลอกล่อเราไปเรื่อย ๆ
แล้วดวงจันทร์เป็นทุกข์หรือเปล่าคะ? เป็นทุกข์ เพราะทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ วันหนึ่งต้องแตกดับไป แต่ดวงจันทร์ไม่รู้สึกทุกข์ เพราะไม่มีใจครอง
งั้นหนูก็ไม่ต้องสงสารดวงจันทร์ใช่ไหมคะ? ไม่ต้องหรอกจ้ะ! หนูต้องขอบคุณดวงจันทร์ต่างหาก ที่เขาให้ธรรมะกับหนู และต่อไปหนูจะขอบคุณได้ทุกสิ่ง ที่ชวนให้หนูย้อนกลับมาดูใจตัวเองเหมือนอย่างดวงจันทร์ในคืนนี้
.............................................
นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับไป
(วาทะพระเถรี วชิราภิกษุณี)
Create Date : 10 สิงหาคม 2553 |
|
2 comments |
Last Update : 10 สิงหาคม 2553 19:27:54 น. |
Counter : 2103 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: พรหมญาณี 4 กันยายน 2553 11:33:19 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ผู้สงบระงับ ย่อมอยู่เป็นสุข
มีความสุขกับการทำใจให้สงบได้ในทุกสภาวะ ตลอดไป...นะคะ
ขอบคุณในทุกความห่วงใย และกำลังใจที่มอบให้กันเสมอมา..นะคะ
ตอนนี้ พอมีกำลังกลับมาประจำบล็อกได้แล้ว..ค่ะ