"The Underdog" เชิดชูนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่
ปกติแล้วผมไม่ชอบการอ่านบทสัมภาษณ์บุคคลนัก เนื่องจากรู้สึกว่าอ่านแล้วไม่ค่อยสนุก บางบทก็ไม่ค่อยได้สาระเท่าไหร่ ยิ่งบทสัมภาษณ์ดารานี่ไม่แตะต้องเลย เช็คเรทกันทั้งนั้น .... (ทัศนคติส่วนบุคคลนะครับ ไม่เข้าหูใครต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย) แต่ว่าช่วงนี้ผมก็ได้หนังสือสัมภาษณ์บุคคลมาเล่มนึงโดยไม่ได้ตั้งใจ ติดแหมาจากการกว้านซื้อหนังสือถูกโคตรๆมาจากงาน "a book fair" (อีกแล้ว) ไหนๆมันก็อยูในครอบครองของเราแล้ว ลองอ่านดูสักทีก็ได้ .... ถ้าไม่ได้เรื่องเดี๋ยวค่อยเอาไว้บริจาค ^^
"วงศ์ทนงคุยชั่วโมงครึ่งกับยุทธเลิศ" ..... คำโปรยของหนังสือว่าเอาไว้ คงกะโฆษณาว่าคนดังระดับนี้มานั่งคุยกัน ไม่คิดซื้อหามาเป็นเจ้าของอ่านดูสักเล่มหน่อยเหรอ? อ๋อ ... ไม่หรอกครับ ไม่สนใจ แต่พอดีไปเห็นคำโปรยที่ปกหลังเขียนไว้ว่า "10 B (10 บาท)" เลยคว้าหมับแล้วเดินลิ่วไปที่เคาน์เตอร์จ่ายเงินเท่านั้นเอง
ว่าแต่ว่า .....
ไอ้ยุทธเลิศนี่มันเป็นใครผมยังไม่รู้จักเลยคร้าบบบพี่น้อง 555++ (แต่วงศ์ทนงนี่ผมรู้จักนะ เขาคือ โหน่ง - วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ ที่เป็นเจ้าของนิตยสาร "a day" นั่นเอง) ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวก็ได้รู้จักแล้ว ไหนๆก็ตั้งใจจะอ่านแล้วนี่ .... เวลาพักเบรกงานนานตั้ง 2 ช.ม. ไม่ต้องอิจฉาผมหรอกครับ พัก 2 ช.ม. เวลากลับบ้านก็ยืดไปอีก 2 ช.ม. ที่จริงอยากพักแค่ครึ่งช.ม. กินข้าวเสร็จแล้วทำต่อเลยก็ยังได้ แต่ขอกลับบ้านเร็วขึ้นแล้วกัน เซ็งจริงๆเลยกลับบ้านดึกๆดื่นๆ โทรศัพท์ก็ไม่ให้ใช้ตอนทำงาน เลิกงานจะโทรฯไปหม้อสาวเขาก็นอนกันหมดแล้ว
อ้าว ! เฮ้ย .... นอกเรื่องแล้วนี่หว่า ขอโทษครับๆ
อ่านในเล่มแล้วถึงจะรู้ว่าพี่ยุทธเลิศเขานี่คือผู้กำกับหนังเรื่อง "มือ / ปืน / โลก / พระ / จัน" ที่เคยดังเปรี้ยงปร้างในสมัยก่อนนั่นเอง หนังเรื่องนี้ผมก็เคยเข้าไปดูด้วยนะ จำได้ (แต่ไม่รู้ว่าเป็นหนังดัง) ผมก็ อืม อืม เหรอ เหรอ อ่านไปเรื่อยๆ
แต่ที่น่าสนใจก็คือประวัติของพี่เขา ..... เพราะว่าไม่เคยได้เรียนอะไรที่เกี่ยวกับการทำหนังมาก่อนเลย แล้วสุดท้ายได้มาเป็นผู้กำกับ (ไอ้อย่างเรามันจบวิทยาศาสตร์การอาหารมา แต่อยากมาทำงานหนังสือซะด้วยสิ) เขาทำยังไงของเขาหว่า เริ่มอยากรู้แล้ว อ่านต่อๆ นี่เป็นตอนที่คิดจะเริ่มงานทำหนังเป็นครั้งแรกครับ
พี่ยุทธเลิศนี่เขาเป็นคนที่เปลี่ยนความกวนตีนให้กลายเป็นโอกาสได้เหมือนกันนะ เป็นผม ผมไม่กล้าทำนะเนี่ย ..... ไปบอกว่ามีงานจะเสนอทั้งๆที่ยัง blank อยู่ (แต่ case นี้มันประสบความสำเร็จนะ ถ้าหน้าด้านแล้วผลออกมาดี มันก็น่าลองทำเหมือนกัน) ยังไงก็ตาม ในที่สุดแล้วเขาก็มีความหวังเพราะเจ้าของค่ายหนังเขาก็ให้เวลาไปเขียนบทหนังมาส่งอีกทีแล้วค่อยคุยกัน
แล้วพี่ยุทธเลิศก็พยายามเขียนบทหนังออกมาได้จริงๆ อาศัยจากการศึกษาด้วยตัวเองล้วนๆ (อย่างที่โฆษณาแสงโสมว่าไว้ "คนไทย .... ถ้าตั้งใจทำอะไร ไม่แพ้ชาติใดในโลก") แถมเป็นผลงานที่ดีซะด้วย นั่นก็คือบทหนังเรื่อง "โอ - เนกาทีฟ" นั่นเอง ที่มี ทาทา กับ เรย์ แมคโดนัลด์ ไงครับ พอนึกออกหรือยัง เรื่องนี้ก็ดังนะ
แต่ไม่ใช่ว่าเขียนบทหนังออกมาดีแล้วทุกอย่างจะโรยด้วยกลีบกุหลาบไปหมด พี่ยุทธเลิศเขายังต้องผจญกับทัศนคติของนายทุนค่ายหนัง ที่มีความคิดสวนทางกับเขาแบบตรงข้ามกันเลย ในสมัยนั้น ......
หลายๆค่ายหนังที่เอาผลงานไปเสนอ ไม่มีรายไหนกล้าเสี่ยงกับผลงานของเขา แม้สุดท้ายจะมีแกรมมี่ฟิล์มเล่นด้วยกับบทหนังบทนี้ ทำออกมาเป็นหนัง แต่ระหว่างการถ่ายทำก็โดนทั้งตัดทั้งต่อ เปลี่ยนโน่นแปลงนี่จนเกือบไม่ใช่บทหนังเดิม พี่เขาก็ไม่พอใจทะเลาะกับคนในกองถ่ายรุนแรง และก็เป็นโชคร้ายของพี่เขาที่ไม่ค่อยมีความรู้ด้านเอกสารสัญญาต่างๆ โดนเอาเปรียบแบบเต็มๆ
พี่เค้าก็ไม่เคยท้อถอยนะครับ แม้ตอนนั้นจะทำได้แค่ออกมาจากกองถ่ายแล้วยืนมองดูคนอื่นเขาถ่ายทำจนเสร็จสมบูรณ์ ..... ด้วยบทหนังของเขาเอง (คงจะเสียใจแทบคลั่งน่าดู) ก็กลับมาเขียนบทหนังขึ้นใหม่ซึ่งเป็นบทของ "มือ / ปืน / โลก / พระ / จัน" นั่นเอง คราวนี้มีคนกล้าเล่นกับเขามากกว่าแต่ก่อน ถึงแม้จะมีชื่อเสียงไม่ดีจากการมีเรื่องกับกองถ่ายหนัง แต่ก็ทำให้มีคนรู้จักพี่แกมากขึ้น ในที่สุดพอทำออกมาเป็นหนังก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และจากผลงานชิ้นนี้ก็ได้แจ้งเกิดแล้วครับ พอได้เป็นที่สนใจก็มีงานเข้ามาตลอด .... สบายตัวมาจนทุกวันนี้
เอาประโยคคมๆจากหนังสือมาฝากครับท่าน ..... แด่ผู้มีความฝัน ความพยายามทั้งหลาย จงสู้ต่อไป ..... จีบัน
หน้าตาพี่ยุทธเลิศเขาก็คือคนที่ใส่เสื้อยืดสีดำนะครับ อีกคนก็คือพี่โหน่ง - วงศ์ทนง นั่นเอง
Create Date : 21 สิงหาคม 2550 |
|
1 comments |
Last Update : 21 สิงหาคม 2550 11:04:25 น. |
Counter : 1725 Pageviews. |
|
|
|
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=webmaster&month=08-2007&date=24&group=6&gblog=7